
ROG Zephyrus เป็นตระกูลที่ต้องบอกว่าตัวเทพเลยสำหรับ ROG และชอบทำ Gaming Notebook แรงๆแต่เบามาในหลายๆรุ่นที่ออกมาจะพยายามยัดเทคโนโลยีใหม่ๆมาเสมอครับ ทั้งระบบพัดลม การยกตัวเครื่องทำให้การระบายความร้อนดีขึ้นและ เครื่องบาง เบากว่าเดิมไปในทุกๆรุ่นนั้นเอง ในวันนี้เราจะมาลองรุ่นล่าสุดจากทาง ROG คือรุ่น Zephyrus S ครับรุ่นนี้มาจุดเด่นมากมายและได้ชื่อว่าเป็น Gaming Notebook ที่บางเบาที่สุดในโลก และใช้จอ Full HD IPS Refresh Rate 144 Hz + Respond Time 3 ms ตัวแรกของโลกด้วยนั้นเองครับ !

ZEPHYRUS S เปิดตัวในประเทศไทยกันมาแล้ว หลังจากที่แอดมินได้ไปลองที่ไต้หวัน บอกเลยว่าติดใจมาตั้งแต่ที่นู้นแล้วและรอที่จะเข้ามาขายเร็วๆ ตัวนี้มาพร้อมหน้าจอ 15.6 นิ้ว Full HD IPS Refresh Rate 144 Hz + Respond Time 3 ms 100% ของมาตรฐานสีแบบ sRGB ที่ระดับความบางเพียง 14.95 ~ 15.75 มม. ทำให้ Zephyrus S นั้นบางกว่า Zephyrus รุ่นแรก (GX501) ถึงกว่า 12% เลยทีเดียวในเรื่อง CPU นั้นมา intel Core i7-8750H และ การ์ดจอ GTX 1060 6 GB GDDR5 พร้อมด้วย 512 GB SSD M.2 PCI-E NVMe และ RAM 16 GB ครับ สเปคถือว่าเอาเรื่องเลยแหละ และด้วยความบางแบบนั้นทำให้มันน่าสนใจมากๆเลยทีเดียว

ASUS ROG ZEPHYRUS S GX531GM INTEL CORE I7-8750H + GEFORCE GTX1060 6 GB GDDR5 นั้น เปิดราคามาที่ 64,900 บาทไทยครับผม พร้อมด้วยประกัน 2 ปี ครับผม

UNBOX
กล่องของทาง ROG Zephyrus S นั้นจะเป็นกล่องใหญ่และข้างในมี 2 กล่องย่อยอีกรอบนะครับ กล่องย่อยแรกคือกล่องใส่ สายชาร์จ Adaptor แนวยาวๆสีดำทำออกมาดูดีดูแพงมาก ส่วนอีกกล่องนั้นเป็นกล่องใส่คอมพิวเตอร์ต่างๆพวกคู่มือ สติกเกอร์นั้นเองอย่างที่เห็นในภาพที่มีโลโก้สีแดงนั้นเองครับ ส่วนอุปกรณ์ก็ให้มาครบและโทนสีดำทั้งหมด
- ตัว ROG Zephyrus S
- Adaptor ROG
- คู่มือการใช้งาน
- สติกเกอร์ ROG
- และที่คล้อง ROG วัสดุเหล็ก และ โลโก้สีแดงบนผ้า

DESIGN
การออกแบบของรุ่นนี้ ยังคงเอกลักษณ์ของ Zephyrus ได้สวยงามทั้งความบาง เบา และ ฝาหลังแบบ 2 วัสดุเฉียงพร้อมกับโลโก้ ROG วัสดุเป็นแบบด้าน ผสมกับฝาหลังแบบปัดลายสวยงามมมากๆ งานเนี้ยบทั้งตัวเครื่องครับฝาหลังตัดขอบเหลี่ยมสวยงาม ตัวเครื่องจะเหลี่ยมทั้งเครื่องดุดันและวัสดุสัมผัสดีเพราะทำจาก อลูมิเนี่ยม และ แม็กนีเซียม และส่วนฐานด้านหลังจะเป็นอีก 1 ชิ้นครับ การออกแบบเรียบดูดีและสวยงามไม่ผิดหวังเลย ต่อยอดรุ่นเดิมได้ดีมาก

