คนที่ไม่เห็นด้วยเรื่อง'โลกร้อน'ไม่ใช่คนที่ปฎิเสธวิทยาศาสตร์ แต่เป็นคนที่คิดว่ามนุษย์ไม่ได้เป็นสาเหตุหลักของปัญหาต่างหาก

เรื่องอุณหภูมิทีสูงขึ้นของโลกมันเป็นไปตามวัฎจักรของธรรมชาติ ไม่ได้เกิดจากการกระทำของมนุษย์ อันนี้เป็นประเด็นที่ควรจะมาถกเถียงกันตามหลักวิทยาศาสตร์ การมาโชว์หลักฐานแค่ว่าอุณหภูมิสูงขึ้นในหลายพื้นที่ในโลกไม่มีประโยชน์อะไรถ้าไม่ยอมศึกษากันอย่างแท้จริงถึงสาเหตุที่ทำให้โลกร้อน? เข้าใจตรงกันนะ?
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
โชคไม่ดีที่การประดิษฐ์เทอร์โมมิเตอร์มีขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วงที่ความหนาวของ LIA กำลังถึงจุด peak
ดังนั้นถ้าไปค้นบันทึกอุณหภูมิอากาศในอดีต เราก็จะเห็นจุดเริ่มต้นที่หนาวเย็น
หลังจากนั้นก็จะเห็นอุณหภูมิของโลกก็ค่อยไต่ระดับอุ่นขึ้นเรื่อยๆ
สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เคลื่อนเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม
คนที่ไม่รู้เรื่องของกาลอากาศในยุคโบราณ อาจตกใจที่อุณหภูมิของโลกกำลังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
และคิดว่านั่นเกิดจากการกระทำของมนุษย์

อย่างไรก็ตามช่วงเวลาอบอุ่นในอดีตที่ถูกบันทึกไว้ด้วยเรื่องราวในประวัติศาสตร์คล้ายนิทานปรัมปรา
จริงๆแล้วมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และร่องรอยในชั้นดินรองรับแน่นหนา
ได้แต่ร่องรอยละอองเกสรพืชที่ฝังอยู่ในชั้นดิน บอกให้รู้ถึงชนิดของพืชที่เคยขึ้นอยู่ในยุคสมัยต่างๆ
ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถคำนวณหาอุณหภูมิของโลกในช่วงเวลาต่างๆได้

การที่โลกสามารถอุ่นขึ้นและเย็นลงได้เองหลายรอบ นานนับพันปีก่อนที่จะเข้าถึงยุคอุตสาหกรรม
เป็นวัฎจักรทางธรรมชาติ มนุษย์ย่อมไม่ได้เป็นต้นเหตุของการอุ่นขึ้นหรือเย็นลงอย่างแน่นอน
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าการอุ่นขึ้นในปัจจุบันมีสาเหตุมาจากการกระทำของมนุษย์

ถ้าในอดีตอากาศเคยผันแปรอุ่นขึ้นแล้วก็เย็นลงได้เองเป็นวัฏจักร ด้วยพลังธรรมชาติ
จะสรุปได้อย่างไรว่า โลกอุ่นขึ้นในเวลานี้ เป็นเพราะปรากฏการณ์เรือนกระจก
บางทีโลกอาจจะกำลังกลับสู่คาบร้อนที่อุ่นแบบระอุหน่อยๆอย่างที่เคยเกิดมาแล้วมากมายหลายครั้ง

ซากโบราณสถานของไวกิ้งบนเกาะกรีนแลนด์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่