[CR] Practical reviews : รีวิวเตรียมตัวสอบ IELTs ฉบับคนทำงาน

กระทู้รีวิว
เนื่องจากเพิ่งสอบ IELTS ได้คะแนนตามที่ต้องการช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งสอบผ่านในครั้งที่ 4 ในรอบ 2-3 ปี และได้นำคำแนะนำจากกระทู้พันธ์ทิพย์ไปใช้ รู้สึกว่าช่วยได้มากๆ จึงอยากมาแชร์ประสบการณ์ต่อค่ะ ซึ่งจะเน้นว่าเราฝึกยังไงในแต่ละทักษะ เรายังไม่เก่งนะคะ แต่อยากช่วยแชร์วิธีการ
เราขออ้างอิงกระทู้นี้นะคะ เพราะการฝึกจนสอบผ่านมาได้ เราอ่านจากกระทู้นี้แล้วนำมาปรับใช้ค่ะ
https://pantip.com/topic/37335061
รีวิวแบ่งเป็น 4 ส่วนนะคะ สามารถข้ามไปอ่านการฝึกที่ข้อ 4 หรือ 5 ได้เลยนะคะ
1) พื้นฐานภาษาอังกฤษของตัวเอง และที่มาที่ไป
2) คะแนน IELTS ทั้งหมด 4 ครั้ง
3) การลงเรียน IELTS ที่ผ่านมาทั้งหมด
4) การฝึกทักษะต่างๆ ในส่วนของตัวเอง
5) คำแนะนำส่วนตัว
*****************************************************************************************************************************
1) พื้นฐานภาษาอังกฤษของตัวเอง และที่มาที่ไป
เราเป็นเด็กสายวิทย์ที่ไม่ได้ชอบภาษา สอบได้เกรดดี แต่ใช้งานจริงไม่ได้ สามารถทำข้อสอบแกรมมาได้ อ่านรู้เรื่อง แต่ฟัง เขียน พูด ไม่ได้เลย ถ้าประเมินเป็นคะแนนน่าจะ ไม่เกิน 5 เต็ม 10 เพราะเคยไปสัมภาษณ์ทุนแลกเปลี่ยนตอนมหาวิทยาลัย จำได้ว่าตอนสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ ฟังไม่ออก ตอบไม่ได้ ก่อนออกมาอาจารณ์ที่สัมภาษณ์สงสาร ก็ช่วยแนะนำวิธีพัฒนาภาษาให้ ตอนนั้นติดได้ Ranking อันดับ 2 เพราะคะแนนส่วนวิชาการดี สุดท้ายไม่ได้ไปเพราะเขามองว่าเราไม่ตรงสายงานที่ขอไปแลกเปลี่ยนด้วย
ตัดภาพมาตอนเรียนจบ ได้มีโอกาสพัฒนาการฟังและพูดมากขึ้นเพราะ ไปทำงานพาร์ทไทม์ที่มีลูกค้าต่างชาติเยอะ จำได้ว่าวันแรกๆ ที่ไป อยากไม่อยากอยู่รับลูกค้าเองเลย อยากขายแต่คนไทย พอต่างชาติเข้ามาอยากมุดโต๊ะหนี แต่ทำไม่ได้ สุดท้ายการพูดและการฟังดีขึ้นมากในระยะเวลา เกือบๆปีที่อยู่ตรงนั้น
หลังจากนั้นจนถึงตอนนี้ ไม่ได้เจอคนต่างชาติเยอะแล้วก็ฝึกจากการดูหนัง หรือดูคลิปที่สนใจ แล้วก็ลงเรียนไอเอลสำหรับการสอบ
ปัจจุบันก็ทำงานประจำ 5-6 วันต่อสัปดาห์ แล้วก็มีธุรกิจส่วนตัว ที่จะดูแลนอกเวลางานด้วยค่ะ ^^
เราสอบไอเอลเพราะต้องการใช้ยื่นเรียนต่อโท ในสายวิทยาศาสตร์ ใช้คะแนน Overall 6.5 แต่ละแบรนด์ไม่ต่ำว่า 6.0
.