เมื่อเปิดฝาขึ้นมาแล้วนั้นจะเจอกันหน้าจอที่ขอบบางขึ้นดูสวยงามากขึ้น และ ตำทั้งคียบอร์ดและ Touchpad วางอยู่ในส่วนแถบล่างสุดของตัวคอมพิวเตอร์โดยส่วนบนทิ้งเป็นส่วนการ์ดจอและการระบายความร้อน แต่ก็ยังมีโลโก้และเส้นสายรูระบายอากาศที่เห็นเป็นเส้นเฉียงๆระหว่าง โลโก้ ROG ถือว่าทำได้สวยงามและเข้ากับสายเกมเมอร์อย่างมาก

เมื่อเปิดฝาแล้วมามองด้านหลังนั้นถ้าเจอแสงบางมุมจะทำให้มันสวยงามไปยิ่งกว่าเดิมการใช้สีในโทนเข้มหรือเรียกว่า Armor Titanium นั้นทำออกมาได้ดูดีจริงๆและเป็น Gaming Notebook ที่ดีไซน์เรียบแต่ดูดุดันอันดับต้นๆเลยครับ ตัวโลโกนั้นเมื่อเจอแสงแบบนี้จะเป็นสีโครมเมี่ยมแต่ถ้าเปิดคอมพิวเตอร์แล้วนั้นจะมีไฟออกมาด้วยนะครับ

ตัวทางด้านโลโก้ ROG ในส่วนของฝาหลังนั้นถ้ามองบางมุมอาจจะไม่ค่อยเห็นว่ามันมีไฟเท่าไร แต่ถ้าเราใช้งานเวลากลางคืนหรือไม่เจอแสงกระทบมากนักกจะเห็นไฟสีแดงส่องฝ่านแผ่นอลูมิเนียมที่ทำการเจาะรูไว้ตรงบริเวณโลโก้ซึ่งทั้งฝาหลังและการเจาะรูนั้นขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมดในการขึ้นรูปแบบ CNC-milling ทั้งเครื่องเลยแข็งแรงสุดๆ

ฐานตัวเครื่องนั้นเป็นอีก 1 จุดเด่นที่น่าสนใจเลยครับ แท่นยางรองเครื่องมาถึง 6 จุดด้วยกันและมีการยกตัวเครื่องให้สูงขึ้นมาจากพื้นนิดหน่อย และจะเห็นรูระบายกาศค่อนข้างเยอะครับขอบด้านข้างทั้ง 2 แต่ถ้าใครยังกลัวเรื่องความร้อนนั้นไม่ต้องห่วงเลย ตัวนี้มาพร้อมกับระบบยกตัวเครื่องให้มีช่องว่างให้ลมเข้าแบบภาพที่ 2 และยังมีไฟ RGB ด้วยนะ ซึ่งตรงที่ยกขึ้นนั้นจะเป็นพัดลมทั้ง 2 ข้าง โดยจะช่วยระบายได้ดีขึ้นเพราะขยายช่องลมมากกว่าเดิมถึง 5มม. และไหลเวียนได้ดีขึ้นมาก ใบพัดก็มีจัดเต็มถึง 83 ใบพัด ทำงานแบบ 12V และมีระบบกักฝุ่นเข้าตัวเครื่องอีกด้วยครับ

ทางด้านคียบอร์ดนั้นมาพร้อมกับปุ่มเต็มรูปแบบและวางไว้สุดขอบเครื่องอาจจะดูแปลกตาไม่ค่อยมีที่วางมือเท่าไรครับผมแต่ก็ใช้งานปรับตัวได้ไม่ยาก ส่วน Touchpad นั้นไปอยู่มุมขวา พร้อมกับสามารถกด Numpad โดยเป็นแบบสัมผัสนั้นเอง สารมารถเปิดปิดได้ ตัวปุ่มเปิดปิดบนขวาสุดมาพร้อมไฟสีแดงและอยู่โดดเดี่ยวในบริเวณนั้นไม่มีปุ่มอื่นๆ

