อย่างที่มีกระทู้ก่อนๆบอกว่า MUT ก็พยายามแก้ปัญหากันมาตลอด เพื่อคัดสาวงามที่ดีที่สุดไปลุ้นมง MU และเราก็เห็นด้วยว่าพวกคุณพยายามทำดีที่สุดแล้วจริงๆ
V
V
จากนี้จะเป็นสิ่งที่อยากฝากถึงคณะกรรมการ MUT เพิ่มเติมเพราะคงเห็นแล้วว่า Top5 มีสาวน่ารักอย่างเวียดนามเข้ารอบขนิดเตะตัดขาตัวเก็งร่วงแบบพลิกโผ เราเลยวิเคราะห์ว่าถ้าไทยอยากได้มงปีต่อไป อะไรคือสิ่งที่นางงามควรมี?
1. สวยแบบเปล่งประกายและโดดเด่น - ไม่จำเป็นต้องพิมพ์นิยมเสมอไป แต่ขอให้มองแล้วอยากมองอีก มองได้เรื่อยๆ จะน่ารักจะสวยหวานจะโทนไหนก็แล้วแต่ ขอให้ความสวยเปล่งประกายจากข้างในทะลุออกมาจนคนดูรับรู้ได้ (ยกตัวอย่างปีน้ำตาล จำได้ว่าชาวต่างชาติชมเรื่องนี้มาก สวยแบบไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน)
2. มีพลังบวก - เป็นนางงามต้องรับแรงกดดันเยอะมาก ตั้งแต่ได้ตำแหน่ง MUT ยันประกวด MU จบ และแน่นอนว่าต่อให้สวยถูกใจคนส่วนใหญ่แค่ไหนก็ต้องมีคนไม่ชอบเข้ามาติว่าด่าทอและ bully แบบเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นหานางงามที่ต้นทุนด้านนี้สูงไว้ก่อนจะได้เปรียบมาก
3. มีทัศนคติบวก - หลังจากอดทนกับแรงกกดันได้ดีแล้ว ต้องเดินหน้าต่อได้ มองเห็นสิ่งดีในสิ่งไม่ดี ไม่เอาความคิดลบมาตัดทอนกำลังใจตัวเอง ตรงนี้สำคัญมากเพราะการแสดงออกและคำพูดต่างๆมาจากทัศนคติเกือบทั้งหมด เราว่าในกองประกวดมีผู้เชี่ยวชาญด้านนี้อยู่แล้วและเทรนนางงามให้มีทัศนคติที่ดีทุกปี แต่เพิ่มเรื่อง cyber bully เข้าไปเยอะๆ สร้างเกราะเข้มแข็งให้มากสุดเท่าที่จะทำได้
4. มีความเป็นธรรมชาติ - นางงามที่บุคลิกเรียบร้อย สง่า นางพญา บางทียังสู้คนที่ดูเป็นธรรมชาติสบายตาไม่ได้
5. แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่ง - นางงามที่มีความคล่องตัวสูงจะได้เปรียบทุกสถานการณ์ รับแรงกดดันได้ดีโดยอัตโนมัติจนแทบไม่ต้องเทรนเพิ่ม
พอหาได้ครบทั้ง 5 ข้อ เราก็จะได้นางงามที่มี "ความมั่นใจ" นั่นเองค่ะ 5555
เห็นหลายกระทู้วิเคราะห์ตรงกันว่านางงามไทยส่วนใหญ่ขาดความมั่นใจซึ่งเราก็คิดเหมือนกันว่าร้อยความสวย สิบความฉลาด ยังไม่เท่าหนึ่งความมั่นใจ และเชื่อว่าคณะกรรมการก็มองหานางงามที่มีคุณสมบัติเหล่านี้ แต่เบื้องหลังความมั่นใจมันมีดีเทลหลายอย่างที่จะช่วยให้คุณสมบัติหลักแกร่งขึ้น
ต่อไปเป็นคุณสมบัติที่(อาจ)จะได้รับการพิจารณาเพิ่มจาก IMG เป็นพิเศษ
