เครื่องดนตรีสุดพิลึก


1/9 สไลด์ © สนับสนุนโดย Trend VG3 Co., Ltd.
ขลุ่ยจากกระดูกสัตว์ อายุราว 50,000 ปี.


ข้อความนี้เป็นบทพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงแปลมาจากกวีนิพนธ์ของวิลเลียม เชคสเปียร์ กวีเอกของอังกฤษ

ความชอบเสียงเพลงนั้นมีอยู่ในจิตใจของมนุษย์มาแต่ดึกดำบรรพ์ แรกๆครั้งยังไม่มีปัญญาพอที่จะประดิษฐ์คิดทำอุปกรณ์สร้างเสียงเพลง มนุษย์ก็อาศัยสองมือนี่แหละตบให้เป็นจังหวะจะโคน ใช้ริมฝีปากผิวให้มีลมเป็นเสียงสูงๆต่ำๆ ครั้นต่อมาก็เริ่มรู้จักที่จะนำเอาสิ่งที่มีอยู่ตามธรรมชาติ เช่น หลอดต้นอ้อต้นกกมาเป่าเป็นทำนอง เอาเขาสัตว์มาเป่าแบบแตร และแล้วก็เริ่มคิดประดิษฐ์เครื่องดนตรีให้มีระดับเสียงหลายหลากขึ้น

หลักฐานเครื่องดนตรีเก่าแก่ที่สุดของโลกนั้นได้แก่ “ขลุ่ย” ทำจากกระดูกสัตว์ คาดกันว่ามีอายุราว 50,000 ปี ในสมัยมนุษย์โบราณนีนเดอร์ธาล (Neanderthal) ค้นพบได้จากทางตะวันตกเฉียงเหนือของสโลวีเนียและ ได้รับการขนานนามว่า “Divje Babe Flute” มีรูเจาะ 4 รู ซึ่งน่าจะเป็นเสียงโน้ต 4 ตัว

ที่เก่าแก่ถัดมาได้แก่ขลุ่ยทำจากกระดูกช้างแมมมอธกับกระดูกหงส์ ซึ่งมีอายุในช่วง 30,000 กว่าปีในยุคพาลิโอลิธิก พบอยู่บนยอดเขาแอลป์อันหนาวเหน็บ

แต่ที่จัดว่าเป็นชุดเครื่องดนตรีที่พัฒนาขึ้นในยุคมนุษย์มีอารยธรรมก็ได้แก่ เครื่องดนตรีหลากหลายชิ้นซึ่งพบอยู่ในสุสานหลวงของนครเออร์ (Ur) แห่งอาณาจักรสุเมเรีย ซึ่งประกอบด้วยพิณ (lyre) 9 คัน พิณ (harp) 2 คัน ขลุ่ยคู่ทำด้วยเงิน 1 เลา เครื่องประเภทตีที่เรียกว่าซิสตรา (sistra) กับซิมบัล (Cymbal) เป็นเครื่องดนตรีที่อยู่ในสภาพบางส่วนยังสมบูรณ์ บางส่วนแตกย่อย แต่ก็เอามารวมประกอบกันขึ้นใหม่ได้ สิ่งของในสุสานโบราณนี้วัดอายุด้วยระบบคาร์บอนได้ว่า อยู่ในช่วง 2,600-2,500 ปีก่อนคริสตกาล

ส่วนในเอเชียก็มีการพบขลุ่ยที่มณฑลเหอนาน คาดว่ามีอายุราว 8,000 ปี ทำจากกระดูก จัดเป็นเครื่องดนตรีเก่าแก่ที่สุดที่สมบูรณ์ยังใช้เล่นได้หลายตัวโน้ต

