What's not down, mate?!
กลับมาเรียนภาษาอังกฤษกับมุขตลกหนึ่งบรรทัด หรือที่เราเรียกว่า '
One-liner joke'
หากใครยังไม่เคยอ่าน Part 1 ขอยกตัวอย่าง One-liner ในภาษาไทยให้ดูก่อน
"
คุณจะไม่มีวันแก่เกินไปที่จะเรียนรู้เรื่องโง่ ๆ"
ขึ้นประโยคมาเหมือนจะให้กำลังใจแบบ ไม่แก่เกินไปที่ทำอย่างเรื่องที่ยากเย็นอะไรประมาณนี้ แต่กลับซ้ำเติมซะนี่!
ประโยค One-liner คืออะไรแบบนี้แหละ พูดง่าย ๆ คือชอบมี Plot twist หรือการหักมุมเกิดขึ้นตลอด
ส่วนในภาษาอังกฤษนั้นนอกจากจะอาศัยการหักมุมของประโยคเพื่อให้เกิดความฮาแล้ว ยังชอบใช้ความหมายแบบตรงตัวของสำนวนเพื่อทำให้คนฟังขำอีกด้วย
กระทู้นี้ผมทำต่างจากพาร์ทแรกคือจะยกคำศัพท์ที่ยาก ๆ ในประโยคมาให้อ่านก่อน เผื่อจะทำให้ขำตั้งแต่ครั้งแรกที่อ่านได้
Let's roll!
_______________
คำศัพท์ที่ควรรู้ก่อน: Difference (n.) ความแตกต่าง / Ignorance (n.) ความเขลา / Apathy (n.) ความเฉยเมย
1. A: "
What’s the difference between ignorance and apathy?"
B: "
I don’t know and I don’t care."
A: ความเขลากับความเฉยเมยต่างกันอย่างไร
B: ฉันไม่รู้และฉันก็ไม่สน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มันฮาตรงไหน? เราสามารถตีความคำตอบของ B ได้สองแบบคือ เขาไม่รู้และก็ไม่สนจริง ๆ หรือเขาอาจจะตอบคำถามด้วยคำตอบนี้แหละ!
เพราะ Ignorance (n.) แปลว่า ความไม่รู้หนังสือ, การไร้การศึกษา หรือความเขลา
เหมือนกับคนที่เอาแต่พูดว่า "ฉันไม่รู้" แต่ไม่ยอมไปศึกษาด้วยตัวเอง เราจะเรียกคนแบบนี้ว่า 'Ignorant people'
ส่วน Apathy แปลว่า การขาดความกระตือรือร้น ขาดความสนใจ เพิกเฉยต่อทุกสิ่งรอบด้าน
เหมือนกับคนที่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็พูดว่า "ฉันไม่สน" และปล่อยให้คนรอบข้างเดือดร้อนแทน เราเรียกคนแบบนี้ว่า "Apathetic people"
_______________
คำศัพท์ที่ควรรู้ก่อน: Genre (n.) ประเภท, แนว
2. "
If someday we all go to prison for downloading music, I hope they split us by music genre."
"ถ้าวันหนึ่งพวกเราติดคุกเพราะดาวน์โหลดเพลงจากเว็ปเถื่อน ฉันหวังว่าเขาจะแยกขังตามแนวเพลงนะ"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แบบว่ามีคุกบลูส์ คุกเมทัล คุกเร็กเก อะไรแบบนี้ใช่มั้ย จะว่าไปมันก็อาจจะไม่ได้เป็นคุกที่แย่เท่าไหร่ ถ้ามีกีตาร์ให้สักตัวอ่ะนะ! ทำอัลบั้มในคุกยาว ๆ เลย
Split (v) แปลว่า แยก อย่าไปสับสนกับ Spit (v.) ที่แปลว่า ถ่มน้ำลาย นะ ต่างกันแต่เสียงควบกล้ำ L
_______________
คำศัพท์ที่ควรรู้ก่อน: Form (v.) สร้าง / Trick (n.) เคล็ดลับ / An emotional bond (n.) ความผูกพัน
3. "
A lot of people cry when they cut onions. The trick is not to form an emotional bond."
