ฉีดยาให้ฝ่อ ยังไงดีครับ

ฉีดยาให้ฝ่อ!! ยังไงดี


เมื่อวานหลายคนคงได้อ่านข่าวสะเทือนใจนะครับ ที่ว่ามีวัยรุ่นวัยเห่อมอย 5 คน ไปกระทำพฤติกรรมชั่วๆ กับน้องผู้หญิงอายุ 12 ปี และจากนั้นก็มีผู้ใหญ่ใจดีวัยหมอกหงอยเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยให้เป็นเรื่องชิลๆ ขำๆ ไป จนเป็นที่ฮือฮาทั้งโซเชี่ยวในความเป็นคนยิ้มของผู้ใหญ่และเยาวชนกลุ่มนี้นะครับ

เรื่องคดีก็คงปล่อยให้เป็นเรื่องของกฎหมายไป วันนี้หลายภาคส่วนก็คงลงพื้นที่ไปแล้ว แต่สิ่งนึงที่จะถูกยกขึ้นมาทุกครั้งเวลามีคดีทางเพศหรือข่มขืนนี่แหละ ว่าริบของกลางหรือตัดเลยดีไหม!!

จริงๆ เรื่องนี้เถียงกันมานานแล้วหละครับ และก็ทำไปหลายประเทศแล้ว ทั้งฝรั่งและเอเชีย ซึ่งล่าสุดเกาหลีก็เพิ่งประกาศใช้วิธีนี้ในนักโทษที่ก่อคดีกับเด็กต่ำกว่า 16 หรือก่อคดีซ้ำซากนะครับ

หลักการคืออะไร เค้าเชื่อว่าคนไข้ที่ก่อคดีแบบนี้บ่อยๆ เนี่ย น่าจะมีฮอร์โมนเพศชายเยอะเกิน ซึ่งหลายคนคงรู้จักนะครับ เจ้าเทสโทสเตอโรนนั่นแหละ ซึ่งมีในผู้ชายทุกคน มีแล้วก็ทำให้คึกคัก ห้าวเป้ง บ้าพลัง ​รวมทั้งมีอารมณ์ทางเพศ ครับ

ทีนี้ถ้ามีในระดับปกติ ก็จะเป็นเหมือนคนทั่วไป สุภาพ เรียบร้อย เหมือนแอดมินนี่แหละเอะอะเข้าวัดเข้าวา  แต่ในบางคนมันมากไป แล้วขาดความยับยั้งชั่งใจ ก็จะไปหาที่ลงแบบไม่ดี อย่างไปก่อคดีพวกนี้แหละครับ

ดังนั้นเมื่อก่อคดีแบบนี้ปุ๊บ ก็เลยมีคนคิดว่านอกจากจะติดคุกแล้ว เราก็ควรจะลดฮอร์โมนเพศไปด้วยดีไหมเพื่อที่สังคมจะได้ปลอดภัย ไม่ไปก่อคดีอีกทีหลัง ก็เลยเกิดสารพัดวิธีนี่แหละครับ

ปกติทางการแพทย์เนี่ย เรามีวิธีลดฮอร์โมนเพศชายอยู่แล้วครับ เพื่อเอามารักษาในคนไข้ที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งก็มีให้เลือก 2 วิธีคือ
1.ผ่าตัดเอาลูกไข่ออก ซึ่งเป็นตัวผลิตฮอรโมน วิธีนี้ก็ง่าย สะดวก ประหยัดดี กับ
2.ฉีดยากดฮอรโมน ซึ่งก็ได้ผลเหมือนกัน ข้อดีคือไม่ต้องผ่า เก็บสองลูกนั้นไว้ได้ แต่ต้องฉีดยาทุก 3 เดือนตลอดชีวิตครับ ค่ายาปีเป็นแสนเลยครับ

