💫🕛💫 "หลงกาล" Episode-56 : ภาคอวสาน ตอนที่ 13 💫🕛💫

กระทู้คำถาม


ในห้วงแห่งสภาวะหลับลึก...

กระแสจิตของสาวน้อยแอนนา รับรู้ซึ่งสถานการณ์คับขันของแอนดี้ สถาพร และรัชนี และภายใต้สภาวะ "กำลังชาร์จแบต" ของเธอ ซึ่งยังฟื้นฟูพลังได้ไม่ถึงครึ่งในขณะนี้ การที่สาวน้อยพลังจิตจะไปช่วยพวกเขาด้วยตนเอง จึงเป็นไปไม่ได้ !!

แต่อย่างไรก็ตาม เธอสามารถส่งกระแสจิตติดต่อกับผู้อื่นได้ แม้จะอยู่ห่างไกล...แต่ถ้าไม่ไกลมากเกินไปกว่าชั้นบรรยากาศซึ่งห่อหุ้มโลกใบนี้ หากมี "ผู้รับสัญญาณ" จากเธอได้ การติดต่อสื่อสารทางโทรจิตก็ย่อมสัมฤทธิ์ผล!

เหนือชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ขึ้นไปเล็กน้อย ยานบินสามลำของชาวเนโอโซรอสลอยลำสังเกตการณ์อยู่ พวกเขาถูกส่งมาเพื่อสแตนด์บาย พร้อมให้ความช่วยเหลือเอ็มม่า และแอนนา ทันทีที่ได้รับการร้องขอจากหนึ่งในสองแม่ลูกคู่นี้

การติดต่อกันทางคลื่นวิทยุ ย่อมต้องกินเวลา แต่ไม่เลย สำหรับการสื่อสารทางโทรจิต! เพราะใจไปไวกว่าแสง !!

ผู้บังคับการในยานทั้งสามลำ รับรู้กระแสจิตของสาวน้อยมหัศจรรย์ทันทีที่เธอส่ง!

"สวัสดีค่ะ หนูคือ แอนนา ลูกสาวของคุณแม่เอ็มม่า ผู้บัญชาการฝูงยานบินอวกาศหน่วยที่ 5133 ซึ่งกำลังปฏิบัติภารกิจบนดาวโลก หนูขอความช่วยเหลือด่วนค่ะ แอนดี้และเพื่อนชาวโลกอีกสองคนกำลังมีอันตรายจากกองทัพหุ่นยนต์จำนวนมาก"

"สวัสดี หนูแอนนา" หนึ่งในสามผู้บังคับการบินตอบเธอทางโทรจิตเช่นกัน "ยินดีที่ได้ติดต่อกับหนูนะจ๊ะ แต่ว่า หนูกับคุณแม่ ไม่เป็นไร ปลอดภัยดีใช่ไหม ?"

"ปลอดภัยดีค่ะ"

"ถ้าเช่นนั้น พวกเราก็ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเข้าไปช่วย สามคนนั่นไม่เกี่ยวข้องกับเรา ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเราและเราจะช่วยทันที คือหนูและคุณแม่ของหนูซึ่งเป็นชาวเนโอโซรอสเท่านั้น"

"แอนดี้เกี่ยวค่ะ!!" สาวน้อยแย้งทันที

"เกี่ยวอย่างไรหรือ ? เขาเป็นเพียงหุ่นยนต์ ไม่ใช่มนุษย์เสียด้วยซ้ำ!"

"แสดงว่าพวกท่านเป็นคนละทีมกับที่เคยมาช่วยพวกเรา ท่านจึงกล่าวเช่นนี้"

"ก็...จริงอย่างที่หนูว่ามาจ้ะ ถ้าอย่างนั้นช่วยบอกให้เราได้รู้และเข้าใจหน่อยว่าแอนดี้เกี่ยวข้องกับพวกเราอย่างไร ทำไมเราจึงต้องช่วย"

"ในตัวของแอนดี้ สำคัญที่สุดคือส่วนสมอง ถูกยกระดับขึ้นแล้วด้วยเทคโนโลยีของพวกเราค่ะ จะปล่อยให้แอนดี้ถูกจับไปไม่ได้เป็นอันขาด มิฉะนั้นแล้ววิทยาการของพวกเราจะถูกขโมย! ถูกลอกเลียนและนำไปใช้ในทางที่ผิดโดยพวกคนเผด็จการแน่นอนค่ะ !!"

