[SR] รีวิว ROG ZEPHYRUS S มาพร้อม RTX 2070 8GB และ หน้าจอ 144Hz 3MS


ROG Zephyrus S ชื่อนี้ต้องบอกไว้ก่อนว่า เป็นตระกูลเลยสำหรับ ROG และ เด่นเรื่องของความบางเบา และ ความแรงมาอยู่ในตัวครับ แน่นอนว่าในรุ่นไม่นานมานี้มันได้ออกตัว GTX หรือรุ่น 531GM กันไปไม่นาน และในครั้งนี้ก็ได้มีการอัพเกรดภายใน ในเรื่องของการ์ดจอ ที่ปรับมาใช้ RTX 2070 กันเลยทีเดียว และ ทั้งระบบพัดลม การยกตัวเครื่องทำให้การระบายความร้อนดีขึ้นและ เครื่องบาง เบากว่าเดิมไปในทุกๆรุ่นนั้นเอง ยังคงเด่นเรื่องของความบางเบาที่สุดในโลก และใช้จอ Full HD IPS Refresh Rate 144 Hz + Respond Time 3 ms ที่เป็นจุดเด่นในรุ่นก่อนก็ยังคงมาในรุ่นนี้แต่มันดีกว่าเดิมเพราะ RTX 2070 8GB นั้นจะขับได้ดีและลื่นไหลกว่าเดิมมากเลยแหละ


ZEPHYRUS S 531GW มาพร้อมหน้าจอ 15.6 นิ้ว Full HD IPS Refresh Rate 144 Hz + Respond Time 3 ms 100% ของมาตรฐานสีแบบ sRGB ที่ระดับความบางเพียง 14.95 ~ 15.75 มม. CPU นั้นมา intel Core i7-8750H และ การ์ดจอ RTX 2070 MAX-Q 8GB DDR6 พร้อมด้วย 512 GB SSD M.2 PCI-E NVMe และ RAM 16 GB ครับ สเปคถือว่าเอาเรื่องเลยแหละ และด้วยความบางแบบนั้นทำให้มันน่าสนใจมากๆเลย



ASUS ROG ZEPHYRUS S GTX™ 1060 ราคา 64,990 บาท + RTX™ 2070 Max-Q ราคา 79,990 บาทครับผม



UNBOX

กล่องของทาง ROG Zephyrus S นั้นจะเป็นกล่องใหญ่และข้างในมี 2 กล่องย่อยอีกรอบนะครับ และ มีซองผ้ามาให้ใส่ด้วยซึ่งรุ่น GTX จะไม่มีมาให้ครับ ส่วนกล่องย่อยแรกคือกล่องใส่ สายชาร์จ Adaptor แนวยาวๆสีดำทำออกมาดูดีดูแพงมาก ส่วนอีกกล่องนั้นเป็นกล่องใส่คอมพิวเตอร์ต่างๆพวกคู่มือ สติกเกอร์นั้นเองอย่างที่เห็นในภาพที่มีโลโก้สีแดงนั้นเองครับ ส่วนอุปกรณ์ก็ให้มาครบและโทนสีดำทั้งหมด

- ตัว ROG Zephyrus S
- Adaptor ROG
- คู่มือการใช้งาน
- ตัว โมเดล 3 มิติแบบเหล็ก ต้องประกอบเอง
- ซองผ้า ROG สำหรับใส่เครื่อง


DESIGN

การออกแบบของรุ่นนี้ ยังคงเอกลักษณ์ของ Zephyrus ได้สวยงามทั้งความบาง เบา และ ฝาหลังแบบ 2 วัสดุเฉียงพร้อมกับโลโก้ ROG วัสดุเป็นแบบด้าน ผสมกับฝาหลังแบบปัดลายสวยงามมมากๆ งานเนี้ยบทั้งตัวเครื่องครับฝาหลังตัดขอบเหลี่ยมสวยงาม ตัวเครื่องจะเหลี่ยมทั้งเครื่องดุดันและวัสดุสัมผัสดีเพราะทำจาก อลูมิเนี่ยม และ แม็กนีเซียม และส่วนฐานด้านหลังจะเป็นอีก 1 ชิ้นครับ การออกแบบเรียบดูดีและสวยงามไม่ผิดหวังเลย ต่อยอดรุ่นเดิมได้ดีมาก