"หลายคนร้องไห้เวลาหั่นหอมหัวใหญ่ เคล็ดลับคืออย่าสร้างความผูกพันกับมัน"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คือเขากำลังจะบอกเราว่าถ้าไม่อยากให้น้ำตาไหลเวลาหั่นหอมหัวใหญ่ ก็อย่าไปรู้สึกอะไรกับมัน อย่าไปพูดคุย อย่าไปสบตา ไม่เอา! เวลาจากกันจะได้ไม่ต้องเสียใจจนน้ำตาไหล
แต่มันไม่ใช่แล้วโว้ย! ที่ร้องไห้เพราะมันแสบตา (Onions burn eyes!) ไม่ได้มี emotional bond (ความรู้สึกผูกพัน) อะไรทั้งสิ้น!
_______________
4. “
Next time I send a damn fool,
I go myself!”
"ครั้งหน้าถ้าฉันจะส่งคนโง่ไป ฉันไปเองดีกว่า!"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ว่ากันว่าเป็นคำกล่าวของจ่าสิบเอกลูวิส คูเคลา ระหว่างทำสงความเบโล (Belleau) ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
เขาคงพูดมันด้วยอารมณ์ถากถาง ส่งคนไปกี่ที่ก็ไม่เคยสำเร็จ มีแต่พวกโง่ ๆ ทั้งนั้น ครั้งหน้าจะส่งใครไปเลยขู่ไปก่อนว่าถ้าทำไม่สำเร็จเขาจะลงมือเอง!
แต่ที่มันทำให้คนฟังต้องอมยิ้มเพราะว่าประโยคนี้มันสามารถแปลว่าคนโง่ที่เขาจะส่งไปนั่นก็คือตัวเขาเองนั่นแหละ เก็ทมั้ย?
_______________
5. “
Love is like a fart. If you have to force it it’s probably sh*t.”
"ความรักก็เหมือนตด ถ้าคุณฝืนมันอาจจะกลายเป็นขี้ก็ได้"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขอโทษที่ต้องใช้คำที่ทำให้เห็นภาพที่ไม่น่าชม ฮ่า ๆ คำว่า shit ในภาษาอังกฤษนอกจากจะแปลแบบข้างบน ยังแปลว่า bad ได้ด้วยนะ เช่น That movie was sh*t!
ดังนั้นประโยคเราสามารถแปลว่า 'ถ้าคุณฝืนมัน มันอาจจะแย่ก็ได้' แต่แน่นอนว่าคนพูดประโยคนี้เขาไม่ได้หมายความอย่างงั้น!
*Fart สามารถเป็นได้ทั้ง verb และ noun (เติม a ด้วย)
______________
6. “
I was thinking of running a marathon, but I think it might be too difficult getting all the roads closed and providing enough water for everyone.”
"ผมเคยคิดอยากจะลองวิ่งมาราธอนดูสักหน่อย แต่คิดไปคิดมามันก็ยากเกิน ไหนจะต้องทำเรื่องปิดถนนและหาน้ำมาแจกจ่ายให้ทุกคนอีก"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คือเขาก็ไม่ได้พูดผิดอะไร เพราะ Run (v.) นอกจากจะแปลว่า วิ่ง แล้ว มันยังสามารถแปลว่า จัดงาน, บริหาร, ดำเนินงาน ได้ด้วย
แต่ที่มันกวนบาทาก็เพราะว่าเมื่อเขาเกริ่นขึ้นมาว่า "I was thinking of runnning a marathon..." ใคร ๆ ก็ต้องแปล run ว่า วิ่ง ทั้งนั้น และคงกำลังรอฟังว่ามีเหตุผลอะไรที่ทำให้เขาไม่ได้วิ่งตามที่คิดไว้ แต่ดันพูดถึง "run" a marathon ที่แปลว่า จัดงานวิ่งมาราธอน เฉยเลย
_______________
คำศัพท์ที่ควรรู้ก่อน: Recent (adj.) ไม่นานมานี้ / Mention (v.) กล่าว, เอ่ยขึ้นมา
7. "
A recent study has found that women who carry a little extra weight live longer than the men who mention it."
