สวัสดีค่ะ ขอแนะนำตัวก่อนเลยว่า เราเคยเรียนอยู่ที่เชียงใหม่เมื่อ6 ปีที่แล้ว พอจบมาก็ได้มาทำงานในกรุงเทพฯ ช่วงลอยกระทงนี้ อนากรำลึกบรรยากาศเก่าๆ เลยตัดสินใจเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า และหนีตามผู้ชายไปเชียงใหม่ (ล้อเล่นนะ อิอิ) ตอนอยู่เชียงใหม่ไม่ค่อยได้เที่ยวเลยเพราะเรียนอย่างเดียว กลับมาคราวนี้เลยอยากลองเที่ยวในคูเมืองดูเพราะด้วยงบที่น้อยนิดตามฉบับสาวออฟฟิศ เลยคิดเล่นๆกะเพื่อนว่า อยากทำตัวเป็น Backpacker พักอยู่ในคูเมืองชิวๆ สไตล์ต่างชาติที่เขาชอบมาคูเมืองกัน (ที่นี่มีอะไรดีคนมาเที่ยวกันจัง) เราตัดสินใจอยู่เชียงใหม่ 3วัน 2 คืน เพื่อเที่ยวงานลอยกระทงโดยเฉพาะ
อันนี้ เป็นรูปตอนไปเที่ยวแถวตลาดเมืองใหม่ เป็นไฮไลท์สำคัญเพราะมีขบวนแห่กระทง สวยเวอร์ๆ
คนเยอะมากๆๆๆ
เราเลือกช่วงนี้เพราะใกล้เข้าหน้าหนาวและคิดถึงบรรยากาศกลิ่นต้นตีนเป็ดในช่วงนั้นหละค่ะ 5555 (คนบ้าป่าววะชอบกลิ่นต้นตีนเป็ด)
ในเรื่องของการเดินทางมาเชียงใหม่นั้น เราจะไม่พูดถึงละกันนะ เพราะสะดวกสบายเหมือนเดิมจ้า (มีหลายทางให้มา รถไฟ รถทัวร์ เครื่องบิน เรือดำน้ำ ได้หมด แล้วแต่สะดวกเลยค่า) เชียงใหม่ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง แต่เตรียมเงินแบงค์ย่อยมาสำหรับจ่ายตอนขึ้นรถแดงค่ะ คราวนี้ฝึกพูดภาษาเหนือมาเต็มที่เพราะจะได้นั่งรถแดงแบบราคาคนเมืองๆค่า ^^ สำหรับที่พักมีให้เลือกเยอะมาก แต่เราจองโฮสเทลอยู่กะเพื่อน โดยเลือกที่พักในเขตคูเมือง จองผ่านbooking.com เราจอง Hostel by BED ตามรีวิวในเว็บและเห็นผ่านตาอยู่บ่อยๆ
วันแรกที่มาถึง เรานั่งเครื่องมาถึงประมาณ 5 โมงเย็น ใส่เสื้อกันหนาวมาเต็มที่ประหนึ่งคิดว่าตัวเองเที่ยวอยู่เกาหลีจ้า และด้วยความโง่ลืมเช็คสภาพอากาศ ปรากฏว่าพอลงเครื่องมาเท่านั้นแหละ ฉึ่งงง! เชียงใหม่ร้อนมากจ้า ตอนเรียนอยู่ 6 ปีที่แล้วเดือนพฤศจิกาเชียงใหม่จะหนาวมาก แต่มาคราวนี้ผิดคาดไปเลยค่ะ (ร้องไห้) ตกใจรอบสอง เชียงใหม่มีรถเมย์ RCT ประจำทางละจ้า งง ไปเลยค่ะ บนรถมี WIFI ให้ใช้อีกต่างหาก ตอนที่เรียนอยู่ทำไมเจอแต่ลุงรถแดงอ่ะ TT อ่ะ เราก็เดินขึ้นรถเมย์ไป และดรอปตรงคูเมืองพร้อมจ่ายเงิน 20 บาท (ค่ารถถูกมาก)