มนุษย์เราพัฒนาเครื่องดนตรีขึ้นเรื่อยๆ มีการใช้อุปกรณ์ดนตรีในการพิธีศาสนา เช่น กลอง ฆ้อง ระฆัง ภายในวังราชสำนักต่างๆก็นิยมบรรเลงดนตรีเพื่อความรื่นรมย์ โดยเฉพาะในยุโรป ช่วง ค.ศ.800 ถึง 1100 จัดว่ามีการสร้างเครื่องดนตรีที่มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น เช่น ไวโอลินก็ถือกำเนิดขึ้นในยุคนี้ มีการประดิษฐ์ถุงลมเพื่อใช้อัดให้มีเสียงดังยิ่งขึ้น เช่น เครื่องออร์แกน ส่วนเครื่องเป่าจากต้นกกต้นอ้อ ก็เป็นต้นแบบของขลุ่ยและแตร เช่น โอโบ (oboe) หรือคลาริเนต (clarinet) ทรัมเป็ต (trumpet)

และแล้วในศตวรรษที่ 20 ก็มีการสร้างเครื่องดนตรีที่ใช้ไฟฟ้าขึ้น เรียกว่า อิเล็กโทรโฟน (electrophones) เช่น แฮมมอนด์ออร์แกน (Hammond organ) กีตาร์ไฟฟ้า เธอเรมิน (theremin) ซึ่งจะเกิดเสียงขึ้นเมื่อผู้บรรเลงใช้มือสัมผัสกับเสาอากาศ (antenna) ของเครื่อง กระทั่งเครื่องซินธีไซส์ (synthesizer) ที่ควบคุมด้วยอุปกรณ์ดิจิทัลและไมโครชิปส์

บรรดาเครื่องดนตรีที่เอ่ยมานั้น เราคงเคยได้เห็นและได้ฟังเสียงกันมาแล้ว แต่คอลัมน์ไทยรัฐซันเดย์สเปเชียลโดยทีมงานนิตยสารต่วย’ตูนในหนนี้จะนำเอาเครื่องดนตรีที่ไม่ธรรมดา คือประดิษฐ์ขึ้นมาและบรรเลงแบบแหวกแนว บางชิ้นก็เกือบหลุดโลกไปเลย ขอนำมาให้ทัศนากันต่อไปนี้ครับ

1.เธอเรมิน (Theremin) สร้างขึ้นในปี 1920 โดยเจฟ เทอร์แมน ชาวรัสเซีย เพื่อสำหรับบรรเลงเพลงคลาสสิก เป็นที่ฮือฮามากในปี 1994 เพราะมีการสร้างภาพยนตร์เรื่อง “Theremin : An Electronic Odyssey” อย่างไรก็ตาม เครื่องดนตรีนี้ไม่เคยร่วมบรรเลงกับวงออเคสตรา ในภาพจะเห็นผู้บรรเลงใช้มือสัมผัสกับเสาอากาศซึ่งมี 2 ตัว


© สนับสนุนโดย Trend VG3 Co., Ltd. เธอเรมิน.
2.เครื่องวารี (Hydraulophone) บรรเลงโดยการควบคุมน้ำที่ฉีดพ่นขึ้นมาและบังเกิดเป็นเสียงตามตัวโน้ตต่างๆ เช่น ถ้าใช้ขลุ่ยที่จมอยู่ใต้น้ำก็จะออกเสียงออกมาแบบท่อลมออร์แกน บางเครื่องใช้หลอดพ่นน้ำเป็นเสียงปี่หรือแตร เครื่องที่โด่งดังมากมีชื่อว่า “เอชทูโอโบ” (H2O boe จะเห็นว่า H2O คือสัญลักษณ์ทางเคมีของน้ำนั่นเอง)


.© สนับสนุนโดย Trend VG3 Co., Ltd. เครื่องวารี.
3.เครื่องผัก (Vegetable Orchestra) แม้จะฟังแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะใช้บรรเลงได้ แต่กลุ่มนักดนตรีวงนี้ซึ่งตั้งขึ้นมาในปี 1998 ที่กรุงเวียนนา ออสเตรีย ก็สามารถ นำเอาพืชผักนานาชนิดมาทำให้เกิดเสียงดนตรีอันไพเราะได้ เช่น เอาฟักทองมาเป็นกลอง เอาหัวแครอทมาเป็นขลุ่ย บางชิ้นใช้สดๆ บางชิ้นก็เอามาสลักก่อน ที่สำคัญคือ หลังบรรเลงเสร็จสิ้นแล้ว พวกเขาก็เอาอุปกรณ์ดนตรีเหล่านี้มาต้มเป็นซุปเลี้ยงบรรดาทั่นผู้ชม


