รีวิว พาไปดูสนามกอล์ฟ Dalat Palace ที่เมือง Dalat ประเทศเวียดนาม​

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับ ครั้งนี้ขออนุญาต​พาทุกท่านไปดูสนามกอล์ฟในเมืองดาลัด​กันครับ

เหมือนเดิมนะครับ พาดูสนามแบบทั่วๆไปมากกว่าจะเจาะเลย์เอาท์แต่ละหลุม และถ่ายด้วยกล้องมือถือครับ

เกริ่นกันซักเล็กน้อย...
ดาลัดเป็นเมืองเล็กๆตั้งอยู่บนแนวเทือกเขาในจังหวัดลัมด่ง ประเทศ​เวียดนาม เนื่องจากตั้งอยู่บนที่สูงระดับ 1500 ม.เหนือระดับน้ำทะเล อากาศ​จึงเย็นสบายตลอดทั้งปี ที่นี่ไม่มีบ้าน ร้านอาหาร หรือโรงแรมห้าดาวที่ไหนติดแอร์แม้แต่ที่เดียว ขับรถก็เปิดกระจกขับกันทั้งนั้นเพราะอากาศเย็นสบายนั่นเอง กลางวันถ้าวันไหนมีแดดอาจจะรู้สึกร้อนเล็กน้อยแต่ก็ไม่เท่าเมืองไทยหรอกครับ​

และนั่นก็คิอไฮไลต์ของ​การตีกอล์ฟที่นี่ คือตีกอล์ฟแบบอากาศ​เย็นๆนั่นเอง

แต่เห็นอยู่ ตจว. แบบนี้แต่ใจกลางเมืองก็เจริญและคึกคักไม่แพ้เมืองใหญ่เลยนะครับ เมืองนี้ถือเป็นเมืองท่องเที่ยว มีความสวยงาม มีตึกรามบ้านช่องสไตล์ฝรั่งเศส ดอกไม้งดงามบานทั้งปี มีทะเลสาบ มีวิวสวยๆเต็มไปหมด จะเสียอยู่อย่างก็คือตอนนี้คนเริ่มเยอะไปหน่อยทั้งนักท่องเที่ยว​และคนท้องถิ่น เดี๋ยวดูรูปท้ายๆรีวิวครับ

เอาล่ะครับ ข้อมูล​เมืองดาลัดแค่นี้พอ เดี๋ยวจะไม่ใช่กระทู้กอล์ฟละ กลับมาที่เรื่องกอล์ฟกันดีกว่า

สนามกอล์ฟที่เมืองดาลัด​มีอยู่สองสนามด้วยกัน ที่หนึ่งอยู่ใจกลางเมือง อีกที่หนึ่งออกไปนอกใจกลางเมืองเล็กน้อย ที่ๆเราจะไปคือตัวสนามที่อยู่ใจกลางเมืองครับ

สนามนี้ชื่อว่า Dalat Palace Golf Club ตั้งอยู่ใจกลางเมืองจริงๆ ติดริมทะเลสาบหลักของเมืองเลย สร้างตั้งแต่ปี 1922 เป็นสนามแรกของประเทศเวียดนาม​ ออกแบบโดยชาวฝรั่งเศสให้คนฝรั่งเศส​ที่มาอยู่ในเมืองยุคนั้นตีกอล์ฟ​กัน แต่เป็นจักรพรรดิ​บ่าวด่าย (กษัตริย์​องค์​สุดท้าย​ของเวียด​นาม)​ ที่เข้ามาทำให้สนามแห่งนี้สมบูรณ์​ แต่ตัวมันเองก็ไม่ได้ถูกใช้งานตลอดเวลาเนื่องจากมีสงคราม ทำให้สนามแห่งนี้ปิดๆเปิดๆตลอดช่วง 70 ปีต่อมา

คลับเฮ้าส์หลังปัจจุบันถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1956 และตัวสนามก็ถูกรีโนเวทใหม่ทั้งหมดในปี 1994 กลายเป็น​สนามระดับแชมป์​เปี้ยน​ชิพ​ 18 หลุม 7009 หลา พาร์ 72



เอาละครับไปดูสนามกันดีกว่า

อย่างที่บอกไปสนามนี้มันอยู่ใจกลางเมืองจริงๆ ทำให้เดินทางสะดวกมาก ไม่ว่าจะอยู่โรงแรมไหนในกลางเมือง นั่งรถไม่น่าเกิน 15 นาทีก็ถึง และนี่คือเหตุผล​หลักที่ผมเลือกสนามนี้เพราะจะได้ไปง่าย ตีเสร็จก็ไปเที่ยวต่อ