ทีนี้ผลของการไม่มีฮอร์โมนเพศชายแล้วเป็นไง ก็คือจะหงอยเหงา ซึมเซาครับ ความต้องการทางเพศลด ความแข็งก็ลด ขนาดที่มีก็ลด จากเท่าขาก็อาจเหลือเท่าแขน จากเท่าแขนก็อาจเหลือเท่านิ้วได้ ซึ่งตรงนี้แหละ เค้าเลยคิดว่าถ้าเอามาใช้กับนักโทษคดีพวกนี้แล้วสังคมน่าจะปลอดภัยขึ้นครับ

แล้วดีจริงไหม  อันนี้ก็มีข้อสังเกตครับ ซึ่งหลายประเทศก็เถียงกันมานานแล้วว่า

1.คดีข่มขืนลดลงจริงหรือ เค้าก็ไปหาข้อมูลดูครับ พบว่าคดีข่มขืนลดลงได้เล็กน้อย แต่ถ้าเกิดแล้วหนักกว่าเดิมครับ คือสมมติจากเมื่อก่อนข่มขืนเสร็จแยกย้าย กลายเป็นข่มขืนเสร็จแล้วฆ่าปิดปากเลย เนื่องจากกลัวโดนจับได้ทีหลัง กลายเป็นหนักกว่าเดิมครับ

2.แล้วถ้าเป็นแพะหละ คือระบบยุติธรรมบ้านเราก็ยังเป็นที่คาใจในหลายๆ เรื่องครับ และถ้าหากคนที่โดนดันเป็นแพะขึ้นมา ตัดไปแล้วมารู้ที่หลังว่าเป็นแพะ แล้วจะเอาที่ไหนมาคืนเค้าครับ ยิ่งปัจจุบันมีแบบเอาก่อนฟ้องทีหลังด้วย พวกนี้แหละน่ากลัวครับ

3.ใครจ่าย อันนี้ก็เป็นปัญหาครับ อย่างล่าสุดที่อังกฤษก็มีคนโวยวายว่าคุ้มไหม กับการต้องเอาภาษีปีเป็นแสนมาจ่ายเป็นค่ายากดฮอร์โมนให้ผู้ต้องหา 1 คน ในขณะที่คนไข้มะเร็งต่อมลูกหมาก 30 บาทยังเบิกยาตัวนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ

และสุดท้ายต่อให้กำจัดฮอร์โมนเพศชายจริง จะลดพฤติกรรมได้จริงหรือ คืออย่างที่เห็นปัจจุบันผู้หญิงหลายคนก็ก่อคดีได้สะเทือนขวัญไม่แพ้กันทั้งที่ไม่มีฮอร์โมนเพศ ดังนั้นก็เลยมีทั้งประเทศที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเถียงกันนานแล้วหละครับ

ก็สุดท้ายในความเห็นส่วนตัวนะครับ วิธีนี้ก็เป็นอีกวิธีที่น่าสนใจ แต่ในขณะเดียวกันก็ควรใช้เฉพาะในรายที่เกิดซ้ำซากจริงๆ แบบเกินจะเยียวยาแล้ว และสู้คดีกันถึงที่สุดจนมั่นใจได้ว่าไม่ใช่แพะแน่ๆ ก็เอามาจัดการเหอะครับ และก็ควรผ่าตัดแบบทีเดียวจบ ไม่ต้องมาฉีดยาทุกสามเดือนให้เป็นภาระหมอพยาบาลครับ

#ข่มขืนฉีดยาได้แต่ผู้ใหญ่ที่เสร่อมาช่วยนี่ฉีดไรดีครับ

ไม่ได้ทะลึ่งนะครับ แต่เพียงต้องการให้ข้อมูลตามหลักวิชา และเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของร่างกายที่ถูกต้อง
เดี๋ยวนี้มีเพจด้วยนะ  http://www.facebook.com/sarikahappymen   ฝากไปกดไลค์ให้ด้วยนะครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่