ตอนเดิมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ ๑
https://pantip.com/topic/38182471
ตอนที่ ๒
https://pantip.com/topic/38201894
ตอนที่ ๓
https://pantip.com/topic/38222772
ตอนที่ ๔
https://pantip.com/topic/38244528
ตอนที่ ๕
https://pantip.com/topic/38267741
...........เด็กโรงน้ำแข็ง ตอนที่ ๖ ( คนขับ )
ตอนที่แล้ว เป็น เรื่องของเด็กท้าย เป็นอันว่าใครได้เด็กท้าย คล่อง ๆ ไป ถือว่าโชคดีมีชัยไปกว่าครึ่ง จะทำอะไรจะไปทางไหนก็ให้สบายไปซะทุกทาง แต่ก็อีกนั่นแหละ ของดีมีน้อย คนฉลาด แล้วก็ขยัน ทำอะไรเร็ว ไม่เอาเปรียบ คันไหนเห็นก็เรียกขึ้นรถ ลงคันนี้ขึ้นคันโน้น ลงคันโน้น ขึ้นคันนี้ ใครก็อยากเอาไปด้วย ไม่มีได้ว่าง แต่ก็คุ้มเหนื่อย ต่างคนต่างดูแลเอาใจอย่างดี ของกินเต็มหน้ารถ ชอบหวาน ชอบ ขม ขอให้บอก คันนั้นก็แย่ง คันนี้ก็แย่ง แย่งกันไปแย่งกันมา ท้ายที่สุดก็แพ้เถ้าแก่ เพราะเห็นแววดี มีความรับผิดชอบ ก็เลยให้เป็นคนขับรถซะเลย คนขับแต่ละคัน ก็ต้องวิ่งไปหาแย่งคนใหม่กันต่อไป
เด็กท้ายที่กระโดดมาเป็นคนขับนี่ ส่วนมากจะรู้ทางและรู้ร้านดี เพราะไปกับรถทุกวัน และเด็กท้ายที่ขับรถได้ก็จะเป็นที่โปรดปรานของคนขับสายเมาเป็นกรณีพิเศษ พอ ออกจากโรงงานได้หน่อยก็จะเปลี่ยนให้เด็กท้ายมาขับแทน ส่วนตัวเองก็นั่งหลับพิงเบาะไปจนใกล้เสร็จงาน บางคนที่อาการหนัก มาก ๆ ก็นอน งอตัวไปเลย ไม่เมื่อยไม่ปวดหรอก เพราะไม่รู้สึกตัว ส่งถึงร้านสุดท้ายใกล้จะกลับ ก็ฝืนใจเปลี่ยนมาขับเข้าโรงงาน พอส่งบิล คิดเงินคิดทองเสร็จ ถ้ามีคนแทนก็ลาครึ่งวันถ้าไม่มีคนแทน ก็ให้เด็กท้ายขึ้นน้ำแข็ง ตัวเองก็พุ่งเข้าห้องไป ขอ นอน สักนิดนึง
ก็ยังดี เจ้าเด็กท้ายก็จัดการเองหมดทุกอย่าง ถอยรถเข้า พับถุง เรียงถุง ล้างถุงอย่างดี ช่วยคนอื่น ๆ แบกน้ำแข็งขึ้นรถ เรียงจนเสร็จพร้อมออกส่งได้ พอเถ้าแก่เห็นแววเจ้าเด็กท้ายคนนี้บ่อยเข้า ถอยรถเข้ารถออกหน้าหวอด ดูแล้วเข้าท่า การพูดการจา การจัดการงานเรียบร้อย น่าไว้ใจ ก็เลยให้ขับประจำไป พาไปทำใบขับขี่ สองวัน ก็ปล่อยออกงานได้ เจ้าตัวเคยไปมาแล้วทุกสาย ให้ไปคันไหนก็ง่ายไปหมด อ้าว สายเมาทำไงล่ะทีนี้ ปั้นใหม่สิครับ เด็กท้ายที่อยากขับรถทั้งคนบ้านเรา ทั้งกระเหรี่ยง มีหลายคน ออกจากโรงงานไปได้สักสิบนาทีก็จอดเข้าข้างทาง บอก
