สวัสดีปีใหม่เพื่อนๆ ทุกคนครับ งานยุ่งเลยอวยพรช้ากว่าใคร Better late than never!
ส่งความปรารถนาดีถึงสมาชิกในห้องราชฯ ทุกๆ คนนะครับ ส่วนผม...ได้รับของขวัญชิ้นใหญ่ก่อนใคร เฉพาะเดือนธันวาฯ เป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลองสำหรับผมทีเดียว วันเกิดตัวเอง วันครบรอบแต่งงาน วันคริสมาสต์ และวันส่งท้ายปีเก่า ปีนี้พิเศษหน่อยได้รับรางวัลชิ้นโต.... พึ่งเซ็นสัญญาทำงานให้บริษัทด้านระบบคอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์กแห่งหนึ่งที่มีสาขาทั่วโลก (ซึ่งมีลูกค้าอย่างองค์กรนาซ่าด้วย และธนาคารและเครือข่ายยักษ์ใหญ่ในสหรัฐ) ใจจริงก็ไม่อยากลาออกจากงานเดิมที่ทำเลยเพราะทำมา17 ปี แต่รายได้และโบนัสมันล่อใจเหลือเกิน ฮ่า ฮ่า.......หลังผ่านการสอบสัมภาษณ์และเทสต์ความรู้และประสบการณ์ ผมเรียกร้องเงินเดือนชนิดบ้าบิ่นพอสมควร(คือสูงกว่าที่ทำงานเดิมมาก) กะว่าถ้าเขารับอัตราเงินเดือนที่ผมเรียกร้องไปไม่ได้ก็จบกันตรงนั้น ผมเองก็ไม่มีอะไรจะเสียเพราะยังไม่ได้ลาออกงานที่ทำอยู่ตอนนั้น ปรากฏว่านอกจากเขาจะยอมรับอัตราเงินเดือนที่ผมเสนอเขายินดีที่จะเพิ่มขึ้นอีกด้วย พร้อมเสนอโบนัสให้ทุกสามเดือน ซึ่งผมไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิททุกวัน แต่ทำงานที่บ้าน (work at home) ได้ บางครั้งผมก็ต้องเดินทางไปต่างประเทศอย่างเมกา อินเดีย และแคนาดา ทางบริษัทจะจ่ายค่าที่พักและการเดินทางให้ อย่างนี้หวานหมูสิครับ....ผมตกลงรับข้อเสนอทันที ซึ่งนั่นก็เป็นของขวัญปีใหม่ที่หล่นทับเท้าจนบวมเป่ง จนวันนี้ต้องเดินเขยกอยู่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เล่าให้ฟังตรงนี้ หากจะมองว่าผมอวด ก็ยอมรับครับว่าต้องการอวดด้วยความภูมิใจ ซึ่งหากการอวดของผมตรงนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครสักคนที่ท้อแท้อยู่ผมก็จะดีใจเป็นอย่างมาก ผมหนีออกจากบ้านตั้งแต่เด็กเพราะน้อยใจพ่อที่ไม่ส่งผมเรียนต่อมัธยม เป็นเด็กจรจัดนอนที่สวนสาธารณะจนแม่หาตัวเจอแล้วจับบวชเณร การบวชตรงนั้นเปิด "ช่องทาง" ในการเรียนหนังสืออีกด้านหนึ่งคือการศึกษาแผนกปริยัติธรรม (คือเรียนเหมือนรร. มัธยมทั่วไปแต่ยกเว้นบางวิชาเช่น พละ ) แต่ก็ต้องจ่ายค่าเทอมอยู่ แม้จะไม่มากแต่มันก็มากโขสำหรับครอบครัวผม แม่สู้เร่งเก็บหอมรอบริบจากการเก็บผักบุ้งขายเป็นเงินก้อนหนึ่งกะจะให้ผมเรียนต่อในเทอมใหม่ที่จะถึงเร็วๆ แต่พ่อก็นำเงินจำนวนนั้นไปเล่นการพนันหมด เป็นการสูญเสียโอกาสอีกน้อยใจในโชคชะตาที่ไม่ได้เล่าเรียนกับเขา จึงอุ้มบาตรสะพ่ายย่ามหนีออกจากหมู่บ้านอีก ทุ่มเทให้กับการเรียนนักธรรมและบาลีฯ ซึ่งตรงนี้เรียนฟรี และสามารถปรับวิทยาฐานะเท่ากับการศึกษาแผนกสามัญได้ด้วย เช่น หากเรียนจบเปรียญธรรมประโยค๓ ก็เทียบเท่ามัธยม๓ หรือหากเรียนไปจนถึงเปรียญธรรมประโยค๙ ก็เท่ากับปริญญาตรี หลังจากจบเปรียญธรรมประโยค๓ ได้ภายในสองปี ผมก็นำวุฒิตรงนั้นไปลองสอบเทียบมัธยมปลายดู ลงครบทุกวิชา และผมก็สอบเทียบมัธยมปลายได้ในปีนั้น ช่วงนั้นของชีวิตหายใจเข้าออกเป็นการศึกษาไปหมด เพื่อเติมเต็มสิ่งเราด้อยและไม่มีโอกาสเหมือนคนทั่วๆ ไป
ขอประสบการณ์ชีวิตของผมที่เล่าให้ฟังตรงนี้เป็นคำอวยพรและแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ สมาชิกทุกๆ คนในวาระดิถีขึ้นปีใหม่นี้ครับ
