ความรู้สึกของเราที่มีต่อแม่มันเหมือนลดลงทุกวันๆ เค้าชอบพูดให้เราเสียใจ
ต้องบอกก่อนว่าแต่ก่อนบ้านเราเคยฐานะดีกว่านี้ แต่ตั้งแต่ปี 54 ที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วม มันก็ทำให้ฐานะบ้านเราแย่ลงเรื่อยๆ มันทำให้พวกเราทะเลาะกันเรื่องเงินๆทองๆ จนวันนึงแม่หลุดปากออกมาว่า อยากให้ลูกสาวไปทำงานตปท. เผื่อจะโชคดีเจอฝรั่งรวย รักไม่รักก็ให้แต่งเลยนะ แม่จะได้สบาย ซึ่งเราไม่ชอบความคิดนี้ มันทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นกรี่ ไม่ใช่แค่เราที่โดนบอกให้จับผช.รวยนะ ญาติเราที่เป็นผญ.แม่ก็บอกให้จับผช.รวยๆ เหมือนกัน
แม่เราอยากให้เราเป็นข้าราชการ เค้าบอกว่าเราจะได้สบาย แม่ก็จะสบายด้วยนะ จะได้รักษาฟรี นวดฟรี นั่นนี่
แม่บอกว่าแม่รักเรานะ แต่เราไม่เคยรู้สึกว่าแม่รักเราเลย ตอนเด็กๆ ที่เราไม่สบาย แม่ก็้เอาผ้าชุบน้ำแล้ววางไว้บนหัวเตียงให้เราเช็ดตัวเอง
ตอนเราเรียนจบ แม่ก็เริ่มทวงเงินที่ส่งเราเรียน ทั้งๆที่คนที่ส่งเราเรียนไม่ใช่แม่ แต่เป็นพ่อ
(ตอนที่บ้านเราธุรกิจเริ่มแย่ แม่เราก็ทยอยใช้หนี้หุ้นส่วนทุกคน ซึ่งเราก็เป็น 1 ในหุ้นส่วน โดยมีเงินลงทุนแสนสาม แต่ตอนนั้นเรารู้แล้วแหละว่าจะไม่ได้คืน เราเลยไม่ทวง แต่พอเกิดเหตุการณ์หลังเรียนจบ เราเลยรู้สึกเสียดาย+เสียใจ
- เสียใจที่แม่ทวงเงินเราทั้งๆ ที่ไม่ได้ส่งเราเรียน
- เสียดาย ถ้าวันนั้นทวงเงินคืน อย่างน้อยก็จะได้เอามาโปะหนี้ตรงนี้)
แม่ไม่เคยปลอบอะไรเราเลย ทุกครั้งที่เราบ่นเรื่องเรียน เรื่องงานหรืออะไรก็ตาม แม่ก็จะบอกว่า เนี่ยเป็นเพราะไม่เชื่อแม่ ชีวิตเลยเจอแต่ความติดขัด ทำอะไรก็จะไม่เจริญ (ซึ่งปัญหาที่เรามาบ่นให้แม่ฟังไม่ใช่ปัญหาของเรา แต่เป็นปัญหาของเพื่อน เราแค่มาบ่นให้ฟังว่าเพื่อนเราเจออะไรมาบ้าง)
เราไม่เคยรู้สึกว่าแม่รักเรา เรารู้สึกว่าแม่รักตัวเอง ทุกคำที่เค้าพูด ทุกคำที่เค้าบอกว่าหวังดี มันมักจะมีประโยคแอบแฝงว่าเพื่อที่แม่จะสบาย เช่นการให้เราเป็นข้าราชการ การให้เราจับผช.รวย
เราไม่ชอบที่แม่พูดว่าเราไม่มีทางเจริญ การมีลูกเป็นภาระ ฯ
หลังๆ มานี้เราไม่ค่อยคุยกับแม่แล้ว เค้าเหมือนจะรู้ว่าเราไม่อยากคุยกับเค้า เค้าก็พยายามเข้าหาเรา เวลาเรากลับบ้านก็เอาผ้าไปซักให้เรา (แต่คิดเงินเรานะ) เรากลับไปคุยกับเค้าได้สักพักนึงแล้วก็ทะเลาะกันเหมือนเดิม ด้วยความคิด ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง มันเลยทำให้เราไม่อยากยุ่งกับเค้า
คำถามคือ จะทำยังไงให้เรารู้สึกรักเค้าขึ้นมาบ้าง เรารับไม่ไหวกับสิ่งที่เค้าทำ/พูดกับเรา แต่เราไม่ได้เกลียดเค้านะ แค่ไม่อยากยุ่งกับเค้าเฉยๆ