ตัวขอบหน้าจอส่วนล่างยังมีความหนาพอสมควรเป็นปกติครับ และเขียนชื่อเต็ม ROG ไว้ด้วย พร้อมกับไฟสถานะทั้ง 3 จุดตรงกลางส่วนฐาน พร้อมกับ การเล่นลวดลายที่ดูใส่ใจในการออกแบบหลายๆจุดครับ แม้จะเป็นส่วนแถบเล็กๆนั้นก็ยังมีการคิดอะไรมาให้เข้ากับการออกแบบทั้งหมด และเห็นรูๆนั้นทั้ง 2 ข้างคือลำโพงยิงตรงๆมาสู่คนที่นั่งอยู่นั้นเอง

ตัวขอบเครื่องทั้งหมดนั้น เป็นการเล่นกับสีทองแดง Plasma Copper ตัดขอบมุมได้สวยงามและเงาทำให้โดดเด่นออกมาจากทั้งเครื่องสีดำด้านและเข้ากับความเหลี่ยมสันของตัวเครื่องมากๆ แอบหรูๆคล้ายพวก Zenbook pro เลย

มาส่องจุดเด่นของมันกันอีกชัดๆ และขาจอที่มีความแข็งแรงในรูปทรงบานพับแบบกรรไกร กางสุดได้แค่นั้นนะครับ และเมื่อเราเปิดจอ ตัวขานั้นก็จะทำหน้าที่ยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น แบบที่เห็นในภาพที่มีไฟลอดออกมานั้นเอง และช่องสี่เหลี่ยมๆนั้นคือรูระบายอากาศของพัดลมที่จะทำหน้าที่เอาลมออกมาทั้งด้านข้าง และ ด้านหลังเลยครับ ชอบการยกตัวเครื่องของแบรนด์นี้จริงๆนะ คือมันยกแล้วได้ประโยชน์ ทั้งการพิมพ์ง่ายขึ้นในพวก Zenbook และ ระบายความร้อนดีขึ้นในตัวนี้

หน้าจอนั้นเป็นหน้าจอ 15.6 นิ้วแต่ยัดบีบลงมาให้อยู่ในขนาดตัวเครื่องประมาณ 14 นิ้วกว่าๆ เพราะขอบจอบางมากๆทั้ง 2 ด้าน และขอบบนที่บางขึ้นทำให้ขนาด ความใหญ่นั้นลดลงแบบชัดเจนครับ แต่กล้องหน้าอะไรก็ยังอยู่ส่วนบนไม่ได้เอาลงมาไว้หรือตัดออกไปไหนครับ หน้าจอเป็นหน้าจอแบบด้านเหมาะสำหรับสายเกมค่อนข้างมากเลยแหละ

ZEPHYRUS S GX531 นั้นจะมีความบางอยู่ที่ 14.95 มิลลิเมตรเท่านั้นเมื่อเราปิดฝา แต่ถ้าเราเปิดฝาจะเห็นจากภาพด้านบนเลยว่ามันทำหน้าที่ยกยังไงมีช่องขนาดไหนและสูงขึ้นประมาณไหนครับบอกเลยว่ามันช่วยได้มากๆจริงอ้อและสำหรับความแข็งแรงบางคนกลัวว่า ฝามันเปิดๆแล้วมีช่องแบบนี้มันแข็งแรงไหมนั้น รุ่นนี้ยังผ่านมาตรฐานทางการทหาร MIL-STD-810G ที่รองรับการสั่นสะเทือน แรงกระแทกบอกเลยว่าไม่ต้องกลัวครับ ทนทั้งความร้อน เย็น กระแทกได้สบายเลยแหละ เป็นรุ่นที่เบา บางแต่ได้ GTX 1060 I7 เล่นเกมสะบายสเปคแรงต้องขอบคุณเทคโนโลยีสมัยนี้ที่จับ สเปคโหดแบบนี้มาใส่ความบาง เบา แข็งแรง และระบายความร้อนได้ดีแบบนี้ครับ