1. มีความสูง 173 ซม. ขึ้นไป - ถึงความสูงจะไม่เกี่ยวแล้วในช่วงหลังๆ แต่ก็มีผลต่อบุคลิกและความโดดเด่นที่คณะกรรมการจะมองเห็น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะเดมี่ เปีย ฯลฯ ก็มงกันให้เห็นมาแล้ว (ที่เอาสูงเท่านี้เพราะสาวไทยตัวไม่สูงมาก ถ้าเอาเกิน 175 อาจต้องไปเลือกจากสนามวอลเลย์บอลหรือบาสเก็ตบอล)
2. เก่งภาษา - นางงามที่พูดสื่อสารได้ดี จะมีความมั่นใจตามไปด้วย และไม่ต้องห่วงว่าล่ามจะทำตกหายระหว่างทาง
3. เดินแบบได้ - ตรงนี้จะช่วยเรื่องรู้มุมกล้อง สบตากรรมการ มีจริตที่โดดเด่นบนเวที ทั้งเวียดนามและปินส์เด่นตรงนี้ทั้งคู่ จริตนางแบบฆ่านางงามอย่างเซาท์แอฟและเวเนได้สบาย แต่ถามว่าสำคัญที่สุดไม๊ก็ไม่ใช่ เพราะความมั่นใจสำคัญกว่าเราเลยให้ข้อนี่เป็นคุณสมบัติเสริมก็พอ (ส่วนปินส์ที่ได้ปีนี้มีดีมากกว่าการเดินแบบเลยคว้ามงได้แบบไร้ข้อกังขา)
คุณสัมบัติที่จะพานางงามเข้า Top5 ไปแบบสวยๆ
ข้อเดียวเลยค่ะ "มีจิตสาธารณะ ชอบช่วยเหลือสังคม" สวยอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีมุมมองที่เข้มแข็งต่อการพัฒนาสังคมได้ด้วย ใช้ความสวยและโอกาสทำความดีและเป็นกระบอกเสียงให้กับคนที่โอกาสน้อยกว่า และทำด้วยความจริงใจไม่สร้างภาพ
ต่อไปเป็นองค์ประกอบที่จะเสริมนางงาม
1. ชุดประจำชาติ ที่จริงทำดีทุกปีเพราะมีการประกวดเปิดโอกาสแบบจริงจัง และไทยก็ทำได้ดีในปีนี้ แต่ประเทศลาวที่สร้างโดยดีไซเนอร์ไทยก็ชนะไปจนได้ ถึงจะเสียดายที่ไทยไม่ได้รางวัลแต่ก็ภูมิใจแทนดีไซเนอร์ไทยคนนั้น เพราะเอาจริงเราชอบชุดของลาวมากสุด ความหมายก็ดีมากกก เป็นการขอบคุณทุกประเทศที่ช่วยเหลือลาวตอนภัยพิบัติเขือนแตก ทั้งงดงาม ออนน้อม และมีคุณค่า ของไทยจะเน้นสง่างาม เพชรปักเยอะๆ ดูแพงมีราคา แต่หลายครั้งดีเทลชุดมันละเอียดเกินจนคนไกลมองไม่ออก ถ่ายภาพมองไม่เห็น จากนี้เราคงต้องถอยออกมา หยุดการใส่เพชรใส่พลอย แต่เน้นภาพลักษณ์ที่เข้าใจง่ายและจับต้องได้ให้มากขึ้น เมืองไทยมีวัฒนธรรมที่งดงามมากมาย ดีไซเนอร์ไทยที่เก่งก็มีเยอะมาก และคอนเซปต์หรูหราหลายแสนอาจไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง ลองดูนะคะ
2. ชุดราตรี ปีนี้ส่วนตัวคิดว่าทั้งสองชุดมีทั้งจุดดีจุดอ่อนที่ต้องปรับปรุง อย่างรอบพรีลิมดูแล้วไม่รู้ว่าได้ inspire มาจากพวงมาลัย แอบเสียดายสีขาวของดอกรักและมะลิที่กลายเป็นสีเงินจนมองไม่ออกว่ามีที่มาจากอะไร และอาจต้องทำการบ้านมากขึ้นเพื่อดูกระแสว่าปีหน้าสีไหนมาแรง เราจะได้เลือกที่แตกต่างเพื่อทำให้โดดเด่น เพราะเอาจริงดีไซน์สวยใช้ได้ (ยกเว้นด้านหลังที่ตันไปนิดหน่อย ถ้าเว้าถึงเอวได้จะเฟียซมาก) และปีนี้นางงามใส่ชุดสีเงินเยอะมาก ตอนแรกมองผ่านๆ นึกว่ารอบสุดท้ายให้นางงามที่ตกรอบไปเปลี่ยนเป็นชุดราตรีสีเงินเหมือนกันหมด 555
