ตอนเดิมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ ๑
https://pantip.com/topic/38182471
ตอนที่ ๒
https://pantip.com/topic/38201894
ตอนที่ ๓
https://pantip.com/topic/38222772
ตอนที่ ๔
https://pantip.com/topic/38244528
ตอนที่ ๕
https://pantip.com/topic/38267741
ตอนที่ ๖
https://pantip.com/topic/38286854
ตอนที่ ๗
https://pantip.com/topic/38310587
ตอนที่ ๘
https://pantip.com/topic/38336944
..........เด็กโรงน้ำแข็ง ( กลับบ้าน )
ธรรมดาละครับ คนทำงานมันก็ต้องมีเหนื่อยกันมั่ง ยิ่งงานโรงน้ำแข็งนี่ต้องเพิ่มความเข้มข้นไปอีกเท่าตัว ตอนยุ่ง ๆ วันนึงแป๊บเดียว กว่าจะรู้ตัวก็เย็นย่ำ เลิกงานแข้งขาอ่อน กลับบ้านกลับเข้าห้องแทบจะพุ่งตัวลงที่นอน น้ำท่าไม่อยากจะเสียเวลาอาบกันละ หัวถึงหมอนหลับไปเลย นอนยังไม่เต็มอิ่ม หายใจเข้าแทบจะยังไม่ทันจะหายใจออกนาฬิกาปลุกอีกแล้ว
จริง ๆ เวลามันก็ผ่านไปตามปกติของมันนั่นแหละ แต่ความรู้สึกของคนที่ล้ามาทั้งวัน มันเหมือนกับว่าได้นอนแค่แป๊บเดียว ตื่นมายัง งัวเงีย ๆ อีกเกือบครึ่งชั่วโมง วิญญาณจึงจะเข้าเต็มร่าง นี่คนปกตินะ ถ้าสายเมาละก็ครึ่งวันยังเข้าไม่เต็มร่างเลย เดินกันอ่อนระโหยโรยแรง โดนแดดเข้าไปหน่อยตาลืมแทบไม่ขึ้น ทนทำงานไปกว่าจะเลิกงานตอนเย็นเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด
แต่แปลกนะพอเลิกงานปุ๊บตา สว่างปั๊บโดดเข้าวงทันทีเหมือนกัน ไม่มีเข็ด เถ้าแก่ออกมาเดินดูเครื่องตีหนึ่งตีสองยังไม่นอน ไล่เข้าไปนอนยังหัวเราะกัน คิกคัก คิกคัก ไม่มีสลด พอเช้ามาเดินเซื่อง ๆ เป็นคนละคนกับเมื่อคืนเลย จะลาก็ไม่กล้า เดือนนี้ยังไม่ครึ่งเดือนหยุดไปสามวันแล้ว ถ้าไม่ทำแล้วไม่ลา เจ๊ก็หักเงินอีก ก็เลยทนเดินซึม ๆ ให้พวกรำคาญเล่นไปอีกวันนึง
แต่ถึงจะเป็นสายเมา หรือสายปกติ เวลาเริ่มงานก็คือตีสี่ งานน้อยมั่งมากมั่งจะจบลงจริง ๆ ก็ประมาณห้าโมงเย็น สิบสองสิบสามชั่วโมงติดกันทุกวันหลายวันเข้าก็ต้องลาหยุดสักที บังเอิญไปตรงกับวันที่พวกหายกันไปหลายคนเถ้าแก่ก็จะขอให้ช่วยรอบเช้าสักรอบก่อนค่อยหยุด