ด้านหลังนั้นถ้าเจอแสงบางมุมจะทำให้มันสวยงามไปยิ่งกว่าเดิมการใช้สีในโทนเข้มหรือเรียกว่า Armor Titanium นั้นทำออกมาได้ดูดีจริงๆและเป็น Gaming Notebook ที่ดีไซน์เรียบแต่ดูดุดันอันดับต้นๆเลยครับ ตัวโลโกนั้นเมื่อเจอแสงแบบนี้จะเป็นสีโครมเมี่ยมแต่ถ้าเปิดคอมพิวเตอร์แล้วนั้นจะมีไฟออกมาด้วยนะครับ


เมื่อเปิดฝาขึ้นมาแล้วนั้นจะเจอกันหน้าจอที่ขอบบางขึ้นดูสวยงามากขึ้น และ ตำทั้งคียบอร์ดและ Touchpad วางอยู่ในส่วนแถบล่างสุดของตัวคอมพิวเตอร์โดยส่วนบนทิ้งเป็นส่วนการ์ดจอและการระบายความร้อน แต่ก็ยังมีโลโก้และเส้นสายรูระบายอากาศที่เห็นเป็นเส้นเฉียงๆระหว่าง โลโก้ ROG ถือว่าทำได้สวยงามและเข้ากับสายเกมเมอร์อย่างมาก


เมื่อเปิดฝาแล้วมามองด้านหลังนั้นถ้าเจอแสงบางมุมจะทำให้มันสวยงามไปยิ่งกว่าเดิมการใช้สีในโทนเข้มหรือเรียกว่า Armor Titanium นั้นทำออกมาได้ดูดีจริงๆและเป็น Gaming Notebook ที่ดีไซน์เรียบแต่ดูดุดันอันดับต้นๆเลยครับ ตัวโลโกนั้นเมื่อเจอแสงแบบนี้จะเป็นสีโครมเมี่ยมแต่ถ้าเปิดคอมพิวเตอร์แล้วนั้นจะมีไฟออกมาด้วยนะครับ



ตัวทางด้านโลโก้ ROG ในส่วนของฝาหลังนั้นถ้ามองบางมุมอาจจะไม่ค่อยเห็นว่ามันมีไฟเท่าไร แต่ถ้าเราใช้งานเวลากลางคืนหรือไม่เจอแสงกระทบมากนักจะเห็นไฟสีแดงที่ครั้งนี้ไม่มีแบบเจาะรูอะไรแบบรุ่น GTX แล้วนะเป็นสีแดงเรียบๆล้วนๆเลย แต่ก็ยังมองยากอยู่ดี รวมถึงไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ด้วย และวัสดุทั้งฝาหลังนั้นขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมดในการขึ้นรูปแบบ CNC-milling ทั้งเครื่องเลยแข็งแรงสุดๆ สมกับการรองรับ MIL STD 810G



ฐานตัวเครื่องนั้นเป็นอีก 1 จุดเด่นที่น่าสนใจเลยครับ แท่นยางรองเครื่องมาถึง 6 จุดด้วยกันและมีการยกตัวเครื่องให้สูงขึ้นมาจากพื้นนิดหน่อย และจะเห็นรูระบายกาศค่อนข้างเยอะครับขอบด้านข้างทั้ง 2 แต่ถ้าใครยังกลัวเรื่องความร้อนนั้นไม่ต้องห่วงเลย ตัวนี้มาพร้อมกับระบบยกตัวเครื่องให้มีช่องว่างให้ลมเข้าแบบภาพที่ 2 และยังมีไฟ RGB ด้วยนะ ซึ่งตรงที่ยกขึ้นนั้นจะเป็นพัดลมทั้ง 2 ข้าง โดยจะช่วยระบายได้ดีขึ้นเพราะขยายช่องลมมากกว่าเดิมถึง 5มม. และไหลเวียนได้ดีขึ้นมาก ใบพัดก็มีจัดเต็มถึง 83 ใบพัด ทำงานแบบ 12V และมีระบบกักฝุ่นเข้าตัวเครื่องอีกด้วยครับ


