JJNY : 4in1 เจ๊หน่อยอัดรบ.ยุกระจุก/ธนาธรแจงสูตรสร้างรัฐสวัสดิการ/ป้ามลโพสต์/ออมสินเผยค่าใช้จ่ายฐานรากฐานปีใหม่ลด

กระทู้คำถาม
'เจ๊หน่อย' ขยี้ใจคนอีสานเรียกคะแนน อัดรบ.ยุค 'นายทุนรวยกระจุก'
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/822492

"สุดารัตน์" สงสารคนอีสานทุกข์ ขยี้ใจเรียกคะแนน อัดรัฐบาลยุค "นายทุนรวยกระจุก" ปล่อยปชช.จนกระจาย ลั่นเลือก "เพื่อไทย" กลับมา มีวิธีทำให้ราคาสินค้าเกษตรดีขึ้นทุกตัว

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายประยุทธ ศิริพานิชย์ นายอดิศร เพียงเกษ โดยมีอดีต ส.ส.หนองบัวลำภู นายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ เขต 1 นายไชยา พรหมา เขต 2 และ นายวิชัย สามิตร เขต 3 ทั้ง 3 คนมาร่วมต้อนรับขึ้นเวที ประกาศตัวผู้สมัคร ส.ส.หนองบัวลำภู ทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง ซึ่ง ในเขตเลือกตั้งที่ 1 เป็นเขตเก่าของ อดีต ส.ส.พิษณุ หัตถสงเคราะห์ บุตรชาย นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ อดีต ส.ส.หนองบัวลำภู เช่นกัน ได้ส่งให้ นายสยาม หัตถสงเคราะห์ ลูกชายคนเล็กของนายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ น้องชาย นายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ ลงสมัครแทน ส่วนตัว นายพิษณุ หัตถสงเคาะห์ ขอสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อแทน

สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 2 พื้นที่เก่าของ นายไชยา พรหมา อดีต ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย ที่ในครั้งนี้ก็จะลงสมัครรับเลือกอีกครั้งหนึ่ง ส่วนที่เขตเลือกตั้งที่ 3 พื้นที่เก่าของ นายวิชัย สามิตร อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ส่งให้ นายณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี หลานชายของ นายวิชัย สามิตร ลูกของน้องสาวลงสมัครรับเลือกตั้งแทน โดยในช่วงเช้า ได้เดินทางนำคณะผู้สมัคร ทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง เข้าสักการะศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สถานที่เคารพของประชาชนชาวหนองบัวลำภู พร้อมขอพรขอให้สู้ศึกการเลือกตั้ง ชนะการเลือกตั้งทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง

จากนั้น จึงได้เดินทางไปยังบ้านริมพะเนียง ของ นายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ อดีต ส.ส.หนองบัวลำภู เขต 1 เพื่อเปิดตัว นายสยาม หัตถสงเคราะห์ ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.หนองบัวลำภู เขตเลือกตั้งที่ 1 พรรรคเพื่อไทย และพบกับ สมาชิกพรรคเพื่อไทยและชาวบ้านที่มารอต้อนรับ จำนวนกว่า 3.000 คน จากนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ได้ขึ้นเวทีพบกับประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 1 ซึ่งประกอบไปด้วยอำเภอเมืองหนองบัวลำภู และอำเภอโนนสัง บางส่วน โดยได้กล่าวกับชาวบ้านว่า ในการเลือกตั้ง ส.ส.หนองบัวลำภู เขตเลือกตั้งที่ 1 นั้น เลือกหนึ่งแถมน็อต (นายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ ) ซึ่งจะไปสมัครในสมัครในระบบบัญชีรายชื่อ พร้อมบอกว่าตลอดระยะเวลาสี่ห้าปีที่ผ่านมา ติดที่ไม่ให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง มาที่ไหนทหารก็จะมาตาม คิดถึงอยากมาเยี่ยมพี่น้อง วันนี้จึงได้หอบความรัก ความคิดถึง มาหาพี่น้อง แม้ว่าจะถูกห้าม ห้ามตัวมาเจอกัน แต่หัวใจเราเจอกันตลอด และสี่ห้าปีมานี้ เรารู้ว่าพี่น้องประชาชนลำบาก รู้ว่าพี่น้องประชาชนมีความทุกข์ เมื่อเขาปลดล็อคทางการเมืองจึงได้มีโอกาสมาเยี่ยมพี่น้อง

นอกจากนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ถามกับชาวบ้านว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีใขึ้นบ้าง ขอให้ยกมือ แต่ก็ไม่มีคนยกมือ พอถามว่าใครมีหนี้สินมากขึ้น ชาวบ้านต่างพากันยกมือกันเต็มไปหมด พร้อมกับบอกว่า เขาบริหารงานอย่างไร ที่ทำให้พี่น้องประชาชนจนลง มีหนี้สินมากขึ้น และทุกครั้งที่เรากลับมาทำงาน เราได้ทำให้ราคาพืชผลทางการเกษตรดีขึ้น ตอนนี้รู้ว่าพี่น้องลำบาก ทั้งที่ขยัน ซื่อสัตย์ เป็นคนดี เขาบอกว่า ให้เปลี่ยนการทำการเกษตร จากปลูกข้าว มาเป็นปลูกอ้อย ราคา 300-400 บาทต่อตันที่หน้าไร่ จากราคา 1,200 บาท บอกให้มาปลูกแล้วไม่รับผิดชอบเราเลย และการทำงานแบบนี้จะไม่มีเกิดขึ้น หากพรรคเพื่อไทย ได้กลับมาทำงาน ตอนนี้พี่น้องเกษตรกร ยิ่งทำยิ่งเป็นหนี้

