ขอคำแนะนำดีๆ สำหรับวิธีโน้มน้าวให้แฟนที่อยู่ในสภาวะเครียด ซึมเซา เข้ารับการรักษาค่ะ

สวัสดีค่ะ แฟนเราอายุมากกว่าประมาณ 4 ปีนะคะ วัยทำงานทั้งคู่
คบกันมาประมาณ 4 ปี กำลังจะเข้าปีที่ 5 ยังไม่แต่งงานค่ะ
จริงๆอยู่ด้วยกันมาก็พอจะทราบบ้างว่าเขามีปมในใจ
จากเหตุการณ์ในชีวิตหลายๆเรื่องแต่ช่วง 3-4 ปีหลังมานี้
อาการจะหนักขึ้นเรื่อยๆ จนเคยเลิกกันไปครั้งหนึ่ง
หลังจากนั้นกลับมาคบกัน บวกกับปัญหาในชีวิตที่มากขึ้น
ความเครียดกดดันจากการทำงานและสภาพจิตใจที่แย่
ทำให้เขาเป็นคนคิดในแง่ลบและคิดมาก มีอารมณ์แปรปรวนค่ะ
บางครั้งอารมณ์รุนแรง บางครั้งก็จะซึมเซา เบื่อโลก อยากตาย
และอาการอื่นๆ ซึ่งเราคิดว่าไม่ปกติ แต่น่าจะเกิดจากผลกระทบหลายๆอย่าง
ซึ่งมันก็กระทบต่อชีวิตคู่ของเรามาก

ถ้าถามว่าเขารู้ตัวมั้ย เราว่ารู้ แต่กึ่งๆยังไม่ยอมรับ และคิดว่าไม่อยากรักษา
ไม่อยากเล่าเรื่องอะไรให้หมอฟัง หรืออาจยังไม่ยอมรับว่าตัวเองป่วยจริงๆรึเปล่า
หรือกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย กังวลเรื่องการรักษา เราก็ไม่แน่ใจ
แต่เขาเลือกที่จะบำบัดตัวเองโดยการติดเหล้า เบียร์ และสูบบุหรี่
ซึ่งเราพยายามห้ามมาตลอด แต่เขามักใช้เป็นข้ออ้างว่า มันคือทางเลือกที่เขา
จะมีความสุข ทำให้อารมณ์ก็ยิ่งแปรปรวน แล้วร่างกายเขาก็ทรุด
ทั้งๆที่เป็นคนออกกำลังกายบ่อย เริ่มมีอาการเจ็บป่วยทางร่างกาย
แต่ก็ยังดื้อไม่ยอมหาหมอ หรือแม้แต่กินยาบรรเทา จนตอนนี้เราไม่รู้จะทำยังไง
จะพาเขาไปรักษากายหรือใจก่อนดี เราไม่อยากให้เขาทุกข์ทน ทรมานแบบนี้

หรือเราควรรักษาตัวเองก่อน เราอาจป่วย เลยช่วยเขาไม่ได้
เพราะบางทีก็เริ่มคิดว่าตัวเองน่าจะมีอาการจิตตกไปด้วย
สังเกตจากพฤกติกรรมตัวเองที่ชอบนั่งนิ่งๆคนเดียว คิดเรื่องต่างๆ
แล้วร้องไห้ออกมาบ่อยๆ แต่เราก็ไม่อยากโทษว่าเป็นเพราะเขา
เพราะเราก็มีเรื่องเครียดๆ จากงานหรือเรื่องอื่นๆอยู่แล้ว
เราเลยอยากขอคำปรึกษาค่ะ....

1) เราจะใช้ชีวิตคู่ต่อไปยังไงกับคู่ชีวิตที่ป่วยทางใจแบบนี้
จะประคับประคองยังไง ปรับความคิดตัวเองยังไง ?
บางทีเรารู้สึกว่าเขาอยู่กับเราไม่มีความสุขเลย อยากเลิกกับเรา
แต่เราไปเขากลับอยู่ไม่ได้ เราก็ไม่สามารถทิ้งเขาได้เลย
เราไม่รู้ว่าถ้าเราไม่อยู่จริงๆเขาจะต้องเผชิญกับอะไรคนเดียวบ้าง
หรืออาจมีความสุขก็ได้ เราไม่กล้าเสี่ยงเลย

2) เรื่องการรักษา ใครที่เคยมีประสบการณ์ จะพอแนะนำเราได้มั้ยคะ
เราเองก็ยังเริ่มต้นไม่ค่อยถูก ไม่รู้จะเข้าไปปรึกษาอย่างไร
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นประมาณเท่าไหร่ จะต้องเตรียมตัวอย่างไร
เรากลัวเข้าไปปรึกษาแล้วพูดอะไรไม่ออก

3) ข้อแนะนำอื่นๆ จากทุกคนค่ะ หรือกำลังใจดีๆก็ได้ค่ะ

ขอบคุณนะคะ

*** ถ้าเว้นวรรค ดูอ่านยากต้องขออภัยด้วยนะคะ เราตั้งกระทู้กับโทรศัพท์ บรรทัดอาจมีกระโดดบ้างค่ะ ***
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่