เอ้า ครึ่งวันก็ยังดี แต่บางทีก็เลยไปเป็นค่อนวัน เพราะเหตุการณ์หน้างานมันไม่แน่นอน ส่งจะเสร็จไม่เสร็จเหลือร้านสองร้านรถเสียซะหยั่งงั้น ต้องรอน้าจุกไปลาก กว่าจะไป กว่าจะกลับมาถึงโรงงานบ่ายสองบ่ายสาม เข้าห้องไปคว้าตะกร้าผ้าเอามาซัก ตากผ้าเสร็จปาเข้าไปสี่โมงเย็น จะไปไหนก็ไม่ทันแล้ว เลยหันซ้ายหันขวาอยู่ในห้องเก็บนู่นนิด กวาดนี่หน่อยถูห้องได้สองรอบ มืดพอดี กินข้าวกินปลา อาบน้ำอาบท่าเข้านอน หลับไปวูบนึงนาฬิกาปลุกแล้ว กว่าจะมีจังหวะได้หยุดเต็มวันจริง ๆ ก็ต้องรอกันนานมาก
คิวลายาวเหยียดซ้อนกันไปทับกันมายุ่งเหยิงไปหมด พวกที่ใช้สิทธิ์ลาไปเพราะญาติทางบ้านป่วยนี่ได้เป็นคิวต้น ๆ โดยอัตโนมัติ เรื่องเจ็บไข้ได้ป่วยนี่ห้ามกันไม่ได้ และใครก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น
ไปต่อใบขับขี่ อันนี้ก็สำคัญ บางครั้งเถ้าแก่ว่างจะพาไปเองเลย และก็ธุระอื่น ๆ ที่มีมาลากันอยู่เรื่อย ๆ ยังจะพวกเดียวกันชิงหยุดกันแบบดิบ ๆ แทบทุกวัน ปิดโทรศัพท์แล้วก็หายไปเฉย ๆ ตามทางไหนก็ไม่เจอ พอได้คนไปแทนแล้วงานจบแล้วบ่ายแก่ ๆ โน่นค่อยย่องเข้ามา ยิ้มแหย ๆ ตั้งอกตั้งใจทำงานอยู่สองสามวันเมาลุกไม่ไหวอีกแล้ว โดนบ่นโดนหักตังกี่หนก็ไม่เข็ด
หนักคนที่อยู่ละสิทีนี้ เหนื่อยขึ้นมาจะลาก็ลาไม่ได้ คนมันไม่พอ ทนไหวก็ทนไป ไม่ไหวก็ออก พอคนออกคนก็น้อย พอคนน้อยก็หาวันหยุดลำบาก วนกันไปวนกันมาอยู่อย่างนี้ทั้งปี
พวกที่หยุดบ่อย ๆ ส่วนมากบ้านอยู่ไม่ไกลมาก นึกจะกลับนึกจะไปเมื่อไรก็ได้ทันที มอเตอร์ไซค์บิดแป๊บเดียวก็ถึง เลยคิดถึงบ้านบ่อย แล้วพวกอยู่ไกล ๆ ล่ะ อย่างกระเหรี่ยงนี่นานกว่าจะได้กลับ ด้วยเหตุผลที่ต่างกันไป ที่เหมือนกันก็คือต้องใช้ตังมาก ค่าเดินทาง ค่าของฝากคนที่บ้าน บางคนไปเข้ากลุ่มขี้เหล้าก็ไม่ค่อยมีเหลือ เลยไม่กลับซะ
บางคนมีตังแต่ไม่กลับ ทำงานได้โอนให้ทางบ้านสามสี่เดือนเดือนครั้ง เหลือติดตัวไว้แค่พอกินทำให้มีเงินเก็บพอสมควร บางคนบอกให้พ่อแม่ซื้อที่ไว้ให้ทีละแปลง ทางนู้นยังไม่แพงมากหลักหมื่นยังหาได้อยู่ ทำงานสองสามเดือนก็ได้ที่แปลงนึง แต่เค้าอยู่กันได้นะเพราะเป็นถิ่นเค้า อย่างเราเห็นว่าถูกจะไปซื้ออยู่มั่งน่าจะไม่ไหว มันเป็นที่ป่าที่เขา ป่าก็ป่าดิบ ๆ ซะด้วยสิ
ของกินของใช้มีเหมือนบ้านเราซะที่ไหน เย็นมาสี่ห้าโมงเย็นก็แทบจะมืดแล้ว ไฟฟืนก็ไม่มี ใครติดหนังติดละคร ชอบกินนู่นกินนี่ดึก ๆ ดื่น ๆ ไปอยู่สามวันโดดกลับแทบไม่ทัน ดีไม่ดีวันเดียวแค่นั้นแหละ บางคนก็ค่อย ๆ ต่อเติมบ้านให้พ่อแม่ ไม้ที่นั่นใช้จ้างตัด จ้างลากเอา ส่งตังไปทีเป็นก้อนทางโน้นได้รับก็ทำบ้านกันครั้งนึง ขยายออกไปได้มากน้อยเท่าไรคนทางนั้นก็บอกข่าวมาเรื่อย ๆ ทำให้มีกำลังใจทำงานขึ้นมามาก
พวกนี้ไม่ค่อยกลับบ้านเพราะกลัวขาดรายได้ ที่ทางบ้านช่องกำลังขยายขึ้นเรื่อย ๆ กลับไปทีค่าใช้จ่ายไม่น้อย ยังจะไม่ได้เงินเดือนอีกเป็นเดือน ก็เลยอดทนก้มหน้าก้มตาทำงานกันไปปีสองปีกว่าจะลาสักที ในแต่ละวันการอยู่การกินก็ประหยัดมาก เงินเดือนฝากเถ้าแก่ไว้จะซื้ออะไรก็เบิกทีนึงเอาแค่พอดีใช้ เหล้า บุหรี่นี่ไม่แตะ ขนมอะไรก็ไม่ซื้อกิน กินที่โรงงานมีให้นั่นแหละ เลิกงานมากินข้าว อาบน้ำ แล้วก็นอน วนอยู่อย่างนั้น มองดูแล้วน่าเบื่อ
พวกในโรงงานพากันแซวว่าขี้เหนียว แต่พอมาคิดตังที่ฝากเถ้าแก่ไว้จะโอนให้แม่ พวกสายเมาตาเหลือกเลย สี่หมื่นแปดมั่ง ห้าหมื่นสี่มั่ง คนเก่า ๆ อยู่มานานเงินเดือนหมื่นกว่านี่อายเลย ส่งให้แม่ทีละพันห้าแทบจะขาดใจ ก็จะไปเหลือยังไงล่ะพ่อคุณ ข้าวโรงงานเลี้ยงวันละสองมื้อ วันไหนไม่ถูกปากก็เซ็นหมูเซ็นไก่ร้านค้ามาทำกินกันต่างหาก ป้าเจ้าของร้านทำแกงอะไรน่ากินก็เอามา
สิ้นเดือนทีคิดตังค่ากับข้าวที่เซ็นไว้ พันสองมั่ง พันสามมั่ง จดไว้ไม่กี่บรรทัด ก็พอรับไหว แต่พอคิดค่าเหล้า ค่ากับแกล้ม รายการยาวแทบเต็มหน้าสมุด คนนึงห้าพันห้า อีกคนหกพันห้า หน้าม่อยไปตาม ๆ กัน ไม่ให้ก็ไม่ได้ เดี๋ยวคราวหน้าอด อีกอย่างต้องผ่านหน้าร้านแกทุกวัน ยังไงก็หนีไม่พ้น
( มีต่อครับ )
........เรื่องเล่าหลังโรงงาน เรื่อง เด็กโรงน้ำแข็ง ตอนที่ ๙ โดย ลุงแผน.........@@
ตอนเดิมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
..........เด็กโรงน้ำแข็ง ( กลับบ้าน )
ธรรมดาละครับ คนทำงานมันก็ต้องมีเหนื่อยกันมั่ง ยิ่งงานโรงน้ำแข็งนี่ต้องเพิ่มความเข้มข้นไปอีกเท่าตัว ตอนยุ่ง ๆ วันนึงแป๊บเดียว กว่าจะรู้ตัวก็เย็นย่ำ เลิกงานแข้งขาอ่อน กลับบ้านกลับเข้าห้องแทบจะพุ่งตัวลงที่นอน น้ำท่าไม่อยากจะเสียเวลาอาบกันละ หัวถึงหมอนหลับไปเลย นอนยังไม่เต็มอิ่ม หายใจเข้าแทบจะยังไม่ทันจะหายใจออกนาฬิกาปลุกอีกแล้ว
จริง ๆ เวลามันก็ผ่านไปตามปกติของมันนั่นแหละ แต่ความรู้สึกของคนที่ล้ามาทั้งวัน มันเหมือนกับว่าได้นอนแค่แป๊บเดียว ตื่นมายัง งัวเงีย ๆ อีกเกือบครึ่งชั่วโมง วิญญาณจึงจะเข้าเต็มร่าง นี่คนปกตินะ ถ้าสายเมาละก็ครึ่งวันยังเข้าไม่เต็มร่างเลย เดินกันอ่อนระโหยโรยแรง โดนแดดเข้าไปหน่อยตาลืมแทบไม่ขึ้น ทนทำงานไปกว่าจะเลิกงานตอนเย็นเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด
แต่แปลกนะพอเลิกงานปุ๊บตา สว่างปั๊บโดดเข้าวงทันทีเหมือนกัน ไม่มีเข็ด เถ้าแก่ออกมาเดินดูเครื่องตีหนึ่งตีสองยังไม่นอน ไล่เข้าไปนอนยังหัวเราะกัน คิกคัก คิกคัก ไม่มีสลด พอเช้ามาเดินเซื่อง ๆ เป็นคนละคนกับเมื่อคืนเลย จะลาก็ไม่กล้า เดือนนี้ยังไม่ครึ่งเดือนหยุดไปสามวันแล้ว ถ้าไม่ทำแล้วไม่ลา เจ๊ก็หักเงินอีก ก็เลยทนเดินซึม ๆ ให้พวกรำคาญเล่นไปอีกวันนึง
แต่ถึงจะเป็นสายเมา หรือสายปกติ เวลาเริ่มงานก็คือตีสี่ งานน้อยมั่งมากมั่งจะจบลงจริง ๆ ก็ประมาณห้าโมงเย็น สิบสองสิบสามชั่วโมงติดกันทุกวันหลายวันเข้าก็ต้องลาหยุดสักที บังเอิญไปตรงกับวันที่พวกหายกันไปหลายคนเถ้าแก่ก็จะขอให้ช่วยรอบเช้าสักรอบก่อนค่อยหยุด
เอ้า ครึ่งวันก็ยังดี แต่บางทีก็เลยไปเป็นค่อนวัน เพราะเหตุการณ์หน้างานมันไม่แน่นอน ส่งจะเสร็จไม่เสร็จเหลือร้านสองร้านรถเสียซะหยั่งงั้น ต้องรอน้าจุกไปลาก กว่าจะไป กว่าจะกลับมาถึงโรงงานบ่ายสองบ่ายสาม เข้าห้องไปคว้าตะกร้าผ้าเอามาซัก ตากผ้าเสร็จปาเข้าไปสี่โมงเย็น จะไปไหนก็ไม่ทันแล้ว เลยหันซ้ายหันขวาอยู่ในห้องเก็บนู่นนิด กวาดนี่หน่อยถูห้องได้สองรอบ มืดพอดี กินข้าวกินปลา อาบน้ำอาบท่าเข้านอน หลับไปวูบนึงนาฬิกาปลุกแล้ว กว่าจะมีจังหวะได้หยุดเต็มวันจริง ๆ ก็ต้องรอกันนานมาก
คิวลายาวเหยียดซ้อนกันไปทับกันมายุ่งเหยิงไปหมด พวกที่ใช้สิทธิ์ลาไปเพราะญาติทางบ้านป่วยนี่ได้เป็นคิวต้น ๆ โดยอัตโนมัติ เรื่องเจ็บไข้ได้ป่วยนี่ห้ามกันไม่ได้ และใครก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น
ไปต่อใบขับขี่ อันนี้ก็สำคัญ บางครั้งเถ้าแก่ว่างจะพาไปเองเลย และก็ธุระอื่น ๆ ที่มีมาลากันอยู่เรื่อย ๆ ยังจะพวกเดียวกันชิงหยุดกันแบบดิบ ๆ แทบทุกวัน ปิดโทรศัพท์แล้วก็หายไปเฉย ๆ ตามทางไหนก็ไม่เจอ พอได้คนไปแทนแล้วงานจบแล้วบ่ายแก่ ๆ โน่นค่อยย่องเข้ามา ยิ้มแหย ๆ ตั้งอกตั้งใจทำงานอยู่สองสามวันเมาลุกไม่ไหวอีกแล้ว โดนบ่นโดนหักตังกี่หนก็ไม่เข็ด
หนักคนที่อยู่ละสิทีนี้ เหนื่อยขึ้นมาจะลาก็ลาไม่ได้ คนมันไม่พอ ทนไหวก็ทนไป ไม่ไหวก็ออก พอคนออกคนก็น้อย พอคนน้อยก็หาวันหยุดลำบาก วนกันไปวนกันมาอยู่อย่างนี้ทั้งปี