2) คะแนน IELTs ทั้งหมด 4 ครั้ง
ครั้งที่ 1  August 2016 (จำได้คร่าวๆ เพราะลองสอบครั้งแรก คะแนนไม่ได้ใช้) สอบที่ IDP
L5.5 R6.0 W5.5 S5.0 Overall 5.5
(หาผลสอบไม่เจอเเล้ว)
ครั้งที่ 2 10/Feb/2018 สอบที่ BC
L5.5 R6.0 W5.0 S6.0 Overall 5.5
ครั้งที่ 3 20/Oct/2018 สอบที่ IDP
L6.5 R7.0 W6.0 S5.0 Overall 6.0
ครั้งที่ 4 15/Dec/2018 สอบที่ IDP
L6.5 R6.0 W6.0 S6.5 สอบที่ IDP
.
3) การลงเรียน IELTS ที่ผ่านมาทั้งหมด
ขอนับเฉพาะการลงเรียนไอเอลนะคะ ตอนเรียนมหาลัยเราก็เรียน Writing ไปเรื่อยๆ เพื่อให้มีอะไรทำวันหยุด แต่ไม่ใช่สำหรับไอเอล
3.1) เรียนสถาบัน
อันนี้เราเรียนแบบคอร์ส unlimited ที่มีการคอร์สสอนไอเอลด้วย เรียนช่วงต้นปี 2016 เพราะว่าใกล้ที่ทำงาน ตอนนั้นเริ่มคิดเรื่องเรียนต่อแล้ว ก็เลยลงเรียนแถวๆที่ทำงาน ก็มีทั้งคลาสที่สอน General English และไอเอล ตอนนั้นฝึกน้อยและจับวิธีการคิดอะไรไม่ได้ และพื้นฐานเรายังไม่ดี พอเรียนจบไปสอบครั้งแรก ก็ได้คะแนนอย่างที่บอก และเราย้ายที่ทำงานใหม่ตอนปลายปี จึงพับโครงการเรียนต่อไปก่อน 1 ปี เท่าที่สังเกตเด็กคนอื่นๆในคลาส (ส่วนใหญ่เป็นเด็กเรียนมหาลัย) ก็สอบผ่านในครั้งแรกที่ต้องการกัน เราเลยคิดว่าถ้าพื้นฐานดี มาเรียนน่าจะเข้าใจเร็วและสอบได้เลยค่ะ
3.2) เรียนคอร์สออนไลน์กับครูอเมริกัน
คอร์สนี้เริ่มเรียนตอนปลายปี 2016 รู้จักเพราะฟัง podcast ของเขาแล้วชอบ เราชอบคอร์สนี้มาก เพราะสอนการพัฒนา General English และเทคนิคไอเอลดีมาก แต่ เราก็เรียนแบบไม่ค่อยได้ฝึกฝนอีก พอต้นปี 2018 ถึงไปสอบแบบหลุดๆ คะแนนก็ยังไม่ผ่าน ตอนนั้นเข้าใจเลยว่า เทคนิคดี แต่ไม่ฝึกจนแม่นก็จบ
ลองไปดูได้นะคะ https://www.allearsenglish.com/ieltsonline/ ฟังส่วนฟรียังได้ประโยชน์เยอะเลย
3.3) เรียน Private เฉพาะ Writing
เกริ่นก่อนว่า-พอคะแนนต้นปี 2018 ออก เราก็ยังสอบไม่ผ่าน และที่เศร้ากว่านั้นคือ เราโดนปฏิเสธให้เข้ารอบสุดท้ายของคอร์สป.โทที่อยากเรียนมาก ทั้งๆที่สอบรอบวิชาการผ่านแล้ว  เพราะคะแนนไอเอลไม่ผ่านเกณฑ์ตามกำหนดในวันที่ 28Feb2018 ตอนนั้นรู้สึกเศร้ามาก พอดีมีพี่แนะนำให้อ่านกระทู้นี้ https://pantip.com/topic/37335061 เราก็เลยลองปรึกษาพี่เจ้าของกระทู้ ก็ได้คำแนะนำมา เลยตัดสินใจลงเรียน private พอทดลองเรียนแล้วรู้สึกว่าช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุด ก็เลยเรียนต่อเนื่องอาทิตย์ละครั้ง และ Set time line การยื่นสมัครปีถัดไปกับครูที่สอน  ซึ่งสุดท้ายก็สอบผ่านตามคะแนนที่ตั้งใจไว้ค่ะ
ตรงนี้ที่ตัดสินใจเรียนอีกอย่างคือ เราคิดว่าถ้ายังทำวิธีการเดิมๆ ผลลัพธ์ก็น่าจะไม่ต่างจากเดิม เราเลยลองวิธีใหม่สำหรับเราค่ะ
.