เด็กท้ายเปลี่ยนที่นั่งกัน จะสอนขับรถให้ เจ้านั่นก็กล้า ๆ กลัว ๆ อยากขับก็อยาก ปอดก็ปอด แต่ก็ยอมลองดู ครั้งแรกออกตัวกระตุก เครื่องดับ เอ้า ลองใหม่ ดับอีก เดี๋ยวจะคอยใส่เกียร์หนึ่งให้ แล้วค่อย ๆ ปล่อย ครัช หยั่งงี้ คนขับตาปรือ ๆ ยกเท้าขวาข้ามมาเหยียบครัชแล้วทำท่าปล่อยให้ดู คันเร่งค่อย ๆ เหยียบลงไปทีละนิดนะ เด็กท้ายมองตาม ใจน่าจะเต้น ตึกตัก ตึกตักแล้วละ เกียร์ใส่ไว้ให้แล้ว ต่อไปทำตามที่คนขับบอกค่อย ๆยกเท้าซ้ายที่เหยียบครัชไว้ขึ้นทีละนิด เท้าขวากดคันเร่งลงไปช้า ๆ มันก็เกร็ง ๆ ละเนาะ คนเพิ่งได้จับรถครั้งแรก หน้าตาแขนขามันชาเหมือนไม่มีความรู้สึก จังหวะปล่อย กับจังหวะเหยียบมันไม่ได้กัน คันเร่งเหยียบจนมิดแล้ว เท้าที่เหยียบครัชไว้ยังยกขึ้นได้นิดเดียว รถมันก็
ไม่ขยับแต่เสียงเครื่องเร่งดังสนั่นหวั่นไหว ฝุ่นผสมควันฟุ้งตลบ มืด จนมองไม่เห็นท้ายรถ คนเฒ่าคนแก่แถวนั้นตก อก ตกใจมองมาที่รถกันหมด หมาของชาวบ้านสี่ห้าตัวเห่าเสียงหลง วิ่งหางจุกตูดเข้าไปในป่าหญ้าข้างทาง พอครัชโดนปล่อยได้จังหวะของมัน รถก็กระโดดไปข้างหน้าอย่างแรงพุ่งไปเร็วมาก เจ้าเด็กท้ายตกใจยกเท้าขวาขึ้นอย่างเร็ว รถโดนปล่อยคันเร่ง แต่ยังคาเกียร์อยู่ เครื่องก็ดับ แต่แรงที่กระโดดพุ่งมาจากเมื่อกี้ยังเหลืออยู่ พอล้อหลังหยุดหมุนสนิท ก็กลายเป็นเบรกอย่างแรง รถหยุด กึก ทันที เสียงล้อรถลากกับถนนดัง ครืดดด ยาว ๆ หน้าคะมำหัวสั่น
หัวคลอนกันไปทั้งสองคน หมาเห่าอีก รอบประสานเสียงกันอยู่ในป่าหญ้าข้างทาง ไม่กล้าขึ้นมาดู เจ้าสองคนนั่งใจสั่น ตั้บ ตั้บ ตั้บ อยู่หน้ารถกันพักนึง ก่อนจะเปิดประตูเดินลงมาเปลี่ยนที่นั่งกัน วันนี้พอก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ คนขับตัวจริงก็ต้องทนเหงื่อซึมไปก่อน จนกว่าเจ้าคนนี้จะขับเป็น
คนขับใหม่ ที่ปั้นโดยคนขับเดิมนั้น จะถูกปิดเงียบไว้จนกว่าจะปิดกันไม่ไหวนั่นแหละ กลัวจะโดนว่า มากกว่ากลัวโดนเถ้าแก่แย่ง เพราะความเสียหายที่จะเกิดขึ้น มันมีมากเกินจะรับผิดชอบกันไหว น้ำหนักรถ บวกกับน้ำหนักตู้สแตนเลสก็มหาศาลแล้ว ยังจะมีน้ำแข็งอยู่ในนั้นอีกสองร้อยถุง เฉลี่ยถุงละยี่สิบกิโลก็เพิ่มเข้าไปอีกสามสี่ตัน คนขับที่คล่องเฉพาะรถเปล่า ๆ มาเจอเข้ายังต้องใช้เวลาพักนึงกว่าจะชิน