คนทรยศ 1/1

พอมีเวลาเหลือเขียนเรื่องสั้นอยู่บ้าง ลิเขียนให้อ่านกันเลยนะคะ ติชมเข้ามาได้ค่ะ

คนทรยศ


โดย... ล. วิลิศมาหรา

สี่แยกถนนลาร์มาสพลุกพล่านจอแจไปด้วยยวดยานและผู้คนสัญจรไปมา ริมถนนด้านที่ติดกับสวนสาธารณะ ชายวัยกลางคนร่างผอม ผมขาวโพลนทั่วศีรษะ ผิวซีดเผือดเหมือนคนตาย ยืนพิงเสาไฟฟ้าเหมือนรอคอยใครอยู่ ม่านตาสีชมพูหรี่ปรือ คล้ายคนยังไม่ตื่นนอนดี เปล่งประกายขึ้นแวบหนึ่ง เมื่อเห็นเด็กหนุ่มส่งหนังสือพิมพ์ปั่นจักรยานตรงมาหา

“ฉันต้องการดัสเชรีนิวส์” เด็กหนุ่มยื่นหนังสือพิมพ์ฉบับที่เขาอยากได้ให้ รับเงินค่าหนังสือพิมพ์มายัดใส่ลงในกระเป๋าเสื้อโค้ท พร้อมกับกระดาษชิ้นเล็กๆ ชิ้นหนึ่ง ก่อนจะปั่นจักรยานจากไป...

อันเดรคลี่ยิ้มมุมปาก เมื่อในที่สุดเขาก็เข้ามายืนอยู่หน้าห้องใต้ดินลึกลับของตึกสีน้ำตาลแดง อันเคยเป็นทัณฑสถานเก่าของเมืองได้สำเร็จ ไม่มีใครคาดคิดว่าหนึ่งในห้องคุมขังนักโทษจะถูกขุดเป็นอุโมงค์ทอดยาวไกลหลายร้อยเมตรไปหาห้องคล้ายหลุมหลบภัยนี้ได้ ชายผิวเผือกก้าวตรงเข้าไปเคาะประตูเป็นระหัสที่ได้มาจากลายแทงซึ่งซุกซ่อนในหลืบของหนังสือพิมพ์ฉบับเมื่อเช้านี้

ผู้ชายร่างสูงใหญ่ที่เปิดประตูรับเขายังอยู่ในวัยหนุ่มฉกรรจ์ นัยน์ตาสีฟ้าเคยคมกริบดูหม่นมัวและอ่อนล้า เคราครึ้มขึ้นเต็มบริเวณขากรรไกรและคาง เสื้อผ้าที่สวมใส่ดูเก่า ขะมุกขะมอม บ่งบอกถึงความขัดสน ยากลำบากในการดำรงชีวิต

“หวัดดีซิมโบ”

อันเดรเป็นฝ่ายทักทายก่อน ชายหนุ่มในห้องเพียงแค่พยักหน้านิดเดียว คิ้วหนาขมวดเป็นปมขณะมองหน้าแขก เขาทำท่าเหมือนครุ่นคิด ก่อนยอมให้ชายผิวเผือกผ่านประตูเข้ามา สายตาส่ายไปนอกห้องอย่างระแวดระวังก่อนงับบานประตูปิดลง

“ได้ยินมาว่าพี่มีแผนเด็ด สามารถขุดรากถอนโคนพวกนั้นได้งั้นหรือ จะทำได้ยังไงล่ะ ในเมื่อรังของพวกมันถูกคุ้มกันแน่นหนาออกปานนั้น แม้แมลงวันสักตัวก็ยังเล็ดลอดเข้าไปไม่ได้”

หลังชวนอันเดรนั่งลงบนลังไม้ บนพื้นซีเมนต์แข็งแทนเก้าอี้ ซิมโบก็เอ่ยถามทันที นัยน์ตาสีอ่อนของชายเผือก กวาดมองไปรอบห้องอย่างเคยชินกับอาชีพตำรวจ อันเดรพบว่านอกจากลังไม้ที่เขากับซิมโบกำลังนั่ง ก็มีเสื่อผ้าใบตรงมุมห้องอีกผืน ชายหญิงคู่หนึ่งนั่งเงียบอยู่บนนั้น คอยเงี่ยหูฟังบทสนทนาของ “หัวหน้าซิมโบ” กับนายตำรวจของจักรวรรดิที่ครอบงำประเทศตนเองอยู่ อาหารกระป๋องกับขวดน้ำดื่มวางกลิ้งบนพื้นสองสามกระป๋อง...อันเดรกำลังสงสัยว่า หากคนในนี้คิดจะหลบหนีคนที่บุกเข้ามา พวกเขาจะหนีไปทางไหน