การสื่อสารหยุดชะงักไปครู่หนึ่งเพราะสามผู้บัญชาการยานบินปรึกษาหารือกันอย่างเร่งด่วน ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น หนึ่งในสามนั้นก็ให้คำตอบ

"ตกลงจ้ะหนูแอนนา พวกเราจะไปช่วยพวกเขาเดี๋ยวนี้ ช่วยบอกเราให้ชัดเจนด้วยว่า ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน"

"ตามกระแสจิตหนูมาค่ะ!"

แล้วมโนภาพของสาวน้อยก็ปรากฏภาพของแอนดี้ สถาพร และรัชนีซึ่งกำลังคับขันแทบจะถึงขีดสุด เพราะเวลาสำหรับกำแพงบาเรียซึ่งเป็นเกราะคุ้มครองป้องกันการทำลายล้างจากแสงเลเซอร์ของเหล่าหุ่นยนต์เอไอจำนวนมหาศาล กำลังจะหมดลงแล้วอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า!!

ยานบินหนึ่งในสามลำ หักเหทิศทางลดระดับต่ำลงสู่ชั้นบรรยากาศเบื้องล่างและวูบลงไปลอยอยู่เหนือถ้ำบริเวณเหนือศีรษะของแอนดี้ สถาพรและรัชนีอย่างพอดิบพอดี ราวกับดวงตะวันลอยมาอยู่ตรงศีรษะในยามเที่ยง!!

**********************************************************


"แอนดี้โว้ยย !!!" สถาพรร้องลั่น ตอนนี้เขาทั้งเหน็ดเหนื่อย และหนักกับการแบกหามแคปซูลบรรจุร่างบิดาบุญธรรม ซึ่งแม้ว่าจะมีทั้งแอนดี้และรัชนีช่วยกันประคับประคองในขณะพยายามเคลื่อนไปข้างหน้าก็ยังหนักหนาสาหัสอยู่ดี เพราะกองทัพหุ่นยนต์เอไอจำนวนนับไม่ถ้วนล้อมไว้ทั่ว  "ฉันจะไม่ไหวแล้วโว้ยย !! นายเหลือเวลาสำหรับเกราะบาเรียอีกเท่าไร ?"

"นาทีครึ่งครับผม!" เป็นคำตอบที่แทบทำให้ทั้งสองพี่น้องขาอ่อนหมดเรี่ยวแรง

"เราต้องอดทนฝ่าพวกมันไปข้างหน้าช้าๆ แบบนี้ ไม่น่าทันนะแอนดี้ !!" รัชนีร้องโอดครวญมาอีกคน "เธอยิงพวกมันบ้างไม่ดีเหรอ ?"

"ยิงไม่ได้!!" ทั้งแอนดี้และสถาพรตอบพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย

"ทำไมอะ ??"

"ขืนยิง ก็ต้องเปิดช่องม่านบาเรีย พวกเราก็จะโดนเลเซอร์ของพวกมันแน่นอน พวกมันยิงต่อเนื่องไม่ยอมหยุดเลยแบบนี้ ไม่รอดแน่!"

"ขยับไปข้างหน้าได้ช้าเหลือเกิน...ไอ้ท่อที่ส่งพวกเราลงมาถึงข้างล่างนี้อีกตั้งไกลกว่าจะไปถึง" สถาพรบ่นอย่างท้อแท้

"เดี๋ยวครับ !! หยุดเดินกันก่อน.." แอนดี้เอ่ยขึ้นกระทันหัน

"มีอะไรหรือแอนดี้ ?" รัชนีถาม และตั้งความหวังว่าแอนดรอยด์อัจฉริยะอาจหาทางรอดพบ!

แล้วสองพี่น้องก็ใจเต้นระทึกเมื่อได้ยินคำตอบ

"ผมได้รับการติดต่อครับ!"

"จากใคร ???" ทั้งสองถามพร้อมกัน

"แป๊บนึงครับ..." แอนดี้กล่าวเบรคทั้งคู่ไว้ และรับการติดต่อสื่อสารจากคลื่นวิทยุในย่านความถี่ซึ่งอยู่นอกเหนือย่านปกติที่เทคโนโลยีของชาวโลกจะรับได้!

เป็นการติดต่อจากผู้บังคับการยานจากดาวเนโอโซรอสลำนั้นเอง!