ส่วนชุดของพี่หมู อาซาว่า ที่ตอนนี้ดราม่าจนกลายเป็นการล้อเลี่ยนกันอย่างสนุกสนาน เอาจริงเราว่าชุดนี้ถ่ายภาพไม่สวยเท่าตอนเดิน ภาพเคลื่อนไหวสวยทีเดียว เพียงแต่สีหรือดีไซน์มันซ้ำมาแล้ว 3 ปี (ปีแนทไม่นับเพราะเพชรดูไม่ตู้มและสไตล์ยังไม่ซ้ำเท่า 3 ปีหลัง) ถ้าพี่หมูไม่เคยทำชุดให้นางงามมาก่อนเราว่าปีนี้จะเป็นชุดที่ฮือฮามากทีเดียว แต่พอทำมาหลายปีเลยอดที่จะอยากเห็นชุดราตรีแบบใหม่จากพี่หมูไม่ได้
ภาพนี้เป็นชุดตัวอย่างที่อยากเห็นค่ะ เชื่อว่าดีไซเนอร์ไทยมีความสามารถอยู่แล้ว เหลือแค่ว่ากองจะเลือกใครทำเท่านั้น (ขอบคุณภาพจาก คห.1 ด้วยนะคะ)
และไม่ว่าปีหน้าจะเป็นใครออกแบบก็หวังว่าจะได้เห็นชุดราตรีที่สวยงามไม่ซ้ำใคร ซึ่งการเปิดโอกาสให้ดีไซเนอร์ส่งชุดเข้าประกวดนับเป็นไอเดียที่ดีมาก ฝากกองพิจารณาด้วยนะคะ
สุดท้าย... กองเชียร์ที่รัก
เข้าใจว่านางงามแต่ละปีจะมีทั้งที่ถูกใจและไม่ถูกใจปนกันไป แต่การที่ทุกคนทำหน้าที่อย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นตัวนางงาม ทีมงาน ดีไซเนอร์ พี่เลี้ยง ฯลฯ กองเชียร์ก็ต้องมีหน้าที่เชียร์ให้สมกับชื่อที่ได้รับ ไม่ใช่จะบอกว่าห้ามติห้ามว่า เพราะทุกความเห็นมีความสำคัญในการพัฒนาตัวนางงามทั้งปีนี้และปีต่อๆไป แต่การด่าจนเลยเถิดไปถึงล้อเลียน คุกคาม ทำร้ายใจิตใจ ฯลฯ มันไม่ใช่สิ่งที่ควรเกิดในกองเชียร์ หรือถ้าอยากเชียร์นางงามประเทศอื่นก็มีสิทธิ์ทำได้ แต่การเปรียบเทียบและกดนางงามไทย มันคงเป็นสิ่งที่อ้างว่า คหสต.ไม่ได้ และแน่นอนว่ามีผลต่อตัวนางงามโดยตรงโดยเฉพาะในปีที่ไทยเป็นเจ้าภาพแบบนี้ ถือว่ากดดันมากเป็นสองเท่า
มาดูที่กองเชียร์ฟิลิปปินส์ จำได้ว่าตอนปีน้ำตาลเค้ารักนางงามไทยมากกกกกกก แต่ก็ไม่ลืมเชียร์นางงามประเทศตัวเองไปพร้อมกัน ถึงจะติจะบ่นแต่ไม่ถึงขั้นล้อเลี่ยนเป็นวงกว้างขนาดนี้
ถ้าเราอยากให้นางงามไทยมีความ "มั่นใจ" สู้ประเทศอื่นได้ ในฐานะที่เราเป็นกองเชียร์อยู่หน้าคอมฯหรือหน้าเวที สิ่งที่ทำได้คือให้ "กำลังใจ" แต่ถ้าทำไม่ได้การอยู่นิ่งๆ และเชียร์นางงามประเทศที่ชอบก็โอเคอยู่ หรือถ้าอยากแสดงความเห็นก็เป็นในลักษณะ "ติเพื่อก่อ" เพื่อที่นางงามจะได้นำไปปรับปรุง เพราะเชื่อเถอะว่าต่อให้เราไม่ติไม่วิจารณ์ เค้าก็รู้ว่าอะไรที่ควรแก้ไข กองประกวดมีผู้เชี่ยวชาญยิ่งกว่าพวกเราตั้งหลายคน