“แน่นอนสิซิมโบ เรื่องนี้พี่คิดไว้นานมากแต่ยังหาโอกาสเหมาะลงมือไม่ได้ จนกระทั่งคิดว่าได้เวลาแล้ว และเพราะมันเป็นความลับสุดยอดพี่ถึงไม่ไว้ใจใคร ต้องหาทางมาเจอแกด้วยตัวเอง” เขาหันมาบอกหนุ่มรุ่นน้องเสียงขึงขัง

“อืม...บอกพี่ตามตรงนะ เพราะว่าเราหมดหนทางแล้วจริงๆ ถึงยอมเสี่ยงให้พี่มาหาถึงที่นี่”

แม้ซิมโบจะผงกศีรษะรับ แต่ปมหัวคิ้วยังไม่คลายออก เขาชำเลืองมองหน้าขาวเผือดของอันเดร น้ำเสียงบอกว่ายังไม่ใคร่ไว้ใจชายผิวเผือกเท่าใดนัก แน่ละ เป็นใครก็ต้องคิดระแวงในใจ ตำรวจที่ไหนจะมาเข้าร่วมกับกลุ่มกบฏใต้ดิน ถึงแม้อันเดรจะยืนยันว่าตัวเขาไม่เคยลืมกำพืดตัวเองก็ตาม

“อยากได้ลูกเสือมันก็ต้องเข้าถ้ำเสือ พี่รู้ แม้ว่าพวกเราจะโตมาด้วยกันในบ้านเกิดที่เซกาโซซ์ แต่พี่ก็ทำงานให้กับนายพลเปโตร พี่จึงถูกพวกเราบางคนระแวง ถือว่าเป็นโชคดีที่พี่ถูกหมอผีประจำหมู่บ้านขับไล่ออกมา ไม่งั้นคงไม่ได้เข้าเมืองมาทำงานเป็นตำรวจในกรม พวกนั้นค่อนข้างไว้ใจพี่ที่ถูกหาว่าเป็นตัวกาลกิณีของหมู่บ้าน” นั่นเป็นสิ่งที่เขายืนยันกับกลุ่มใต้ดินมาตลอดหลายปีที่แฝงตัวแอบให้ข้อมูลลับหลายอย่างแก่ทางกลุ่ม

“บอกแผนพี่มาซิ”

ซิมโบโน้มตัวลงมาถาม ข้อศอกสองข้างวางบนเข่า นิ้วมือดำๆ ประกอบด้วยเล็บหักบิ่นประสานเข้าด้วยกันระหว่างเข่า อันเดรมองหนุ่มรุ่นน้องอย่างอนาถใจ ซิมโบอ่อนกว่าเขาหลายปี เป็นลูกชายคนเดียวของคหบดีในหมู่บ้านเซกาโซซ์ เขาเรียนเก่ง ดีกรีวิศวกรไฟฟ้าจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของต่างประเทศ สงสัยว่าซิมโบทนลำบากอยู่ในห้องแคบๆ นี้ได้ยังไงตั้งหลายปี

“แผนก็คือ....”

ปึ้งๆๆๆปั้งๆๆๆ!!!

อันเดรและทุกคนในห้องชะงัก มองไปที่บานประตูห้องซึ่งกำลังถูกของหนักกระแทกอย่างแรงซ้ำๆ จนกลอนประตูเริ่มหักเป็นตาเดียว ก่อนซิมโบจะผุดลุกขึ้นยืน เขารับรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ และสิ่งนั้นทำให้รู้ต่ออีกว่าพวกตนเองกำลังถูกหักหลัง เขาหันมายกมือชี้หน้าชายผิวเผือก ตวาดด่าอย่างแค้นใจ

“แก...ไอ้คนทรยศ แกพาพวกมันมา” มืออีกข้างตวัดปืนพกสั้นออกมาจากซองข้างเอว เขาเล็งปากกระบอกปืนไปยังร่างบนลังไม้ ก่อนจะลั่นไกเปรี้ยง!!!