บรรยากาศบนรถจ้า พร้อม WIFI ฟรีและแอร์เย็นฉ่ำ
ที่พักเรากับเพื่อนเองจ้า เราเลือกเป็นห้อง Mixed Dorm room ตามฉบับคนงบน้อย 555
ห้องสวยมาก น่าอยู่สุดๆ
หลังจากเช็คอินเราก็ไปหาอะไรกินแถวๆ ประตูช้างเผือกเหมาะกับคนชอบเผือกอย่างเราๆ (ใกล้ๆกับที่พักเราพอดี)
ขาหมูเจ้าดัง ตามรีวิวมาจ้า
ต่อด้วยเดินไปฟังดนตรีสด ที่ นอร์ทเกท บาร์ที่เรามักจะเห็นคนเข้าไปนั่งตลอดๆ มีแต่ฝรั่งทั้งนั้นเลย น่ากินฝุดๆ เรากับเพื่อนก็นั่งกินลมชมวิว มองผู้ชาย จิบเบียร์ แต่พอสักสี่ห้าทุ่มเรากับเพื่อนก็เริ่มเบื่อ เราก็เดินกลับที่พักเพราะเบื่อๆ ไม่มีอะไรทำแล้ว
เช้าวันต่อมา แพลนของเราคือ เราตกลงกับเพื่อนว่า ไหนๆ ถ้าจะทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวแล้ว ต้องเนียนด้วยการ เดินเที่ยว ! เดินๆๆๆ ไปดูนั่นดูนี่ เข้าไปตามซอกซอยที่เราไม่คิดว่าเราจะเดินเข้าไป เดินแบบโนแพลนมาก 5555 (อิเพื่อนก็บ่นว่าเจ็บขา)
แต่..อากาศที่เชียงใหม่ ก็ไม่ได้หนาวเหมือนที่เราคาดหวังไว้ ช่วงนั้นคือ แดดแรงมากกก เสื้อไหมพรม ควรเก็บไว้ใส่บนดอยดีกว่าจ้ะ
ขณะที่เราไปเดินตามที่ต่างๆ ด้วยความเหนื่อยล้า สายตาเราก็ไปสะดุดกับเจ้าสกุ๊ตเตอร์ไฟฟ้าสีส้มๆทองๆ อันนี้น่าจะเป็นอะไรที่เพิ่งมาในเชียงใหม่แหละ นอกจากสกูตเตอณืก็มีรถจักรยานสีส้มจอดเต็มไปหมด ทุกมุมเมืองเชียงใหม่ แต่ด้วยความขี้เกียจและไม่ชอบการออกกำลังกายของชะนีสองตัวแบบเราๆ เลยลองเลือกขี่สกูตเตอร์สีทองดูตอนแรกก็แอบกลัวๆ และใช้ไม่เป็นเพราะบีบคันเร่งแล้วไม่เคลื่อนเลย จนมีคนแถวนั้นเดินผ่านละบอกว่า “น้องต้องสไลด์สกูตเตอร์ไปข้างหน้าครับแล้วค่อยกดคันเร่ง” ทีนี้ถึงบางอ้อและลองทำดู สกูตเตอร์ก็เคลื่อนไปเลยค่ะ มันดูเจ๋งดีอ่ะ ชอบบบบบบ
สุก๊ตเตอร์นี้น่าจะชื่อว่า Neuron น่าลองเล่นมาก (แต่แอบกลัวตกอยู่นะ 555)
เราพยายามหาวิธีเล่น สกุ๊ตเตอร์Neuronนี้ ดูแล้ว คล้ายๆ จะ Mobike ต้องโหลดแอพ ก่อน
เล่นได้แล้วจ้า !