เพราะการติชมทุกอย่างมีผลสองด้านเสมอคือ "พัฒนา" และ "กดดัน" ถ้าอยากให้นางงามไทยมั่นใจ กองเชียร์ก็ต้องช่วยกันค่ะ เราจะมาโยนภาระไปที่นางงามหรือทีมงานอย่างเดียวไม่ได้
ท้ายที่สุด... การเป็นเจ้าภาพ MU ของประเทศไทย
ให้คะแนน 100+ ทุกประการค่ะ ทำได้ดีมากจนขนลุกจริงๆ ถึงจะได้ยินว่าขาดทุนหลายร้อยล้าน แต่เชื่อเถอะค่ะพวกคุณทำให้คนทั่วโลกรักประเทศไทยและอยากมาเที่ยวไทยขึ้นอีกเยอะ นอกจากคุณภาพทุกขั้นตอนในทุกโปรดักชันแล้ว อาหารไทย การดูแลนางงามไทย สถานที่สวยงาม ความเป็นมิตรของคนไทย ที่เรามีต่อนางงามประเทศเค้าจะทำให้ทุกคนรักเมืองไทยจนถอนตัวไม่ขึ้นเลยค่ะ 5555 เพราะเอาจริงแค่อาหารไทยก็ดีงามจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว ภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทยจริงๆค่ะ ขอบคุณมากนะคะ พวกคุณยอดเยี่ยมที่สุด
V
V
เราก็ไม่ใช่กูรูนาง แต่ชอบดูนางงามมาตั้งแต่สมัยพี่ปุ๋ยพรทิพย์ ดูแทบจะทุกเวทีเพราะตอนเด็กๆติดทีวีมาก 555 พอโตก็ตามดูมาเรื่อยๆเท่าที่มีโอกาส และเห็นทั้งพัฒนาการของนางามไทยและกองเชียร์ ดังนั้นความเห็นเราจึงไม่ได้ดีที่สุด แต่ก็พยายามมองให้หลายมุมเพราะอยากเห็นสาวไทยคว้ามง MU ที่3เหมือนกัน และเชื่อว่าลึกๆแล้วทุกคนก็เป็นเหมือนเรา รักในการดูประกวดนางงาม อยากมีความสุขเวลาเห็นมิสไทยแลนด์สวมมง
ถ้าไงปีหน้ามาเริ่มกันใหม่นะคะ ใครมีอะไรที่อยากเสนอแนะหรือเห็นต่างก็เชิญได้เลยค่ะ เผื่อทีมงานมาอ่านจะได้นำไปพัฒนาในปีต่อไป
กระทู้นี้เราพิมพ์ไปเรื่อยๆไม่ได้อ่านทวนซ้ำ ถ้าตกหล่นตรงไหนต้องขออภัยด้วยค่ะ และถ้าความเห็นของเราทำให้ใครไม่พอใจก็ต้องขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
สุดท้ายจริงๆ 555 ขอบคุณนิ้งสำหรับทุกความตั้งใจ รู้สึกภูมิใจในตัวนิ้งมากค่ะ มีพัฒนาที่ดีขึ้นทุกครั้งที่เห็นจริงๆ และสำหรับสิ่งที่อยากให้เพิ่มเติมคือความเชื่อมั่นในตัวเอง เพราะการใส่ใจคำพูดคนอื่นมากเกินไป สุดท้ายจะทำให้ใจเราอ่อนแอละท้อแท้ได้ ทั้งที่นิ้งมีข้อดีหลายอย่างมากอยู่แล้ว เหลือแค่เพิ่มความเข้มแข็ง มั่นคง และเชื่อมั่นตัวเองเข้าไป แล้วนิ้งจะเป็นผู้หญิงที่มีความสุขมากที่สุดคนหนึ่ง
โชคดีนะคะน้องนิ้ง ^^
อยากฝากอะไรถึงกอง MUT ในปีหน้า >> เข้ามาพูดคุยกันค่ะ
V
V
จากนี้จะเป็นสิ่งที่อยากฝากถึงคณะกรรมการ MUT เพิ่มเติมเพราะคงเห็นแล้วว่า Top5 มีสาวน่ารักอย่างเวียดนามเข้ารอบขนิดเตะตัดขาตัวเก็งร่วงแบบพลิกโผ เราเลยวิเคราะห์ว่าถ้าไทยอยากได้มงปีต่อไป อะไรคือสิ่งที่นางงามควรมี?