ทางด้านคียบอร์ดนั้นมาพร้อมกับปุ่มเต็มรูปแบบและวางไว้สุดขอบเครื่องอาจจะดูแปลกตาไม่ค่อยมีที่วางมือเท่าไรครับผมแต่ก็ใช้งานปรับตัวได้ไม่ยาก ส่วน Touchpad นั้นไปอยู่มุมขวา พร้อมกับสามารถกด Numpad โดยเป็นแบบสัมผัสนั้นเอง สารมารถเปิดปิดได้ ตัวปุ่มเปิดปิดบนขวาสุดมาพร้อมไฟสีแดงและอยู่โดดเดี่ยวในบริเวณนั้นไม่มีปุ่มอื่นๆ


ตัวขอบหน้าจอส่วนล่างยังมีความหนาพอสมควรเป็นปกติครับ และเขียนชื่อเต็ม ROG ไว้ด้วย พร้อมกับไฟสถานะทั้ง 3 จุดตรงกลางส่วนฐาน พร้อมกับ การเล่นลวดลายที่ดูใส่ใจในการออกแบบหลายๆจุดครับ แม้จะเป็นส่วนแถบเล็กๆนั้นก็ยังมีการคิดอะไรมาให้เข้ากับการออกแบบทั้งหมด และเห็นรูๆนั้นทั้ง 2 ข้างคือลำโพงยิงตรงๆมาสู่คนที่นั่งอยู่นั้นเอง


ตัวขอบเครื่องทั้งหมดนั้น เป็นการเล่นกับสีทองแดง Plasma Copper ตัดขอบมุมได้สวยงามและเงาทำให้โดดเด่นออกมาจากทั้งเครื่องสีดำด้านและเข้ากับความเหลี่ยมสันของตัวเครื่องมากๆ แอบหรูๆคล้ายพวก Zenbook pro เลย


มาส่องจุดเด่นของมันกันอีกชัดๆ และขาจอที่มีความแข็งแรงในรูปทรงบานพับแบบกรรไกร กางสุดได้แค่นั้นนะครับ และเมื่อเราเปิดจอ ตัวขานั้นก็จะทำหน้าที่ยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น แบบที่เห็นในภาพที่มีไฟลอดออกมานั้นเอง และช่องสี่เหลี่ยมๆนั้นคือรูระบายอากาศของพัดลมที่จะทำหน้าที่เอาลมออกมาทั้งด้านข้าง และ ด้านหลังเลยครับ ชอบการยกตัวเครื่องของแบรนด์นี้จริงๆนะ คือมันยกแล้วได้ประโยชน์ ทั้งการพิมพ์ง่ายขึ้นในพวก Zenbook และ ระบายความร้อนดีขึ้นในตัวนี้


หน้าจอนั้นเป็นหน้าจอ 15.6 นิ้วแต่ยัดบีบลงมาให้อยู่ในขนาดตัวเครื่องประมาณ 14 นิ้วกว่าๆ เพราะขอบจอบางมากๆทั้ง 2 ด้าน และขอบบนที่บางขึ้นทำให้ขนาด ความใหญ่นั้นลดลงแบบชัดเจนครับ แต่กล้องหน้าอะไรก็ยังอยู่ส่วนบนไม่ได้เอาลงมาไว้หรือตัดออกไปไหนครับ หน้าจอเป็นหน้าจอแบบด้านเหมาะสำหรับสายเกมค่อนข้างมากเลยแหละ


