JJNY : 5in1 ชาวอุดรแห่รับหญิงหน่อย/อนค.ติวเข้มหาเสียง/บิ๊กจิ๋ซัดรบ./ตุ๊กตุ๊กอึดอัดลุง/เลขาฯกกต.ชี้ดำเนินการเอง

กระทู้คำถาม
ชาวอุดรฯ แห่ต้อนรับ 'พท.' ล้นหลาม เชียร์ 'หญิงหน่อย' เป็นนายก
https://www.matichon.co.th/region/news_1290519

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อบ่ายวันที่ 26 ธันวาคม 2561 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) เดินทางลงรณรงค์หาเสียงให้ว่าที่ผู้สมัครอุดรธานี เขตเลือกตั้งมีการแข่งขันสูง เริ่มตั้งแต่จุดแรกที่ตลาดนัดต้นยางใหญ่ บ้านนาข่า ถ.มิตรภาพ ทต.นาข่า อ.เมือง พื้นที่ของนายอนันต์ ศรีพันธุ์ อดีต ส.ส.ของพรรค จากนั้นเดินทางไปศูนย์ประสานงานนายจักรพรรดิ ไชยสาส์น อดีต ส.ส. โค้งสล็อต ถ.มิตรภาพ อ.กุมภวาปี และนางจุฑาพัตธน์ เมนะสวัสดิ์ ภรรยาอดีต ส.ส.เกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ซึ่งทุกพื้นที่ต้องมีคู่แข่งขันเป็นพรรคพลังประชารัฐ และภูมิใจไทย

เมื่อเวลา 15.00 น. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เดินทางมาถึงตลาดนัดต้นยางใหญ่ บ้านนาข่า ท่ามกลาสมาชิกพรรคที่มารอกว่า 1,200 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ รออยู่ใน ใต้ร่มไม้ขนาดใหญ่ขึ้นปกคลุม ได้เดินเข้าไปยกมือไหว้ทักทาย สอบถามสารทุกข์สุกดิบ และสวมกวด ผู้ที่อยู่ด้านหน้าเวทีปราศรัย ก่อนจะขึ้นเวทีปราศรัยประมาณ 30 นาที และกลับลงมาทักทายสมาชิกอีกครั้ง โดยมีการเต้นตามจังหวะเพลงพรรคเพื่อไทย สวมกวดผู้สูงอายุ สุภาพสตรี และถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ระหว่างนั้นโฆษกยังประกาศเชียร์ให้คุณหญิงสุดารัตน์เสนอชื่อเป็น “นายกรัฐมนตรี

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ช่วงเช้าเดินทางไปที่ จ.บึงกาฬ และ จ.หนองคาย พี่น้องที่นั่นได้บอกเล่าถึงความทุก ความลำบากในช่วง 4 ปีเศษทีผ่านมา เราเป็นผู้มารับอาสาก็ต้องรับฟัง ซึ่งก่อนหน้านี้เราถูกห้ามมาพูดคุย เพราะจะเป็นการเคลื่อนไหวการเมือง และเมื่อมาถึงที่นี่พ่อแม่พี่น้อง พ่อใหญ่ แม่ใหญ่ ก็ได้บอกเล่าถึงความทุกข์ ต้องอยู่ด้วยลำบากมากขึ้น

