คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
มาให้กำลังใจนะคะ เราเคยป่วยหนัก เลิกทำงานแล้วมาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ทำสวนปลูกผัก ก็ถูกทุกคนรุม ทั้งญาติทั้งขาวบ้าน โลกมันก็เป็นอย่างนี้แหละ เงินก็มีพอใช้ ไม่ได้เดือดร้อนอะไร วิธีเลิกสนใจคนกลุ่มนั้นคือ หาอะไรดีดี ทำ เราแต่งหนังสือแจกเด็ก ทำยาคลายนวดแจก ทำสบู่แจก ปลูกสมุนไพรแจก แต่ไม่ให้คนที่ด่าเรานะคะ ทิ้งคนพวกนั้นไว้ตรงนั้นแหละ เราอยู่บ้านปลูกอัญขัน มีคนมาซื้อ วันละ 80บาท มีชาวบ้านมาถามใส่หน้านะคะ แล้วจะเอาอะไรมากิน ทำเอาเรางง คนที่ถามเราหนี้ท่วมหัว บางคนลูกสาวค้าประเวณี ชอบนินทาเราว่าไม่มีเสื้อผ้าจะใส่ ใส่แต่ตัวเก่า 555 เราทำสวนทั้งวัน จะให้แต่งเดรสเหรอ บ้าน่ะสิ เรื่องคนว่าให้นี่ มีเป็นพันเรื่อง ชีวิตไม่ได้มีเวลาให้โศกเศร้า หรือไปสนใจคนอื่น
ชาวบ้านบางคนมาบ้านเราเห็นเราวาดรูป ก็เสนอความคิดว่าไปรับจ้างสอนพิเศษจะได้มีเงิน ใช้ ทั้งที่ลูกตัวเองมีคดีค้ายาอยู่ในเรือนจำ คนอย่างงี้ก็มีด้วย เราหัวเราะอยู่ในใจ ดูแลลูกตัวเองก่อนดีมั้ย มีเด็ดกว่านั้นอีก ตาคือน้องของยายเรา ไปเอาไก่คนอื่นมาฟัก เราบอกเราไม่สบายต้องกินผักที่ปลูกเอง เราเลยซื้อไข่มาตุนให้ตา พอตาได้ไข่จากเรา ตาเลยฟักไข่ออกมาเป็นไก่ อ้าวหนักเลย มันมากินผักเราหมด คือมีบ้านสองหลัง แบ่งให้ตาอยู่หลัง
พอเราบอกว่าถ้าจะเลี้ยงไก่ เราจะจ้างคนมาทำเล้าไก่ มันจะได้ไม่ไปจิกผักเรา แกไม่ยอมแกจะเลี้ยงแบบนั้น แบ้วเอาไม้ตีเรา เราหลบ แกล้มโดนเศษแก้ว เลือดออก ไปฟ้องลุงกับป้า ฟ้องกำนัน555 ป้าแจ้งตำรวจจับเราข้อหาทำร้ายร่างกาย
มีอีก ญาติผู้ป่วยมะเร็งมาขอให่เราไป รพ.เป็นเพื่อนลูกเค้า เค้าปวดเราถามหมอว่า เกิดจากสาเหตุอะไร หมอไม่รู้ต้องตรวจ โดยการส่งตัวไปที่ศูนย์มะเร็ง ผู้ป่วยปฎิเสธการตรวจ ตอนนี้เค้าเสียชีวิตแล้ว ข่าวก็รำ่ลือไปทั่วว่าเค้ามากินยาของเราแล้วตาย คือเค้ามาขอผักเรากิน พวกบล็อคโคลี่ มะระ แล้วคนที่ปล่อยข่าวว่าลูกเค้าตายเพราะเราคือแม่ของผู้ป่วยนะคะ เราเลยบอกว่าถ้าเชื่อจริงว่าเราฆ่าช่วยไปแจ้งความดำเนินคดีกับเราได้มั้ย ไม่รู้จะเรียกไอ้เหตุการณ์พวกนี้ว่าอะไรดี มันไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย สุดท้ายเราก็เลยสรุปตามความเข้าใจของเราว่า สิ่งที่คนอื่นมองหรือคิด มันไม่ได้สะท้อนความจริงเกี่ยวกับตัวเรา เราก็ไม่อยากเกลียดชังคนเหล่านั้น เวลาเกลียดใจจะมัวหมอง