สวัสดีค่า วันใสเอง กระทู้นี้จะมาพูดถึงเรื่องการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเหมือนเดิม ตอนแรกก็คิดหนัดมากว่าจะเริ่มด้วยหัวข้ออะไรดี เลยเริ่มตั้งแต่การเตรียมตัวสอบ การสอบเข้าโครงการ ค่าใช้จ่าย กับการเตรียมความพร้อมเลยละกัน เริ่มจากจุดเริ่มต้นของการเป็นนรลป.(นักเรียนแลกเปลี่ยน)นี่แหละ แล้วจะค่อยๆเขียนเรื่องอื่นๆหลังจากนี้อีกที
จะขอเล่าเรื่องของเราก่อนนะคะ คือเราเนี่ยตอนเด็กๆไม่เคยคิดที่จะไปแลกเปลี่ยนเลยเพราะกลัว เรามีพี่สาวที่เคยไปแลกเปลี่ยนที่อเมริกาเหมือนกัน พอตอนม.3แม่ชวนไปลองสนามสอบเข้านรลป. ก็เลยคิดว่าไปลองสอบเล่นๆวัดระดับภาษาตัวเองดู เรื่องการเตรียมตัวเนี่ยเราไม่ได้อ่านหนังสืออะไรเลยเพราะไปสอบเล่นๆ แต่ลองทำแบบทดสอบออนไลน์ของโครงการที่จะไปสอบมา ก็น่าจะเรียกว่าเตรียมตัวอยู่บ้างแหละ ก่อนจะสอบค้าจะมีการพรีเซนท์เกี่ยวกับโครงการ โปรแกรมเรียนภาษาในต่างประเทศต่างๆ ที่สำคัญก็คือเกี่ยวกับโปรแกรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและภาษา 10 เดือนที่เรามาสอบ ด้วยความที่เราเป็นเหยื่อการตลาด อยู่ๆก็เลยอยากไปซะเฉยเลย5555 บวกกับช่วงม.ต้นที่ผ่านมาความคิดเปลี่ยนไปเยอะด้วย
การสอบจะมีสองรอบ รอบแรกข้อกา รอบสองสัมพาทย์(เขียนถูกมั้ยอะฮือไม่ได้ใช้ภาษาไทยนานขอโทษนะคะ) ข้อสอบที่เราทำเป็นข้อสอบ ELTIS มี 2 ตอน ตอนแรกจะเป็นการฟัง เค้าจะเปิดเสียงคนพูดให้เราฟังแล้วตอบคำถามตามที่เค้าถาม ส่วนตอนที่สองเป็นการอ่าน เค้าจะให้บทความหลายๆบทความมาให้เราอ่าน ข้อสอบเป็นแบบระบาย ถ้าจำไม่ผิดต้องใช้ดินสอ2Bนะคะ แล้วก็จะมีข้อสอบข้อเขียนภาษาไทยมาให้ เป็นชิงจิตวิทยาค่ะ เค้าจะดูว่าเรามีไหวพริบ ทักษะการแก้ปัญหา กับความคิดแง่บวกลบว่าเป็นยังไง ข้อสอบมีทั้งหมด50ขึ้นไป จำไม่ได้ว่ามีเท่าไหร่ขอโทษด้วยค่ะ;-; หลังจากสอบข้อเขียนแล้วเราก็ไปกินข้าวเตรียมตัวสอบสัมฯตอนบ่าย เราได้คิวไม่ถึงกับแรกๆ แต่ก่อนกลางๆ ตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะตอนนั้นนั่งรออยู่ในห้องพักแล้วเค้าจะมาเรียก เราสอบใสจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนะคะลืมบอกไป ห้องสอบห้องสัมพาทย์ห้องเดียวกันเลยก็คือห้องเรียนแบบมหาลัย ห้องใหญ่มากๆที่นั่งก็เป็นแบบขั้นบันได ตอนสอบสัมฯก็คือมีคนสอบสัมฯเหมือนเราเยอะอยู่ เลยไม่ค่อยกดดันมาก คนที่สัมฯเราเป็นคนไทยนรลป.