สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
เราเข้าใจเจ้าของกระทู้มากๆเลยล่ะ
สมัยก่อน เราทำเพื่อพ่อเพื่อน้อง เรียนจบ ทำงาน ส่งเงินกลับบ้าน ทำเพื่อคนอื่นมาตลอดหลายปี ไม่เคยมีเงินเก็บออม อยากได้อะไรก็อดเอา เก็บเงินส่งคนทางบ้านก่อน เป็นอย่างนี้หลายปีเลยค่ะ
จนกระทั่งพ่อเราเสีย (แม่เราเสียตอนเราเรียนมหาวิทยาลัยปี4ใกล้จะจบแล้วอีกแค่เทอมเดียว)
น้องเราเรียนจบ แต่งงาน ก็มีชีวิตของเขา ใช้เงินฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย ทำตัวหรู ใช้เงินมือเติบมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม มหาวิทยาลัยเลย บอก เตือนก็ไม่ฟัง ยิ่งเป็นหนักกว่าเดิม สมัยเรียนได้เงินจากทางบ้านเดือนละหมื่น(ได้มากกว่าเราอีก) แต่โทรมาขอเงินเราทุกเดือน บอกเงินไม่พอใช้ เราก็นะ เห็นว่าเป็นน้อง ตัวเองยอมอด หาเงินส่งไปให้ ไม่มียังไงก็ต้องมีให้เขา
แต่พอเขาแต่งงานไปแล้ว เราก็หยุดส่งเงิน ให้เขาไปใช้ชีวิตของเขาเองกับสามี
เวลาเรากลับไทย เราไม่ค่อยบอกใครอ่ะ กลับไปเงียบๆ เอาเงินไปฝากเงียบๆ ไปซื้อสลากออมสิน ไปซื้อทองก็ไปคนเดียวเงียบๆ ไม่ค่อยอยากเจอญาติพี่น้อง กลัวคนมาเบียดเบียน กลัวคนมาขอยืมเงิน และถ้ารู้ว่าเราจะกลับไทยมักจะรบกวนเราฝากซื้อของโน่นนี่นั่น หลายปีมานี้เวลาเรากลับไทยเราไม่บอกใครเลย กลับไปเงียบๆ ไม่เปลือง ไม่เดือดร้อนเรื่องหาซื้อของฝาก บ่อยครั้งด้วยนะที่ฝากซื้อแต่พอได้ของแล้วก็ไม่จ่ายเงินให้เรา เบื่อมาก
ทุกวันนี้ถ้าต้องเจอญาติพี่น้องเราจะทำตัวจนๆ ไม่แต่งตัว ไม่ถือเงินเยอะค่ะ เราไม่เล่นเฟสบุ๊คส์ ไม่สมัครใช้งานเลย ใครก็มาส่องดูชีวิตความเป็นอยู่เราไม่ได้ด้วย สบายใจดี
ไปไหนมาไหนคนเดียว ให้รางวัลชีวิตตัวเองบ้าง อยากได้อะไรก็ซื้อ เมื่อก่อนทำเพื่อคนอื่นมาเยอะแล้ว ถึงเวลาหันมารักตัวเองเยอะๆ ทำอะไรๆเพื่อตัวเราเองบ้าง มันก็ดีนะ ชีวิตรู้สึกดีค่ะ
สมัยก่อน เราทำเพื่อพ่อเพื่อน้อง เรียนจบ ทำงาน ส่งเงินกลับบ้าน ทำเพื่อคนอื่นมาตลอดหลายปี ไม่เคยมีเงินเก็บออม อยากได้อะไรก็อดเอา เก็บเงินส่งคนทางบ้านก่อน เป็นอย่างนี้หลายปีเลยค่ะ
จนกระทั่งพ่อเราเสีย (แม่เราเสียตอนเราเรียนมหาวิทยาลัยปี4ใกล้จะจบแล้วอีกแค่เทอมเดียว)
น้องเราเรียนจบ แต่งงาน ก็มีชีวิตของเขา ใช้เงินฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย ทำตัวหรู ใช้เงินมือเติบมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม มหาวิทยาลัยเลย บอก เตือนก็ไม่ฟัง ยิ่งเป็นหนักกว่าเดิม สมัยเรียนได้เงินจากทางบ้านเดือนละหมื่น(ได้มากกว่าเราอีก) แต่โทรมาขอเงินเราทุกเดือน บอกเงินไม่พอใช้ เราก็นะ เห็นว่าเป็นน้อง ตัวเองยอมอด หาเงินส่งไปให้ ไม่มียังไงก็ต้องมีให้เขา
แต่พอเขาแต่งงานไปแล้ว เราก็หยุดส่งเงิน ให้เขาไปใช้ชีวิตของเขาเองกับสามี
เวลาเรากลับไทย เราไม่ค่อยบอกใครอ่ะ กลับไปเงียบๆ เอาเงินไปฝากเงียบๆ ไปซื้อสลากออมสิน ไปซื้อทองก็ไปคนเดียวเงียบๆ ไม่ค่อยอยากเจอญาติพี่น้อง กลัวคนมาเบียดเบียน กลัวคนมาขอยืมเงิน และถ้ารู้ว่าเราจะกลับไทยมักจะรบกวนเราฝากซื้อของโน่นนี่นั่น หลายปีมานี้เวลาเรากลับไทยเราไม่บอกใครเลย กลับไปเงียบๆ ไม่เปลือง ไม่เดือดร้อนเรื่องหาซื้อของฝาก บ่อยครั้งด้วยนะที่ฝากซื้อแต่พอได้ของแล้วก็ไม่จ่ายเงินให้เรา เบื่อมาก