เราลองเข้าไปอ่านรายละเอียดในแอพดู มีซื้อเป็น pass 199 ต่อวัน ไม่งั้นก็มีจ่ายเป็นต่อนาทีด้วย เราลองเล่นฟรีดูก่อน (เค้ามีให้ลองเล่นฟรีด้วยอะ 50บาท แต่ต้องInvite friend แล้วเอาโค้ดใส่) อันนี้มันจะหักเงินต่อเลยในระบบถ้าเราจะเล่น (แอบรู้สึกว่ายุ่งยากหน่อยๆ แต่ก็อยากลอง เพราะมันมีฟรี 555)
วันที่สอง ขี่วนเที่ยวคูเมืองไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก (จริงๆคือ แต่ละครั้งเล่นได้ไม่เกินสามสิบนาทีด้วย เราก็เทียวเล่นเทียวหยุดไป)
ได้รูปสวยๆก็หลายรูปอยู่
เงินที่เตรียมมาสำหรับรถแดงนั้นสรุปคือเก็บเข้ากระเป๋าเหมือนเดิมเลยจ้า ไม่ได้ใช้เลย เพราะเสพติดการขี่สกูตเตอร์มาก 555
สรุป วันนี้เราก็ได้เที่ยวในคูเมืองจนเบื่อ พอกลางคืนก็แอบแว้บไปตรงตลาดเพลินฤดี(แถวไนท์บาร์ซ่าร์) ที่เรามักจะชอบไปนั่งเล่นอยู่ตลอด
นั่งจิบแซงเกรีย ฟังไลฟ์มิวสิคเพลินๆ ถึงเวลาก็ขี่สกุ้ตเตอร์กลับที่พักไปนอน
ตื่นเช้ามาก็เตรียมเก็บของ กลับบ้านกลับช่อง!
สรุปแล้ว ทริปนี้เป็นทริปที่ง่ายๆ แค่เที่ยวรอบคูเมือง เปลี่ยนบรรยากาศหลังจากที่เราไม่ได้พักมานานตั้งแต่เรียนจบพอได้กลับมาที่เชียงใหม่ก็รู้สึกคิดถึงบรรยากาศ และเหมือนได้กลับบ้านหลังที่สอง(เว่อร์ไหม) เดี๋ยวเอาไว้ครั้งหน้าจะกลับมาเยี่ยมอีกเน้อ เชียงใหม่ สรุปที่เที่ยวมาทั้งหมดสะดุดตาตรงเจ้าสกูตเตอร์คันสีทองนี่หละ สนุกดีอยากหิ้วกลับบ้าน แต่เดี๋ยวเค้าไปตามเอา 55
[CR] เชียงใหม่ที่เปลี่ยนไป กับใจคนที่เหมือนเดิม
อันนี้ เป็นรูปตอนไปเที่ยวแถวตลาดเมืองใหม่ เป็นไฮไลท์สำคัญเพราะมีขบวนแห่กระทง สวยเวอร์ๆ
คนเยอะมากๆๆๆ
เราเลือกช่วงนี้เพราะใกล้เข้าหน้าหนาวและคิดถึงบรรยากาศกลิ่นต้นตีนเป็ดในช่วงนั้นหละค่ะ 5555 (คนบ้าป่าววะชอบกลิ่นต้นตีนเป็ด)
ในเรื่องของการเดินทางมาเชียงใหม่นั้น เราจะไม่พูดถึงละกันนะ เพราะสะดวกสบายเหมือนเดิมจ้า (มีหลายทางให้มา รถไฟ รถทัวร์ เครื่องบิน เรือดำน้ำ ได้หมด แล้วแต่สะดวกเลยค่า) เชียงใหม่ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง แต่เตรียมเงินแบงค์ย่อยมาสำหรับจ่ายตอนขึ้นรถแดงค่ะ คราวนี้ฝึกพูดภาษาเหนือมาเต็มที่เพราะจะได้นั่งรถแดงแบบราคาคนเมืองๆค่า ^^ สำหรับที่พักมีให้เลือกเยอะมาก แต่เราจองโฮสเทลอยู่กะเพื่อน โดยเลือกที่พักในเขตคูเมือง จองผ่านbooking.com เราจอง Hostel by BED ตามรีวิวในเว็บและเห็นผ่านตาอยู่บ่อยๆ