เก่าของโครงการ ที่เห็นคนสัมฯก็คนไทยหมดแหละ เค้าก็จะถามชื่อ ให้แนะนำตัวเอง ถามงานอดิเรก ถามเกี่ยวกับครอบครัว จะเลือกไปประเทศอะไร ทำไมถึงอยากไป ของเราบอกไปว่าชอบเล่นเกมส์ เค้าก็ถามว่าเกมอะไร จากนั้นก็เสร็จสิ้นการสัมฯเรียบร้อยยย พอสัมพาทย์เสร็จก็เดินไปหน้าห้อง เค้าจะมีพนักงานรออยู่ เค้าก็จะให้ดูคะแนน เกณฑ์ที่เค้ากำหนดเนี่ยต้องผ่านครึ่งหรือก็คือ 200/400 เราได้ 196/400 *ปาดน้ำตา* แต่คะแนนสัมฯเราได้ 7 เต็มเท่าไหร่ไม่รู้แต่เค้าบอกว่าคะแนนดี ส่วนข้อเขียนที่เกี่ยวกับทัศนคติได้90เกือบ100เต็ม เค้าก็ให้เราสอบใหม่ได้ในรอบต่อไป เพราะโครงการนี้มีสอบเรื่อยๆเลย เราสอบช่วงเดือนมิถุนา-กรกฏาถ้าจำไม่ผิด เราก็เลยรอสอบรอบถัดไป เตรียมตัวรอบสองก็ทำข้อสอบในเว็ปโครงการเหมือนเดิม สอบเสร็จเราได้ 205 คะแนน (ไม่แน่ใจนะคะ จำไม่ได้อีกแล้วฮือ) พอสอบเข้าโครงการได้แล้วเนี่ย เค้าก็จะให้เราสอบใหม่อีกรอบ แต่ต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 222 คะแนน สามารถสอบได้เรื่อยๆเลย เราเนี่ยสอบได้222พอดีเป๊ะเลย555 ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี
หลังจากนั้นก็ขอพ่อแม่นานมากเลยค่ะกว่าจะให้ไป55555 ด้วยความพี่สาวเราเคยไปลป.ตอนม.5แล้วเรียนภาควิชาภาษาอังกฤษ ส่วนเรายังม.4เรียนภาคหลักสูตรธรรมดา เค้าเลยกังวลใหญ่เลย พอขอสำเร็จแล้วก็มาดูเรื่องเอกสาร applicationหรือโปรไฟล์แนะนำตัวของเราที่ต้องกรอกให้โครงการเพื่อหาhost familyที่เราจะไปอยู่ด้วย ก่อนจะไปถึงตรงนั้นขอพูดเรื่องเอกสารทางการก่อนนะคะ จำได้ไม่หมดแต่จะพยายามพิมพ์ออกมากนะ เอกสารที่เราและพ่อแม่ต้องกรอกก็จะมีเรื่องข้อตกลงของโครงการ กฎต่างๆ ข้อมูลส่วนตัวของเราและพ่อแม่ ทะเบียนบ้าน พาสปอร์ท รูปถ่ายวีซ่า ที่สำคัญที่สุดสำหรับเราเลยคือเอกสารที่เราต้องให้รร.กรอก โครงการเราจะให้ใบสำหรับครูเขียนความประพฤติของเรา ให้ครู3คนเขียนเป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็เราต้องขอใบ transcript จากโรงเรียน แนะนำให้ขอทั้งภาษาไทยทั้งอังกฤษเลยนะคะเผื่อไว้ ใบtranscriptเนี่ยก็คือใบเกรดรวมของเราทุกปีมาอยู่กระดาษแผ่นนึงนี่แหละค่ะ ของโครงการเราเค้าขอดูเกรด - เทอมย้อนหลัง พวกใบ ปพ.1 ปพ.7 ขอมาซักสองสามใบทั้งสองภาษาเลยค่ะ พาสปอร์ตก็ดูวันหมดอายุดีๆว่ามันจะหมดก่อนเรากลับมาไทยไหม