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า สำหรับพรรคเพื่อไทยจะไม่ปล่อยให้พี่น้องเป็นเช่นนี้ สมัยเราราคาอ้อยตันละ 1,200 บาท เหลือ 300-400 บาท เราไม่ได้เสียใจว่าเป็นรัฐประหาร แต่เราเสียใจที่เราไม่สามารถช่วยเหลือพี่น้องได้ ทุกข์ของพี่น้องที่เกิดขึ้นในแต่ละวันเราทุกข์ด้วย ตอนนี้ นายทุนรวย จนกระจาย รวยกระจุก แต่ พรรคเพื่อไทยจะไม่ให้เกิดแบบนี้ จะให้ รวยกระจาย จนกระจุก ถ้าเราได้กลับมาทำงาน สินค้าเกษตรจะดีขึ้นอย่างยั่งยืน เขาทำเราจนมานานแล้ว สี่ปีเราไม่เคยหยุดนิ่ง เราคิดหาวิธี ที่จะทำให้ราคาสินค้าเกษตรดีขึ้นทุกตัว เราขอให้คำมั่นว่า เราจะลุยงานให้หนัก จะทำให้ราคาอ้อย ข้าว ราคายางพารา ดีขึ้น เรากอดความทุกข์มานานแล้ว ต่อไปเราจะกอดความสุขด้วยกัน หมดเวลากับความจน ความล้าหลังแล้ว วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 นี้ ช่วยกันเลือกตั้ง การเลือกไม่ได้ว่า รักใคร แต่ รักตัวเอง

จากนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ได้อวยพรปีใหม่ที่ใกล้จะมาถึง ขอให้ หมดทุกข์ ความจนหมดไปกับปีเก่า มีสุขภาพดี รายได้ดี และได้ให้ นายอดิศร เพียงเกษ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ขอนแก่น ขึ้นพบกับประชาชนต่อ โดยก่อนลงจากเวที กลุ่มชาวบ้านที่มารอรับต่างพากันแห่นำดอกกุหลาบมามอบให้เป็นแรงใจกันอย่างเนื่องแน่น

หลังจากนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ได้เดินทางไปที่ ทำการพรรคเพื่อไทยเขตเลือกตั้งที่ 3 ของ นายวิชัย สามิตรเพื่อเปิดตัว นายณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หนองบัวลำภู เขต 3 และบกับประชาชน จากพื้นที่อำเภอนากลาง อำเภอสุวรรณคูหา และอำเภอนาวัง บางส่วน ที่มาคอยต้อนรับประมาณ 5,000 คน โดยมี กลุ่มชาวบ้านต่างได้ยืนรอเข้าแถวมอบดอกกุหลาบก่อนที่จะขึ้นเวที่ ปราศรัยหาเสียงให้กับ นายณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี ผู้สมัครหน้าใหม่ที่ เปิดตัวลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นครั้งแรก เช่นกัน นายสยาม หัตถสงเคราะห์ ที่เปิดตัวลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งแรกเช่นกัน

เวลาต่อจากนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ได้เดินทางไปเปิดตัว นายไชย พรหมา อดีต ส.ส.หนองบัวลำภู หลายสมัย ที่ยังคงประกาศตัวรับสมัครเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งมีประชาชนจากพื้นที่อำเภอศรีบุญเรือง อำเภอโนนสังบางส่วนและอำเภอนาวังบางส่วนมาคอยต้อนรับและฟังการปราศรัยในครั้งนี้ก่อนที่จะเดินทางกลับ ซึ่งในแต่ละพื้นที่ ที่เดินทางไปต่างมีชาวบ้านมาคอยต้อนรับกันอย่างเนืองแน่น

นอกจากนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ยังกล่าวอีกว่า ในการมาครั้งนี้เรามาเพื่อเปิดรับสมาชิกใหม่ มาเพื่อรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน ส่วนความหวังกับ ว่าที่ ส.ส.ของหนองบัวลำภู ทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง นั้น เรามาด้วยความจริงใจ ตั้งใจจริง มีความคิดที่จะมาช่วยจังหวัดที่มีรายได้น้อย ให้พ้นจากความยากจน ถ้าสี่ห้าปีที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนทนไม่ไหว เราถือว่า เราเป็นทางเลือกหนึ่งของพี่น้องประชาชน เราไม่ได้หวังอะไรมาก หวังเพียง 3 เขตเลือกตั้ง และไม่หนักใจในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้




“ธนาธร” แจงสูตรสร้าง รัฐสวัสดิการ เกลี่ยทรัพยากรใหม่ – รีดภาษีทุนใหญ่ ไร้ข้อยกเว้น
https://www.khaosod.co.th/politics/news_2012776