SPEC GX531GM (Zephyrus S)
- Windows 10 Home
- Intel® Core™ i7-8750H
- NVIDIA® GeForce® GTX 1060
- 6GB GDDR5 VRAM
- 16GB DDR4 2666MHz SDRAM Up to 24 GB (8 GB on board memory + 8GB DDR4 2666)
- M.2 NVMe PCIE 3.0 x4 512GB SSD
- หน้าจอ 15.6-inch Full HD (1920×1080) IPS-level panel, 144Hz, 3ms, 100% sRGB
- Backlit chiclet keyboard พร้อม Aura Sync 4 zones RGB backlight mode
- ลำโพง 2 ตัว 2W speakers + Smart AMP technology
- Array Microphone
- Armoury Crate
- XSplit Gamecaster (Free)
- พอร์ทเชื่อมต่อ 1 x USB3.1 Gen2 Type-C with DisplayPort™ 1.2 and Power Delivery
- 1x USB3.1 Gen 1 Type-C // 1x USB3.1 Gen2 Type-A // 2x USB 2.0 Type-A
- 1x HDMI 2.0 // 1x 3.5mm headphone and microphone combo jack // 1x Kensington lock
- 180W Power Adaptor
- Intel® 802.11ac (2×2) Gigabit Wi-Fi
- Bluetooth 5.0
- ขนาด และ น้ำหนัก 360 (W) x 268 (D) x 14.95~15.75 (H) mm 2.1 KG

PERFORMANCE
สำหรับทางด้านของ ASUS ROG ZEPHYRUS S GX531 มาพร้อมกับ CPU Intel Core i7-8750H มีความเร็ว 2.20 GHz และเร่งไปได้สุดๆ 4.10 GHz มาพร้อมกับ 6 Core 12 Threads ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นที่มีหลายๆตัวเอามาใช้กันเยอะมากจริงๆ มันดีและก็แรงแน่นอนว่าหลายๆรุ่นเลยเอามาใช้กัน และทำงานร่วมกัน GTX 1060 อีกด้วยทำให้มันแรงไปอีกในการใช้งานทั่วไปรวมถึงสายเกมจัดหนักครับ ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับ RAM 8GB DDR4 แบบ 2 แถว รวมเป็น 16GB และ SSD 512GB M.2 NVMe บอกเลยว่า แรงเกินหน้าเกินตาไปแล้ว

PCMark 10 ในตัวคะแนนการทดสอบนั้นได้มากถึง 4,770 คะแนน จริงๆพวกระดับราคานี้การใช้งานทั่วไปทำงานคงไม่ต้องกังวลตอบโจทย์ทำงาน ทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบครับ ไม่ต้องห่วงเลยแหละ ตั้งแต่ Word ไปยังตัดต่อ 4K รองรับได้สบายด้วยความแรงทั้ง CPU -GPU ที่รองรับกันอย่างดีและระบายความร้อนได้ดีด้วย จากการทดสอบเสร็จแล้วนั้น ความร้อนตัวเครื่องวัดได้ที่ CPU – 61 GPU 53 องศาครับผมสภาพ ไม่มีแอร์ และ ไม่มีพัดลมเปิดช่วย

3D MARK นั้น ทำคะแนนเรียกได้ว่าสูงมากกก รวมถึงการทดสอบทั้ง 3 แบบนะครับคะแนนทำได้ดีเลยแหละ ตัว TIMESPY ที่เน้นไปเจาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อป เกมมิ่ง ทำคะแนนได้แตะ 4พันเลยทีเดียว และ ทดสอบอื่นๆที่รองลงมานั้น แตะ หมื่นต้นๆ และ Sky Driver พุ่งไปถึงเกือบ 3 หมื่น การประมวลผลในด้าน 3D Mark สบายๆ ส่วนในเรื่องความร้อน แอดมินทดสอบต่อเนื่อง 3 แบบและวัดความร้อนนั้นประมาณ CPU 70 และ GPU 64 ไม่มีแอร์ และ ไม่มีพัดลมเปิดช่วยครับผม ถือว่าจัดการได้ดีอยู่ และ พัดลมนั้นทำงานสูงสุดเลยครับระบายได้ค่อนข้างดี

