คือความเป็นแม่เราคิดว่าลูกเราเด็กอยู่เสมอ... ดิฉันฝากลูกชายไว้ให้ยายหรือแม่ของดิฉันเองเป็นคนเลี้ยงที่ต่างจังหวัด เพราะดิฉันเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวต้องทำงานหาเงิน แต่มักจะให้ลูกนั้งรถตู้มาหาที่ กทม.อยู่บ่อยๆโดยจุดนัดเจอคือที่สายใต้ใหม่ ดิฉันไปรับและส่งที่นั้นเสมอ เพราะมีรถตู้วิ่งผ่านหน้าบ้านอยู่แล้ว แรกๆลูกก็มาหาทุกปิดเทอม และแทบจะทุกเสาร์-อาทิตย์ แต่พักหลังๆๆมาสังเกตว่าลูกเริ่มไม่มาและโทรศัพท์ไม่ค่อยรับสาย แถมกลับบ้านดึกๆๆโดยอ้างกับยายว่าทำรายงาน บางทีถึงตี1ครึ่ง ทั้งๆที่ปกติลูกชายจะเป็นคนไม่ตั้งใจเรียนขนาดนั้น และเป็นแบบนี้มาสักพัก ก็เลยสงสัย ยิ่งหลังๆถี่ขึ้นเรื่อยๆ ยายก็ตามใจ ล่าสุดดิฉันจึงกลับบ้านไปแบบกะทันหัน ลูกก็นั้งเงียบ ดิฉันพอเจอหน้าก็ตรงเข้าไปดุแล้วยึดโทรศัพย์มา จึงพบข้อความต่างๆ ทุกอย่างเลยเฉลยว่า ลูกชายที่เราคิดว่าเขาเป็นเด็ก เขาไม่ใช่เด็กน้อยในอ้อมกอดแม่อีกต่อไป ในเมื่อรู้แบบนั้นฉันทำอะไรไม่ถูกคะ ช็อค และยังรับความจริงไม่ได้ วันนั้นจึงพาลูกตีรถกลับ กทม.ทันที ถึงกทม.ก็ราวๆๆเที่ยงคืน มาถึงก็นั้งคุยกับลูกเริ่มจากแกล้งชวนลูกกินเบียร์ ลูกปฏิเสธคะ จนดิฉันพูดขึ้นว่า แม่รู้คงามจริงหมดแล้ว เรามานั้งคุยกันได้แล้ว คุยแบบคนโตคุยกัน ไม่คุยแบบแม่กับลูก ดิฉันยุส่งเลยคะให้ลูกกินเบียร์ ลูกก็กล้าๆกลัวๆไม่กล้ากิน ดิฉันต้องบอกว่า แม่สัญญาแม่ไม่ว่า และทุกอย่างที่ลูกทำวันนี้แม่ผ่านมันมาก่อนลูกหมดแล้ว ลูกก็เริ่มเปิดใจฟังที่เรากำลังจะพูด ดิฉันจึงบอกลูกว่า ลูกอยากทำอะไรทำเลย และต่อไปมีปัญหาต้องคุยกับแม่เพื่อแก้ไขทัน เหล้า บุหรี่ ผู้หญิง อยากทำๆเลย แต่ขอลูก 3 ข้อให้รับปาก
1.ห้ามเรื่องยาเสพติด
2.รู้จักป้องกัน ห้ามทำผู้หญิงท้อง
3.การพนัน
ลูกก็สัญญาคะ หลังจากนั้นลูก็เริ่มผ่อนคลายลง จากแรกๆที่กลัวแม่ดุ แต่ยอมรับคะลึกๆเจ็บมากที่ต้องพูดแบบนั้น พอนอนคืนนั้นดิฉันก็แทบนอนไม่หลับ คิดทั้งคืนว่าเราคิดผิดหรือคิดถูก ดิฉันรู้สึกไม่อยากมองหน้าลูกเลย ดิฉันแยกไม่ออกว่าโกรธหรืออะไร ได้แต่โทษตัวเองว่าที่ลูกต้องเป็นแบบนี้เพราะเรา เราไม่มีเวลาดูแลและใกล้ชิดเขาเลย ตอนนี้ดิฉันคิดว่าแค่อยากรู้จักลูกตัวเองมากขึ้น อยากให้เขามีอะไรกล้าพูดกล้าบอกเรา ดิฉันพยามยอมรับความจริงว่าลูกดิฉันไม่ใช่เด็กน้อยที่มาให้ดิฉันกอดหอม แบบเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว
ใครพอจะมีวิธีดีๆกว่าทางที่ดิฉันเลือกบ้างคะ ดิฉันเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว และดิฉันไม่ค่อยเข้าใจเด็กผู้ชายเท่าไร ดิฉันกังวลกับสิ่งที่ดิฉันตัดสินใจไป กลัวจะเป็นการส่งเสริมลูกไปในทางที่ผิดไหม? หรือมีทางออกอะไรที่ดีกว่านี้ดิฉันอยากได้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกชายในวัยรุ่นมากคะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
ถ้าจับได้ว่าลูกชายวัย14 เริ่มกินเหล้า สูบบุหรี่ ถ้าเป็นคุณจะทำอย่างไรคะ??
1.ห้ามเรื่องยาเสพติด
2.รู้จักป้องกัน ห้ามทำผู้หญิงท้อง
3.การพนัน
ลูกก็สัญญาคะ หลังจากนั้นลูก็เริ่มผ่อนคลายลง จากแรกๆที่กลัวแม่ดุ แต่ยอมรับคะลึกๆเจ็บมากที่ต้องพูดแบบนั้น พอนอนคืนนั้นดิฉันก็แทบนอนไม่หลับ คิดทั้งคืนว่าเราคิดผิดหรือคิดถูก ดิฉันรู้สึกไม่อยากมองหน้าลูกเลย ดิฉันแยกไม่ออกว่าโกรธหรืออะไร ได้แต่โทษตัวเองว่าที่ลูกต้องเป็นแบบนี้เพราะเรา เราไม่มีเวลาดูแลและใกล้ชิดเขาเลย ตอนนี้ดิฉันคิดว่าแค่อยากรู้จักลูกตัวเองมากขึ้น อยากให้เขามีอะไรกล้าพูดกล้าบอกเรา ดิฉันพยามยอมรับความจริงว่าลูกดิฉันไม่ใช่เด็กน้อยที่มาให้ดิฉันกอดหอม แบบเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว
ใครพอจะมีวิธีดีๆกว่าทางที่ดิฉันเลือกบ้างคะ ดิฉันเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว และดิฉันไม่ค่อยเข้าใจเด็กผู้ชายเท่าไร ดิฉันกังวลกับสิ่งที่ดิฉันตัดสินใจไป กลัวจะเป็นการส่งเสริมลูกไปในทางที่ผิดไหม? หรือมีทางออกอะไรที่ดีกว่านี้ดิฉันอยากได้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกชายในวัยรุ่นมากคะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