แล้วก็ข้อมูลบัญชีธนาคารกับข้อมูลรายได้ของคนที่ออกค่าใช้จ่ายให้เรา รู้สึกว่าจะต้องใช้ข้อมูลโรงเรียนเก่าด้วยค่ะ ส่วนรูปวีซ่าก็เหมือนรูปวีซ่าทั่วไปเลยค่ะ ใครที่ไม่เคยทำก็ พื้นหลังขาว เก็บผมให้เห็นหู รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส หลักๆก็ประมาณนี้ค่ะ แต่ไปร้านถ่ายรูปบอกเค้าว่าถ่ายรูปวีซ่าก็ได้ ของเราต้องส่งรูปทางอีเมล์กับส่งรูปปริ้น3รูปให้เค้า อีกอย่างนึงที่ต้องทำก็คือเรื่องวัคซีนค่ะ ตามหาสมุดประวัติวัคซีนแล้วไล่ฉีดอันที่ยังไม่ได้ฉีดเลย ของหนูโดนเพิ่มไป3-4เข็มแล้วแต่โครงการ+รัฐหรือโรงเรียนกำหนด หลังจากส่งข้อมูลทั้งหมดให้เค้าเราก็รอเค้าเตรียมข้อมูลเราไปทำวีซ่า พอเรารู้วันสัมฯจากโครงการก็เตรียมตัวเตรียมเอกสาร ทางโครงการเราเค้าก็จะบอกว่าเราต้องเตรียมอะไรบ้าง เวลายื่นวีซ่าเค้าไม่ให้เอาโทรศพท์เข้าไปนะคะ ถ้าใครเอาไปเค้าจะมีให้ฝากด้านหน้า เข้าไปก็จะต่อแถวลงทะเบียน แล้วก็แสกนนิ้วมือ ตรวจเอกสาร ด่านสุดท้ายจะเป็นสัมฯภาษาอังกฤษ เค้าก็จะถามเกี่ยวกับเรา พ่อแม่ทำงานอะไร มีญาติอยู่ในประเทศที่จะไปไหม(ที่เราโดนถามมานะคะ) พอเสร็จแล้วก็ออกได้เลย
มาถึงเรื่องการทำโปรไฟล์เพื่อหา host family เอกสารส่วนใหญ่ที่ทำมาก็ต้องใส่ไปในโปรไฟล์ด้วยค่ะ สิ่งที่ต้องกรอกเพิ่มก็จะเป็นข้อมูลส่วนตัว สมาชิกในบ้าน ญาติในประเทศที่จะไป คำถามเกี่ยวกับข้อมูลของเราเช่นพวกกิจกรรมยามว่าง สัตว์เลี้ยง แล้วก็คำถามเกี่ยวกับการไปแลกเปลี่ยนเช่น ทำไมถึงอยากไป ไปแล้วคาดหวังว่าจะได้อะไรกลับมา คำถามกับคำตอบต้องเป็นภาษาอังกฤษนะคะเดี๋ยวเค้าอ่านไม่ออก555 หนูก็ต้องเขียนจดหมายถึง host family ด้วย ที่ยากที่สุดน่าจะเป็นการทำวีดีโอนี่แหละค่ะ นี่กำหนดไม่เกิน3นาที ตอนแรกก็พูดแนะนำตัวเอง สิ่งที่ชอบ ทำไมถึงอยากไป แล้วก็ทำวีดีโอ timelabs ชีวิตในโรงเรียน1วัน แล้วก็สิ่งที่คาดหวังว่าจะได้กลับมาจากการไปแลกเปลี่ยน สุดท้ายก็คือสิ่งที่อยากจะพูดกับ future host family แล้วจบปิ๊งงง
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับอนาคตนักเรียนแลกเปลี่ยนนะคะ แล้วก็หวังว่าจะชอบกันด้วย 😊 ถ้าอยากให้รีวิวเรื่องไหนเพิ่มเติมคอมเม้นมาได้เลยค่ะ จะพยายามเขียนให้เร็วแล้วก็ละเอียดที่สุดเลยย **ขอย้ำว่าแต่ละโครงการไม่เหมือนกันหมดนะคะ อาจจะคล้ายกันแต่นี่คือสิ่งที่หนูเจอมาจากโครงการที่หนูเข้าร่วมนะคะ** ขอบคุณที่อ่านกันจนจบด้วยนะ ไม่เคยเขียนอะไรยาวขนาดนี้มาก่อนเลย ไว้เจอกันกระทู้หหน้านะคะบ้ายบายยย
อยากเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนต้องทำยังไง? วิธีเตรียมตัวก่อนเดินทางฉบับละเอียด
จะขอเล่าเรื่องของเราก่อนนะคะ คือเราเนี่ยตอนเด็กๆไม่เคยคิดที่จะไปแลกเปลี่ยนเลยเพราะกลัว เรามีพี่สาวที่เคยไปแลกเปลี่ยนที่อเมริกาเหมือนกัน พอตอนม.3แม่ชวนไปลองสนามสอบเข้านรลป. ก็เลยคิดว่าไปลองสอบเล่นๆวัดระดับภาษาตัวเองดู เรื่องการเตรียมตัวเนี่ยเราไม่ได้อ่านหนังสืออะไรเลยเพราะไปสอบเล่นๆ แต่ลองทำแบบทดสอบออนไลน์ของโครงการที่จะไปสอบมา ก็น่าจะเรียกว่าเตรียมตัวอยู่บ้างแหละ ก่อนจะสอบค้าจะมีการพรีเซนท์เกี่ยวกับโครงการ โปรแกรมเรียนภาษาในต่างประเทศต่างๆ ที่สำคัญก็คือเกี่ยวกับโปรแกรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและภาษา 10 เดือนที่เรามาสอบ ด้วยความที่เราเป็นเหยื่อการตลาด อยู่ๆก็เลยอยากไปซะเฉยเลย5555 บวกกับช่วงม.ต้นที่ผ่านมาความคิดเปลี่ยนไปเยอะด้วย
การสอบจะมีสองรอบ รอบแรกข้อกา รอบสองสัมพาทย์(เขียนถูกมั้ยอะฮือไม่ได้ใช้ภาษาไทยนานขอโทษนะคะ) ข้อสอบที่เราทำเป็นข้อสอบ ELTIS มี 2 ตอน ตอนแรกจะเป็นการฟัง เค้าจะเปิดเสียงคนพูดให้เราฟังแล้วตอบคำถามตามที่เค้าถาม ส่วนตอนที่สองเป็นการอ่าน เค้าจะให้บทความหลายๆบทความมาให้เราอ่าน ข้อสอบเป็นแบบระบาย ถ้าจำไม่ผิดต้องใช้ดินสอ2Bนะคะ แล้วก็จะมีข้อสอบข้อเขียนภาษาไทยมาให้ เป็นชิงจิตวิทยาค่ะ เค้าจะดูว่าเรามีไหวพริบ ทักษะการแก้ปัญหา กับความคิดแง่บวกลบว่าเป็นยังไง ข้อสอบมีทั้งหมด50ขึ้นไป จำไม่ได้ว่ามีเท่าไหร่ขอโทษด้วยค่ะ;-; หลังจากสอบข้อเขียนแล้วเราก็ไปกินข้าวเตรียมตัวสอบสัมฯตอนบ่าย เราได้คิวไม่ถึงกับแรกๆ แต่ก่อนกลางๆ ตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะตอนนั้นนั่งรออยู่ในห้องพักแล้วเค้าจะมาเรียก เราสอบใสจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนะคะลืมบอกไป ห้องสอบห้องสัมพาทย์ห้องเดียวกันเลยก็คือห้องเรียนแบบมหาลัย ห้องใหญ่มากๆที่นั่งก็เป็นแบบขั้นบันได ตอนสอบสัมฯก็คือมีคนสอบสัมฯเหมือนเราเยอะอยู่ เลยไม่ค่อยกดดันมาก คนที่สัมฯเราเป็นคนไทยนรลป.