ลงหลุมที โยกเยก โยกเยก น่ากลัว ยังจะมองกระจกหลังไม่เห็นอีกเพราะตู้บัง ความสูงของตู้ก็ขึ้นไปอีกตั้งมาก มันง่ายซะที่ไหน อยู่ ๆ จะให้เด็กใหม่ ไทยมั่ง กระเหรี่ยงมั่ง มาจับของยากเลย มันก็เสี่ยงเกินไป แต่ถึงอย่างนั้นก็เหอะ คนขับใหม่ก็เกิดขึ้นในโรงงานจนได้ อย่างน้อยก็ปีละคนสองคนเป็นประจำ
มาดูคนขับที่มาสมัครพร้อมใบขับขี่กันดูมั่ง จริง ๆ แล้ว ใครขับรถได้ มีใบขับขี่ ที่ไหนก็ต้องการ ห้างร้าน โรงงาน ต่าง ๆ เห็นขึ้นป้ายรับคนขับกันทั้งปี โรงน้ำแข็งก็เหมือนกัน ติดสติ๊กเกอร์ รับสมัครไว้ข้างรถแบบถาวรเลย เอ๊ะ รับกันทั้งปีแล้วมันหายไปไหนกันหมดนะ ลองไปดูสักหน่อยซิ มาแล้วเจ้าหนุ่มหน้าใสวัยละอ่อน อายุยี่สิบต้น ๆ เดินเข้าโรงงานมาพร้อมแสงตะวันยามเช้า และความชุลมุน อลหม่าน ทั่วบริเวณโรงงาน เสื้อยืด กางเกงยีน รองเท้าผ้าใบ สะพายเป้สีดำใบโตอ้วนตุ้บมาด้วย น่าจะขนของที่มีมาทั้งหมดแล้วละ อ้าว แล้วถ้าเจ๊ไม่รับทำงานก็
ต้องแบกกลับกันละสิ เจ๊อยู่หน้าออฟฟิศ กำลังไล่รถออกทีละคัน งัดคนขับรถเบอร์สิบสอง ออกมาจากห้อง แล้วก็ต้องไปดึงเด็กท้ายเบอร์แปดมาให้ จะได้ออกไปก่อน ไอ้เบอร์แปดจอดไว้น้ำแข็งเต็มคัน ยังหาคนขับไม่เจอ เจ้าหนุ่มนี่มายังไง กล่าวสวัสดีทักทายกันเรียบร้อย เจ้าหนุ่มล้วงกระเป๋าตังแบน ๆ ขึ้นมา ดึงใบขับขี่ให้เจ๊ดู ยังไม่หมดอายุ เจ๊ พลิกไปพลิกมา อีกปีกว่า ๆ ถึงจะหมด ชื่อ นิว เจ้าตัวบอก พอดีเจ้าไผ่
กระเหรี่ยง เดินผ่านมาพอดี เช้านี้เป็นเวรหน้าหวอด อยู่โรงงานมาปี กว่าแล้วพูดไทยชัดแจ๋ว แต่ยังอ่านหนังสือไม่ได้ เจ๊ถามเคยไปกับเบอร์แปด
มั้ย พยักหน้าบอกเคยครับ เอ้า พอดีเลย เด็กท้ายให้เบอร์สิบสองไปแล้ว ตอนแรกหาคนขับไม่ได้ ไม่รู้ไปหลบอยู่ไหน งั้นไผ่ไปกับนิว เจ้านิวเป้ยังคาไหล่อยู่เลย สะดุ้งโหยง เอางั้นเลยเหรอเจ๊ เอางี้แหละ ไปกับไผ่ ให้ไผ่บอกทาง เดี๋ยวกลับมาค่อยคุยกัน เอากระเป๋าไว้ในออฟฟิศก่อน ไผ่ เอาเงินขายน้ำแข็งซื้อข้าวกินกัน จดไว้ให้เจ๊ด้วย เจ้าไผ่รับสมุด รับบิล กระเป๋าสะพาย เสร็จแล้วเดินไปที่รถเปิดประตูเข้าไปนั่งรอ บ๊ะ ได้งานง่าย งี้เลยเหรอ เจ้านิวยังไม่หายเซ่อ เดินงง ๆ เปิดประตูรถขึ้นไป สตาร์ทเครื่องขับออกจากโรงงาน ทางเข้าออกโรงงานเป็นตามทางคอนกรีต