1. สวยแบบเปล่งประกายและโดดเด่น - ไม่จำเป็นต้องพิมพ์นิยมเสมอไป แต่ขอให้มองแล้วอยากมองอีก มองได้เรื่อยๆ จะน่ารักจะสวยหวานจะโทนไหนก็แล้วแต่ ขอให้ความสวยเปล่งประกายจากข้างในทะลุออกมาจนคนดูรับรู้ได้ (ยกตัวอย่างปีน้ำตาล จำได้ว่าชาวต่างชาติชมเรื่องนี้มาก สวยแบบไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน)
2. มีพลังบวก - เป็นนางงามต้องรับแรงกดดันเยอะมาก ตั้งแต่ได้ตำแหน่ง MUT ยันประกวด MU จบ และแน่นอนว่าต่อให้สวยถูกใจคนส่วนใหญ่แค่ไหนก็ต้องมีคนไม่ชอบเข้ามาติว่าด่าทอและ bully แบบเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นหานางงามที่ต้นทุนด้านนี้สูงไว้ก่อนจะได้เปรียบมาก
3. มีทัศนคติบวก - หลังจากอดทนกับแรงกกดันได้ดีแล้ว ต้องเดินหน้าต่อได้ มองเห็นสิ่งดีในสิ่งไม่ดี ไม่เอาความคิดลบมาตัดทอนกำลังใจตัวเอง ตรงนี้สำคัญมากเพราะการแสดงออกและคำพูดต่างๆมาจากทัศนคติเกือบทั้งหมด เราว่าในกองประกวดมีผู้เชี่ยวชาญด้านนี้อยู่แล้วและเทรนนางงามให้มีทัศนคติที่ดีทุกปี แต่เพิ่มเรื่อง cyber bully เข้าไปเยอะๆ สร้างเกราะเข้มแข็งให้มากสุดเท่าที่จะทำได้
4. มีความเป็นธรรมชาติ - นางงามที่บุคลิกเรียบร้อย สง่า นางพญา บางทียังสู้คนที่ดูเป็นธรรมชาติสบายตาไม่ได้
5. แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่ง - นางงามที่มีความคล่องตัวสูงจะได้เปรียบทุกสถานการณ์ รับแรงกดดันได้ดีโดยอัตโนมัติจนแทบไม่ต้องเทรนเพิ่ม
พอหาได้ครบทั้ง 5 ข้อ เราก็จะได้นางงามที่มี "ความมั่นใจ" นั่นเองค่ะ 5555
เห็นหลายกระทู้วิเคราะห์ตรงกันว่านางงามไทยส่วนใหญ่ขาดความมั่นใจซึ่งเราก็คิดเหมือนกันว่าร้อยความสวย สิบความฉลาด ยังไม่เท่าหนึ่งความมั่นใจ และเชื่อว่าคณะกรรมการก็มองหานางงามที่มีคุณสมบัติเหล่านี้ แต่เบื้องหลังความมั่นใจมันมีดีเทลหลายอย่างที่จะช่วยให้คุณสมบัติหลักแกร่งขึ้น
ต่อไปเป็นคุณสมบัติที่(อาจ)จะได้รับการพิจารณาเพิ่มจาก IMG เป็นพิเศษ
1. มีความสูง 173 ซม. ขึ้นไป - ถึงความสูงจะไม่เกี่ยวแล้วในช่วงหลังๆ แต่ก็มีผลต่อบุคลิกและความโดดเด่นที่คณะกรรมการจะมองเห็น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะเดมี่ เปีย ฯลฯ ก็มงกันให้เห็นมาแล้ว (ที่เอาสูงเท่านี้เพราะสาวไทยตัวไม่สูงมาก ถ้าเอาเกิน 175 อาจต้องไปเลือกจากสนามวอลเลย์บอลหรือบาสเก็ตบอล)