....Belated Happy New Year !...../วชรน
ส่งความปรารถนาดีถึงสมาชิกในห้องราชฯ ทุกๆ คนนะครับ ส่วนผม...ได้รับของขวัญชิ้นใหญ่ก่อนใคร เฉพาะเดือนธันวาฯ เป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลองสำหรับผมทีเดียว วันเกิดตัวเอง วันครบรอบแต่งงาน วันคริสมาสต์ และวันส่งท้ายปีเก่า ปีนี้พิเศษหน่อยได้รับรางวัลชิ้นโต.... พึ่งเซ็นสัญญาทำงานให้บริษัทด้านระบบคอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์กแห่งหนึ่งที่มีสาขาทั่วโลก (ซึ่งมีลูกค้าอย่างองค์กรนาซ่าด้วย และธนาคารและเครือข่ายยักษ์ใหญ่ในสหรัฐ) ใจจริงก็ไม่อยากลาออกจากงานเดิมที่ทำเลยเพราะทำมา17 ปี แต่รายได้และโบนัสมันล่อใจเหลือเกิน ฮ่า ฮ่า.......หลังผ่านการสอบสัมภาษณ์และเทสต์ความรู้และประสบการณ์ ผมเรียกร้องเงินเดือนชนิดบ้าบิ่นพอสมควร(คือสูงกว่าที่ทำงานเดิมมาก) กะว่าถ้าเขารับอัตราเงินเดือนที่ผมเรียกร้องไปไม่ได้ก็จบกันตรงนั้น ผมเองก็ไม่มีอะไรจะเสียเพราะยังไม่ได้ลาออกงานที่ทำอยู่ตอนนั้น ปรากฏว่านอกจากเขาจะยอมรับอัตราเงินเดือนที่ผมเสนอเขายินดีที่จะเพิ่มขึ้นอีกด้วย พร้อมเสนอโบนัสให้ทุกสามเดือน ซึ่งผมไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิททุกวัน แต่ทำงานที่บ้าน (work at home) ได้ บางครั้งผมก็ต้องเดินทางไปต่างประเทศอย่างเมกา อินเดีย และแคนาดา ทางบริษัทจะจ่ายค่าที่พักและการเดินทางให้ อย่างนี้หวานหมูสิครับ....ผมตกลงรับข้อเสนอทันที ซึ่งนั่นก็เป็นของขวัญปีใหม่ที่หล่นทับเท้าจนบวมเป่ง จนวันนี้ต้องเดินเขยกอยู่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เล่าให้ฟังตรงนี้ หากจะมองว่าผมอวด ก็ยอมรับครับว่าต้องการอวดด้วยความภูมิใจ ซึ่งหากการอวดของผมตรงนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครสักคนที่ท้อแท้อยู่ผมก็จะดีใจเป็นอย่างมาก ผมหนีออกจากบ้านตั้งแต่เด็กเพราะน้อยใจพ่อที่ไม่ส่งผมเรียนต่อมัธยม เป็นเด็กจรจัดนอนที่สวนสาธารณะจนแม่หาตัวเจอแล้วจับบวชเณร การบวชตรงนั้นเปิด "ช่องทาง" ในการเรียนหนังสืออีกด้านหนึ่งคือการศึกษาแผนกปริยัติธรรม (คือเรียนเหมือนรร. มัธยมทั่วไปแต่ยกเว้นบางวิชาเช่น พละ ) แต่ก็ต้องจ่ายค่าเทอมอยู่ แม้จะไม่มากแต่มันก็มากโขสำหรับครอบครัวผม แม่สู้เร่งเก็บหอมรอบริบจากการเก็บผักบุ้งขายเป็นเงินก้อนหนึ่งกะจะให้ผมเรียนต่อในเทอมใหม่ที่จะถึงเร็วๆ แต่พ่อก็นำเงินจำนวนนั้นไปเล่นการพนันหมด เป็นการสูญเสียโอกาสอีกน้อยใจในโชคชะตาที่ไม่ได้เล่าเรียนกับเขา จึงอุ้มบาตรสะพ่ายย่ามหนีออกจากหมู่บ้านอีก ทุ่มเทให้กับการเรียนนักธรรมและบาลีฯ ซึ่งตรงนี้เรียนฟรี และสามารถปรับวิทยาฐานะเท่ากับการศึกษาแผนกสามัญได้ด้วย เช่น หากเรียนจบเปรียญธรรมประโยค๓ ก็เทียบเท่ามัธยม๓ หรือหากเรียนไปจนถึงเปรียญธรรมประโยค๙ ก็เท่ากับปริญญาตรี หลังจากจบเปรียญธรรมประโยค๓ ได้ภายในสองปี ผมก็นำวุฒิตรงนั้นไปลองสอบเทียบมัธยมปลายดู ลงครบทุกวิชา และผมก็สอบเทียบมัธยมปลายได้ในปีนั้น ช่วงนั้นของชีวิตหายใจเข้าออกเป็นการศึกษาไปหมด เพื่อเติมเต็มสิ่งเราด้อยและไม่มีโอกาสเหมือนคนทั่วๆ ไป
ขอประสบการณ์ชีวิตของผมที่เล่าให้ฟังตรงนี้เป็นคำอวยพรและแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ สมาชิกทุกๆ คนในวาระดิถีขึ้นปีใหม่นี้ครับ