4) การฝึกทักษะต่างๆ ในส่วนของตัวเอง
ปรับมาจากที่อ่านรีวิวในพันธุ์ทิพย์ ครูที่สอน Writing แนะนำมา และวิธีการที่เรียนมาจากคอร์ส online ค่ะ
Listening
- แนะนำแอพ Blinkist ค่ะ เป็น app ที่ดีมากๆ เป็นแอพที่สรุปหนังสือ non-fiction มาไว้ในเวลา 15 นาที สามารถฟังได้และอ่านสคริป ไปด้วยได้ เราซื้อตัวเต็มไว้ ตอนนั้นใช้ส่วนลดเหลือ 1,8xx  เพราะเหมือนมือถือเราเปิดฟรีวันละเล่มไม่ได้ -*- แต่คุ้มค่ามากๆ เราจะฝึกด้วยการฟังหนังสือวันละ 1 เล่ม จะฟังแบบให้เข้าใจว่าเขาพูดเรื่องอะไร ฟังจังหวะการอ่าน การเว้นประโยคของเข้า แรกๆ อาจจะฟังไม่ทัน เพราะมันเร็วมาก พอนานๆไปเราฟังทันมากขึ้น เราทดลองฟังก่อนฝึกทำข้อสอบ Listening ปรากฏว่า ฟังออกมาขึ้น ความเร็วของไอเอลช้าไปเลย จากประสบการณ์ถ้าฟังแอพนี้ทัน จะฟัง part 4 ในไอเอลง่ายมากขึ้น เพราะเป็นเหมือนเสียงคน 1 คน บรรยายไปเรื่อยๆเหมือนกัน ***แนะนำควรมีติดเครื่องไว้จริงๆ
***Trick วันสอบจริง 2 รอบหลัง เราเปิดฟัง 2 เล่ม ประมาณ 30 นาที ระหว่างเดินทางไปสอบ ช่วยจูนหูกับสมองได้ดีจริงๆค่ะ
- Tedtalk อันนี้ชอบฟังกรอกหูตอนนั่งทำงานเอกสารหรือตอนเดินทาง กรอกหูคือไม่ฟังเอาเนื้อหาใดๆเลยค่ะ ให้หูมันชินกับจังหวะการพูดภาษาอังกฤษแค่นั้นเอง ทำติดต่อกันเรื่อยๆ ช่วยได้เยอะเหมือนกัน
- ทำข้อสอบจริง จากเล่ม Cambridge แนะนำให้ทำ เรื่อยๆ ได้เลยนะคะ เราจะได้คุ้นเคยกับข้อสอบ และได้ฝึก Spelling ไปในตัว หลังจากทำข้อสอบเสร็จแล้ว เราจะมาเช็คกว่าตรงที่เราไม่ได้คือยังไง ผิดเพราะอะไร และไปอ่านสคริปดู 1 ครั้ง จากนั้นจะเอาเทปนั้นมาฟังระหว่างไปทำงาน วิธีฟัง จะฟังหาการแบ่งประโยค ฟังเป็นประโยค ตรงไหนถึงประโยคที่มี keyword ที่เราวงไว้ จะตั้งใจฟังประโยคนั้น ตรงไหนพูดเรื่อยๆ ไม่เกี่ยวกับตรงที่ต้องเติมคำตอบ เราก็จะปล่อยๆ ไม่ Focus ประโยคนั้นมาก พอฝึกจนเก่งขึ้น เราจะไม่ค่อยเหนื่อยกับการเพ่งสมาธิทุกประโยคค่ะ และรู้สึกว่าทำได้มากขึ้น
Reading
-อ่านบทความ World Economic forum ใน Facebook page วันละเรื่อง