อันเดรซึ่งระวังตัวอยู่แล้วพุ่งตัวหลบไปทางขวา คมกระสุนจึงถากต้นแขนซ้ายเขาไปจนเลือดไหลโกรก ชายผิวเผือกร้องโอ้ย...มือขวากุมแขนซ้ายโชกเลือดของตัวเองไว้แน่น พอเห็นว่ายิงพลาดเป้าซิมโบก็วาดปากกระบอกปืนตามร่างที่กลิ้งโค่โร่อยู่กับพื้นใหม่ แต่ผู้หญิงในห้องเข้ามาลากแขนเขาไปที่เสื่อเสียก่อน ซึ่งผู้ชายอีกคนตวัดเสื่อออก เผยให้เห็นแผ่นไม้ที่ปกปิดปากหลุมข้างใต้ไว้

“รีบหนีไปเร็วเข้า ไม่มีเวลาแล้ว” หล่อนเร่งพลางรุนหลังชายคนเป็นหัวหน้า ซิมโบกัดกรามกรอดๆ ถลึงตามองคนทรยศก่อนทิ้งตัวผลุบลงปากหลุม ซึ่งคงถูกขุดเป็นอุโมงค์เพื่อใช้หลบหนีไปอีกฝั่ง

อา...แผนของเขาสำเร็จ! อันเดรถอนหายใจใหญ่ นึกถึงหลายวันก่อน ที่เขาได้มีโอกาสเข้าพบกับท่านอธิบดีกรมตำรวจ นับเป็นเกียรติอย่างสูงเมื่อบุคคลระดับสูงยอมให้ตำรวจชั้นประทวนผู้มาจากหมู่บ้านกบฏเข้าพบ เพื่อเสนอแผนขุดรากถอนโคนกลุ่มคนที่คอยก่อกวนสร้างความเดือดร้อนให้กับรัฐบาลไม่หยุดหย่อนอย่างกลุ่มของซิมโบ

“ไหน ว่าแผนมาซิ” ท่านอธิบดีพยักหน้าให้เขาเล่า

“พวกนั้นเข้าตาจนเต็มที โอกาสนี้ผมจึงคิดว่าได้เวลาจัดการกับเจ้าตัวหัวโจกมันเสียเลย ดีกว่าจะไปเล่นงานกับพวกหางแถวของกลุ่มเหมือนผ่านๆ มาให้เปลืองแรง” เขาตอบพินอบพิเทาชายอ้วนผู้แต่งเครื่องแบบนายตำรวจยศสูง ประดับเหรียญตราไว้เต็มแผงอก

“แน่ใจนะว่าจะสำเร็จ”

“ผมเข้าถึงตัวหัวหน้ากลุ่มได้ พวกนั้นจำเป็นต้องไว้ใจผมครับท่าน เพราะพวกมันไม่มีทางเลือก” ตอบท่านอธิบดีไปอย่างมั่นอกมั่นใจในวันนั้น ซึ่งในที่สุดมันก็เป็นไปตามแผนการของเขาทุกอย่าง

โครม!!!

ทันทีที่หนุ่มสาวทั้งสามหายลับเข้าไปในหลุม ประตูห้องก็พังทลายลง พร้อมชายในเครื่องแบบตำรวจหลายคนพรวดพราดตามเข้ามา มีบางคนคุกเข่าลงประคองร่างของอันเดรบนพื้น คนอื่นๆ กรูกันไปที่ปากหลุม ทำท่าว่าจะตามลงไป

“ไม่ต้องตาม พวกนั้นไปไหนไม่รอดหรอก”

ชายเผือกข่มความเจ็บปวดฝืนตัวลุกขึ้นยืนตามการประคองของคนเข้ามาช่วยเหลือ เขาเอ่ยห้ามตำรวจเหล่านั้นเสียงเรียบ ใช่...เด็กสามคนนั้นจะหนีไปไหนพ้น ในเมื่ออีกด้านของอุโมงค์ก็มีตำรวจอีกกลุ่มรอสกัดจับตัวพวกเขาอยู่แล้ว

จบตอน...โปรดติดตามตอนต่อไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่