และเพราะเหตุที่ในตัวของแอนดี้ติดตั้งเทคโนโลยีของเนโอโซรอสแล้วในตอนที่อัพเกรด เขาจึงเข้าใจภาษาของดาวดวงนั้นอีกหนึ่งภาษา !!

"แอนดี้ ฟังให้ดี! เรามาช่วยเจ้ากับเพื่อนๆ อยู่รวมกลุ่มกันนิ่งๆอย่าเคลื่อนไหว บอกเพื่อนสองคนของเจ้าด้วย!!"

"รับทราบครับผม" เขาตอบกลับด้วยภาษาเนโอโซรอสเช่นกัน แล้วรีบบอกสองพี่น้อง "คุณสถาพร คุณรัชนี มีผู้มาช่วยเราแล้วครับ"

"ใครวะ ? วันชนะเหรอ ?" ด็อกเตอร์หนุ่มถามด้วยความฉงน

"ไม่ใช่ครับ เดี๋ยวรู้ครับผม ตอนนี้เขาสั่งให้เราสามคนเกาะกลุ่มกันนิ่งๆ ไม่ต้องเคลื่อนไหวครับ อยู่นิ่งๆครับขอย้ำ!!"

"โอเคๆ" สองพี่น้องระล่ำระลักตอบ แล้วหยุดยืนนิ่งเหมือนหุ่นปั้น ปล่อยให้เหล่าหุ่นยนต์เอไอระดมยิงเข้าใส่ราวกับไฟพะเนียง!

"อย่าตื่นตกใจนะครับ หลับตาครับ แล้วลืมตาอีกครั้ง เมื่อผมบอก" แอนดี้แนะนำสองพี่น้องอีกครั้ง และทั้งสองก็ทำตามอย่างว่าง่าย แต่ในใจนั้นเต้นโครมครามด้วยความหวาดเสียว ด้วยรู้สึกว่าชีวิตนั้นใกล้ความตายเสียเหลือเกิน!

บัดดลนั้น! ลำแสงสีส้มลำใหญ่ลำหนึ่งส่องทะลุผ่านเพดานแห่งฐานปฏิบัติการลับอันตั้งอยู่ภายใต้ถ้ำ ลงมาจับร่างของทั้งสามคนซึ่งยืนนิ่งและหามแคปซูลบรรจุร่างพลเอกอนันต์อยู่ ภายในแสงสีส้มนั้นมองเห็นทุกร่างเหมือนย่อยละเอียดจนถึงอนุภาคเล็กสุดซึ่งเป็นไปอย่างรวดเร็วเพียงเสี้ยววินาที จากนั้นทุกอณูของสามร่างกับอีกหนึ่งศพพร้อมกับแคปซูลแก้วก็ถูกดึงวูบขึ้นไปเบื้องบนแล้วหายวับไปพร้อมกับลำแสงสีส้มนั้น ต่อหน้าต่อตาหุ่นยนต์เอไอทั้งกองทัพ!!

ทุกอณูของทั้งหมดประกอบรวมเป็นตัวเป็นตนปรากฏขึ้นอีกครั้ง บนยานบินจากดาวเนโอโซรอสลำนั้น!!

"ลืมตาขึ้นได้แล้วครับ คุณสถาพร คุณรัชนี" แอนดี้บอกกับสองพี่น้อง "พวกเรา รอดกันแล้วครับผม วางแคปซูลลงเถอะครับ"

สถาพรและรัชนีค่อยๆ ลืมตาขึ้น แล้วก็ต้องเบิกกว้าง มองไปรอบๆ อย่างตื่นตะลึง! ขณะที่ค่อยๆวางแคปซูลแก้วลงบนพื้นยาน

ในสายตาของทั้งคู่ เหมือนอยู่ในห้องขนาดใหญ่ซึ่งหามุมไหนของห้องก็ไม่พบ รอบตัวเป็นแสงสว่างสีขาวนวล ห่างออกไปราวๆสามสี่วา มีร่างของสิ่งมีชีวิต 5 ร่าง ซึ่งทั้งสองรู้จักดีในชื่อว่า "เอเลี่ยน" ผิวสีเทาอ่อน ศรีษะโล้น กลม โต ดวงตารูปไข่สีดำขลับไม่มีตาขาว ไม่มีคิ้ว รูจมูกสองรูเล็ก ริมฝีปากเล็กและบาง แขนขาเล็กเรียว อยู่ในชุดรัดรูปสีเงินวาววับไร้ตะเข็บหรือรอยเย็บใดๆ ส่วนสูงประมาณ 120-140 เซ็นติเมตร  

ร่างทั้ง 5 ยิ้มให้กับชาวโลกพลางยกมือขวาตั้งเป็นมุมฉาก และหงายฝ่ามือออกเหมือนทักทายว่า "ยินดีต้อนรับ!"