"งานวิจัยเมื่อไม่นานมานี้บอกว่าผู้หญิงที่อวบนิด ๆ มีอายุยืนกว่าผู้ชายที่พูดเรื่องนี้ให้เธอฟัง"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผู้ชายก็ฟัง ๆ ไว้ ถ้าอยากอายุยืน ก็อย่าไป mention ให้เธอได้ยิน! ส่วนตัวผมชอบวลีเด็ดวลีหนึ่งคือ "น้ำหนักเพิ่มที่ตัวฉัน แต่ไปหนักที่หัวเธอได้ไง" (Does your head get heavier because I'm fat?) ก็นั่นนะซี!
ในภาษาอังกฤษมีความด่าประมาณนี้ว่า "It's none of your business." / "Stick your nose somewhere else!" หลายคนน่าจะรู้จักละ
_______________
คำศัพท์ที่ควรรู้ก่อน: Chase (v.) ไล่จับ / Amused (adj.) เพลิดเพลิน
8. "
As I watched the dog chasing his tail, I thought, "Dogs are easily amused." Then I realized I was watching the dog chase its tail."
"ในขณะที่ฉันนั่งมองหมาไล่กัดหางตัวเอง ฉันคิด "หมานี่มีความสุขได้ง่ายจริง ๆ" แล้วฉันก็นึกได้ว่าฉันกำลังนั่งดูหมาไล่กัดหางตัวเอง"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ประโยคนี้ไม่ได้เล่นคำหรือความหมายอะไร และมันเล่นกับคำถามที่ว่า 'สรุปแล้วใครมีความสุขได้ง่ายกว่ากัน?'
หมามันยังต้องลุกขึ้นมาวิ่งกัดหางตัวเองถึงจะสนุกได้ แต่ตัวเราเองแค่นั่งดูมันไล่กัดหางตัวเองก็เพลินละ ยังกล้ามาบอกว่าความสุขของหมามันแสนง่ายดายอีก!
*Amuse (v.) แปลว่า ทำให้มีความสุข, ทำให้เพลิดเพลิน (to entertain someone; to keep some happy, especially for a short time) หากใช้ในรูป passive voice (I'm amused by..., she was totally amused etc.) ก็แปลว่า 'รู้สึกเพลินเพลิด' หรือแฮปปี้นั่นแหละ
_______________
คำศัพท์ที่ควรรู้ก่อน: Ultimate (adj.) ขั้นสูงสุด
9. "
It's funny how axe handles are made of wood. It's like the ultimate 'F**k you' to trees."
"ตลกดีนะที่ด้ามจับขวานถูกทำมาจากไม้ เหมือนเป็นการเหยียดหยามต้นไม้ขั้นสูงสุด"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พอมาคิดดูแล้วมันก็จริงนะ เอาร่างกายต้นไม้มาทำเป็นด้ามจับเพื่อไปตัดต้นไม้เพิ่มอีก สุดยอดไปเลยมนุษย์!
_______________
คำศัพท์ที่ควรรู้ก่อน: Criticize (v.) วิจารณ์ / Walk a mile in someone's shoes (idiom) เรียนรู้เรื่องราวชีวิตของคนหนึ่ง (Idiom คือสำนวนที่เราจะไม่แปลแบบตรงตัว)
10. "
Never criticize someone until you've walked a mile in their shoes. That way, when you criticize them, they won't be able to hear you from that far away. Plus, you'll have their shoes."