“ธนาธร” แจงสูตรสร้าง รัฐสวัสดิการ เกลี่ยทรัพยากรใหม่ – รีดภาษีทุนใหญ่ ไร้ข้อยกเว้น

รัฐสวัสดิการ – วันที่ 27 ธ.ค. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วยแกนนำพรรค อาทิ นายสุนทร บุญยอด กรรมการบริหารปีกแรงงาน และน.ส.พรรณิการ์ วานิช ร่วมเปิดเวทีพบปะประชาชนชาวจังหวัดสระแก้ว ที่วัดเขาย้อยผาแดง ต.ทัพราช อ.ตาพระยา พร้อมแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในทั้ง 3 เขต ได้แก่ นายปิยพจน์ ตุลาชม ว่าที่ผู้สมัครเขต 1, นายยุทธชัย รำไพวรรณ์ ว่าที่ผู้สมัครเขต 2 และ น.ส.สุนันทรัตน์ มุกตรี ว่าที่ผู้สมัครเขต 3

นายธนาธร กล่าวถึงนโยบายรัฐสวัสดิการของพรรคอนาคตใหม่ ตอนหนึ่งว่า คนหลายกลุ่มพยายามที่จะบอกว่า ประเทศไทย ไม่มีทรัพยากรเพียงพอที่จะจัดสรรรัฐสวัสดิการได้ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้ว ประเทศไทยมีทรัพยากรเป็นจำนวนมหาศาล แต่ไปตกอยู่กับกลุ่มคนไม่กี่กลุ่ม รวมทั้งกลุ่มทุนผูกขาด กองทัพ และข้าราชการ

ดังนั้น การทำ รัฐสวัสดิการ จึงเป็นไปได้ เพียงแต่ต้องมีการจัดสรรทรัพยากรใหม่ ซึ่งพรรคอนาคตใหม่มีนโยบายในการหางบประมาณ เพื่อจัดรัฐสวัสดิการอยู่แล้ว เช่น ยกเลิกการยกเว้นภาษีที่ให้แก่กลุ่มทุน และการตัดลดจำนวนกำลังพลในกองทัพไทยลงครึ่งหนึ่ง พร้อมจำนวนนายพลที่มีกว่า 1,600 นาย ให้เหลือ 400 นาย เป็นต้น

“ขณะที่เขาบอกเราว่าประเทศเรา ไม่มีเงินพอจะไปดูแลเด็ก นักเรียน และคนชราได้ คนที่พูดแต่ละคน รวยกันเป็นแสนล้าน อย่าไปเชื่อว่าเรามีเงินไม่พอดูแลเด็ก นักเรียน และคนชรา เรามีทรัพยากรเพียงพอ แต่เราต้องจัดสรรทรัพยากรใหม่ เราต้องเก็บภาษีคนรวยมากขึ้น คนอย่างผม บริษัทผม ตระกูลผม ได้รับการยกเว้นภาษีปีหนึ่ง 800 ล้านบาท ผมขอบอกว่าไม่เอาอีกแล้ว คนรวยอย่างผมควรต้องเสียภาษี ให้เหมือนกับที่ คนธรรมดา พ่อค้า แม่ขาย ประชาชน ต้องเสียภาษีเช่นกัน” นายธนาธร กล่าว




‘ป้ามล’ โพสต์คดีนาฬิกา ‘บิ๊กป้อม’ จะบันทึกความฉ้อฉล ไม่ตรงไปตรงมาไปชั่วลูกชั่วหลาน
https://www.matichon.co.th/politics/news_1292043

‘ป้ามล’ โพสต์คดีนาฬิกา ‘บิ๊กป้อม’ จะบันทึกความฉ้อฉล ไม่ตรงไปตรงมาไปชั่วลูกชั่วหลาน

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ภายหลังโฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกมาแถลงข่าวมติประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ประเด็นการพิจารณาคดีนาฬิกาหรู ของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ไม่แจ้งในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2557 ว่า

“ยังไม่มีมูลเพียงพอว่าพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรรณ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความ อันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินนั้น”

ล่าสุด นางทิชา ณ นคร ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็ก และเยาวชน อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ (สปท.) ซึ่งออกมาเรียกร้องให้พลเอก ประวิตร แสดงความรับผิดชอบกรณีดังกล่าวด้วยการลาออกจากตำแหน่ง อีกทั้งเปิดแคมเปญในเว็บไซต์ Change.org ซึ่งมีผู้มาร่วมลงชื่อสนับสนุนกว่า 8 หมื่นรายชื่อ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Thicha Nanakorn ถึงกรณีดังกล่าวสั้นๆว่า

“ประวัติศาสตร์จะบันทึกความฉ้อฉล ไม่ตรงไปตรงมา ทั้งของ ป.ป.ช. และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงที่ไม่ปฎิบัติตามกฎหมาย ชั่วลูกชั่วหลาน เหมือนชนะ แต่แพ้แล้วและแพ้ตลอดกาล”

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=2463246263749081&id=100001911932080
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่