"เอเลี่ยน!" รัชนีอุทานแล้วยกสองมือปิดปาก "เรา...กำลังอยู่บนยาน ยูเอฟโอ !!"

"สำหรับชาวโลกคนอื่นๆ ก็จะเข้าใจแบบนี้ครับ คุณรัชนี" แอนดี้กล่าวยิ้มๆ

"พวกนี้ ก็คือ เพื่อนๆของคุณเอ็มม่าสินะ" สถาพรลองเดา

"ใช่ครับผม" แอนดี้พยักหน้า

"พวกเขารู้ได้ยังไงว่าเรากำลังเดือดร้อนอยู่ตรงนั้น ?" รัชนีถามบ้าง

"คุณหนูแอนนา ส่งโทรจิตถึงพวกเขาครับ"

"อเมซซิ่ง! เธอกลับไปแล้วก่อนหน้าที่เราจะเข้าไปในฐานทัพ แล้วเธอรู้ความเป็นไปของพวกเราได้ยังไง ?" แพทย์หญิงและศ.จ.สาวทำหน้างงๆ

"เธอส่งกระแสจิตในขณะที่ร่างกายกำลังหลับครับ"

"แล้วเธอรู้ได้ยังไงล่ะแอนดี้ ?"

"รู้จากเพื่อนๆของนายหญิงครับผม พวกเขาได้รับการติดต่อจากคุณหนู ก็เลยมาช่วยพวกเรา"

"เธอรู้ภาษาของพวกเขาด้วยหรือ ?"

"รู้ครับ ภาษาของพวกเขาถูกเพิ่มเข้ามาในสมองของผมตอนที่พวกเขาอัพเกรดให้น่ะครับ"

"โหยยย...." สถาพรเป่าลมออกจากปากพรืด "นายสุดยอดมาก แอนดี้"

"คนที่สุดยอด คือคุณหนูต่างหากครับ ไม่ใช่ผม" แอนดี้ส่ายหน้าพร้อมกับยิ้ม "ถ้าคุณหนูไม่โทรจิตถึงพวกเขา เราสามคนคงเสร็จพวกหุ่นยนต์เหล่านั้นแน่ๆ พวกมันมีมากเกินไป ผมคนเดียวต้านไม่ไหวหรอกครับ"

"บอกพวกเขาด้วยแอนดี้ ว่าพวกเรา ขอบคุณมาก ที่พวกเขามาช่วย" สถาพรบอกกับแอนดี้พลางพยักเพยิดไปยังชาวเนโอโซรอสทั้ง 5 ซึ่งยืนนิ่งอยู่

แอนดี้หันไปส่งภาษากับเขาเหล่านั้น และทุกคนพยักหน้า พูดจากับแอนดี้อยู่ครู่หนึ่งก็นิ่งเงียบไป ปล่อยให้แอนดี้คุยกับสองพี่น้องต่อ

"ตอนนี้ เราออกมาอยู่ข้างนอกถ้ำกันแล้วนะครับ พวกเขาอยากทราบว่า คุณสองคนอยากจะลงที่ตรงไหนครับ"

"ไม่น่าถามเลยว่ะ! แอนดี้, ก็ไปตรงจุดที่ยาน THE FUGITIVE ของเจ้านายของนายจอดอยู่สิเว้ยเฮ้ย! จอดตากลมตากฝนนานจนขึ้นสนิมไปแล้วมั้งป่านนี้!"