2. เก่งภาษา - นางงามที่พูดสื่อสารได้ดี จะมีความมั่นใจตามไปด้วย และไม่ต้องห่วงว่าล่ามจะทำตกหายระหว่างทาง
3. เดินแบบได้ - ตรงนี้จะช่วยเรื่องรู้มุมกล้อง สบตากรรมการ มีจริตที่โดดเด่นบนเวที ทั้งเวียดนามและปินส์เด่นตรงนี้ทั้งคู่ จริตนางแบบฆ่านางงามอย่างเซาท์แอฟและเวเนได้สบาย แต่ถามว่าสำคัญที่สุดไม๊ก็ไม่ใช่ เพราะความมั่นใจสำคัญกว่าเราเลยให้ข้อนี่เป็นคุณสมบัติเสริมก็พอ (ส่วนปินส์ที่ได้ปีนี้มีดีมากกว่าการเดินแบบเลยคว้ามงได้แบบไร้ข้อกังขา)
คุณสัมบัติที่จะพานางงามเข้า Top5 ไปแบบสวยๆ
ข้อเดียวเลยค่ะ "มีจิตสาธารณะ ชอบช่วยเหลือสังคม" สวยอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีมุมมองที่เข้มแข็งต่อการพัฒนาสังคมได้ด้วย ใช้ความสวยและโอกาสทำความดีและเป็นกระบอกเสียงให้กับคนที่โอกาสน้อยกว่า และทำด้วยความจริงใจไม่สร้างภาพ
ต่อไปเป็นองค์ประกอบที่จะเสริมนางงาม
1. ชุดประจำชาติ ที่จริงทำดีทุกปีเพราะมีการประกวดเปิดโอกาสแบบจริงจัง และไทยก็ทำได้ดีในปีนี้ แต่ประเทศลาวที่สร้างโดยดีไซเนอร์ไทยก็ชนะไปจนได้ ถึงจะเสียดายที่ไทยไม่ได้รางวัลแต่ก็ภูมิใจแทนดีไซเนอร์ไทยคนนั้น เพราะเอาจริงเราชอบชุดของลาวมากสุด ความหมายก็ดีมากกก เป็นการขอบคุณทุกประเทศที่ช่วยเหลือลาวตอนภัยพิบัติเขือนแตก ทั้งงดงาม ออนน้อม และมีคุณค่า ของไทยจะเน้นสง่างาม เพชรปักเยอะๆ ดูแพงมีราคา แต่หลายครั้งดีเทลชุดมันละเอียดเกินจนคนไกลมองไม่ออก ถ่ายภาพมองไม่เห็น จากนี้เราคงต้องถอยออกมา หยุดการใส่เพชรใส่พลอย แต่เน้นภาพลักษณ์ที่เข้าใจง่ายและจับต้องได้ให้มากขึ้น เมืองไทยมีวัฒนธรรมที่งดงามมากมาย ดีไซเนอร์ไทยที่เก่งก็มีเยอะมาก และคอนเซปต์หรูหราหลายแสนอาจไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง ลองดูนะคะ