© สนับสนุนโดย Trend VG3 Co., Ltd. วงดนตรีบรรเลงเครื่องผัก.
4.คีตพฤกษ์ (Singing Ringing Tree) เป็นการเอาท่อขนาดความยาวต่างๆกันมาผสมผสานจนบังเกิดเป็นต้นไม้ใหญ่สูงราว 3 เมตร เมื่อกระแสลมพัดผ่านก็จะมีเสียงหวีดหวิวฟังแล้วเพลิดเพลิน สร้างไว้ที่ท้องทุ่งแลงคาสเชอร์ อังกฤษ ต่อมามีอีกต้นหนึ่งที่ออสติน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา


© สนับสนุนโดย Trend VG3 Co., Ltd. คีตพฤกษ์.
5.ปิกัสโซกีตาร์ (Picasso Guitar) ใช้ชื่อกีตาร์เลียนแบบจอมอาร์ติสต์ พาโบล ปิกัสโซ (Pablo Picasso) เป็นกีตาร์ 4 คอ 2 ช่องเสียง และสายกีตาร์ 42 เส้น


© สนับสนุนโดย Trend VG3 Co., Ltd. ปิกัสโซกีตาร์.
6.กีตาร์ 12 คอ (12 Neck Guitar) เป็นกีตาร์ที่เว่อร์กว่าปิกัสโซเพราะมีคอยั้วเยี้ยยังกะเมดูซา สร้างสรรค์ขึ้นโดยศิลปินญี่ปุ่นนามว่า โยชิฮิโกะ ซาโตะ


.© สนับสนุนโดย Trend VG3 Co., Ltd. กีตาร์ 12 คอ.
7.ซีอุสาโฟน (Zeusaphone) มีอีกชื่อหนึ่งว่า ธอรามิน (Thoramin) เป็นลำโพงแบบพลาสมา (Plasma speaker) เป็นการนำเอาขดลวดเทสลา (Tesla coil) มาสร้างให้เกิดเสียงจากประจุไฟฟ้า ดูแล้วก็น่าพรั่นพรึงราวกับสายฟ้าของจอมเทพซุส


© สนับสนุนโดย Trend VG3 Co., Ltd. ซีอุสาโฟน.
8.ลูโฟเนียม (Loophonium) เป็นการผสมผสานระหว่างแตรยูโฟเนียม (euphonium) กับส้วม (lavatory) ทำขึ้นเพื่อใช้บรรเลงในคอนเสิร์ตวันเอพริล ฟูล (April Fool) ปี 1960 ร่วมกับวง Royal Liverpool Philhamonic Orchestra ผู้ประดิษฐ์คือนายฟริตซ์ ชปีเกิล


.© สนับสนุนโดย Trend VG3 Co., Ltd. ลูโฟเนียม.
9.วิฬาร์เปียโน (The Cat Piano) ชิ้นสุดท้ายนี้พิลึกพิลั่นที่สุดแถมยังเข้าข่ายทรมานสัตว์ สร้างโดยศิลปินเยอรมันสมัยศตวรรษที่ 17 ชื่ออาธานาซิอุส เคอร์เชอร์ จับเอาแมว 7 ตัวมาเรียงรายไว้ในคอกโดยยื่นหางออกมาที่คีย์บอร์ด

ที่ตรึงไว้ด้วยตะปู เมื่อกดคีย์บอร์ดตีหางแมวตัวใดมันก็จะร้องออกมาเป็นเสียงสูงต่ำตามที่มันถูกจัดไว้ เรื่องนี้ปรากฏอยู่ในบันทึกโบราณในชื่อ “Katzenklavier (Cat Piano)” เท็จจริงอย่างไรไม่ประจักษ์

โอกาสหน้าทีมงานต่วย’ตูน จะนำเรื่องแปลกพิสดารจนไม่น่าเชื่อว่ามนุษย์เราจะไอเดียบรรเจิดได้ถึงขนาดนี้มานำเสนอกันอีกครับ.

โดย :อุดร จารุรัตน์
ทีมงาน นิตยสาร ต่วย'ตูน
ไทยรัฐ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่