วันที่ผมไปตีก็เลือกเอาวันธรรมดากะว่าคนไม่น่าเยอะ ผมไปดูลาดเลาก่อนวันอาทิตย์เห็นรถจอดเยอะมากๆ พนักงาน​ต้อนรับ​ก็บอกว่ามาวันจันทร์คนไม่เยอะ ไม่ต้องจองมาได้เลย

แต่เอาเข้าจริงๆผมว่าก็มีนักกอล์ฟพอสมควรเลยทีเดียว ไม่ได้น้อยอย่างที่คิด จากหน้าคลับเฮาส์​รูปแรกเมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเจอล็อบบี้เล็กๆ เล็กมากเลยหล่ะ


มีของวางโชว์ประมาณว่านี่คือโปรช็อปให้พอเป็นพิธี


ถ้าใครไม่มีลูกกอล์ฟ ที่นี่ก็มีมือสองขายแต่ไม่แนะนำให้ซื้อครับ แพงมากประมาณ 300 บาทไม่น่าถึง 10 ลูก เตรียมมาเองดีกว่า

พอเดินรอบๆคลับเฮาส์​นิดนึง เปิดประตูไปทางด่านซ้ายของคลับเฮาส์​จะเจอที่นั่งและวิวของหลุม 18 ครับ มีโมเดลปั้นหยาบๆของสนามไว้ให้ดู ก็น่ารักดีครับ




เพราะอากาศดีเมืองนี้เลยมีดอกไม้สวยๆมากมาย สนามนี้ก็เอามาปลูกหรือมาวางไว้เต็มไปหมด





มาดูราคากันนิดนึงครับ อันนี้คือราคาที่ผมจ่าย ผมเช่าไม้กอล์ฟด้วย ขอพูดถึงเฉพาะ​ walk in วันธรรมดาละกันนะครับ รายละเอียด​ที่เหลือดูรูปประกอบนะครับ

18 หลุม ราคา 2,300,000​ ด่ง (3200 บาท)​
แคดดี้ 600,000 ด่ง (850 บาท)​
รถ 800,000 ด่ง (1100 บาท)​
ไม้กอล์ฟ​ 850,000 ด่ง (ทั้งวัน)​ (1200 บาท)



ไปถึงเค้าจะขอบัตรคิวที่แคดดี้ให้มาตอนลงจากรถ จากนั้นจะให้เรากรอกแบบฟอร์ม​ก่อน เสร็จแล้วยังไม่ต้องจ่ายเงินนะครับ ที่เวียดนามเป็นแบบนี้หมด ที่นี่เค้าจะให้บัตรใส่ซองหนังมา เราไม่ต้องพกเงินลงสนามครับ จะกินอะไรก็โชว์บัตรนี้เค้าจะบันทึกเอาไว้ชำระตอนเล่นเสร็จ​กลับบ้านทีเดียวเลย สะดวกมาก ไม่รู้เมืองไทยมีใครทำแบบนี้บ้างหรือยัง

จากนั้นเค้าจะชี้ทางให้เราเดินไปเลือกไม้กอล์ฟ ซึ่งตั้งอยู่​ที่โรงแคดดี้หลังคลับเฮาส์​นั่นเอง ชุดที่ผมเลือกเป็นตัวนี้ครับ





ทั้งชุดมีเวดจ์มาให้ตัวเดียวคือ 56 ครับ แต่ผมตีแล้วรู้สึกแปลกๆ เอาไม้มาดูก้านดูโน่นนี่เยอะ จนแคดดี้รู้สึก เลยบอกว่า
"เมดอินไชน่าครับพี่"
"หา แปลว่าของปลอมเหรอ"
"ครับพี่"
แป่ววววว ทำไมสนามกอล์ฟ​ระดับนี้ใช้ของปลอมอ่ะ อืมม ผมไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่ เพราะมันก็ดูเหมือนอยู่มาก เพียงแต่สีลอกเต็มไปหมด แต่ก็อาจจะ​เป็นเพราะการใช้งานก็เป็นได้ เอาเป็นว่า​ถ้าไม่ติดอะไรเอาของตัวเองไปตีก็ดีครับ ถ้าไม่ได้ผมว่ามันก็พอตีได้แหละ ไม่ได้แย่จนตีไม่ได้ขนาดนั้น