2. ชุดราตรี ปีนี้ส่วนตัวคิดว่าทั้งสองชุดมีทั้งจุดดีจุดอ่อนที่ต้องปรับปรุง อย่างรอบพรีลิมดูแล้วไม่รู้ว่าได้ inspire มาจากพวงมาลัย แอบเสียดายสีขาวของดอกรักและมะลิที่กลายเป็นสีเงินจนมองไม่ออกว่ามีที่มาจากอะไร และอาจต้องทำการบ้านมากขึ้นเพื่อดูกระแสว่าปีหน้าสีไหนมาแรง เราจะได้เลือกที่แตกต่างเพื่อทำให้โดดเด่น เพราะเอาจริงดีไซน์สวยใช้ได้ (ยกเว้นด้านหลังที่ตันไปนิดหน่อย ถ้าเว้าถึงเอวได้จะเฟียซมาก) และปีนี้นางงามใส่ชุดสีเงินเยอะมาก ตอนแรกมองผ่านๆ นึกว่ารอบสุดท้ายให้นางงามที่ตกรอบไปเปลี่ยนเป็นชุดราตรีสีเงินเหมือนกันหมด 555
ส่วนชุดของพี่หมู อาซาว่า ที่ตอนนี้ดราม่าจนกลายเป็นการล้อเลี่ยนกันอย่างสนุกสนาน เอาจริงเราว่าชุดนี้ถ่ายภาพไม่สวยเท่าตอนเดิน ภาพเคลื่อนไหวสวยทีเดียว เพียงแต่สีหรือดีไซน์มันซ้ำมาแล้ว 3 ปี (ปีแนทไม่นับเพราะเพชรดูไม่ตู้มและสไตล์ยังไม่ซ้ำเท่า 3 ปีหลัง) ถ้าพี่หมูไม่เคยทำชุดให้นางงามมาก่อนเราว่าปีนี้จะเป็นชุดที่ฮือฮามากทีเดียว แต่พอทำมาหลายปีเลยอดที่จะอยากเห็นชุดราตรีแบบใหม่จากพี่หมูไม่ได้
ภาพนี้เป็นชุดตัวอย่างที่อยากเห็นค่ะ เชื่อว่าดีไซเนอร์ไทยมีความสามารถอยู่แล้ว เหลือแค่ว่ากองจะเลือกใครทำเท่านั้น (ขอบคุณภาพจาก คห.1 ด้วยนะคะ)
และไม่ว่าปีหน้าจะเป็นใครออกแบบก็หวังว่าจะได้เห็นชุดราตรีที่สวยงามไม่ซ้ำใคร ซึ่งการเปิดโอกาสให้ดีไซเนอร์ส่งชุดเข้าประกวดนับเป็นไอเดียที่ดีมาก ฝากกองพิจารณาด้วยนะคะ
สุดท้าย... กองเชียร์ที่รัก
เข้าใจว่านางงามแต่ละปีจะมีทั้งที่ถูกใจและไม่ถูกใจปนกันไป แต่การที่ทุกคนทำหน้าที่อย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นตัวนางงาม ทีมงาน ดีไซเนอร์ พี่เลี้ยง ฯลฯ กองเชียร์ก็ต้องมีหน้าที่เชียร์ให้สมกับชื่อที่ได้รับ ไม่ใช่จะบอกว่าห้ามติห้ามว่า เพราะทุกความเห็นมีความสำคัญในการพัฒนาตัวนางงามทั้งปีนี้และปีต่อๆไป แต่การด่าจนเลยเถิดไปถึงล้อเลียน คุกคาม ทำร้ายใจิตใจ ฯลฯ มันไม่ใช่สิ่งที่ควรเกิดในกองเชียร์ หรือถ้าอยากเชียร์นางงามประเทศอื่นก็มีสิทธิ์ทำได้ แต่การเปรียบเทียบและกดนางงามไทย มันคงเป็นสิ่งที่อ้างว่า คหสต.ไม่ได้ และแน่นอนว่ามีผลต่อตัวนางงามโดยตรงโดยเฉพาะในปีที่ไทยเป็นเจ้าภาพแบบนี้ ถือว่ากดดันมากเป็นสองเท่า
มาดูที่กองเชียร์ฟิลิปปินส์ จำได้ว่าตอนปีน้ำตาลเค้ารักนางงามไทยมากกกกกกก แต่ก็ไม่ลืมเชียร์นางงามประเทศตัวเองไปพร้อมกัน ถึงจะติจะบ่นแต่ไม่ถึงขั้นล้อเลี่ยนเป็นวงกว้างขนาดนี้