แต่งหนังสือแจกเด๋กยากจนดีกว่า โตขึ้นจะได้ฉลาด จะได้ปฎิบัติต่อผู้อื่นในทางที่ดี ทุกช่วงเวลาของขีวิตมันมีสีสันเสมอน่ะแหละ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองและจัดการกับมันยังไง แล้วเรื่องของเราคงยังไม่จบ คงจะมาในรูปแบบอื่น มาเราก็แค่เห็นเป็นเรื่องตลกซะ เป็นกำลังใจให้จขกท นะคะ
ชาวบ้านบางคนมาบ้านเราเห็นเราวาดรูป ก็เสนอความคิดว่าไปรับจ้างสอนพิเศษจะได้มีเงิน ใช้ ทั้งที่ลูกตัวเองมีคดีค้ายาอยู่ในเรือนจำ คนอย่างงี้ก็มีด้วย เราหัวเราะอยู่ในใจ ดูแลลูกตัวเองก่อนดีมั้ย มีเด็ดกว่านั้นอีก ตาคือน้องของยายเรา ไปเอาไก่คนอื่นมาฟัก เราบอกเราไม่สบายต้องกินผักที่ปลูกเอง เราเลยซื้อไข่มาตุนให้ตา พอตาได้ไข่จากเรา ตาเลยฟักไข่ออกมาเป็นไก่ อ้าวหนักเลย มันมากินผักเราหมด คือมีบ้านสองหลัง แบ่งให้ตาอยู่หลัง
พอเราบอกว่าถ้าจะเลี้ยงไก่ เราจะจ้างคนมาทำเล้าไก่ มันจะได้ไม่ไปจิกผักเรา แกไม่ยอมแกจะเลี้ยงแบบนั้น แบ้วเอาไม้ตีเรา เราหลบ แกล้มโดนเศษแก้ว เลือดออก ไปฟ้องลุงกับป้า ฟ้องกำนัน555 ป้าแจ้งตำรวจจับเราข้อหาทำร้ายร่างกาย
มีอีก ญาติผู้ป่วยมะเร็งมาขอให่เราไป รพ.เป็นเพื่อนลูกเค้า เค้าปวดเราถามหมอว่า เกิดจากสาเหตุอะไร หมอไม่รู้ต้องตรวจ โดยการส่งตัวไปที่ศูนย์มะเร็ง ผู้ป่วยปฎิเสธการตรวจ ตอนนี้เค้าเสียชีวิตแล้ว ข่าวก็รำ่ลือไปทั่วว่าเค้ามากินยาของเราแล้วตาย คือเค้ามาขอผักเรากิน พวกบล็อคโคลี่ มะระ แล้วคนที่ปล่อยข่าวว่าลูกเค้าตายเพราะเราคือแม่ของผู้ป่วยนะคะ เราเลยบอกว่าถ้าเชื่อจริงว่าเราฆ่าช่วยไปแจ้งความดำเนินคดีกับเราได้มั้ย ไม่รู้จะเรียกไอ้เหตุการณ์พวกนี้ว่าอะไรดี มันไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย สุดท้ายเราก็เลยสรุปตามความเข้าใจของเราว่า สิ่งที่คนอื่นมองหรือคิด มันไม่ได้สะท้อนความจริงเกี่ยวกับตัวเรา เราก็ไม่อยากเกลียดชังคนเหล่านั้น เวลาเกลียดใจจะมัวหมอง แต่งหนังสือแจกเด๋กยากจนดีกว่า โตขึ้นจะได้ฉลาด จะได้ปฎิบัติต่อผู้อื่นในทางที่ดี ทุกช่วงเวลาของขีวิตมันมีสีสันเสมอน่ะแหละ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองและจัดการกับมันยังไง แล้วเรื่องของเราคงยังไม่จบ คงจะมาในรูปแบบอื่น มาเราก็แค่เห็นเป็นเรื่องตลกซะ เป็นกำลังใจให้จขกท นะคะ
แสดงความคิดเห็น
เวลาที่ชีวิตคุณล้มลงอย่างแรง จนลุกขึ้นแทบไม่ไหว แล้วยังมาโดนแร้งกาที่เราเรียกว่าญาติหรือคนสนิทรุมทึ้งเข้าไปอีก