[CR] รีวิว เทศกาลดนตรี Big Mountain Music Festival 9 "มันส์ เละ มาก"

กระทู้รีวิว
สวัสดีครับ วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์การไปเที่ยวเทศกาลดนตรีไทยที่เชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้จักกันดีอย่าง Big Mountain Music Festival ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 9 ขอเกริ่นก่อนว่าผมเคยไปเทศกาลดนตรีงานนี้มาแล้วเมื่อ 4 ปีที่แล้วครับ ครั้งนั้นประทับใจ และไม่ประทับใจะไรหลายๆ อย่าง ดังนั้นในรีวิวนี้อาจจะมีกล่าวถึงการเปรียบเทียบกับเมื่อ 4 ปีที่แล้วบ้าง ในครั้งนี้เนื่องด้วยเวลา และปัจจัยอะไรหลายๆ อย่างลงตัว จึงถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่ทำให้ได้มีโอกาสมางานนี้อีกครั้งครับ

บัตรเข้างาน - 1,900 บาท ด้วยความตั้งใจที่จะมาอยู่แล้วผมจึงซื้อบัตร Early ฺBird เลยครับ ซึ่งในราคานี้เมื่อเทียบกับไลน์อัพศิลปินที่มา ถือว่าคุ้มค่าเลยทีเดียวครับ ประกอบกับในหลายๆ ปี มีข่าวว่าบัตรหมดเร็วมาก จึงไม่คิดมากเลยครับ แต่ในความเป็นจริงในปีนี้บัตรขายหมดช้ามาก หมดเอาช่วงอาทิตย์สุดท้ายก่อนงานเริ่ม ซึ่งผมค่อยข้างแปลกใจ แถมราคาบัตรผีช่วงก่อนเข้างานดรอปลงไปถึง 1,200-1,500 บาทเลยทีเดียว นี่น่าจะบ่งบอกอะไรหลายๆ อย่างในปีถัดไปได้ดีครับ

สถานที่ - ปีนี่จัดที่ The Ocean Khao Yai ซึ่งสถานที่ค่อนข้างเล็ก (ในความรู้สึก) เมื่อเทียบกับสถานที่เดิมอย่าง โบนันซ่า เขาใหญ่ แต่จากสถานที่ๆ เล็กลงกลับทำให้มีข้อดีอะไรบางอย่าง อย่างเช่น การเดินเพื่อนเปลี่ยนเวทีดู ทำได้ง่ายขึ้น แต่ลับมีปัญหาที่มีเสียงบ่นในปีนี้ว่าแต่ละเวทีเสียงเบาไป ซึ่งผมไม่แน่ว่ามันมีสาเหตุมาจากจุดนี้จริงๆ หรือเปล่านะครับ

การเดินทาง - เนื่องจากจัดที่ The Ocean ซึ่งติดกับถนนชนะรัตน์ ทางขึ้นอุทยานฯ ทำให้ง่ายต่อการเดินทางมากขึ้น เมื่อเทียบกับโบนันซ่าที่ต้องเข้าไปในซอกหลืบ ซึ่งในจุดนี้ผมว่าดีขึ้นครับ การระบายจราจรก็ดีขึ้นอย่างสังเกตได้เมื่อเทียบกับที่เดิม แต่ในเรื่องจราจรก็ถือว่ายังเป็นปัญหาเหมือนเดิม อาจจะ เนื่องด้วยปริมาณคนที่เข้ามาจำนวนมาก ประกอบกับในปีนี้มีปัญหาเรื่องฝน ทำให้การเดินทางมีปัญหามากขึ้นไปอีก

ประสบการณ์การเดินทาง

วันที่ 8 ธันวาคม 2561

ผมตื่นเช้าขึ้นมาเวลา 06.00 น. เพื่อลุกขึ้นมาอาบน้ำ และเก็บของเพื่อไปงาน โดยต้องรีบไปขึ้นรถของนครชัยแอร์ที่พึ่งจองเมื่อคืน ในรอบ 8.40 ของเช้าวันนี้ ณ เวลา 07.30 ทันทีที่เก็บของเสร็จก็รีบบึ่งไปขึ้นรถโดยสาร เพื่อนที่จะไป บขส. ครับ ขณะขึ้นรถไปได้ 5 วินาที เดชะบุญนึกขึ้นได้ว่าต้องมีบัตรเข้างาน เลยรีบกดกริ่งเพื่อลงรถแล้วรีบไปเอาบัตรเข้างาน (อยากอาบน้ำใหม่อีกรอบมาก ณ จุดนั้น) ในที่สุดก็มาถึง บขส. เพื่อที่จะขึ้นรถ ขอนแก่น-กรุงเทพฯ แล้วแวะลงที่บริเวณ หน้า Outlet ปากช่อง (คำแนะนำ - จริงๆ มีรถตู้ขอนแก่น-โคราช แล้วสามารถต่อรถ เพื่อไปลงที่ปากช่องได้นะครับ แต่ในส่วนนนี้ผมไม่ได้หาข้อมูลมาก่อน)