เล็ก ๆ พอรถสวนกันได้ สองข้างทางเป็นทุ่งนา อยู่ห่างจากถนนลาดยางประมาณห้าสิบเมตร พอถึงทางแยกขึ้นถนน ไปซ้ายหรือขวาเจ้านิวไม่รู้ หันมาถามเจ้าไผ่ ซึ่งกำลังก้มหน้าก้มตามองสมุดรายชื่อลูกค้าอยู่ อ่านไม่ออกหรอกอาศัยดูตัวเลขข้างหน้าชื่อร้าน แล้วลำดับเอาจากที่เคยมากับคันนี้บ่อย ๆ เจ้าไผ่เงยหน้าขึ้นมาบอกขวา เจ้านิวมองดูรถซ้ายขวา พอว่างแล้วก็เลี้ยวขวาไปตามเจ้าไผ่บอก ไปได้สักนิดก็เจออีกแยก เจ้าไผ่บอกเลี้ยวซ้าย ทีนี้ก็ตรงยาวไปได้สักห้านาที เจ้าไผ่หน้าเหรอ บอก “ จอด ๆ ๆ “ เจ้านิวเบารถเปิดไฟเลี้ยวซ้ายแล้วจอดรถชิดข้างทาง หันมา
มอง งง ๆ เจ้าไผ่ยื่นสมุดให้ชี้ให้ดูร้านแรก ถามว่าร้านอะไร เจ้านิวบอกว่า ส้มตำน้องใหม่ เลยมาแล้ว เจ้าไผ่บอก อ้าว เลยแล้วก็ต้องวนกลับน่ะสิ เอ้า กลับก็กลับ ดูรถหน้าหลังดีแล้วก็ เลี้ยวขวาย้อนกลับไปทางเดิม ได้สักสองร้อยเมตร ก็เห็นป้ายร้าน น้องใหม่อยู่ฝั่งตรงข้าม เออ เลยจริง ๆ น่าจะเป็นตอนที่ เจ้าไผ่มัวก้มมองสมุดอยู่นั่นแหละ เปิดไฟเลี้ยวขวา ชะลอรถชิดเส้นกลางถนน มองหน้ามองหลัง ดูรถดีแล้ว ก็เลี้ยวข้ามมาจอดหน้าร้านส้มตำ เจ้าไผ่ลงไป คุยกับลูกค้าด้วยความคุ้นเคย แม่ค้าบ่นยิ้ม ๆ ว่าสายไปนิด เสียงคุยกันบอกคนขับเมื่อคืนเมาจัดไม่รู้ไปนอนอยู่
ไหน หาไม่เจอ นี่เลยมากับคนใหม่ คนในร้านมองมาทางเจ้านิวที่ยืน เก้ ๆ กัง ๆ อยู่ข้างรถ ไม่รู้จะไปยังไง ทำไรมั่งก็ไม่รู้ ยังไม่ทันอ้าปากสมัครงานสักคำ เจ๊ก็ให้ขับรถออกมาเลย ทางไหนไปทางไหนก็ไม่คุ้นสักนิด นี่ถ้าหลงกับเจ้าไผ่น่ากลัวจะสนุก เบอร์โรงงานข้างรถก็มีแหละ แต่ถ้าเจ๊บอกทางมา แล้วจะไปยังไง มองไปทางไหนก็ไม่คุ้น ตัวเองก็ไม่ใช่คนที่นี่ซะด้วย เจ้าไผ่เดินยิ้มมาที่รถชวนไปท้ายรถเปิดตู้แบกน้ำแข็งไปคนละถุง เอ้า วางบนไหล่ได้ก็เดินตามกันไป น้ำก็ย้อยลงมาตามรักแร้ ไหลลงไปที่สีข้าง ซึมผ่านเอว เข้าในกางเกงลงไปเปียกอยู่ตรงต้นขา
พอดีถึงถังน้ำแข็งเจ้าไผ่เทลงไปแล้วยืนรออยู่ ก็เทน้ำแข็งตามลงไป เก็บเงินแล้วพากันกลับมาที่รถ เจ้านิวเดินขึ้นไปนั่งที่คนขับ ก้นเปียกนิด ๆ น่าจะเปลี่ยนกางเกงมาก่อน คิดตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วละ เจ้าไผ่เดินไปท้ายรถเอาถุงเปล่าโยนเข้าในตู้ ปิดประตูตู้แล้วเดินอ้อมมาขึ้นรถ เจ้านิวก็ออกรถไปร้านต่อไป เจ้าไผ่ยื่นสมุดให้ดูร้านที่สอง ก๋วยเตี๋ยวเป็ด พยักหน้าแล้วบอกว่าอีกไกล
