บ้านหลังนี้ถูกสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 2547  ที่ดินติดกับถนนและลำคลอง ตรงด้านหลังที่ติดกับลำคลองตลอดแนวยาว 50 เมตร ในปีแรกที่บ้านถูกสร้าง เราได้ทำแนวรั้วกั้นตลอดแนวยาวตามลำคลองทั้งหมดในพื้นที่ของเราตามใบโฉนด ต่อพอในปีถัดมา น้ำได้ซัดแนวรั้วเราเสียหายพังทลาย เราเลยสร้างแนวรั้วใหม่ในปี 48 ให้ถอยร่นเข้ามาด้านในราวๆ 3 เมตร เพื่อกั้นดินพังทลาย อันจะเกิดความเสียหายต่อตัวบ้าน ส่วนผืนดินนอกรั้วกั้นเราได้ป้องกันดินพังทลายโดยการปลูกกอไผ่ มะพร้าว ต้นกล้วย และปล่อยให้หญ้าขึ้นรกเป็นการกั้นแนวดินเอาไว้ วันดีคืนดีก็มีเพื่อนบ้านเข้ามาเก็บผักหักฟืนบ้าง บาโขมยหน่อไม้บ้าง อันนี้เราก็ไม่ได้ว่าอะไร ให้แล้วๆไป ไม่อยากผิดใจกับเพื่อนบ้าน แต่สามีเราถ้าเห็นเด็กๆเค้าเข้ามาเก็บผักหักฟืน สามีก็จะไล่ไม่ให้เข้ามา พอเค้าออกไป เราก็ได้พูดให้สามีเห็นแก่ความเป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน ควรเอื้ออารีต่อกัน
           และเมื่อประมาณ 2 ปี ที่แล้ว ราวๆ ปี 60 เค้ามาทำเล้าไก่ในที่ของเราตรงมุมที่ติดกับบ้านเค้า ปล่อยให้ไก่ เป็น 40-50 ตัวเข้ามาในที่ของเราทั้งหมดตลอดแนวยาวริมฝั่ง 50 เมตร เพราะไม่อยากมีเรื่องผิดใจกัน เราเลยยอมเสียสละที่ตรงเล้าไก่ประมาณ  6×5 เมตรให้เค้า แล้วเราก็กั้นส่วนที่เหลือเอาไว้ ไม่ให้ไก่เข้ามาได้ตลอดแนว ปีนี้น้ำในคลองลดลงมาก จนจะหมดไปจากลำคลอง น้ำลดลงถึงไหนเพื่อไม่ให้ไก่เข้ามาได้ เพราะโขยงไก่ไปตรงไหน ก็คุ้ยเขี่ยดินเราพังทลายไปหมด เราจึงต้องตามกั้นกันไก่ไปจนถึงริมน้ำ แต่ครั้งหลังสุดเมื่อวานนี้ เขามาเอะอะโวยวายว่าเราไม่มีสิทธิ์มากั้นแบบนี้
              โอ...ประเทศไทย แทนที่เค้าจะสำนึกว่าเราอุตส่าห์สละที่ให้แล้ว ไหนเราต้องมาเครียดกับเรื่องไก่ แล้วทำไมเราต้องได้ลงทุนลงแรงกั้นที่ด้วยตัวเอง เพราะไม่อยากชวนทะเลาะ และผิดใจกับเพื่อนบ้านเลยแม้แต่นิดเดียว เช้านี้เพื่อนบ้านเลี้ยงไก่ชวนทะเลาะ บอกให้เราเอาที่ดินมารังวัด โน่น นี้ นั้น ถ้าวัดที่เราก็อยู่นอกรั้วอยู่แล้วล่ะตามโฉนดชัดเจน แม้แต่ตัวเขาย่อมรู้ดี หรือหากแม้ว่าที่ดินมันจะอยู่นอกโฉนดในส่วนน้ำลด เจ้าของบ้านก็ย่อมมีสิทธิ์ดูแล มิใช่หรือผู้รู้ช่วยตอบที หรืออาจจะเป็นเพราะว่า ปี สองปีมานี้เราเหมือนอยู่ตัวคนเดียว ต้องเป็นที่พึ่งให้กับตัวเอง คือว่าสามีป่วยค่ะ (ไม่ขอลงรายละเอียดตรงนี้นะคะ)