เก่าของโครงการ ที่เห็นคนสัมฯก็คนไทยหมดแหละ เค้าก็จะถามชื่อ ให้แนะนำตัวเอง ถามงานอดิเรก ถามเกี่ยวกับครอบครัว จะเลือกไปประเทศอะไร ทำไมถึงอยากไป ของเราบอกไปว่าชอบเล่นเกมส์ เค้าก็ถามว่าเกมอะไร จากนั้นก็เสร็จสิ้นการสัมฯเรียบร้อยยย พอสัมพาทย์เสร็จก็เดินไปหน้าห้อง เค้าจะมีพนักงานรออยู่ เค้าก็จะให้ดูคะแนน เกณฑ์ที่เค้ากำหนดเนี่ยต้องผ่านครึ่งหรือก็คือ 200/400 เราได้ 196/400 *ปาดน้ำตา* แต่คะแนนสัมฯเราได้ 7 เต็มเท่าไหร่ไม่รู้แต่เค้าบอกว่าคะแนนดี ส่วนข้อเขียนที่เกี่ยวกับทัศนคติได้90เกือบ100เต็ม เค้าก็ให้เราสอบใหม่ได้ในรอบต่อไป เพราะโครงการนี้มีสอบเรื่อยๆเลย เราสอบช่วงเดือนมิถุนา-กรกฏาถ้าจำไม่ผิด เราก็เลยรอสอบรอบถัดไป เตรียมตัวรอบสองก็ทำข้อสอบในเว็ปโครงการเหมือนเดิม สอบเสร็จเราได้ 205 คะแนน (ไม่แน่ใจนะคะ จำไม่ได้อีกแล้วฮือ) พอสอบเข้าโครงการได้แล้วเนี่ย เค้าก็จะให้เราสอบใหม่อีกรอบ แต่ต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 222 คะแนน สามารถสอบได้เรื่อยๆเลย เราเนี่ยสอบได้222พอดีเป๊ะเลย555 ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี
หลังจากนั้นก็ขอพ่อแม่นานมากเลยค่ะกว่าจะให้ไป55555 ด้วยความพี่สาวเราเคยไปลป.ตอนม.5แล้วเรียนภาควิชาภาษาอังกฤษ ส่วนเรายังม.4เรียนภาคหลักสูตรธรรมดา เค้าเลยกังวลใหญ่เลย พอขอสำเร็จแล้วก็มาดูเรื่องเอกสาร applicationหรือโปรไฟล์แนะนำตัวของเราที่ต้องกรอกให้โครงการเพื่อหาhost familyที่เราจะไปอยู่ด้วย ก่อนจะไปถึงตรงนั้นขอพูดเรื่องเอกสารทางการก่อนนะคะ จำได้ไม่หมดแต่จะพยายามพิมพ์ออกมากนะ เอกสารที่เราและพ่อแม่ต้องกรอกก็จะมีเรื่องข้อตกลงของโครงการ กฎต่างๆ ข้อมูลส่วนตัวของเราและพ่อแม่ ทะเบียนบ้าน พาสปอร์ท รูปถ่ายวีซ่า ที่สำคัญที่สุดสำหรับเราเลยคือเอกสารที่เราต้องให้รร.กรอก โครงการเราจะให้ใบสำหรับครูเขียนความประพฤติของเรา ให้ครู3คนเขียนเป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็เราต้องขอใบ transcript จากโรงเรียน แนะนำให้ขอทั้งภาษาไทยทั้งอังกฤษเลยนะคะเผื่อไว้ ใบtranscriptเนี่ยก็คือใบเกรดรวมของเราทุกปีมาอยู่กระดาษแผ่นนึงนี่แหละค่ะ ของโครงการเราเค้าขอดูเกรด - เทอมย้อนหลัง พวกใบ ปพ.1 ปพ.7 ขอมาซักสองสามใบทั้งสองภาษาเลยค่ะ พาสปอร์ตก็ดูวันหมดอายุดีๆว่ามันจะหมดก่อนเรากลับมาไทยไหม แล้วก็ข้อมูลบัญชีธนาคารกับข้อมูลรายได้ของคนที่ออกค่าใช้จ่ายให้เรา รู้สึกว่าจะต้องใช้ข้อมูลโรงเรียนเก่าด้วยค่ะ ส่วนรูปวีซ่าก็เหมือนรูปวีซ่าทั่วไปเลยค่ะ ใครที่ไม่เคยทำก็ พื้นหลังขาว เก็บผมให้เห็นหู รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส หลักๆก็ประมาณนี้ค่ะ แต่ไปร้านถ่ายรูปบอกเค้าว่าถ่ายรูปวีซ่าก็ได้ ของเราต้องส่งรูปทางอีเมล์กับส่งรูปปริ้น3รูปให้เค้า อีกอย่างนึงที่ต้องทำก็คือเรื่องวัคซีนค่ะ ตามหาสมุดประวัติวัคซีนแล้วไล่ฉีดอันที่ยังไม่ได้ฉีดเลย ของหนูโดนเพิ่มไป3-4เข็มแล้วแต่โครงการ+รัฐหรือโรงเรียนกำหนด หลังจากส่งข้อมูลทั้งหมดให้เค้าเราก็รอเค้าเตรียมข้อมูลเราไปทำวีซ่า พอเรารู้วันสัมฯจากโครงการก็เตรียมตัวเตรียมเอกสาร ทางโครงการเราเค้าก็จะบอกว่าเราต้องเตรียมอะไรบ้าง เวลายื่นวีซ่าเค้าไม่ให้เอาโทรศพท์เข้าไปนะคะ ถ้าใครเอาไปเค้าจะมีให้ฝากด้านหน้า เข้าไปก็จะต่อแถวลงทะเบียน แล้วก็แสกนนิ้วมือ ตรวจเอกสาร ด่านสุดท้ายจะเป็นสัมฯภาษาอังกฤษ เค้าก็จะถามเกี่ยวกับเรา พ่อแม่ทำงานอะไร มีญาติอยู่ในประเทศที่จะไปไหม(ที่เราโดนถามมานะคะ) พอเสร็จแล้วก็ออกได้เลย
มาถึงเรื่องการทำโปรไฟล์เพื่อหา host family เอกสารส่วนใหญ่ที่ทำมาก็ต้องใส่ไปในโปรไฟล์ด้วยค่ะ สิ่งที่ต้องกรอกเพิ่มก็จะเป็นข้อมูลส่วนตัว สมาชิกในบ้าน ญาติในประเทศที่จะไป คำถามเกี่ยวกับข้อมูลของเราเช่นพวกกิจกรรมยามว่าง สัตว์เลี้ยง แล้วก็คำถามเกี่ยวกับการไปแลกเปลี่ยนเช่น ทำไมถึงอยากไป ไปแล้วคาดหวังว่าจะได้อะไรกลับมา คำถามกับคำตอบต้องเป็นภาษาอังกฤษนะคะเดี๋ยวเค้าอ่านไม่ออก555 หนูก็ต้องเขียนจดหมายถึง host family ด้วย ที่ยากที่สุดน่าจะเป็นการทำวีดีโอนี่แหละค่ะ นี่กำหนดไม่เกิน3นาที ตอนแรกก็พูดแนะนำตัวเอง สิ่งที่ชอบ ทำไมถึงอยากไป แล้วก็ทำวีดีโอ timelabs ชีวิตในโรงเรียน1วัน แล้วก็สิ่งที่คาดหวังว่าจะได้กลับมาจากการไปแลกเปลี่ยน สุดท้ายก็คือสิ่งที่อยากจะพูดกับ future host family แล้วจบปิ๊งงง
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับอนาคตนักเรียนแลกเปลี่ยนนะคะ แล้วก็หวังว่าจะชอบกันด้วย 😊 ถ้าอยากให้รีวิวเรื่องไหนเพิ่มเติมคอมเม้นมาได้เลยค่ะ จะพยายามเขียนให้เร็วแล้วก็ละเอียดที่สุดเลยย **ขอย้ำว่าแต่ละโครงการไม่เหมือนกันหมดนะคะ อาจจะคล้ายกันแต่นี่คือสิ่งที่หนูเจอมาจากโครงการที่หนูเข้าร่วมนะคะ** ขอบคุณที่อ่านกันจนจบด้วยนะ ไม่เคยเขียนอะไรยาวขนาดนี้มาก่อนเลย ไว้เจอกันกระทู้หหน้านะคะบ้ายบายยย