( มีต่อครับ )
........เรื่องเล่าหลังโรงงาน เรื่อง เด็กโรงน้ำแข็ง ตอนที่ ๖ โดย ลุงแผน.........@@
ตอนเดิมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
...........เด็กโรงน้ำแข็ง ตอนที่ ๖ ( คนขับ )
ตอนที่แล้ว เป็น เรื่องของเด็กท้าย เป็นอันว่าใครได้เด็กท้าย คล่อง ๆ ไป ถือว่าโชคดีมีชัยไปกว่าครึ่ง จะทำอะไรจะไปทางไหนก็ให้สบายไปซะทุกทาง แต่ก็อีกนั่นแหละ ของดีมีน้อย คนฉลาด แล้วก็ขยัน ทำอะไรเร็ว ไม่เอาเปรียบ คันไหนเห็นก็เรียกขึ้นรถ ลงคันนี้ขึ้นคันโน้น ลงคันโน้น ขึ้นคันนี้ ใครก็อยากเอาไปด้วย ไม่มีได้ว่าง แต่ก็คุ้มเหนื่อย ต่างคนต่างดูแลเอาใจอย่างดี ของกินเต็มหน้ารถ ชอบหวาน ชอบ ขม ขอให้บอก คันนั้นก็แย่ง คันนี้ก็แย่ง แย่งกันไปแย่งกันมา ท้ายที่สุดก็แพ้เถ้าแก่ เพราะเห็นแววดี มีความรับผิดชอบ ก็เลยให้เป็นคนขับรถซะเลย คนขับแต่ละคัน ก็ต้องวิ่งไปหาแย่งคนใหม่กันต่อไป
เด็กท้ายที่กระโดดมาเป็นคนขับนี่ ส่วนมากจะรู้ทางและรู้ร้านดี เพราะไปกับรถทุกวัน และเด็กท้ายที่ขับรถได้ก็จะเป็นที่โปรดปรานของคนขับสายเมาเป็นกรณีพิเศษ พอ ออกจากโรงงานได้หน่อยก็จะเปลี่ยนให้เด็กท้ายมาขับแทน ส่วนตัวเองก็นั่งหลับพิงเบาะไปจนใกล้เสร็จงาน บางคนที่อาการหนัก มาก ๆ ก็นอน งอตัวไปเลย ไม่เมื่อยไม่ปวดหรอก เพราะไม่รู้สึกตัว ส่งถึงร้านสุดท้ายใกล้จะกลับ ก็ฝืนใจเปลี่ยนมาขับเข้าโรงงาน พอส่งบิล คิดเงินคิดทองเสร็จ ถ้ามีคนแทนก็ลาครึ่งวันถ้าไม่มีคนแทน ก็ให้เด็กท้ายขึ้นน้ำแข็ง ตัวเองก็พุ่งเข้าห้องไป ขอ นอน สักนิดนึง
ก็ยังดี เจ้าเด็กท้ายก็จัดการเองหมดทุกอย่าง ถอยรถเข้า พับถุง เรียงถุง ล้างถุงอย่างดี ช่วยคนอื่น ๆ แบกน้ำแข็งขึ้นรถ เรียงจนเสร็จพร้อมออกส่งได้ พอเถ้าแก่เห็นแววเจ้าเด็กท้ายคนนี้บ่อยเข้า ถอยรถเข้ารถออกหน้าหวอด ดูแล้วเข้าท่า การพูดการจา การจัดการงานเรียบร้อย น่าไว้ใจ ก็เลยให้ขับประจำไป พาไปทำใบขับขี่ สองวัน ก็ปล่อยออกงานได้ เจ้าตัวเคยไปมาแล้วทุกสาย ให้ไปคันไหนก็ง่ายไปหมด อ้าว สายเมาทำไงล่ะทีนี้ ปั้นใหม่สิครับ เด็กท้ายที่อยากขับรถทั้งคนบ้านเรา ทั้งกระเหรี่ยง มีหลายคน ออกจากโรงงานไปได้สักสิบนาทีก็จอดเข้าข้างทาง บอก