เสร็จแล้วเข้าไปเปลี่ยนเสื้อที่ห้องล็อกเกอร์​ซึ่ง​อยู่​ข้างหลังคลับเฮาส์​เลย






ข้อเสียมากๆคืออ่างล้างมือ ที่เป่าผม มีอยู่จุดเดียวนั่นก็คือตรงประตูทางเข้าเลย ไม่มีอะไรบังทั้งนั้น ประตูทางเข้าเปิดตลอดเวลา ตรงนั้นคนเดินผ่านไปมาตลอด เป่ารองเท้าก็ตรงนั้น คนอื่นผมไม่รู้ แต่ผมส่วนตัวชอบนุ่งผ้าขนหนูไปเป่าผม ทำนู่นนี่นั่นเรียบร้อยแล้วค่อยไปแต่งตัว เล่นมาตั้งตรงทางเข้าเลยก็รู้สึกไม่ส่วนตัวเท่าไหร่

อ้อกุญแจ​ล็อกเกอร์​ต้องขอที่พนักงานต้อนรับตั้งแต่แรกเลยนะครับ

นี่คือหน้าตาสกอร์การ์ดครับ



เอาล่ะครับไปดูสนามกันเลยดีกว่า ที่นี่หลุมแรกอยู่ตรงข้ามประตู​คลับเฮาส์​เลย



วันนั้นผมไปตีคนเดียว แต่รุ่นน้องผมขอเข้าไปถ่ายรูปให้ สนามก็ใจดีให้เข้าไปฟรีไม่คิดเงินอีกต่างหาก แต่ที่แท่นทีมีก๊วนหนึ่งกำลังจะออกแล้ว แต่แคดดี้ผมเป็นผู้ชายซึ่งจัดจ้านสนามพอสมควร จัดการให้ผมขึ้นตีทันที

ผมนี่ยังไม่ได้วอร์มอะไรเลย แถมไม่ได้ตีมานานมากแล้วประมาณปีครึ่งได้มั้ง มาถึงถามผมว่าพี่จะออกหมุดอะไร (ที่เวียดนามเค้าจะเรียกเราว่าพี่ แทนตัวเองว่าน้อง) ผมบอกหมุดขาวดีกว่า บอกระยะ 147 หลา ผมขอเหล็ก 7 คิดว่าระยะมันต้องมีหายบ้างไม่ได้ตีมานาน แต่​เอาเข้าจริงตีไปเกี่ยวเข้าซ้ายตกลงหลังกรีนไปนิดนึง

สภาพกรีนที่นี่ดีกว่าครั้งที่แล้วที่ผมไปตีที่ฮานอยตามกระทู้​ที่เคยโพสไป มีรอยบ้างแต่กรีนเร็วจี๋เลย




แต่ทรายแด้งๆแดง แน่นปั๊กเลย



อากาศที่นี่ดีจริงๆครับ วันนั้นไม่มีแดดเลย เช้าๆเย็นเจี๊ยบแต่ไม่ถึงกับหนาว ใครอยากแต่งตัวเท่ๆแบบคนตีกอล์ฟที่เมืองนอกละก็ มาที่นี่ได้แต่งสมใจครับ และแต่งได้ทั้งปีด้วย







ตัวสนามจะเป็นลักษณะ​มีขึ้นและมีลงตามสภาพภูมิประเทศ​ ต้นไม้ส่วนใหญ่​จะเป็นต้นสนตามธรรมชาติ​ของเมืองนี้ บางทีตีหลุดไปนิดหน่อย ตีสู้ยากเหมือนกัน​เพราะจะโดนกิ่งมันบล็อกทางเอาไว้






แต่ถ้าถามว่าสนามยากไหม ระดับฝีมือกระจอกแบบผมบอกได้เลยว่าไม่ยากเลย แฟร์เวย์ออกจะกว้าง แถมส่วนใหญ่จะตรงๆด้วย ดอกเลคก็มีบ้างแต่มีไม่กี่หลุม คาดว่าส่วนหนึ่งก็น่าจะเพราะโครงส​ร้างเดิมด้วย ออกแบบมาตั้งแต่ 1922 ก็คงปรับจากแบบเดิมไม่มากเท่าไหร่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่