ถ้าเราอยากให้นางงามไทยมีความ "มั่นใจ" สู้ประเทศอื่นได้ ในฐานะที่เราเป็นกองเชียร์อยู่หน้าคอมฯหรือหน้าเวที สิ่งที่ทำได้คือให้ "กำลังใจ" แต่ถ้าทำไม่ได้การอยู่นิ่งๆ และเชียร์นางงามประเทศที่ชอบก็โอเคอยู่ หรือถ้าอยากแสดงความเห็นก็เป็นในลักษณะ "ติเพื่อก่อ" เพื่อที่นางงามจะได้นำไปปรับปรุง เพราะเชื่อเถอะว่าต่อให้เราไม่ติไม่วิจารณ์ เค้าก็รู้ว่าอะไรที่ควรแก้ไข กองประกวดมีผู้เชี่ยวชาญยิ่งกว่าพวกเราตั้งหลายคน
เพราะการติชมทุกอย่างมีผลสองด้านเสมอคือ "พัฒนา" และ "กดดัน" ถ้าอยากให้นางงามไทยมั่นใจ กองเชียร์ก็ต้องช่วยกันค่ะ เราจะมาโยนภาระไปที่นางงามหรือทีมงานอย่างเดียวไม่ได้
ท้ายที่สุด... การเป็นเจ้าภาพ MU ของประเทศไทย
ให้คะแนน 100+ ทุกประการค่ะ ทำได้ดีมากจนขนลุกจริงๆ ถึงจะได้ยินว่าขาดทุนหลายร้อยล้าน แต่เชื่อเถอะค่ะพวกคุณทำให้คนทั่วโลกรักประเทศไทยและอยากมาเที่ยวไทยขึ้นอีกเยอะ นอกจากคุณภาพทุกขั้นตอนในทุกโปรดักชันแล้ว อาหารไทย การดูแลนางงามไทย สถานที่สวยงาม ความเป็นมิตรของคนไทย ที่เรามีต่อนางงามประเทศเค้าจะทำให้ทุกคนรักเมืองไทยจนถอนตัวไม่ขึ้นเลยค่ะ 5555 เพราะเอาจริงแค่อาหารไทยก็ดีงามจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว ภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทยจริงๆค่ะ ขอบคุณมากนะคะ พวกคุณยอดเยี่ยมที่สุด
V
V
เราก็ไม่ใช่กูรูนาง แต่ชอบดูนางงามมาตั้งแต่สมัยพี่ปุ๋ยพรทิพย์ ดูแทบจะทุกเวทีเพราะตอนเด็กๆติดทีวีมาก 555 พอโตก็ตามดูมาเรื่อยๆเท่าที่มีโอกาส และเห็นทั้งพัฒนาการของนางามไทยและกองเชียร์ ดังนั้นความเห็นเราจึงไม่ได้ดีที่สุด แต่ก็พยายามมองให้หลายมุมเพราะอยากเห็นสาวไทยคว้ามง MU ที่3เหมือนกัน และเชื่อว่าลึกๆแล้วทุกคนก็เป็นเหมือนเรา รักในการดูประกวดนางงาม อยากมีความสุขเวลาเห็นมิสไทยแลนด์สวมมง
ถ้าไงปีหน้ามาเริ่มกันใหม่นะคะ ใครมีอะไรที่อยากเสนอแนะหรือเห็นต่างก็เชิญได้เลยค่ะ เผื่อทีมงานมาอ่านจะได้นำไปพัฒนาในปีต่อไป
กระทู้นี้เราพิมพ์ไปเรื่อยๆไม่ได้อ่านทวนซ้ำ ถ้าตกหล่นตรงไหนต้องขออภัยด้วยค่ะ และถ้าความเห็นของเราทำให้ใครไม่พอใจก็ต้องขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
โชคดีนะคะน้องนิ้ง ^^