ตัวนี้มี Intel UHD Graphics 630 มาให้ด้วยแต่เหมือนจะไม่ได้ใช้ตัวนั้นครับปิดใช้งานไปเลยและ ใช้เป็นสตัว NVIDIA GeForce GTX 1060 แทนทั้งหมดโดยจริงๆคือมันแรงมากกกก และการใช้งาน GPU ตัวนี้มันทำให้ความลื่นไหลที่ประมวลผลออกมาทำได้ดี และ ตอบสนองจอ 144HZ ได้แบบลื่นไหลดันเกมให้สูงๆได้แบบสมราคาเลย
[SR] รีวิว ASUS ROG Zephyrus S บางเบาที่สุด พร้อมด้วย GTX 1060 และจอภาพ 144 Hz 3 ms
ROG Zephyrus เป็นตระกูลที่ต้องบอกว่าตัวเทพเลยสำหรับ ROG และชอบทำ Gaming Notebook แรงๆแต่เบามาในหลายๆรุ่นที่ออกมาจะพยายามยัดเทคโนโลยีใหม่ๆมาเสมอครับ ทั้งระบบพัดลม การยกตัวเครื่องทำให้การระบายความร้อนดีขึ้นและ เครื่องบาง เบากว่าเดิมไปในทุกๆรุ่นนั้นเอง ในวันนี้เราจะมาลองรุ่นล่าสุดจากทาง ROG คือรุ่น Zephyrus S ครับรุ่นนี้มาจุดเด่นมากมายและได้ชื่อว่าเป็น Gaming Notebook ที่บางเบาที่สุดในโลก และใช้จอ Full HD IPS Refresh Rate 144 Hz + Respond Time 3 ms ตัวแรกของโลกด้วยนั้นเองครับ !
ZEPHYRUS S เปิดตัวในประเทศไทยกันมาแล้ว หลังจากที่แอดมินได้ไปลองที่ไต้หวัน บอกเลยว่าติดใจมาตั้งแต่ที่นู้นแล้วและรอที่จะเข้ามาขายเร็วๆ ตัวนี้มาพร้อมหน้าจอ 15.6 นิ้ว Full HD IPS Refresh Rate 144 Hz + Respond Time 3 ms 100% ของมาตรฐานสีแบบ sRGB ที่ระดับความบางเพียง 14.95 ~ 15.75 มม. ทำให้ Zephyrus S นั้นบางกว่า Zephyrus รุ่นแรก (GX501) ถึงกว่า 12% เลยทีเดียวในเรื่อง CPU นั้นมา intel Core i7-8750H และ การ์ดจอ GTX 1060 6 GB GDDR5 พร้อมด้วย 512 GB SSD M.2 PCI-E NVMe และ RAM 16 GB ครับ สเปคถือว่าเอาเรื่องเลยแหละ และด้วยความบางแบบนั้นทำให้มันน่าสนใจมากๆเลยทีเดียว
ASUS ROG ZEPHYRUS S GX531GM INTEL CORE I7-8750H + GEFORCE GTX1060 6 GB GDDR5 นั้น เปิดราคามาที่ 64,900 บาทไทยครับผม พร้อมด้วยประกัน 2 ปี ครับผม
UNBOX
กล่องของทาง ROG Zephyrus S นั้นจะเป็นกล่องใหญ่และข้างในมี 2 กล่องย่อยอีกรอบนะครับ กล่องย่อยแรกคือกล่องใส่ สายชาร์จ Adaptor แนวยาวๆสีดำทำออกมาดูดีดูแพงมาก ส่วนอีกกล่องนั้นเป็นกล่องใส่คอมพิวเตอร์ต่างๆพวกคู่มือ สติกเกอร์นั้นเองอย่างที่เห็นในภาพที่มีโลโก้สีแดงนั้นเองครับ ส่วนอุปกรณ์ก็ให้มาครบและโทนสีดำทั้งหมด
- ตัว ROG Zephyrus S
- Adaptor ROG
- คู่มือการใช้งาน
- สติกเกอร์ ROG
- และที่คล้อง ROG วัสดุเหล็ก และ โลโก้สีแดงบนผ้า
DESIGN