“ ประชากรไทย 35 เปอร์เซ็นต์เป็นเกษตรกร เมื่อราคาสินค้าเกษตร ยางพารา , ข้าว , อ้อย และอื่นๆ ไม่ดี เกษตรกรก็อ่อนแอลง ทำให้เศรษฐกิจเดินไม่ได้ เงินที่เคยที่ในกระเป๋าก็หายไป หนี้สินก็พอกพูนมากขึ้น ทุกครั้งที่เรามาเป็นรัฐบาล สินค้าเกษตรราคาดีมาตลอด เมื่อเรากลับมาเป็นรัฐบาล เราจะเอาราคาข้าวดีๆกลับมาอีก ถึงเวลาทวงคืนความสุข ให้พี่น้องกลับคืนมาให้ได้ พี่น้องต้องเลือกคนทำงานจริง รู้ปัญหาจริง จึงจะแก้ปัญหาได้” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เราเป็นคนเริ่มต้น 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ผ่านมามีหลายคนเกิดความไม่เข้าใจ จึงยังเกิดความไม่สะดวก ในการเข้าถึงบริการที่รวดเร็วและสะดวก เราจะทำ 30บาทรักษาทุกโรคใหม่ รองรับประเทศไทยสังคมผู้สูงอายุ มุ่งสร้างสุขภาพที่ดี ชีวิตของผู้สูงอายุต้องมทีคุณภาพ มีสุขภาพร่างการแข็งแรง ทำงานได้อยู่ที่บ้าน ได้รับบริการด้านสาธารณสุข รวดเร็ว และกลับไปรับยาได้ที่ รพ.สต.

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กล่าวด้วยว่า วิธีการเลือกตั้งอธิบายแล้วปวดหัว เขาเขียนกติกาให้ยากลำบาก ให้รู้จักตัวผู้สมัครให้น้องที่สุด แม้จะมีปัญหาแค่ไหนก็เชื่อว่า พรรคเพื่อไทยอยู่ในหัวใจของพี่น้อง เลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งสำคัญ อะไรที่พี่น้องได้ประโยชน์ อย่างกลัวว่าจะไม่ได้อีก แต่จะได้ประโยชน์มากขึ้น เราเคยทำกันมาแล้ว และเราจะทำให้ยั่งยืน วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2561 เลือกพรรคเพื่อไทย จะเป็นวันพาเราออกจากความทุก

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้การตัดตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต ทั่วประเทศของพรรค ใกล้จบแล้ว ก็ยังเหลืออยู่บ้างในบางเขต ที่รอทำโพลอยู่ ซึ่งในเขตที่ซ้ำซ้อนก็มีหลายเขต แต่ตอนนี้ก็เคลียไปได้เยอะแล้ว ก็เหลืออีกนิดหน่อย เมื่อโพลออกมา คาดว่าจะพยายามให้เสร็จก่อนถึงปีใหม่นี้ เพราะถ้ายิ่งเสร็จช้าเราก็เหนื่อย เราก็เข้าใจว่าทุกคนมีคุณภาพหมด ก็เลือกลำบาก บางทีก็ต้องทำโพลบ้าง ออกถามสำรวจกับชาวบ้านบ้าง

“เมื่อได้ออกพื้นที่มาเห็นประชาชนมาต้อนรับก็มีความสุข เหมือนกับเราได้ถ่ายทอดความรู้สึกต่อกัน เรากับพี่น้องประชาชนเป็นเหมือนใจเดียวกัน 4 ปีกว่าที่เขาทุกข์ เราก็ทุกข์กับเขา วันนี้เขาก็ฝากความหวังกับเรา อยากให้เราแก้ไขความทุกข์ให้เขา เราอาสามาทำงาน เห็นพลังของประชาชนอย่างนี้ เห็นกำลังใจอย่างนี้ ก็เป็นพลังให้เราทำงานหนักมากขึ้น เพราะปัญหาเยอะกว่าเดิมมาก ก็ต้องทำงานหนักมากขึ้น แล้วก็ต้องแก้ปัญหาให้ชาวบ้านเขาพ้นทุกข์ให้ได้ เพราะเขาฝากความหวังไว้กับเรา เราต้องไม่ทำให้เขาผิดหวัง” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

โดยก่อนหน้าที่ก่อนหน้าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จะเดินทางมานายสุทิน คลังแสง อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.มหาสารคาม ปราศรัยบนเวที โจมตีการทำงานของรัฐบาลปัจจุบัน ว่าทำให้รวยกระจุก จนกระจาย มีพฤติกรรมอุ้มนานทุน ทำให้นักธุรกิจใหญ่ร่ำรวยขึ้น ไม่สนใจแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร ใช้เงินคงคลังไปจนเกือบจะหมด สร้างหนี้สาธารณะมากมาย บัตรคนจนหรือสวัสดิการที่รัฐบาลทำไว้ เราจะทำให้ดีขึ้นไม่สุกเอาเผากิน โครงการจำนำข้าวจะกลับมา ไม่เอาโครงสร้างภาษีใหม่