เด็กท้ายเปลี่ยนที่นั่งกัน จะสอนขับรถให้ เจ้านั่นก็กล้า ๆ กลัว ๆ อยากขับก็อยาก ปอดก็ปอด แต่ก็ยอมลองดู ครั้งแรกออกตัวกระตุก เครื่องดับ เอ้า ลองใหม่ ดับอีก เดี๋ยวจะคอยใส่เกียร์หนึ่งให้ แล้วค่อย ๆ ปล่อย ครัช หยั่งงี้ คนขับตาปรือ ๆ ยกเท้าขวาข้ามมาเหยียบครัชแล้วทำท่าปล่อยให้ดู คันเร่งค่อย ๆ เหยียบลงไปทีละนิดนะ เด็กท้ายมองตาม ใจน่าจะเต้น ตึกตัก ตึกตักแล้วละ เกียร์ใส่ไว้ให้แล้ว ต่อไปทำตามที่คนขับบอกค่อย ๆยกเท้าซ้ายที่เหยียบครัชไว้ขึ้นทีละนิด เท้าขวากดคันเร่งลงไปช้า ๆ มันก็เกร็ง ๆ ละเนาะ คนเพิ่งได้จับรถครั้งแรก หน้าตาแขนขามันชาเหมือนไม่มีความรู้สึก จังหวะปล่อย กับจังหวะเหยียบมันไม่ได้กัน คันเร่งเหยียบจนมิดแล้ว เท้าที่เหยียบครัชไว้ยังยกขึ้นได้นิดเดียว รถมันก็
ไม่ขยับแต่เสียงเครื่องเร่งดังสนั่นหวั่นไหว ฝุ่นผสมควันฟุ้งตลบ มืด จนมองไม่เห็นท้ายรถ คนเฒ่าคนแก่แถวนั้นตก อก ตกใจมองมาที่รถกันหมด หมาของชาวบ้านสี่ห้าตัวเห่าเสียงหลง วิ่งหางจุกตูดเข้าไปในป่าหญ้าข้างทาง พอครัชโดนปล่อยได้จังหวะของมัน รถก็กระโดดไปข้างหน้าอย่างแรงพุ่งไปเร็วมาก เจ้าเด็กท้ายตกใจยกเท้าขวาขึ้นอย่างเร็ว รถโดนปล่อยคันเร่ง แต่ยังคาเกียร์อยู่ เครื่องก็ดับ แต่แรงที่กระโดดพุ่งมาจากเมื่อกี้ยังเหลืออยู่ พอล้อหลังหยุดหมุนสนิท ก็กลายเป็นเบรกอย่างแรง รถหยุด กึก ทันที เสียงล้อรถลากกับถนนดัง ครืดดด ยาว ๆ หน้าคะมำหัวสั่น
หัวคลอนกันไปทั้งสองคน หมาเห่าอีก รอบประสานเสียงกันอยู่ในป่าหญ้าข้างทาง ไม่กล้าขึ้นมาดู เจ้าสองคนนั่งใจสั่น ตั้บ ตั้บ ตั้บ อยู่หน้ารถกันพักนึง ก่อนจะเปิดประตูเดินลงมาเปลี่ยนที่นั่งกัน วันนี้พอก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ คนขับตัวจริงก็ต้องทนเหงื่อซึมไปก่อน จนกว่าเจ้าคนนี้จะขับเป็น
คนขับใหม่ ที่ปั้นโดยคนขับเดิมนั้น จะถูกปิดเงียบไว้จนกว่าจะปิดกันไม่ไหวนั่นแหละ กลัวจะโดนว่า มากกว่ากลัวโดนเถ้าแก่แย่ง เพราะความเสียหายที่จะเกิดขึ้น มันมีมากเกินจะรับผิดชอบกันไหว น้ำหนักรถ บวกกับน้ำหนักตู้สแตนเลสก็มหาศาลแล้ว ยังจะมีน้ำแข็งอยู่ในนั้นอีกสองร้อยถุง เฉลี่ยถุงละยี่สิบกิโลก็เพิ่มเข้าไปอีกสามสี่ตัน คนขับที่คล่องเฉพาะรถเปล่า ๆ มาเจอเข้ายังต้องใช้เวลาพักนึงกว่าจะชิน ลงหลุมที โยกเยก โยกเยก น่ากลัว ยังจะมองกระจกหลังไม่เห็นอีกเพราะตู้บัง ความสูงของตู้ก็ขึ้นไปอีกตั้งมาก มันง่ายซะที่ไหน อยู่ ๆ จะให้เด็กใหม่ ไทยมั่ง กระเหรี่ยงมั่ง มาจับของยากเลย มันก็เสี่ยงเกินไป แต่ถึงอย่างนั้นก็เหอะ คนขับใหม่ก็เกิดขึ้นในโรงงานจนได้ อย่างน้อยก็ปีละคนสองคนเป็นประจำ
