[CR] REVIEW เที่ยวเกาหลีด้วยตัวเองครั้งเเรก จ่ายเเบบEconomy!!! อยู่อย่างFirst class(มั้ง)

สวัสดีค่ะ ชาวพันทิปทุกท่าน
                                                       กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวเเรกของเรากับการเที่ยวในต่างแดน
                                       และยังเป็นทริปแรกของเราที่Backpackไปเที่ยวด้วยตัวเองด้วยเงินเก็บของตัวเองค่ะ ทริปนี้เกิดจากเเรงบันดาลใจที่ว่าเรามีความฝันอยากลองวางทริปด้วยตัวเองและนำคนอื่นเที่ยว+ที่เรามาตั้งกระทู้นี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในการยื่นผลงาน(Portfolio)ในการเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยด้วยค่ะ
                                                                              
                                                                               มาเริ่มกันเลยนะคะ....

   ทริปนี้มีผู้ร่วมทริปทั้งหมด3คนค่ะ มีเพื่อนเรา2คนเเละตัวเราเองค่ะ เค้าว่ากันว่าเวลาไปต่างประเทศไปกันเยอะๆยิ่งหาคนหารค่าต่างๆได้เยอะค่ะ ยิ่งของกินบ้านเค้าราคาไม่เหมือนบ้านเราที่เเสนจะถูกเเสนถูกกกกกกบวกกับว่าเรากำลังอยู่ในวัยเรียนค่ะงบอาจจะมีไม่มากนักเลยต้องหาวิธีที่จะเซฟเงินให้ออกนอกกระเป๋าน้อยที่สุดค่ะ โดยมาเริ่มกันที่ตั๋วเครื่องบินเราจองเเบบไปกลับจากแอพTravelokaค่ะ เราจองสายการบินชั้นประหยัดของ Air asia Xค่ะเที่ยวบินที่ XJ-702 บินจากดอนเมือง-สนามบินอินชอน เวลา 15.40-23.05(ใช้เวลาราวๆ 5 ชั่วโมง 25นาทีค่ะ)

พอถึงสนามบินอินชอนสิ่งเเรกที่รู้สึกเลยคือ หนาวมากกกกกกกกกกกกก จนต้องรีบหาเสื้อโค้ชมาใส่กันเลยทีเดียววว
เเละเเล้วก็มาถึงด่านหินสุดโหดที่เค้าล่ำลือกันว่าต้องทำการบ้านเตรียมคำตอบมาอย่างดี นั่นก็คืออออออออ ตม.ที่เกาหลีค่ะ ก่อนจะเข้าตม.นี่คือกลัวมากว่าจะติดอยู่ในห้องดำค่ะ เเต่สุดท้ายเเล้วก็ผ่านง่ายซะจนน่าเเปลกใจเลยค่ะ สำหรับสิ่งที่ต้องเตรียมไปนะคะ คือตั๋วเครื่องบินไป-กลับ,กล้องสะพายสักตัว(ไม่มีไม่เป็นไรค่ะ),หลักฐานที่พักต่างๆ เเละเตรียมตอบคำถามค่ะเผื่อเค้าถามว่า พักที่ไหน อยู่กี่วัน เเละกรอกเอกสารเข้าตม.ให้ครบค่ะ เเละอย่าลืมเเต่งกายให้เหมาะสมด้วยนะคะที่สำคัญเราว่าข้อนี้สำคัญมากๆ กว่าจะผ่านตม.