"ยังงั้นก็หาไม่ยากครับผม เพราะยานของเจ้านายก็ได้รับการอัพเกรดจากพวกเขาเหมือนกัน" แอนดี้กล่าวแล้วแยกเขี้ยวยิ้มกว้าง จากนั้นจึงหันไปบอกกับชาวเนโอโซรอสทั้งห้า

ยานบินลำนั้น ลอยไปหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศบริเวณหน้าปากถ้ำซึ่งเป็นที่นัดหมายกันระหว่างกัปตันวันชนะกับคณะและแอนดี้กับสองพี่น้องในตอนแรก แล้วส่งทั้งสามคนพร้อมด้วยแคปซูลบรรจุร่างพลเอกอนันต์ลงสู่พื้นด้วยลำแสงต้านแรงโน้มถ่วงของโลกอย่างช้าๆ จากใต้ยานลงมา

ครั้นลงถึงพื้นดิน แอนดี้ก็ได้ยินเสียงติดต่อจากผู้บังคับการของยานลำนั้น

"แอนดี้ พวกเราจะไปละนะ ครั้งหน้า ระมัดระวังตัวให้มากขึ้นหน่อย อย่าให้ตัวเองต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบจนหาทางออกไม่เจอแบบนี้อีก เจ้าอาจจะไม่โชคดีได้ทุกครั้งหรอกนะ"

"รับทราบ และขอบคุณครับผม" แอนดี้แหงนหน้าขึ้นไปมองและตอบ

"โชคดีนะแอนดี้ โชคดีทุกๆคน แล้วพบกันใหม่"

แล้วยานลำนั้นก็ลอยตัวขึ้นไปสูงลิ่ว และหายขึ้นไปในกลีบเมฆอย่างรวดเร็วเพียงไม่ถึงวินาที

สถาพรและรัชนีแหงนมองยานลำนั้นจนลับสายตา

"ยานนั่น ใหญ่กว่ายานของเจ้านายของนายตั้งสองสามเท่าเลยนะ แอนดี้"

"ครับผม คุณสถาพร"

"แล้วไหนล่ะ THE FUGITIVE ?" ด็อกเตอร์หนุ่มถามพลางมองหา

"นั่นสิจ๊ะแอนดี้ จอดอยู่ตรงไหน ทำไมไม่เห็นมีเลย ?" รัชนีถามต่อ

"อยู่ข้างหน้าพวกเรานี่แหละครับ" แอนดี้ตอบแล้วยิ้มโชว์ฟันขาวอีกครั้ง จากนั้นจึงปล่อยรังสีอินฟาเรดจากกลางหน้าผากไปยังพื้นที่ว่างและโล่งเตียนข้างหน้า

บี๊บบบ........

เสียงสัญญาณตอบรับดังขึ้น แล้วอากาศธาตุข้างหน้าทั้งสามก็ค่อยๆ ก่อตัวเป็นรูปร่างของยานขึ้นมาจนสมบูรณ์!

ที่แท้ ยานทั้งลำ ยังคงจอดอยู่ที่เดิมหลังจากกัปตันวันชนะและคณะพากันลงมาแล้วเข้าไปในถ้ำ โดยเปิดระบบพรางตัวอยู่ตลอดเวลา จึงไม่มีใครพบเห็นมันหลังจากนั้น จนกระทั่งแอนดี้มา "ปลดล็อก" ในตอนนี้นี่เอง

"มันพรางตัวเองได้ด้วยหรือวะเนี่ย ?" สถาพรมองด้วยความทึ่ง

"เป็นระบบอัตโนมัติครับผม"  แอนดี้ไขข้อข้องใจ "หากภายในยานไม่มีใคร และยานถูกจอดทิ้งไว้นานเกินกว่าสามนาทีไปแล้ว ยานจะเปิดระบบอำพรางตัวทันทีครับ"

"แล้วมันอำพรางตัวเองได้นานเป็นวันๆเลยเหรอ ?" รัชนีถามขณะเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วเอามือลูบไล้ไปถามผิวของยานอันเงาวับ

"ยานรับพลังงานจากแสงอาทิตย์ครับ และมีแหล่งเก็บกักพลังงานไว้ใช้ในตอนกลางคืนด้วย ผ่านมาหลายวัน ถึงตอนนี้ รับรองว่าพลังงานมีใช้เต็มที่เลยละครับ ทั้งแหล่งพลังงานหลักและแหล่งพลังงานสำรอง"

"พวกทหารมันไม่ตรวจจับได้เลยหรือวะเนี่ย ? ยานลำใหญ่เกือบเท่าสนามฟุตบอลสนามหนึ่งเชียวนา" สถาพรยังข้องใจ

"ยากครับที่เทคโนโลยีของชาวโลกเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้จะตรวจจับได้ อย่าลืมสิครับ มันถูกอัพเกรดแล้วด้วยเทคโนโลยีต่างดาว เหมือนกับตัวผม"

(ต่อครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่