-ฝึกทำข้อสอบจริง ฝึกเทคนิค Screen และหา Keyword ของแต่ละ paragraph หา Keyword ที่สัมพันธ์กับคำถาม พอทำเสร็จก็มาอ่านการและจดศัพท์จากเรื่องที่อ่าน 3-5 คำพอ เพราะมากกว่านี้เราจำไม่ไหว แล้วก็จดใส่การ์ดเล็กๆ ไว้ทวนระหว่างวัน ช่วงแรกฝึกทำข้อสอบอย่างเดียวได้ พอก่อนสอบอย่างน้อย 2 สัปดาห์ควรจับเวลา การบริหารเวลาสำคัญมากจริงๆ
Writing
- ฝึกเขียนเกินกว่าจะจินตนาการได้ (ยืมจากกระทู้ที่แนะนำมาใช้ ^^*) ต้องฝึกฝนสิ่งที่ถูกต้องเข้าไปมากๆจริงๆ อันนี้ตอนแรกก็เครียดมาก เพราะแบบจินตนาการยังไม่ออกเลยว่ามันมากขนาดไหน สุดท้ายแล้วก็ปรับให้เข้ากับตัวเรา และคะแนนที่เราต้องการค่ะ ควรมีคนที่มีความรู้ช่วย feedback ให้จริงๆ ส่วนตัวเองเคยตั้งเป้ากับครูไว้ว่าจะพยายามเขียนให้สัปหาห์ละ 8 ชิ้น แต่ความจริงคือได้แค่สัปดาห์ละ 1-2 ชิ้น ช่วงเดือนท้ายๆที่จะปิดปี ไม่ได้ส่งเลยด้วยซ้ำ ToT แต่อันนี้ อย่างน้อยเราต้องแม่นว่าข้อสอบแบบนี้ เราจะตอบโครงสร้างไหน มีรูปแบบประโยคแบบไหนที่เราจะใช้บ้าง ส่วนตัวจะสรุปลักษณะคำถาม เช่น Agree/Disagree, Discuss both view…blah….blah ใส่การ์ดเล็กๆ ติดตัวไปทุกที่ เวลารอรถเมล์ หรือระหว่างเดินทางก็จะเอาขึ้นมาทวนเร็วๆ อาศัยความถี่ให้จำขึ้นใจ
***ถ้าเราแม่นเรื่องโครงสร้าง อย่างน้อยเรารู้ว่าเราจะหยิบอะไรมาเขียน อย่าง Task 1 พอเราเห็นโจทย์เรารู้ว่าต้องเขียนยังไง เราจะดึงข้อมูลมาถูกต้องเลยค่ะ
Speaking
- ครั้งที่ 3 คะแนน Speaking ยังน้อยก็ตามการฝึกเลย ก่อนสอบครั้งนี้ฝึกน้อยมากๆ และรู้สึกว่าตอบวนเวียน ใช้โครงสร้างการตอบที่ไม่ค่อยดีค่ะ ประกอบกับเราเป็นคนพูดเสียงโทนเดียว ไม่ค่อยมีอารมณ์ในการพูด เราก็เลยแก้ตามนี้
-ฝึกอ่านออกเสียงวันละ 10 นาที จากบทความหรือหนังสือภาษาอังกฤษ ตรงนี้ฝึกให้ตัวเองพูดต่อเนื่องและฝึกใส่จังหวะการพูด
-เอาข้อสอบจากหนังสือ Cambridge มาฝึกตอบค่ะ
-เรียน speaking online กับครูชาวอังกฤษ ครูสอนวิธี list idea ของ part 2 ดีมาก คือ พอได้คำถาม ตอนเวลาโน๊ต 1 นาที ให้ List keyword มา อย่างละ 3 คำ สำหรับเรามันดีตรง list idea ทัน และพูดไหลลื่น ไม่วนเวียนค่ะ
ตัวอย่าง
Describe someone you know who has started a business.