อ่อลืมบอกไปค่ะขาไปเราจองแบบไม่รวมน้ำหนักกระเป๋านะคะเเต่ขากลับจองเเบบรวมน้ำหนักกระเป๋า 20 กิโลค่ะ ราคาค่าเครื่องรวมทุกอย่างคนละเบ็ดเสร็จ 11000บาทค่ะ(ไป-กลับ)  ขาไปเรียกได้ว่าถือขึ้นเครื่องเลยค่ะเพราะพกเสื้อผ้าไปไม่เยอะค่อยเปลี่ยนหมวกเปลี่ยนพวก accessoryเอาค่ะเวลาถ่ายรูป555555 เลยไม่ต้องรอเอากระเป๋า เเต่กว่าจะทำอะไรเสร็จก็เลยเที่ยงคืนเเล้วค่ะ เราเลยตัดสินใจเเละคุยกับเพื่อนๆว่าวันนี้เราจะนอนสนามบินกันค่ะ เพราะรถไฟของที่นี่หมด เที่ยงคืนค่ะ พวกเราทำการหาที่นอนสนามบินค่ะ โชคดีตรงที่ว่ามีที่ชาร์ตโทรศัพท์มือถือใกล้กับที่นอนของพวกเราเเละเเถมยังมีวายฟายฟรีในสนามบินอีกด้วยค่ะ   ในค่ำคืนนี้เราเลยเติมเเบตทั้งกายเเละใจเเละโทรศัพท์กันที่นี่เลยค่ะ
ขณะนี้เวลา 05:42 นาที ก็ทำการเช็คอากาศสักหน่อยปรากฎว่า...

ค่ะ เเละเราทำการทำให้ร่างกายอบอุ่นโดยการหาอะไรรองท้องอุ่นค่ะ เราได้ไปที่เเฟมิลี่มาร์ทของสนามบินเเละทำการหยิบมาม่า+นมกล้วยยอดฮิตของที่นี่มารองท้องค่ะ ราคามาม่าของที่นี่ 1500 วอนค่ะ(ประมาณ45บาทบ้านเรา) ส่วนนมกล้วยราคา 1500วอนเช่นกันค่ะ เเต่ถ้าไปซื้อตามเเหล่งร้านชำของที่นี่ราคา ขวดละ 1000วอนเองค่ะ ใครที่ชื่นชอบนมกล้วยสามารถซื้อตุนไว้ได้นะคะ สำหรับรสชาติของมาม่าของที่นี่รสชาติเหมือนบ้านเราเลยค่ะ เค็มๆเผ็ด ส่วนนมกล้วยนั้นรสชาติเหมือนโฟรโมสต์รสนมกล้วยเลยค่ะ เเต่ของบ้านเค้าจะมีความเข้มข้นกว่านิดนึงงง เเนะนำให้เขย่าก่อนดื่มนะคะจะอร่อยเพิ่มขึ้น2เท่าเลย  ก่อนจะออกเดินทางนะคะเราได้ซื้อซิมของที่นี่ค่ะโดยซื้อได้ที่เดียวกับที่ซื้อมาม่าเลยค่ะ
เราซื้อเเพคเกจซิม 5 วันค่ะเเละจะหมดในวันที่เรากลับพอดี ซื้อมา1ซิม เเละใส่เครื่องเพื่อนเเละทำการปิดเครื่องเเละหาสัญญาณใหม่ เท่านี้ก็ใช้เน็ตในการหาที่เที่ยวต่างๆได้หายห่วงเเล้วค่ะ อ่อเราซื้อซิมนึงเเล้วปล่อยเน็ตให้กันค่ะ ราคานี้เลยหาร3!!! ซิมละ 27,500วอน สำหรับ5วัน 3คนตกคนละเพียง 275 บาท ค่ะ  อินเทอร์เน็ตที่นี่ถือว่าเเรงมากค่ะดูยูทูป เปิดกูเกิ้ลเเมพหาที่เที่ยว คอลไลน์ เล่นไอจีเเบบไม่ต้องห่วงว่าเน็ตจะหมดเลยค่ะ
ส่วนอีกไอเทมที่สำคัญมากๆก็คือบัตร T-moneyค่ะ บัตรนี้ใช้ได้ทั้ง รถไฟ รถบัส รถเเท็กซี่เเละใช้เเทนเงินสดในการซื้อของตามร้านค้าต่างๆได้ด้วยค่ะ
บัตรมี 3 แบบ ราคาต่างกันไป เราซื้อตัวหมีบราวน์ค่ะ ราคา4000วอน (ประมาณ 120 บาท) เเละเติมเงินไป 15000 วอน(450บาท)ตลอดทั้งทริปนี้ค่ะ
                                                                                                                     เน็ตพร้อม ท้องพร้อม บัตรT-moneyพร้อมออกเดินทางไปที่พัก!!!
เราเดินทางออกจากสนามบินอินชอนด้วยรถไฟฟ้าจ่ายโดยบัตรT-moneyที่เราเติมตังมาค่ะ ไม่ต้องไปคอยเสียเวลาซื้อตั๋วทีละรอบค่ะ ประหยัดเวลาเเละได้ราคาที่ถูกกว่าด้วย อารมณ์ประมาณบัตร Rabbitบ้านเราเลยค่ะ รถไฟราคาเริ่มต้นที่1500วอน(45บาทไทย)
ในส่วนของที่พักเราทำการจองผ่านแอพ booking.com เราได้ที่พักอยู่ในบริเวณ Mapoku ซึ่งใกล้กับสถานที่เที่ยวชื่อดัง ฮงเเด ค่ะ
เราพักที่ Flexhome Seoul ซึ่งเป็นบ้านที่ทำเป็นเเบ่งให้พักเหมือน hostel โดยมีห้องพักตั้งเเต่ 4 คน,6คนเเละ 8คนค่ะ เรามากัน 3 คนเหมือนได้ห้องส่วนตัวเลยค่ะ เพราะไม่มีรูมเมทมาพักกับพวกเราเลย
นี่ในส่วนของข้างหน้าที่พัก