วันแรกที่มาถึง เรานั่งเครื่องมาถึงประมาณ 5 โมงเย็น ใส่เสื้อกันหนาวมาเต็มที่ประหนึ่งคิดว่าตัวเองเที่ยวอยู่เกาหลีจ้า และด้วยความโง่ลืมเช็คสภาพอากาศ ปรากฏว่าพอลงเครื่องมาเท่านั้นแหละ ฉึ่งงง! เชียงใหม่ร้อนมากจ้า ตอนเรียนอยู่ 6 ปีที่แล้วเดือนพฤศจิกาเชียงใหม่จะหนาวมาก แต่มาคราวนี้ผิดคาดไปเลยค่ะ (ร้องไห้) ตกใจรอบสอง เชียงใหม่มีรถเมย์ RCT ประจำทางละจ้า งง ไปเลยค่ะ บนรถมี WIFI ให้ใช้อีกต่างหาก ตอนที่เรียนอยู่ทำไมเจอแต่ลุงรถแดงอ่ะ TT อ่ะ เราก็เดินขึ้นรถเมย์ไป และดรอปตรงคูเมืองพร้อมจ่ายเงิน 20 บาท (ค่ารถถูกมาก)
บรรยากาศบนรถจ้า พร้อม WIFI ฟรีและแอร์เย็นฉ่ำ
ที่พักเรากับเพื่อนเองจ้า เราเลือกเป็นห้อง Mixed Dorm room ตามฉบับคนงบน้อย 555
ห้องสวยมาก น่าอยู่สุดๆ
หลังจากเช็คอินเราก็ไปหาอะไรกินแถวๆ ประตูช้างเผือกเหมาะกับคนชอบเผือกอย่างเราๆ (ใกล้ๆกับที่พักเราพอดี)
ต่อด้วยเดินไปฟังดนตรีสด ที่ นอร์ทเกท บาร์ที่เรามักจะเห็นคนเข้าไปนั่งตลอดๆ มีแต่ฝรั่งทั้งนั้นเลย น่ากินฝุดๆ เรากับเพื่อนก็นั่งกินลมชมวิว มองผู้ชาย จิบเบียร์ แต่พอสักสี่ห้าทุ่มเรากับเพื่อนก็เริ่มเบื่อ เราก็เดินกลับที่พักเพราะเบื่อๆ ไม่มีอะไรทำแล้ว
เช้าวันต่อมา แพลนของเราคือ เราตกลงกับเพื่อนว่า ไหนๆ ถ้าจะทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวแล้ว ต้องเนียนด้วยการ เดินเที่ยว ! เดินๆๆๆ ไปดูนั่นดูนี่ เข้าไปตามซอกซอยที่เราไม่คิดว่าเราจะเดินเข้าไป เดินแบบโนแพลนมาก 5555 (อิเพื่อนก็บ่นว่าเจ็บขา)
แต่..อากาศที่เชียงใหม่ ก็ไม่ได้หนาวเหมือนที่เราคาดหวังไว้ ช่วงนั้นคือ แดดแรงมากกก เสื้อไหมพรม ควรเก็บไว้ใส่บนดอยดีกว่าจ้ะ