มาดูคนขับที่มาสมัครพร้อมใบขับขี่กันดูมั่ง จริง ๆ แล้ว ใครขับรถได้ มีใบขับขี่ ที่ไหนก็ต้องการ ห้างร้าน โรงงาน ต่าง ๆ เห็นขึ้นป้ายรับคนขับกันทั้งปี โรงน้ำแข็งก็เหมือนกัน ติดสติ๊กเกอร์ รับสมัครไว้ข้างรถแบบถาวรเลย เอ๊ะ รับกันทั้งปีแล้วมันหายไปไหนกันหมดนะ ลองไปดูสักหน่อยซิ มาแล้วเจ้าหนุ่มหน้าใสวัยละอ่อน อายุยี่สิบต้น ๆ เดินเข้าโรงงานมาพร้อมแสงตะวันยามเช้า และความชุลมุน อลหม่าน ทั่วบริเวณโรงงาน เสื้อยืด กางเกงยีน รองเท้าผ้าใบ สะพายเป้สีดำใบโตอ้วนตุ้บมาด้วย น่าจะขนของที่มีมาทั้งหมดแล้วละ อ้าว แล้วถ้าเจ๊ไม่รับทำงานก็
ต้องแบกกลับกันละสิ เจ๊อยู่หน้าออฟฟิศ กำลังไล่รถออกทีละคัน งัดคนขับรถเบอร์สิบสอง ออกมาจากห้อง แล้วก็ต้องไปดึงเด็กท้ายเบอร์แปดมาให้ จะได้ออกไปก่อน ไอ้เบอร์แปดจอดไว้น้ำแข็งเต็มคัน ยังหาคนขับไม่เจอ เจ้าหนุ่มนี่มายังไง กล่าวสวัสดีทักทายกันเรียบร้อย เจ้าหนุ่มล้วงกระเป๋าตังแบน ๆ ขึ้นมา ดึงใบขับขี่ให้เจ๊ดู ยังไม่หมดอายุ เจ๊ พลิกไปพลิกมา อีกปีกว่า ๆ ถึงจะหมด ชื่อ นิว เจ้าตัวบอก พอดีเจ้าไผ่
กระเหรี่ยง เดินผ่านมาพอดี เช้านี้เป็นเวรหน้าหวอด อยู่โรงงานมาปี กว่าแล้วพูดไทยชัดแจ๋ว แต่ยังอ่านหนังสือไม่ได้ เจ๊ถามเคยไปกับเบอร์แปด
มั้ย พยักหน้าบอกเคยครับ เอ้า พอดีเลย เด็กท้ายให้เบอร์สิบสองไปแล้ว ตอนแรกหาคนขับไม่ได้ ไม่รู้ไปหลบอยู่ไหน งั้นไผ่ไปกับนิว เจ้านิวเป้ยังคาไหล่อยู่เลย สะดุ้งโหยง เอางั้นเลยเหรอเจ๊ เอางี้แหละ ไปกับไผ่ ให้ไผ่บอกทาง เดี๋ยวกลับมาค่อยคุยกัน เอากระเป๋าไว้ในออฟฟิศก่อน ไผ่ เอาเงินขายน้ำแข็งซื้อข้าวกินกัน จดไว้ให้เจ๊ด้วย เจ้าไผ่รับสมุด รับบิล กระเป๋าสะพาย เสร็จแล้วเดินไปที่รถเปิดประตูเข้าไปนั่งรอ บ๊ะ ได้งานง่าย งี้เลยเหรอ เจ้านิวยังไม่หายเซ่อ เดินงง ๆ เปิดประตูรถขึ้นไป สตาร์ทเครื่องขับออกจากโรงงาน ทางเข้าออกโรงงานเป็นตามทางคอนกรีต