การออกแบบของรุ่นนี้ ยังคงเอกลักษณ์ของ Zephyrus ได้สวยงามทั้งความบาง เบา และ ฝาหลังแบบ 2 วัสดุเฉียงพร้อมกับโลโก้ ROG วัสดุเป็นแบบด้าน ผสมกับฝาหลังแบบปัดลายสวยงามมมากๆ งานเนี้ยบทั้งตัวเครื่องครับฝาหลังตัดขอบเหลี่ยมสวยงาม ตัวเครื่องจะเหลี่ยมทั้งเครื่องดุดันและวัสดุสัมผัสดีเพราะทำจาก อลูมิเนี่ยม และ แม็กนีเซียม และส่วนฐานด้านหลังจะเป็นอีก 1 ชิ้นครับ การออกแบบเรียบดูดีและสวยงามไม่ผิดหวังเลย ต่อยอดรุ่นเดิมได้ดีมาก
เมื่อเปิดฝาขึ้นมาแล้วนั้นจะเจอกันหน้าจอที่ขอบบางขึ้นดูสวยงามากขึ้น และ ตำทั้งคียบอร์ดและ Touchpad วางอยู่ในส่วนแถบล่างสุดของตัวคอมพิวเตอร์โดยส่วนบนทิ้งเป็นส่วนการ์ดจอและการระบายความร้อน แต่ก็ยังมีโลโก้และเส้นสายรูระบายอากาศที่เห็นเป็นเส้นเฉียงๆระหว่าง โลโก้ ROG ถือว่าทำได้สวยงามและเข้ากับสายเกมเมอร์อย่างมาก
เมื่อเปิดฝาแล้วมามองด้านหลังนั้นถ้าเจอแสงบางมุมจะทำให้มันสวยงามไปยิ่งกว่าเดิมการใช้สีในโทนเข้มหรือเรียกว่า Armor Titanium นั้นทำออกมาได้ดูดีจริงๆและเป็น Gaming Notebook ที่ดีไซน์เรียบแต่ดูดุดันอันดับต้นๆเลยครับ ตัวโลโกนั้นเมื่อเจอแสงแบบนี้จะเป็นสีโครมเมี่ยมแต่ถ้าเปิดคอมพิวเตอร์แล้วนั้นจะมีไฟออกมาด้วยนะครับ
ตัวทางด้านโลโก้ ROG ในส่วนของฝาหลังนั้นถ้ามองบางมุมอาจจะไม่ค่อยเห็นว่ามันมีไฟเท่าไร แต่ถ้าเราใช้งานเวลากลางคืนหรือไม่เจอแสงกระทบมากนักกจะเห็นไฟสีแดงส่องฝ่านแผ่นอลูมิเนียมที่ทำการเจาะรูไว้ตรงบริเวณโลโก้ซึ่งทั้งฝาหลังและการเจาะรูนั้นขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมดในการขึ้นรูปแบบ CNC-milling ทั้งเครื่องเลยแข็งแรงสุดๆ
ฐานตัวเครื่องนั้นเป็นอีก 1 จุดเด่นที่น่าสนใจเลยครับ แท่นยางรองเครื่องมาถึง 6 จุดด้วยกันและมีการยกตัวเครื่องให้สูงขึ้นมาจากพื้นนิดหน่อย และจะเห็นรูระบายกาศค่อนข้างเยอะครับขอบด้านข้างทั้ง 2 แต่ถ้าใครยังกลัวเรื่องความร้อนนั้นไม่ต้องห่วงเลย ตัวนี้มาพร้อมกับระบบยกตัวเครื่องให้มีช่องว่างให้ลมเข้าแบบภาพที่ 2 และยังมีไฟ RGB ด้วยนะ ซึ่งตรงที่ยกขึ้นนั้นจะเป็นพัดลมทั้ง 2 ข้าง โดยจะช่วยระบายได้ดีขึ้นเพราะขยายช่องลมมากกว่าเดิมถึง 5มม. และไหลเวียนได้ดีขึ้นมาก ใบพัดก็มีจัดเต็มถึง 83 ใบพัด ทำงานแบบ 12V และมีระบบกักฝุ่นเข้าตัวเครื่องอีกด้วยครับ
ทางด้านคียบอร์ดนั้นมาพร้อมกับปุ่มเต็มรูปแบบและวางไว้สุดขอบเครื่องอาจจะดูแปลกตาไม่ค่อยมีที่วางมือเท่าไรครับผมแต่ก็ใช้งานปรับตัวได้ไม่ยาก ส่วน Touchpad นั้นไปอยู่มุมขวา พร้อมกับสามารถกด Numpad โดยเป็นแบบสัมผัสนั้นเอง สารมารถเปิดปิดได้ ตัวปุ่มเปิดปิดบนขวาสุดมาพร้อมไฟสีแดงและอยู่โดดเดี่ยวในบริเวณนั้นไม่มีปุ่มอื่นๆ
ตัวขอบหน้าจอส่วนล่างยังมีความหนาพอสมควรเป็นปกติครับ และเขียนชื่อเต็ม ROG ไว้ด้วย พร้อมกับไฟสถานะทั้ง 3 จุดตรงกลางส่วนฐาน พร้อมกับ การเล่นลวดลายที่ดูใส่ใจในการออกแบบหลายๆจุดครับ แม้จะเป็นส่วนแถบเล็กๆนั้นก็ยังมีการคิดอะไรมาให้เข้ากับการออกแบบทั้งหมด และเห็นรูๆนั้นทั้ง 2 ข้างคือลำโพงยิงตรงๆมาสู่คนที่นั่งอยู่นั้นเอง
