[CR] รีวิวภาษีที่ต้องจ่ายผ่าน DHL จากการซื้อของออนไลน์จากตปท (น้ำตาจะไหล ToT)

สวัสดีค่ะ ปกติเราไม่เคยได้ตั้งกระทู้จริงๆจังๆแบบนี้เท่าไหร่ แต่เราเห็นว่า ประสบการณ์ครั้งนี้อาจจะเป็นข้อมูลให้เพื่อนๆช่วยตัดสินใจเวลาซื้อของออนไลน์จากต่างประเทศ

เริ่มเลยค่ะ

คือ เรากำลังหารองเท้าแตะให้พี่ชายเราอยู่ ซึ่ง adidas duramo slider ที่ขายในไทย จะราคา 700 บาท แต่ก็ไม่มีปัญหาค่ะ ปัญหาอยู่ที่ว่า พี่เราใส่ไซส์ 13uk ซึ่งในไทยมันมีถึงแค่ 12uk เราเลยสั่งซื้อจากเว็บไซต์ sportdirects ของ UK ค่ะ (ต้องบอกก่อนว่าเราพึ่งกลับมาจากuk เพราะไปเรียนต่อมา เราเลยพอจะทราบราคา และเวลาที่แต่ละเว็บไซต์จัด sale ค่ะ) ราคาของรองเท้า 8 ปอนด์ ซึ่งตอนนั้นเว็บมีโปรว่า สั่งเกิน 10 ปอนด์ ส่งฟรี เราเลยเพิ่มเสื้อกล้ามตัวนึง รวมสุดท้าย ออเดอร์จะอยู่ที่ ยอด 13 ปอนด์ค่ะ ต้องบอกก่อนว่า จริงๆ เราพอมีประสบการณ์การสั่งสินค้าจาก ตปท แต่ส่วนมากจะเป็นการส่งมาทางเรือ และ เพื่อนเราเคยส่งของทางไปรษณีย์จาก uk มาไทย กรณีนี้จะไม่เคยโดนภาษีค่ะ แต่เคยมีครั้งนึงเราสั่งแปรงแต่งหน้า sigma จากเมกา ซึ่งมูลค่าของสินค้านั้นถูกให้จ่ายภาษี เราก็ไปจ่ายที่ไปรษณีย์และรับกลับมาปกติค่ะ



กลับมาครั้งนี้ค่ะ ก่อนสั่งสินค้า เราก็หาข้อมูลทางเว็บไซต์ของ ศุลกากร ต่างๆนาๆ หารีวิวและกระทู้ในพันทิป แล้วสรุปได้ว่า
1.    ของที่สั่งมา หากราคาและค่าส่ง (C+I+F) ไม่เกิน 1,500 บาท จะถูกละเว้นภาษี

โอเค เราก็เห็นว่า ยอดการสั่งของเราคือ 5xx บาท คงไม่มีปัญหาอะไร พอวันที่ของมาถึงไทย ทาง DHL แจ้งว่าของเราภาษีที่ต้องชำระ 890 กว่าบาท เราเลยโทรไปสอบถามรายละเอียดสรุปได้ว่า
1.    Cost (ค่าสินค้า) ประเมินไว้ 554
2.    I (ค่าประกัน 1%) ประมาณ 5.54
3.    F (ค่าขนส่ง) คือ 1,180 (base uk)
รวมประมาณ 1,740 บาท