เล็ก ๆ พอรถสวนกันได้ สองข้างทางเป็นทุ่งนา อยู่ห่างจากถนนลาดยางประมาณห้าสิบเมตร พอถึงทางแยกขึ้นถนน ไปซ้ายหรือขวาเจ้านิวไม่รู้ หันมาถามเจ้าไผ่ ซึ่งกำลังก้มหน้าก้มตามองสมุดรายชื่อลูกค้าอยู่ อ่านไม่ออกหรอกอาศัยดูตัวเลขข้างหน้าชื่อร้าน แล้วลำดับเอาจากที่เคยมากับคันนี้บ่อย ๆ เจ้าไผ่เงยหน้าขึ้นมาบอกขวา เจ้านิวมองดูรถซ้ายขวา พอว่างแล้วก็เลี้ยวขวาไปตามเจ้าไผ่บอก ไปได้สักนิดก็เจออีกแยก เจ้าไผ่บอกเลี้ยวซ้าย ทีนี้ก็ตรงยาวไปได้สักห้านาที เจ้าไผ่หน้าเหรอ บอก “ จอด ๆ ๆ “ เจ้านิวเบารถเปิดไฟเลี้ยวซ้ายแล้วจอดรถชิดข้างทาง หันมา
มอง งง ๆ เจ้าไผ่ยื่นสมุดให้ชี้ให้ดูร้านแรก ถามว่าร้านอะไร เจ้านิวบอกว่า ส้มตำน้องใหม่ เลยมาแล้ว เจ้าไผ่บอก อ้าว เลยแล้วก็ต้องวนกลับน่ะสิ เอ้า กลับก็กลับ ดูรถหน้าหลังดีแล้วก็ เลี้ยวขวาย้อนกลับไปทางเดิม ได้สักสองร้อยเมตร ก็เห็นป้ายร้าน น้องใหม่อยู่ฝั่งตรงข้าม เออ เลยจริง ๆ น่าจะเป็นตอนที่ เจ้าไผ่มัวก้มมองสมุดอยู่นั่นแหละ เปิดไฟเลี้ยวขวา ชะลอรถชิดเส้นกลางถนน มองหน้ามองหลัง ดูรถดีแล้ว ก็เลี้ยวข้ามมาจอดหน้าร้านส้มตำ เจ้าไผ่ลงไป คุยกับลูกค้าด้วยความคุ้นเคย แม่ค้าบ่นยิ้ม ๆ ว่าสายไปนิด เสียงคุยกันบอกคนขับเมื่อคืนเมาจัดไม่รู้ไปนอนอยู่
ไหน หาไม่เจอ นี่เลยมากับคนใหม่ คนในร้านมองมาทางเจ้านิวที่ยืน เก้ ๆ กัง ๆ อยู่ข้างรถ ไม่รู้จะไปยังไง ทำไรมั่งก็ไม่รู้ ยังไม่ทันอ้าปากสมัครงานสักคำ เจ๊ก็ให้ขับรถออกมาเลย ทางไหนไปทางไหนก็ไม่คุ้นสักนิด นี่ถ้าหลงกับเจ้าไผ่น่ากลัวจะสนุก เบอร์โรงงานข้างรถก็มีแหละ แต่ถ้าเจ๊บอกทางมา แล้วจะไปยังไง มองไปทางไหนก็ไม่คุ้น ตัวเองก็ไม่ใช่คนที่นี่ซะด้วย เจ้าไผ่เดินยิ้มมาที่รถชวนไปท้ายรถเปิดตู้แบกน้ำแข็งไปคนละถุง เอ้า วางบนไหล่ได้ก็เดินตามกันไป น้ำก็ย้อยลงมาตามรักแร้ ไหลลงไปที่สีข้าง ซึมผ่านเอว เข้าในกางเกงลงไปเปียกอยู่ตรงต้นขา
พอดีถึงถังน้ำแข็งเจ้าไผ่เทลงไปแล้วยืนรออยู่ ก็เทน้ำแข็งตามลงไป เก็บเงินแล้วพากันกลับมาที่รถ เจ้านิวเดินขึ้นไปนั่งที่คนขับ ก้นเปียกนิด ๆ น่าจะเปลี่ยนกางเกงมาก่อน คิดตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วละ เจ้าไผ่เดินไปท้ายรถเอาถุงเปล่าโยนเข้าในตู้ ปิดประตูตู้แล้วเดินอ้อมมาขึ้นรถ เจ้านิวก็ออกรถไปร้านต่อไป เจ้าไผ่ยื่นสมุดให้ดูร้านที่สอง ก๋วยเตี๋ยวเป็ด พยักหน้าแล้วบอกว่าอีกไกล
( มีต่อครับ )