ตัวขอบเครื่องทั้งหมดนั้น เป็นการเล่นกับสีทองแดง Plasma Copper ตัดขอบมุมได้สวยงามและเงาทำให้โดดเด่นออกมาจากทั้งเครื่องสีดำด้านและเข้ากับความเหลี่ยมสันของตัวเครื่องมากๆ แอบหรูๆคล้ายพวก Zenbook pro เลย
มาส่องจุดเด่นของมันกันอีกชัดๆ และขาจอที่มีความแข็งแรงในรูปทรงบานพับแบบกรรไกร กางสุดได้แค่นั้นนะครับ และเมื่อเราเปิดจอ ตัวขานั้นก็จะทำหน้าที่ยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น แบบที่เห็นในภาพที่มีไฟลอดออกมานั้นเอง และช่องสี่เหลี่ยมๆนั้นคือรูระบายอากาศของพัดลมที่จะทำหน้าที่เอาลมออกมาทั้งด้านข้าง และ ด้านหลังเลยครับ ชอบการยกตัวเครื่องของแบรนด์นี้จริงๆนะ คือมันยกแล้วได้ประโยชน์ ทั้งการพิมพ์ง่ายขึ้นในพวก Zenbook และ ระบายความร้อนดีขึ้นในตัวนี้
หน้าจอนั้นเป็นหน้าจอ 15.6 นิ้วแต่ยัดบีบลงมาให้อยู่ในขนาดตัวเครื่องประมาณ 14 นิ้วกว่าๆ เพราะขอบจอบางมากๆทั้ง 2 ด้าน และขอบบนที่บางขึ้นทำให้ขนาด ความใหญ่นั้นลดลงแบบชัดเจนครับ แต่กล้องหน้าอะไรก็ยังอยู่ส่วนบนไม่ได้เอาลงมาไว้หรือตัดออกไปไหนครับ หน้าจอเป็นหน้าจอแบบด้านเหมาะสำหรับสายเกมค่อนข้างมากเลยแหละ
ZEPHYRUS S GX531 นั้นจะมีความบางอยู่ที่ 14.95 มิลลิเมตรเท่านั้นเมื่อเราปิดฝา แต่ถ้าเราเปิดฝาจะเห็นจากภาพด้านบนเลยว่ามันทำหน้าที่ยกยังไงมีช่องขนาดไหนและสูงขึ้นประมาณไหนครับบอกเลยว่ามันช่วยได้มากๆจริงอ้อและสำหรับความแข็งแรงบางคนกลัวว่า ฝามันเปิดๆแล้วมีช่องแบบนี้มันแข็งแรงไหมนั้น รุ่นนี้ยังผ่านมาตรฐานทางการทหาร MIL-STD-810G ที่รองรับการสั่นสะเทือน แรงกระแทกบอกเลยว่าไม่ต้องกลัวครับ ทนทั้งความร้อน เย็น กระแทกได้สบายเลยแหละ เป็นรุ่นที่เบา บางแต่ได้ GTX 1060 I7 เล่นเกมสะบายสเปคแรงต้องขอบคุณเทคโนโลยีสมัยนี้ที่จับ สเปคโหดแบบนี้มาใส่ความบาง เบา แข็งแรง และระบายความร้อนได้ดีแบบนี้ครับ
SPEC GX531GM (Zephyrus S)
- Windows 10 Home
- Intel® Core™ i7-8750H
- NVIDIA® GeForce® GTX 1060
- 6GB GDDR5 VRAM
- 16GB DDR4 2666MHz SDRAM Up to 24 GB (8 GB on board memory + 8GB DDR4 2666)
- M.2 NVMe PCIE 3.0 x4 512GB SSD
- หน้าจอ 15.6-inch Full HD (1920×1080) IPS-level panel, 144Hz, 3ms, 100% sRGB
- Backlit chiclet keyboard พร้อม Aura Sync 4 zones RGB backlight mode
- ลำโพง 2 ตัว 2W speakers + Smart AMP technology
- Array Microphone
- Armoury Crate
- XSplit Gamecaster (Free)