อนาคตใหม่ ติวเข้ม-แนะแนวทางหาเสียง ผู้สมัครส.ส.มือใหม่ทั่วประเทศ
https://www.matichon.co.th/politics/news_1290212

“อนาคตใหม่” อบรม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. แนะแนวทางหาเสียง-ข้อปฏิบัติ ด้าน ว่าที่ผู้สมัคร เผยโดดร่วมพรรคจากนโยบายคนเท่าเทียม เชื่อคือคำตอบของการเปลี่ยนแปลงปท.

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ที่พัฒนากอล์ฟคลับ แอนด์รีสอร์ท พรรคอนาคตใหม่(อนค.) จัดสัมมนาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ระหว่างวันที่ 24-26 ธันวาคม เพื่อชี้แจงแนวทางการทำพรรค แนวทางการหาเสียง ตลอดจนข้อกฎหมายต่างๆ ที่บังคับใช้ในช่วงการเลือกตั้ง ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2552 โดยมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ระบบแบ่งเขต ทั้ง 350 เขต และ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ เข้าร่วมการสัมมนาอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง รองโฆษกพรรค กล่าวว่า ในกิจกรรมการอบรมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นั้น ได้สรุป 12 นโยบายหลักที่เคยจัดแถลงข่าวเปิดวิสัยทัศน์ไปแล้วมาให้ผู้สมัครทุกคนได้เตรียมความพร้อมในการหาเสียง และทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน รวมถึงการอธิบายข้อกฎหมายต่างๆ เพราะต้องยอมรับว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกกฎเกณฑ์มาควบคุมพรรคการเมืองค่อนข้างเยอะ จึงต้องมีการสร้างความเข้าใจให้กับว่าที่ผู้สมัครทุกคน นอกจากนี้ ยังเป็นการพบปะและทำความรู้จักกันเองระหว่างในกลุ่มผู้สมัคร ส.ส. เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือกันต่อไปในอนาคต

“จากการที่ได้พบกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้งหมด จุดเด่นที่เห็นได้ชัดเลยของพรรคอนาคตใหม่ก็คือ เปิดโอกาสให้กับคนทุกคนได้เข้ามามีส่วนร่วม อย่างที่พรรคเคยประกาศออกมาตลอด ว่าเราเชื่อในเรื่องศักยภาพของคนทุกคน เชื่อในเรื่องของความเท่าเทียม ดังนั้น ผู้สมัครก็จะมีทั้งคนที่มีความหลากหลายทางเพศ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และยังมีความหลากหลายกลุ่มอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น แพทย์ วิศวกร สถาปนิก แม่ค้า คนขับแท็กซี่ ซึ่งทั้งหมด เป็นผู้ไม่เคยผ่านสนามการเมืองมาก่อน เป็นคนหน้าใหม่ที่ต้องการก้าวเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศ เราจึงมั่นใจว่า พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคเดียวที่มีผู้สมัครที่สามารถเป็นตัวแทนของประชาชนจากคนทุกๆ กลุ่มคนได้อย่างแท้จริง” นพ.วาโย กล่าว