ซึ่งพนักงานแจ้งว่า ตัว F เนี่ย ไม่ได้ดูจากราคาค่าส่งอย่างเดียว แต่เรียกว่า ภาษีปากระวาง ซึ่งจะวัดจากตารางและอัตราของประเทศต้นทางนั้นก็จะแตกต่างกันไป ของเราถูกคำนวณให้จ่าย เรท 1.6 kg ค่ะ (kg ละ 590 บาท) ซึ่งตัว นน. ที่ประเมินมา ก็อยู่ที่ทางเจ้าหน้าที่ เค้าเลือกใช้ น้ำหนักพัสดุ หรือ dimensions ซึ่งอันนี้เราไม่ค่อยเกท เหมือนกัน และ ส่วนนี้เป็นส่วนที่เราไม่เคยเห็นข้อมูลมาก่อนด้วย (เลยเป็นเหตุผลที่เราตัดสินใจสร้างกระทู้นี้ เพื่อแชร์ประสบการณ์ของเราให้เพื่อนๆเวลาซื้อของจ้า) ถึงแม้ว่าเราจะสั่งของไม่เกิน 1,500 บาท และ ได้ free delivery ยังไง เราว่า สุดท้ายแล้ว มันคงไม่ง่ายอย่างที่เราคิด เพราะมันยังมี ค่าภาษีปากระวาง เข้ามาอีก ไม่พอคือ เราไม่รู้ว่าทาง customs จะใช้เกณฑ์ไหนในการกำหนด น้ำหนักและสัดส่วนของพัสดุ เพื่อนำมาคำนวณ F (เอาจริงๆ เราก็ถามทาง DHL ไปว่า พัสดุเราไม่น่าจะถึง 1.6 kg เพราะมีแค่ รองเท้าที่หนักไม่เกิน 200g และ เสื้อกล้ามที่เราดูยังไงก็ไม่น่าจะถึง พนง.ก็แจ้งว่าอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับการคำนวณ สัดส่วนของพัสดุเช่นกัน และ สุดท้ายแล้ว customs จะเป็นเลือกว่า ใช้เลขไหนในการคำนวณภาษี อันนี้เราก็ไม่ค่อยเกท แต่พอหาข้อมูลได้จาก เว็บของกรมศุลฯค่ะ เลยกลายเป็นว่า ของๆเราจึงถูกประเมินให้ราคาสูงกว่า 1,500 บาท ซะงั้น

ดังนั้น
ภาษี = CIF*30%
ภาษี = 1,740*0.3
ภาษี = 522

ยังไม่พอค่ะ ยังมีค่าอื่นๆที่ต้องจ่ายให้ DHL สรุปเป็น

เงินที่ต้องจ่าย = ค่าภาษี + ค่าสำรองจ่าย + ค่า vat
                = 522+214+158
                = 894 บาท ๖ (เราตัดทศนิยมออกเพื่อความดูง่ายนะคะ)


สรุปแล้ว ค่าของเราราคาแค่ 500กว่าบาท แต่ค่าภาษีและดำเนินการเกือบ 900 น้ำตาจะไหลค่ะ แต่ไม่มีทางเลือก เพราะที่ไทยไม่มีไซส์ แต่สิ่งที่เราว่า เราสามารถเลือกได้คือ เราคงไม่ใช้ DHL แล้วค่ะ เราไม่โอเคกับค่าสำรองจ่ายล่วงหน้า แต่เคสนี้คือเราก็ไม่มีทางเลือกอีกนั้นแหละ เพราะร้านค้าเข้าใช้ DHL ToT จริงๆค่าภาษีเราไม่ worry นะคะ ถ้ามันอยู่ในเกณฑ์ ที่เราสมควรจ่าย แต่นี่คือค่าของเราก็ไม่ถึง 1,500 อ่ะ แต่กลับถูกประเมินเพราะมีค่าปากระวาง นั่นนี่ จนมันเลย 1,500 บาท ทำให้เราถูกประเมินภาษี = ราคาค่าของอ่ะ คือเราว่ามันไม่ใช่แล้ว แล้ว DHL ยังมีค่าจ่ายล่วงหน้าอีก คือ ถ้าอย่างงั้นทำไม DHL ไม่ทำการล็อกเงินจากบัตรเครดิต หรือ ให้เราจ่ายเองก็ได้ จะมาจ่ายล่วงหน้าให้เราแล้วมาเก็บค่าจ่ายล่วงหน้าเพื่ออออ คำนวณเป็นเปอเซ็นนี่คือเก็บจากเราเกือบ 50% จากราคาที่จ่าย คือ แบบนี้ก็ได้เรอะ แนะนำว่า ให้ใช้บริการส่งไปรษณีย์ปกติ ยังจะดีกว่าค่ะ อย่างน้องก็เสียค่าภาษีกับทางไปรษณีย์ไทยปกติเลยดีกว่า ไปและค่า ยังไงก็ขอให้กระทู้นี้เป็นประโยชน์กับทุกท่านนะคะ
ชื่อสินค้า:   DHL
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่