ZEPHYRUS S GX531GW นั้นจะมีความบางอยู่ที่ 14.95 มิลลิเมตรเท่านั้นเมื่อเราปิดฝา แต่ถ้าเราเปิดฝาจะเห็นจากภาพด้านบนเลยว่ามันทำหน้าที่ยกยังไงมีช่องขนาดไหนและสูงขึ้นประมาณไหนครับบอกเลยว่ามันช่วยได้มากๆจริงอ้อและสำหรับความแข็งแรงบางคนกลัวว่า ฝามันเปิดๆแล้วมีช่องแบบนี้มันแข็งแรงไหมนั้น รุ่นนี้ยังผ่านมาตรฐานทางการทหาร MIL-STD-810G ที่รองรับการสั่นสะเทือน แรงกระแทกบอกเลยว่าไม่ต้องกลัวครับ ทนทั้งความร้อน เย็น กระแทกได้สบายเลยแหละ เป็นรุ่นที่เบา บางแต่ได้ RTX2070 i7 เล่นเกมสะบายสเปคแรงต้องขอบคุณเทคโนโลยีสมัยนี้ที่จับ สเปคโหดแบบนี้มาใส่ความบาง เบา แข็งแรง และระบายความร้อนได้ดีแบบนี้ครับ


SPEC

- Windows 10 Home
- Intel® Core™ i7-8750H
- NVIDIA® GeForce® RTX 2070 MAX-Q
- 8GB GDDR6 VRAM
- 16GB DDR4 2666MHz SDRAM Up to 24 GB (8 GB on board memory + 8GB DDR4 2666)
- M.2 NVMe PCIE 3.0 x4 512GB SSD
- หน้าจอ 15.6-inch Full HD (1920×1080) IPS-level panel, 144Hz, 3ms, 100% sRGB
- Backlit chiclet keyboard พร้อม Aura Sync 4 zones RGB backlight mode
- ลำโพง 2 ตัว 2W speakers + Smart AMP technology
- Array Microphone
- Armoury Crate
- XSplit Gamecaster (Free)
- พอร์ทเชื่อมต่อ 1 x USB3.1 Gen2 Type-C with DisplayPort™ 1.2 and Power Delivery
- 1x USB3.1 Gen 1 Type-C // 1x USB3.1 Gen2 Type-A // 2x USB 2.0 Type-A
- 1x HDMI 2.0 // 1x 3.5mm headphone and microphone combo jack // 1x Kensington lock
- 180W Power Adaptor
- Intel® 802.11ac (2×2) Gigabit Wi-Fi
- Bluetooth 5.0
- ขนาด และ น้ำหนัก 360 (W) x 268 (D) x 14.95~15.75 (H) mm 2.1 KG


PERFORMANCE

ASUS ROG ZEPHYRUS S GX531GW มาพร้อมกับ CPU Intel Core i7-8750H มีความเร็ว 2.20 GHz และเร่งไปได้สุดๆ 4.10 GHz มาพร้อมกับ 6 Core 12 Threads ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นที่มีหลายๆตัวเอามาใช้กันเยอะมากจริงๆ มันดีและก็แรงแน่นอนว่าหลายๆรุ่นเลยเอามาใช้กัน และทำงานร่วมกัน RTX 2070 8GB DDR6 อีกด้วยทำให้มันแรงไปอีกในการใช้งานทั่วไปรวมถึงสายเกมจัดหนักครับ ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับ RAM 8GB DDR4 แบบ 2 แถว รวมเป็น 16GB และ SSD 512GB M.2 NVMe บอกเลยว่าโหดกว่ารุ่นเดิมแบบชัดเจน มาดูคะแนนกันก่อนเลย


PCMark 10 ในตัวคะแนนการทดสอบนั้นได้มากถึง 5,322 คะแนน จริงๆพวกระดับราคานี้การใช้งานทั่วไปทำงานคงไม่ต้องกังวลตอบโจทย์ทำงาน ทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบครับ ไม่ต้องห่วงเลยแหละ ตั้งแต่ Word ไปยังตัดต่อ 4K รองรับได้สบายด้วยความแรงทั้ง CPU -GPU ที่รองรับกันอย่างดีและระบายความร้อนได้ดีด้วย จากการทดสอบเสร็จแล้วนั้น ความร้อนตัวเครื่องวัดได้ที่ CPU – 80 GPU 74 องศาครับผมสภาพ ไม่มีแอร์ และ ไม่มีพัดลมเปิดช่วย


ชื่อสินค้า:   ROG ZEPHYRUS S
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่