You should say
Who this person is
What work this person does
Why this person decided to start a business
And explain whether you would like to do the same kind of work as this person
ตอนโน๊ต 1 นาทีเราก็จะ list แค่ keyword
Who – Sister , kind , close
What – shop, cloths, import
Why – income, family, study
would like to do? –  vitamin, online, free time
เล้วก็ตอบไล่ไปแต่ละ keyword

-ฝึกตอบเป็นรูปแบบ
part 1 จะตอบคำถาม + ตัวอย่าง ให้เป็น Who/What/When/Where/Why แต่งเอาบ้างก็ได้
ตัวอย่าง what activity do you enjoy at weekend?
I love watching Netflix with my friends in my own apartment. I prefer comedies than drama but my friends enjoy action.
Part 2 เล่าให้ต่อเนื่อง ไม่วนเวียน ใช้ transition words บ้าง
Part 3 เราเอาตัวรอดด้วยการ ตอบแบบ 3 -5 ประโยค เริ่มจาก บางคนอาจจะคิดงี้ หรือบางคนอาจจะคิดงี้ แต่เราคิดแบบนี้ ถ้าข้อไหนพูดตัวอย่างได้ก็จะเล่า สรุปปิดท้ายซะหน่อย แล้วจำตัวอย่างไปซัก 3-4 รูปแบบ
จะออกความเห็นก็ In my view, I feel that, What I think is, I suppose, To be sure
จะให้เหตุผล I say this because, I mean, The reason I feel that why is
จะเล่าตัวอย่าง Case in point, As an illustration
สรุป To sum up, In essence
.
สำหรับใครที่กังวลเรื่อง แกรมม่าในการพูด อยากจะแชร์ว่าไม่ต้องกังวลมากขนาดนั้นนะคะ ทักษะนี้เขาจะดู 4 อย่างคือ แกรมม่า ความหลากหลายของคำศัพท์ intonation แล้วก็ Fluency ค่ะ ถึงแกรมม่าเราไม่แม่น แต่ถ้าอีก 3 อย่างเราดี ก็สามารถดึงคะแนนขึ้นได้เลยนะคะ จากคะแนนจะเห็นว่าขึ้นมา 1.5 band ในเวลา 1 เดือน เพราะเราปรับ 3 อย่างหลังค่ะ จริงๆแล้วแกรมม่าต้องใช้เวลานานกว่ามากในการขึ้นจากระดับ intermediate ไปขั้นที่สูงขึ้น
***คำแนะนำคือ พูดไปเลย ก่อนสอบครั้งที่ 4 คือติดใจมากๆ สอบกับ IDP 2 ครั้งก็ได้ 5.0 ครั้งที่ 4 ก็ยังจะสอบ IDP เพราะสมัคร BC ไม่ทัน สุดท้ายครูแนะนำว่า ช่างหัวมัน พูดไปเลยค่ะ ^_^ ก็เลยพยายามพูดออกมา อย่างน้อยก็ยังได้คะแนนบ้าง ไม่พูดสิไม่ได้เลย
.
(มีต่อ)
ชื่อสินค้า:   การสอบ IELTS
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่