ทำยังไงให้รู้สึกรักแม่ขึ้นมาบ้าง
ต้องบอกก่อนว่าแต่ก่อนบ้านเราเคยฐานะดีกว่านี้ แต่ตั้งแต่ปี 54 ที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วม มันก็ทำให้ฐานะบ้านเราแย่ลงเรื่อยๆ มันทำให้พวกเราทะเลาะกันเรื่องเงินๆทองๆ จนวันนึงแม่หลุดปากออกมาว่า อยากให้ลูกสาวไปทำงานตปท. เผื่อจะโชคดีเจอฝรั่งรวย รักไม่รักก็ให้แต่งเลยนะ แม่จะได้สบาย ซึ่งเราไม่ชอบความคิดนี้ มันทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นกรี่ ไม่ใช่แค่เราที่โดนบอกให้จับผช.รวยนะ ญาติเราที่เป็นผญ.แม่ก็บอกให้จับผช.รวยๆ เหมือนกัน
แม่เราอยากให้เราเป็นข้าราชการ เค้าบอกว่าเราจะได้สบาย แม่ก็จะสบายด้วยนะ จะได้รักษาฟรี นวดฟรี นั่นนี่
แม่บอกว่าแม่รักเรานะ แต่เราไม่เคยรู้สึกว่าแม่รักเราเลย ตอนเด็กๆ ที่เราไม่สบาย แม่ก็้เอาผ้าชุบน้ำแล้ววางไว้บนหัวเตียงให้เราเช็ดตัวเอง
ตอนเราเรียนจบ แม่ก็เริ่มทวงเงินที่ส่งเราเรียน ทั้งๆที่คนที่ส่งเราเรียนไม่ใช่แม่ แต่เป็นพ่อ
(ตอนที่บ้านเราธุรกิจเริ่มแย่ แม่เราก็ทยอยใช้หนี้หุ้นส่วนทุกคน ซึ่งเราก็เป็น 1 ในหุ้นส่วน โดยมีเงินลงทุนแสนสาม แต่ตอนนั้นเรารู้แล้วแหละว่าจะไม่ได้คืน เราเลยไม่ทวง แต่พอเกิดเหตุการณ์หลังเรียนจบ เราเลยรู้สึกเสียดาย+เสียใจ
- เสียใจที่แม่ทวงเงินเราทั้งๆ ที่ไม่ได้ส่งเราเรียน
- เสียดาย ถ้าวันนั้นทวงเงินคืน อย่างน้อยก็จะได้เอามาโปะหนี้ตรงนี้)
แม่ไม่เคยปลอบอะไรเราเลย ทุกครั้งที่เราบ่นเรื่องเรียน เรื่องงานหรืออะไรก็ตาม แม่ก็จะบอกว่า เนี่ยเป็นเพราะไม่เชื่อแม่ ชีวิตเลยเจอแต่ความติดขัด ทำอะไรก็จะไม่เจริญ (ซึ่งปัญหาที่เรามาบ่นให้แม่ฟังไม่ใช่ปัญหาของเรา แต่เป็นปัญหาของเพื่อน เราแค่มาบ่นให้ฟังว่าเพื่อนเราเจออะไรมาบ้าง)
เราไม่เคยรู้สึกว่าแม่รักเรา เรารู้สึกว่าแม่รักตัวเอง ทุกคำที่เค้าพูด ทุกคำที่เค้าบอกว่าหวังดี มันมักจะมีประโยคแอบแฝงว่าเพื่อที่แม่จะสบาย เช่นการให้เราเป็นข้าราชการ การให้เราจับผช.รวย
เราไม่ชอบที่แม่พูดว่าเราไม่มีทางเจริญ การมีลูกเป็นภาระ ฯ
หลังๆ มานี้เราไม่ค่อยคุยกับแม่แล้ว เค้าเหมือนจะรู้ว่าเราไม่อยากคุยกับเค้า เค้าก็พยายามเข้าหาเรา เวลาเรากลับบ้านก็เอาผ้าไปซักให้เรา (แต่คิดเงินเรานะ) เรากลับไปคุยกับเค้าได้สักพักนึงแล้วก็ทะเลาะกันเหมือนเดิม ด้วยความคิด ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง มันเลยทำให้เราไม่อยากยุ่งกับเค้า
คำถามคือ จะทำยังไงให้เรารู้สึกรักเค้าขึ้นมาบ้าง เรารับไม่ไหวกับสิ่งที่เค้าทำ/พูดกับเรา แต่เราไม่ได้เกลียดเค้านะ แค่ไม่อยากยุ่งกับเค้าเฉยๆ