ด้าน นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ แพทย์ประจำทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เขต 1 จ.เชียงราย กล่าวว่า ตนเองทำงานอยู่ในวงการสาธารณสุขมาตั้งแต่ปี 2544 ปัจจุบันเป็นนายแพทย์ประจำโรงพยาบาล และแพทย์ประจำทีมฟุตบอลทีมชาติไทย เป็นผู้หนึ่งที่ติดตามการเมืองมาโดยตลอด ได้เห็นสภาพความเป็นไปของบ้านเมือง ทั้งปัญหาความขัดแย้งอันน่าเหนื่อยใจ และความทุกข์ยากของประชาชน โดยเฉพาะในฐานะหมอคนหนึ่ง ได้พบเจอกับคนไข้มาทุกฐานะ ทั้งร่ำรวยและยากจน ที่มีโอกาสในการเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่แตกต่างกัน ราวฟ้ากับเหว และระบบการแพทย์ที่เป็นเรื่องของกำไร-ขาดทุน มากกว่าเรื่องสวัสดิการ และได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่ง จะมีใครสักคนที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ให้ดีขึ้นได้ แต่สุดท้าย เมื่อรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรักษาคงามสงบแห่งชาติ(คสช.)ผ่านร่างยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีออกมาบังคับใช้กับประเทศนี้ จึงเป็นจุดเปลี่ยนที่ทนไม่ได้อีกต่อไปกับสภาพที่เป็นอยู่ และตัดสินใจว่าจะต้องลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างได้แล้ว ซึ่งประจวบเหมาะกับที่มีพรรคอนค.เปิดกว้างทั้งในด้าน ความคิด โอกาส และการเป็นพรรคของสมาชิกเกิดขึ้น โดยตนมีความตั้งใจเข้ามาร่วมผลักดัน เรื่องรัฐสวัสดิการ ด้านสาธารณสุข เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ให้ก้าวไปสู่รัฐสวัสดิการอย่างครบวงจร ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้เข้าถึงระบบสาธารณสุขที่มีคุณภาพอย่างเสมอภาคกัน รวมถึง การกระจายอำนาจด้านการจัดการระบบสาธารณสุข ไปที่ระดับโรงพยาบาลอำเภอ ให้สามารถจัดการตนเองได้เหมาะสม

นางพัชรนันท์ นิธิยศจีรโชติ ผู้พิการโปลิโอ อดีตกรรมการบริหารสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เขต 1 จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ตนเองต่อสู้ชีวิตด้วยตนเองมาตลอด หลายต่อหลายรัฐบาลที่ผ่านมาไม่เคยให้ความสนใจกับความเสมอภาค จนรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับสภาพสังคมที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งพรรคอนค.มีนโยบายสร้างความเสมอภาคระหว่างคนในสังคม จึงตัดสินใจเข้าสู่การเมืองอย่างเต็มตัว เพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงในประเด็นต่างๆ ซึ่งไม่ใช่หมายถึงเพียงการออกและบังคับกฎหมาย เพื่อให้ทุกหน่วยงานจัดสรรสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้พิการ การเข้าถึงงาน การจัดสวัสดิการที่เหมาะสม และความเสมอภาคของผู้พิการเท่านั้น แต่รวมถึง ความเท่าเทียมเสมอภาคระหว่างเพศด้วย เพราะพรรคอนค. คือ คำตอบของการเปลี่ยนแปลงประเทศ

ขณะที่ นางสุภาพ ติณรัตน์ หรือ สุภาพ ดาวดวงเด่น หมอลำชื่อดัง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ จ.ร้อยเอ็ด เขต 4 กล่าวว่า เหตุที่สนใจการเมือง เนื่องจากตนคลุกคลีกับชาวบ้านเป็นเวลานาน เดินทางไปทำการแสดงตามที่ต่างๆ ทำให้รับรู้ถึงปัญหาปากท้อง ความเป็นอยู่และการเข้าถึงโอกาสด้านต่างๆ ที่เลือกพรรคอนค. เพราะเป็นพรรคที่มีอุดมการณ์ที่ชัดเจนว่าจะเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลง มีความตั้งใจจะยกระดับประชาชนให้เท่าเทียมกัน ลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งตรงกับความตั้งใจของตน ที่ต้องการเห็นชาวบ้านมีโอกาสที่เท่าเทียมกัน โดยเฉพาะด้านการศึกษาของเด็กในชนบท ที่มีความเหลื่อมล้ำกับนักเรียนในกรุงเทพฯ อย่างชัดเจน และตนมุ่งมั่นจะแก้ปัญหาให้พี่น้องด้วยความบริสุทธิ์ใจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่