"อย่าวิจารณ์ใครสักคนก่อนคุณได้เดินหนึ่งไมล์ด้วยรองเท้าของเขา เมื่อทำแบบนั้นคุณจะวิจารณ์ยังไงก็ได้เพราะเขาคงไม่ได้ยิน แถมคุณยังได้รองเท้าเขามาด้วย"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มุขนี้เป็นการเล่นความหมายของสำนวน 'to walk a mile in someone's shoes' แปลตรงตัวว่า "ใส่รองเท้าของใครสักคนแล้วลองเดินหนึ่งไมล์" แต่ความหมายของมันคือ "เรียนรู้เรื่องราวในชีวิตของเขา"
ภาษาอังกฤษนิยามไว้ว่า
"To spend time trying to consider or understand another person's perspectives, experiences, or motivations before making a judgment about them. (ใช้เวลาศึกษาหรือพยายามเข้าใจมุมมองและประสบการณ์ชีวิตของใครคนหนึ่ง ก่อนจะตัดสินเขา)"
ดังนั้นประโยคแรก 'อย่าวิจารณ์ใครสักคนก่อนคุณได้เดินหนึ่งไมล์ด้วยรองเท้าของเขา' จึงสามารถแปลให้ถูกต้องตามความหมายได้ว่า 'อย่าวิจารณ์ใครสักคนก่อนคุณได้เรียนรู้ชีวิตเขา' แต่ถ้าอยากฮากับมุขนี้ต้องแปลแบบตรงตัว
_______________
จบไปกับ Part 2 ขำไม่ขำยังไงคอมเมนต์บอกได้นะ แต่อย่างที่บอกไป มันต้องเข้าใจคำศัพท์ทุกคำก่อน ทั้งความหมายตรงตัวและความหมายเชิงสำนวนด้วย หากอ่านจนเข้าใจหมดแล้ว มันต้องทำให้อมยิ้มได้สักหน่อยแหละน่า!
'ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่างในวันนี้ รู้มากกว่าเมื่อวานนี้ก็พอ'
รู้ภาษาอังกฤษมากขึ้นทุกวันที่:
www.facebook.com/MyFathersAnEnglishMan (Page:
พ่อผมเป็นคนอังกฤษ)
Stay knowledge-hungry
JGC.
Read also:
-
ฝึกตีความมุขตลกภาษาอังกฤษแบบขำ ๆ กับ One-liner joke (
https://pantip.com/topic/35449261)
ฝึกตีความมุขตลกภาษาอังกฤษแบบขำ ๆ กับ One-liner joke (Part 2)
กลับมาเรียนภาษาอังกฤษกับมุขตลกหนึ่งบรรทัด หรือที่เราเรียกว่า 'One-liner joke'
หากใครยังไม่เคยอ่าน Part 1 ขอยกตัวอย่าง One-liner ในภาษาไทยให้ดูก่อน
"คุณจะไม่มีวันแก่เกินไปที่จะเรียนรู้เรื่องโง่ ๆ"
ขึ้นประโยคมาเหมือนจะให้กำลังใจแบบ ไม่แก่เกินไปที่ทำอย่างเรื่องที่ยากเย็นอะไรประมาณนี้ แต่กลับซ้ำเติมซะนี่!
ประโยค One-liner คืออะไรแบบนี้แหละ พูดง่าย ๆ คือชอบมี Plot twist หรือการหักมุมเกิดขึ้นตลอด
ส่วนในภาษาอังกฤษนั้นนอกจากจะอาศัยการหักมุมของประโยคเพื่อให้เกิดความฮาแล้ว ยังชอบใช้ความหมายแบบตรงตัวของสำนวนเพื่อทำให้คนฟังขำอีกด้วย
กระทู้นี้ผมทำต่างจากพาร์ทแรกคือจะยกคำศัพท์ที่ยาก ๆ ในประโยคมาให้อ่านก่อน เผื่อจะทำให้ขำตั้งแต่ครั้งแรกที่อ่านได้
Let's roll!
_______________
คำศัพท์ที่ควรรู้ก่อน: Difference (n.) ความแตกต่าง / Ignorance (n.) ความเขลา / Apathy (n.) ความเฉยเมย
1. A: "What’s the difference between ignorance and apathy?"
B: "I don’t know and I don’t care."
A: ความเขลากับความเฉยเมยต่างกันอย่างไร
B: ฉันไม่รู้และฉันก็ไม่สน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
_______________
คำศัพท์ที่ควรรู้ก่อน: Genre (n.) ประเภท, แนว
2. "If someday we all go to prison for downloading music, I hope they split us by music genre."
"ถ้าวันหนึ่งพวกเราติดคุกเพราะดาวน์โหลดเพลงจากเว็ปเถื่อน ฉันหวังว่าเขาจะแยกขังตามแนวเพลงนะ"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
_______________
คำศัพท์ที่ควรรู้ก่อน: Form (v.) สร้าง / Trick (n.) เคล็ดลับ / An emotional bond (n.) ความผูกพัน
3. "A lot of people cry when they cut onions. The trick is not to form an emotional bond."