ทุกวันนี้ถ้าต้องเจอญาติพี่น้องเราจะทำตัวจนๆ ไม่แต่งตัว ไม่ถือเงินเยอะค่ะ เราไม่เล่นเฟสบุ๊คส์ ไม่สมัครใช้งานเลย ใครก็มาส่องดูชีวิตความเป็นอยู่เราไม่ได้ด้วย สบายใจดี
ไปไหนมาไหนคนเดียว ให้รางวัลชีวิตตัวเองบ้าง อยากได้อะไรก็ซื้อ เมื่อก่อนทำเพื่อคนอื่นมาเยอะแล้ว ถึงเวลาหันมารักตัวเองเยอะๆ ทำอะไรๆเพื่อตัวเราเองบ้าง มันก็ดีนะ ชีวิตรู้สึกดีค่ะ
ความคิดเห็นที่ 2
ผมเกษียณตอนอายุ 34 ไม่ได้เงินเดือนสักบาทมาเกือบ 10 ปีแล้วครับ
ไม่ได้ร่ำรวย มีข้าวกิน มีบ้านนอน ใช้เงินวันละ 220 บาททุกวัน ก็พอแล้ว แต่ใช้ชีวิตแบบพอเพียงและประหยัด และก็มีความสุขทุกวัน
ตอนผมทำงาน ก็เครียดหนักทุกวัน ไม่มีความสุขเลยสักวัน กลัวจะป่วยตายซะก่อน ก่อนใช้เงิน
มีหมอแถวบ้าน รวยเป็นสิบล้าน อายุประมาณ 60 กว่า มีวันนึง ทำงานอยู่ดีๆ ลื่นหกล้มในห้องน้ำในคลีนิค ตายคาที่ ยังไม่ได้ใช้เงินเลย
ไม่ได้ร่ำรวย มีข้าวกิน มีบ้านนอน ใช้เงินวันละ 220 บาททุกวัน ก็พอแล้ว แต่ใช้ชีวิตแบบพอเพียงและประหยัด และก็มีความสุขทุกวัน
ตอนผมทำงาน ก็เครียดหนักทุกวัน ไม่มีความสุขเลยสักวัน กลัวจะป่วยตายซะก่อน ก่อนใช้เงิน
มีหมอแถวบ้าน รวยเป็นสิบล้าน อายุประมาณ 60 กว่า มีวันนึง ทำงานอยู่ดีๆ ลื่นหกล้มในห้องน้ำในคลีนิค ตายคาที่ ยังไม่ได้ใช้เงินเลย
แสดงความคิดเห็น
ทำยังไงให้ไม่เครียดเรื่องเงินบ้างคะ อยากปลง ตอนนี้เครียดเผื่ออนาคตในอีก 10 20 30 ปี ไปเรียบร้อยแล้วค่ะ
ตอนนี้จขกทอายุ 35 เงินเดือนราว 55,000 บาท ต้องยอมรับว่าเป็นคนไม่ทะเยอทะยาน ทำงานไปเรื่อยๆ ไม่ชอบความกดดัน เลยไม่ได้หางานที่ให้เงินเดือนมากกว่านี้
ปัจจุบันรู้สึกเครียดเรื่องเงินมาก ขณะที่ทุกคนในบ้านดูไม่เครียด พี่สาวทั้งสองคนไม่มีเงินเก็บเลย เพราะใช้เก่งมาก เคยเตือนแล้วแต่ก็เหมือนเดิม แต่เราตรงข้าม รู้สึกว่าต้องเก็บเงินสำหรับเกษียณและภาระต่างๆในอนาคต ตอนนี้เก็บได้ประมาณเจ็ดหลักกลางๆ แต่ก็คิดว่าไม่พอแน่ๆ
เราเป็นคนเดียวที่ส่งเงินให้ที่บ้าน พ่อแม่เกษียณมา 10 ปีแล้วค่ะไม่มีรายได้อื่นๆนอกจากเงินเก็บ ทุกวันนี้ที่บ้านใช้เงินประมาณ 40,000-60,000 บาทต่อเดือน (เงินที่เราให้ + เงินเก็บของพ่อแม่ซึ่งทานก็พอมีอยู่บ้างแต่ไม่มากแล้ว) อยากให้ลองทำรายการใช้จ่ายเหมือนกันแต่ที่บ้านนี่พูดเรื่องเงิน หรือเราจะแนะนำเรื่องเงินอะไรไม่ได้เลย ไม่งั้นบ้านแตกแน่ๆ
ตอนนี้เรารู้สึกเครียดว่าในอนาคตถ้าเกิดมีใครเจ็บป่วย หรือถ้าพี่ทั้งสองไม่ได้ทำงานแล้ว เราจะมีรายรับพอรายจ่ายไหม
บางครั้งก็คิดว่าเราต้องเก็บเงินเพื่อคนอื่นขนาดนี้เลยเหรอ บางครั้งรู้สึกว่าควรจะซื้ออะไรเพื่อตัวเองบ้าง แต่เราเป็นคนไม่ค่อยอยากได้อะไร จะใช้เงินทีก็คิดมากด้วย แต่ก็มีไปเที่ยวต่างประเทศ ต่างจังหวัดกับเพื่อนๆบ้างทุกๆปี
จริงๆแล้วไม่มีอะไรมากค่ะ แต่รู้สึกอยากระบาย พอคิดเรื่องเงินทีไร เครียดทุกที ตอนนี้ก็พยายามเก็บเงินต่อไป
ขอบคุณที่เข้ามารับฟังนะคะ ใครอยากแนะนำอะไรก็พร้อมรับฟังคะ เราอยากปลงๆเรื่องเงินบ้างเหมือนกัน555
หรือจะแนะนำวิธีปล่อยวางก็ได้ค่ะ 555
ขอบคุณค่ะ