พวกที่หยุดบ่อย ๆ ส่วนมากบ้านอยู่ไม่ไกลมาก นึกจะกลับนึกจะไปเมื่อไรก็ได้ทันที มอเตอร์ไซค์บิดแป๊บเดียวก็ถึง เลยคิดถึงบ้านบ่อย แล้วพวกอยู่ไกล ๆ ล่ะ อย่างกระเหรี่ยงนี่นานกว่าจะได้กลับ ด้วยเหตุผลที่ต่างกันไป ที่เหมือนกันก็คือต้องใช้ตังมาก ค่าเดินทาง ค่าของฝากคนที่บ้าน บางคนไปเข้ากลุ่มขี้เหล้าก็ไม่ค่อยมีเหลือ เลยไม่กลับซะ
บางคนมีตังแต่ไม่กลับ ทำงานได้โอนให้ทางบ้านสามสี่เดือนเดือนครั้ง เหลือติดตัวไว้แค่พอกินทำให้มีเงินเก็บพอสมควร บางคนบอกให้พ่อแม่ซื้อที่ไว้ให้ทีละแปลง ทางนู้นยังไม่แพงมากหลักหมื่นยังหาได้อยู่ ทำงานสองสามเดือนก็ได้ที่แปลงนึง แต่เค้าอยู่กันได้นะเพราะเป็นถิ่นเค้า อย่างเราเห็นว่าถูกจะไปซื้ออยู่มั่งน่าจะไม่ไหว มันเป็นที่ป่าที่เขา ป่าก็ป่าดิบ ๆ ซะด้วยสิ
ของกินของใช้มีเหมือนบ้านเราซะที่ไหน เย็นมาสี่ห้าโมงเย็นก็แทบจะมืดแล้ว ไฟฟืนก็ไม่มี ใครติดหนังติดละคร ชอบกินนู่นกินนี่ดึก ๆ ดื่น ๆ ไปอยู่สามวันโดดกลับแทบไม่ทัน ดีไม่ดีวันเดียวแค่นั้นแหละ บางคนก็ค่อย ๆ ต่อเติมบ้านให้พ่อแม่ ไม้ที่นั่นใช้จ้างตัด จ้างลากเอา ส่งตังไปทีเป็นก้อนทางโน้นได้รับก็ทำบ้านกันครั้งนึง ขยายออกไปได้มากน้อยเท่าไรคนทางนั้นก็บอกข่าวมาเรื่อย ๆ ทำให้มีกำลังใจทำงานขึ้นมามาก
พวกนี้ไม่ค่อยกลับบ้านเพราะกลัวขาดรายได้ ที่ทางบ้านช่องกำลังขยายขึ้นเรื่อย ๆ กลับไปทีค่าใช้จ่ายไม่น้อย ยังจะไม่ได้เงินเดือนอีกเป็นเดือน ก็เลยอดทนก้มหน้าก้มตาทำงานกันไปปีสองปีกว่าจะลาสักที ในแต่ละวันการอยู่การกินก็ประหยัดมาก เงินเดือนฝากเถ้าแก่ไว้จะซื้ออะไรก็เบิกทีนึงเอาแค่พอดีใช้ เหล้า บุหรี่นี่ไม่แตะ ขนมอะไรก็ไม่ซื้อกิน กินที่โรงงานมีให้นั่นแหละ เลิกงานมากินข้าว อาบน้ำ แล้วก็นอน วนอยู่อย่างนั้น มองดูแล้วน่าเบื่อ
พวกในโรงงานพากันแซวว่าขี้เหนียว แต่พอมาคิดตังที่ฝากเถ้าแก่ไว้จะโอนให้แม่ พวกสายเมาตาเหลือกเลย สี่หมื่นแปดมั่ง ห้าหมื่นสี่มั่ง คนเก่า ๆ อยู่มานานเงินเดือนหมื่นกว่านี่อายเลย ส่งให้แม่ทีละพันห้าแทบจะขาดใจ ก็จะไปเหลือยังไงล่ะพ่อคุณ ข้าวโรงงานเลี้ยงวันละสองมื้อ วันไหนไม่ถูกปากก็เซ็นหมูเซ็นไก่ร้านค้ามาทำกินกันต่างหาก ป้าเจ้าของร้านทำแกงอะไรน่ากินก็เอามา
สิ้นเดือนทีคิดตังค่ากับข้าวที่เซ็นไว้ พันสองมั่ง พันสามมั่ง จดไว้ไม่กี่บรรทัด ก็พอรับไหว แต่พอคิดค่าเหล้า ค่ากับแกล้ม รายการยาวแทบเต็มหน้าสมุด คนนึงห้าพันห้า อีกคนหกพันห้า หน้าม่อยไปตาม ๆ กัน ไม่ให้ก็ไม่ได้ เดี๋ยวคราวหน้าอด อีกอย่างต้องผ่านหน้าร้านแกทุกวัน ยังไงก็หนีไม่พ้น
( มีต่อครับ )