ขณะที่เราไปเดินตามที่ต่างๆ ด้วยความเหนื่อยล้า สายตาเราก็ไปสะดุดกับเจ้าสกุ๊ตเตอร์ไฟฟ้าสีส้มๆทองๆ อันนี้น่าจะเป็นอะไรที่เพิ่งมาในเชียงใหม่แหละ นอกจากสกูตเตอณืก็มีรถจักรยานสีส้มจอดเต็มไปหมด ทุกมุมเมืองเชียงใหม่ แต่ด้วยความขี้เกียจและไม่ชอบการออกกำลังกายของชะนีสองตัวแบบเราๆ เลยลองเลือกขี่สกูตเตอร์สีทองดูตอนแรกก็แอบกลัวๆ และใช้ไม่เป็นเพราะบีบคันเร่งแล้วไม่เคลื่อนเลย จนมีคนแถวนั้นเดินผ่านละบอกว่า “น้องต้องสไลด์สกูตเตอร์ไปข้างหน้าครับแล้วค่อยกดคันเร่ง” ทีนี้ถึงบางอ้อและลองทำดู สกูตเตอร์ก็เคลื่อนไปเลยค่ะ มันดูเจ๋งดีอ่ะ ชอบบบบบบ
สุก๊ตเตอร์นี้น่าจะชื่อว่า Neuron น่าลองเล่นมาก (แต่แอบกลัวตกอยู่นะ 555)
เราพยายามหาวิธีเล่น สกุ๊ตเตอร์Neuronนี้ ดูแล้ว คล้ายๆ จะ Mobike ต้องโหลดแอพ ก่อน
เล่นได้แล้วจ้า !
เราลองเข้าไปอ่านรายละเอียดในแอพดู มีซื้อเป็น pass 199 ต่อวัน ไม่งั้นก็มีจ่ายเป็นต่อนาทีด้วย เราลองเล่นฟรีดูก่อน (เค้ามีให้ลองเล่นฟรีด้วยอะ 50บาท แต่ต้องInvite friend แล้วเอาโค้ดใส่) อันนี้มันจะหักเงินต่อเลยในระบบถ้าเราจะเล่น (แอบรู้สึกว่ายุ่งยากหน่อยๆ แต่ก็อยากลอง เพราะมันมีฟรี 555)
วันที่สอง ขี่วนเที่ยวคูเมืองไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก (จริงๆคือ แต่ละครั้งเล่นได้ไม่เกินสามสิบนาทีด้วย เราก็เทียวเล่นเทียวหยุดไป)
ได้รูปสวยๆก็หลายรูปอยู่
เงินที่เตรียมมาสำหรับรถแดงนั้นสรุปคือเก็บเข้ากระเป๋าเหมือนเดิมเลยจ้า ไม่ได้ใช้เลย เพราะเสพติดการขี่สกูตเตอร์มาก 555
สรุป วันนี้เราก็ได้เที่ยวในคูเมืองจนเบื่อ พอกลางคืนก็แอบแว้บไปตรงตลาดเพลินฤดี(แถวไนท์บาร์ซ่าร์) ที่เรามักจะชอบไปนั่งเล่นอยู่ตลอด
นั่งจิบแซงเกรีย ฟังไลฟ์มิวสิคเพลินๆ ถึงเวลาก็ขี่สกุ้ตเตอร์กลับที่พักไปนอน
ตื่นเช้ามาก็เตรียมเก็บของ กลับบ้านกลับช่อง!
สรุปแล้ว ทริปนี้เป็นทริปที่ง่ายๆ แค่เที่ยวรอบคูเมือง เปลี่ยนบรรยากาศหลังจากที่เราไม่ได้พักมานานตั้งแต่เรียนจบพอได้กลับมาที่เชียงใหม่ก็รู้สึกคิดถึงบรรยากาศ และเหมือนได้กลับบ้านหลังที่สอง(เว่อร์ไหม) เดี๋ยวเอาไว้ครั้งหน้าจะกลับมาเยี่ยมอีกเน้อ เชียงใหม่ สรุปที่เที่ยวมาทั้งหมดสะดุดตาตรงเจ้าสกูตเตอร์คันสีทองนี่หละ สนุกดีอยากหิ้วกลับบ้าน แต่เดี๋ยวเค้าไปตามเอา 55
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้