"หลายคนร้องไห้เวลาหั่นหอมหัวใหญ่ เคล็ดลับคืออย่าสร้างความผูกพันกับมัน"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
_______________
4. “Next time I send a damn fool, I go myself!”
"ครั้งหน้าถ้าฉันจะส่งคนโง่ไป ฉันไปเองดีกว่า!"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
_______________
5. “Love is like a fart. If you have to force it it’s probably sh*t.”
"ความรักก็เหมือนตด ถ้าคุณฝืนมันอาจจะกลายเป็นขี้ก็ได้"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
______________
6. “I was thinking of running a marathon, but I think it might be too difficult getting all the roads closed and providing enough water for everyone.”
"ผมเคยคิดอยากจะลองวิ่งมาราธอนดูสักหน่อย แต่คิดไปคิดมามันก็ยากเกิน ไหนจะต้องทำเรื่องปิดถนนและหาน้ำมาแจกจ่ายให้ทุกคนอีก"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
_______________
คำศัพท์ที่ควรรู้ก่อน: Recent (adj.) ไม่นานมานี้ / Mention (v.) กล่าว, เอ่ยขึ้นมา
7. "A recent study has found that women who carry a little extra weight live longer than the men who mention it."
"งานวิจัยเมื่อไม่นานมานี้บอกว่าผู้หญิงที่อวบนิด ๆ มีอายุยืนกว่าผู้ชายที่พูดเรื่องนี้ให้เธอฟัง"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
_______________
คำศัพท์ที่ควรรู้ก่อน: Chase (v.) ไล่จับ / Amused (adj.) เพลิดเพลิน
8. "As I watched the dog chasing his tail, I thought, "Dogs are easily amused." Then I realized I was watching the dog chase its tail."
"ในขณะที่ฉันนั่งมองหมาไล่กัดหางตัวเอง ฉันคิด "หมานี่มีความสุขได้ง่ายจริง ๆ" แล้วฉันก็นึกได้ว่าฉันกำลังนั่งดูหมาไล่กัดหางตัวเอง"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
_______________
คำศัพท์ที่ควรรู้ก่อน: Ultimate (adj.) ขั้นสูงสุด
9. "It's funny how axe handles are made of wood. It's like the ultimate 'F**k you' to trees."
"ตลกดีนะที่ด้ามจับขวานถูกทำมาจากไม้ เหมือนเป็นการเหยียดหยามต้นไม้ขั้นสูงสุด"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
_______________
คำศัพท์ที่ควรรู้ก่อน: Criticize (v.) วิจารณ์ / Walk a mile in someone's shoes (idiom) เรียนรู้เรื่องราวชีวิตของคนหนึ่ง (Idiom คือสำนวนที่เราจะไม่แปลแบบตรงตัว)
10. "Never criticize someone until you've walked a mile in their shoes. That way, when you criticize them, they won't be able to hear you from that far away. Plus, you'll have their shoes."
"อย่าวิจารณ์ใครสักคนก่อนคุณได้เดินหนึ่งไมล์ด้วยรองเท้าของเขา เมื่อทำแบบนั้นคุณจะวิจารณ์ยังไงก็ได้เพราะเขาคงไม่ได้ยิน แถมคุณยังได้รองเท้าเขามาด้วย"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
_______________
จบไปกับ Part 2 ขำไม่ขำยังไงคอมเมนต์บอกได้นะ แต่อย่างที่บอกไป มันต้องเข้าใจคำศัพท์ทุกคำก่อน ทั้งความหมายตรงตัวและความหมายเชิงสำนวนด้วย หากอ่านจนเข้าใจหมดแล้ว มันต้องทำให้อมยิ้มได้สักหน่อยแหละน่า!
'ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่างในวันนี้ รู้มากกว่าเมื่อวานนี้ก็พอ'
รู้ภาษาอังกฤษมากขึ้นทุกวันที่: www.facebook.com/MyFathersAnEnglishMan (Page: พ่อผมเป็นคนอังกฤษ)
Stay knowledge-hungry
JGC.
Read also:
- ฝึกตีความมุขตลกภาษาอังกฤษแบบขำ ๆ กับ One-liner joke (https://pantip.com/topic/35449261)