ข้างในตัวห้องพัก
เเละห้องครัว ห้องนั่งเล่น ที่นี่จะรักษาความปลอดภัยด้วยระบบกล้องวงจรปิด CCTV ติดอยู่ในห้องนั่งเล่นค่ะ โดยผู้จัดการจะไม่ได้อยู่ที่นี่ค่ะเพียงมารับเราเช็คอิน เเละเขาจะกลับบ้านไปแล้วจะกลับมาที่นี่อีกทุกวัน ตอน 10โมงค่ะ ที่นี่ถือว่าสะอาดดีค่ะ ราคากำลังดีจัดว่าถูก แต่ติดป้ายมีค่าใช้จ่ายเพิ่มทุกอย่างค่ะ
เช่น ฮีตเตอร์เขาคิดเป็นหัวต่อคืน ราคา 5000วอน/คน/คืน ค่ะ นี่เเหละค่ะดั่งที่คนโบราณบอกว่า เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย T__T เราจำใจต้องต้องจ่ายค่ะเพราะขนาดปิดห้องมิดชิดยังนอนสั่นกันเลย เราพักที่นี่ 4 คืนค่ะ ราคาห้องพักอยู่ที่ 3500 บาทค่ะเราจ่ายผ่านบัตรเครดิต ตกคนละ 1167/4คืน ตกคืนละ 300บาท ค่ะเเละโดนค่าฮีตเตอร์กันอีกคืนละ 150บาท สรุปเสียกันไปคืนละ 450 บาท/คน/คืน ค่ะ ถือว่าเป็นราคาที่ยังรับไหวโทษใครไม่ได้ต้องโทษตัวเองที่ไม่รอบคอบเอง T___T  เเละเรายังเช่าadaptorสำหรับชาร์ตเเบตเค้าด้วยค่ะเพราะเต้าเสียบที่ประเทศเขาไม่เหมือนบ้านเรา 1000วอน ต่อคืนค่ะ
เรียกได้ว่าเก็บทุกอย่างจริงๆ(ดีนะที่ไม่เก็บค่าอาบน้ำ) นอกจากนี้ยังมีเครื่องซักผ้า บริการอาการเช้า มีไมโครเวฟค่ะ มีค่าบริการเช่นเคย
พอถึงที่พักเคลียร์ค่าใช้จ่ายเสร็จเนื่องจากเมื่อคืนหลับไม่สนิทเลยหลับกันยาวๆเลยค่ะเอาเเรงเพราะตกดึกเรามีเเพลนกันไว้ว่าจะไปเที่ยว
                                                                             เเหล่งช็อปปิ้งย่านดัง ฮงเเดค่ะ