- พอร์ทเชื่อมต่อ 1 x USB3.1 Gen2 Type-C with DisplayPort™ 1.2 and Power Delivery
- 1x USB3.1 Gen 1 Type-C // 1x USB3.1 Gen2 Type-A // 2x USB 2.0 Type-A
- 1x HDMI 2.0 // 1x 3.5mm headphone and microphone combo jack // 1x Kensington lock
- 180W Power Adaptor
- Intel® 802.11ac (2×2) Gigabit Wi-Fi
- Bluetooth 5.0
- ขนาด และ น้ำหนัก 360 (W) x 268 (D) x 14.95~15.75 (H) mm 2.1 KG
PERFORMANCE
สำหรับทางด้านของ ASUS ROG ZEPHYRUS S GX531 มาพร้อมกับ CPU Intel Core i7-8750H มีความเร็ว 2.20 GHz และเร่งไปได้สุดๆ 4.10 GHz มาพร้อมกับ 6 Core 12 Threads ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นที่มีหลายๆตัวเอามาใช้กันเยอะมากจริงๆ มันดีและก็แรงแน่นอนว่าหลายๆรุ่นเลยเอามาใช้กัน และทำงานร่วมกัน GTX 1060 อีกด้วยทำให้มันแรงไปอีกในการใช้งานทั่วไปรวมถึงสายเกมจัดหนักครับ ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับ RAM 8GB DDR4 แบบ 2 แถว รวมเป็น 16GB และ SSD 512GB M.2 NVMe บอกเลยว่า แรงเกินหน้าเกินตาไปแล้ว
PCMark 10 ในตัวคะแนนการทดสอบนั้นได้มากถึง 4,770 คะแนน จริงๆพวกระดับราคานี้การใช้งานทั่วไปทำงานคงไม่ต้องกังวลตอบโจทย์ทำงาน ทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบครับ ไม่ต้องห่วงเลยแหละ ตั้งแต่ Word ไปยังตัดต่อ 4K รองรับได้สบายด้วยความแรงทั้ง CPU -GPU ที่รองรับกันอย่างดีและระบายความร้อนได้ดีด้วย จากการทดสอบเสร็จแล้วนั้น ความร้อนตัวเครื่องวัดได้ที่ CPU – 61 GPU 53 องศาครับผมสภาพ ไม่มีแอร์ และ ไม่มีพัดลมเปิดช่วย
3D MARK นั้น ทำคะแนนเรียกได้ว่าสูงมากกก รวมถึงการทดสอบทั้ง 3 แบบนะครับคะแนนทำได้ดีเลยแหละ ตัว TIMESPY ที่เน้นไปเจาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อป เกมมิ่ง ทำคะแนนได้แตะ 4พันเลยทีเดียว และ ทดสอบอื่นๆที่รองลงมานั้น แตะ หมื่นต้นๆ และ Sky Driver พุ่งไปถึงเกือบ 3 หมื่น การประมวลผลในด้าน 3D Mark สบายๆ ส่วนในเรื่องความร้อน แอดมินทดสอบต่อเนื่อง 3 แบบและวัดความร้อนนั้นประมาณ CPU 70 และ GPU 64 ไม่มีแอร์ และ ไม่มีพัดลมเปิดช่วยครับผม ถือว่าจัดการได้ดีอยู่ และ พัดลมนั้นทำงานสูงสุดเลยครับระบายได้ค่อนข้างดี
ตัวนี้มี Intel UHD Graphics 630 มาให้ด้วยแต่เหมือนจะไม่ได้ใช้ตัวนั้นครับปิดใช้งานไปเลยและ ใช้เป็นสตัว NVIDIA GeForce GTX 1060 แทนทั้งหมดโดยจริงๆคือมันแรงมากกกก และการใช้งาน GPU ตัวนี้มันทำให้ความลื่นไหลที่ประมวลผลออกมาทำได้ดี และ ตอบสนองจอ 144HZ ได้แบบลื่นไหลดันเกมให้สูงๆได้แบบสมราคาเลย
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้