ณ เวลา 13.30 น. มาถึงหน้า Outlet ปากช่อง ก็พบกับพี่ๆ วินมอเตอร์ไซด์ มาจอดหน้าเลยครับ แต่ผมปฏิเสธไปก่อน เพราะอยากข้ามไปโลตัส เพื่อไปซื้ออุปกรณ์กันฝนก่อน รอรถเพื่อข้ามถนนประมาณ 15 นาที ก็ยังไม่ได้ข้ามเนื่องจากรถเยอะมาก จนคิดว่าเดี๋ยวเดินเข้าไปรอใน Outlet ก่อนละกัน รอให้รถมันน้อยลงก่อน ค่อยว่ากันใหม่ ขณะที่กำลังเดินหันหลังกลับ ได้ยินเสียง โครมมม ดังมาก หันกับไปดูอีกที เห็นภาพรถพ่วงพลิกคว่ำ ประกอบกับสภาพรถอีกสองถึงสามคัน ที่อยู่ในสภาพปลากระป๋องที่ถูกบีบย่อมๆ นึกในใจ เดชะบุญที่ยังไม่ข้ามถนน ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ยังให้โอกาสผมไปดูพี่ตูน บอดี้สแลม

คราวนี้จากที่รถตืดอยู่แล้ว การจราจรตรงนั้นแทบจะอัมพาตเลยครับ รถเคลื่อนได้ทีละน้อยมาก เริ่มมีคนมามุงดู พี่วินก็ช่วยกันไปดูคนเจ็บเบื้องต้น บางคนก็ช่วยกันระบายรถ เพราะจราจรเริ่มติดขัด เราก็เสนอตัวว่าพอมีความรู้ด้านปฐมพยาบาลกันอยู่บ้าง พอจะมีอะไรให้ช่วยบ้างไหมครับ เจ้าหน้าที่ก็โบกรถเพื่อให้ผมข้ามไปฝั่งตรงข้าม (น้ำตาจะไหล ข้ามถนนได้แล้ว หลังรอมาเกือบครึ่ง ชม.) เข้าไปประเมินสถานการณ์ร่วมกับพี่ๆ กู้ภัย เบื้องต้นพบคนบาดเจ็บเล็กน้อยเป็นแค่แผลถลอกเล็กน้อย, มีปวดไหล่ แต่ขยับได้ Active, Full ROM, มีปวดศีรษะแค่ไม่สลบ GCS=15 ก็ Advice เป็นรายๆ ไป กับทำแผลถลอกเล็กน้อย แต่ที่เจ็บหนักนี่คนขับรถพ่วง ยังติดเอาออกไม่ได้ ต้องรอเอาเครื่องมือมางัดออก ไม่นานนักรถพยาบาลก็มาถึงพร้อมกับพี่เจ้าหน้าที่ EM ก็ถือเป็นโอกาสให้ผมถอยออกมา เนื่องจากเหตุการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว ประกอบกับมีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์มาแล้ว ก็ถอนตัวออกมาจากเหตุการณ์ เพื่อเตรียมตัวเข้างานครับ

เมื่อเข้าไปถึงเทสโก้ โลตัส เข้าไปถึงปรากฎว่า เสื้อกันฝน รองเท้าบูท หมดแล้วครับ เจ้าหน้าที่แนะนำให้ไปดูในตัวเมืองปากช่อง (ซึ่งก็ไกล) อากาศข้างนอกก็ฝนตรงปรอยๆ เริ่มตัดสินใจเอาไงดี เลยไปตั้งหลักที่แมคโดนัล เพื่อหลบฝน ชาร์จแบต และวางแผนต่อไป มีบางทีก็คิดว่าเรามาลำบากอะไรที่นี่เนี่ย อยากกลับบ้าน แต่ก็เสียดายค่าบัตร แต่ก็มาถึงแล้วไม่เข้าไปก็ยังไงอยู่

16.00 น. ฝนหยุดตกแล้ว แต่ฟ้ายังครึ้มๆ รถเริ่มแล่นได้คล่องตัวมากขึ้น ตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้า หาในงานก็ได้ (ซึ่งราคาเสื้อกันฝน 50 บาท, รองเท้าบูท 150-250 บาท) ออกไปบริเวณหน้าโลตัส จะพบกับพี่วิน เข้าไปสอบถามราคาพบว่าจากโลตัส ไปหน้างาน ราคา 100 บาท ได้ยินครั้งแรกเราก็ตกใจ เพราะระยะทางก็ไม่ได้ไกลมาก แต่ก็เอาวะ มาถึงละก็ต้องไป (พึ่งมาทราบภายหลังจากป้ายทางเข้างานว่าราคานี้อยู่แล้ว) พี่วินก็พาแว้นผ่านรถที่ติดมาก จากถนนขาขึ้นอุทยาน ขนาดเปิดให้ 3 เลน รถก็ยังติดหนักมาก

ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบริเวณหน้างานก็พบความประทับใจเลยครับ นี่เรามาเทศกาลดนตรี หรือมาดำนา เพราะดินมันเละมาก เจ้าหน้าที่ก็แก้ไขด้วยการเอากองฟางมาถม ก็พอทุเลาโคลนจากรองเท้าได้บ้างเล็กน้อยครับ พอเข้าไปถึงงาน คนที่มีบัตรแข็งก็เข้าไปที่เลนพร้อมกับบัตรประชาชนได้เลยครับ อาหารของกินทิ้งไว้ข้างนอกนะครับ ห้ามเอาเข้า เดินเข้ามาก็เจอกับโคลนเป็นระยะๆ คิดในใจคงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกแล้วล่ะ

เดินเข้ามา ได้ยินเสียงดนตรี ก็เดินตามเสียงไปครับ เวทีที่ผมได้ยินเสียงก็คือเวทีวัว เจ้าของเสียงที่ว่าคือน้องวี วีโอเล็ทครับ ความเหนื่อย อะไรแย่ๆ ที่เจอมาวันนี้ หายเป็นปลิดทิ้งเลยครับ เมื่อได้เห็นหน้า ได้ยินเสียงของน้อง วันนี้น้องมาในชุดธีมเสื้อกันฝนสีใส กับเสื้อสีแดง (ผมไม่รู้มันเรียกว่าเสื้ออะไรนะครับ ไปหาดูได้ตามทวิตละกัน) ผมรู้จักน้องครั้งแรกจากเวที The Voice จากตอนนั้นถึงตอนนี้เสียงน้องยังเพราะ และมีคุณภาพเหมือนเดิม แต่สิ่งที่น้องมีมากขึ้นคือการ Entertain คนดูครับ นี่คือสิ่งที่ผมสังเกตได้ ตอนน้องบอกว่าร้อนอบอ้าว แล้วถอดชุดกันฝน โอยยย อยากจะลงไปนอนกลิ้งกับโคลน ณ ตรงนั้น น่ารักมากกกก..

ฟังน้องวี ร้องได้ประมาณ 2 เพลงก็ขอออกมาสำรวจพื้นที่กันก่อนครับ อย่างที่บอกเวทีค่อนข้างไม่ไกลครับ คุณสามารถมองเห็นเวทีชิงช้าสวรรค์จากเวทีวัวได้เลย ต่างจาก 4 ปีที่แล้วที่เดินแบบขาลากมาก ก็หาแวะหาของกินก่อนครับ ระหว่างเวทีวัว กับเวทีชิงช้าสวรรค์ จะมีซุ้มของกินย่อมๆ ก็จะมีครบทุกแนวเลยครับ มีส้มตำ หมูปิ้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (ยำยำ 15 บาท มาม่า 20 บาท ทำไมราคามันต่างกัน ถถถ) มีบูทของ Bar B Q Plaza ด้วยครับ มีเมนู ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นพวกหมูย่างราดข้าวประมาณนี้ครับ แอบผิดหวังเล็กๆ นึกว่าจะมีเนื้อย่างในงาน ถถถ ราคาอาหารเริ่มต้น 40-50 บาทครับ ก็ไม่ต่างจากข้างนอกมาก แต่ปริมาณนี่ต่างอยู่ครับ น้ำดื่มจะเป็นของสปอนเซอร์ใหญ่อย่าง Pepsi ราคา*2 ครับ (700 ml 20B, 1.5L 40B) ก็ต้องยอมกันไป สำหรับราคาเครื่องดื่มแอลกฮอล์ผมไม่ได้สังเกตนะครับ แต่มีการจำกัดการขายเฉพาะผู้ที่มี Wrist Band 20+ และมีการจำกัดเวลาขายด้วยครับ (แต่สุดท้ายแล้วคุมอะไรไม่ได้มากครับ เพราะเด็กที่ไปด้วยก็จะดื่มกับผู้ใหญ่ เห็นกันได้ทั่วไปในงานที่คนมี Wrist Band สีชมพู <18 yr ถือเครื่องดื่มแอลกฮอล์ครับ)

ระหว่างที่นั่งรับประทานอาหาร จากแพลนที่วางไว้ว่าจะเดินไปดูศิลปินในดวงใจเล่นตามเวทีต่างๆ ด้วยปัจจัยอายุที่มากขึ้น ประกอบกับอยากลองดูศิลปินท่านอื่นๆ เล่นสดดูบ้าง เลยตัดสินใจเปลี่ยนแผนเป็นการแคมป์ที่เวทีเดียวเลยครับ โดยในวันแรกนี้ผมตัดสินใจปักหลักที่เวทีวัวครับ เพราะอยากดูพี่อ๊อฟ ปองศักดิ์ (ติดใจมาจากงานครั้งที่แล้ว) และพี่ป๊อป ปองกูล (อันนี้ประทับใจจาก The Voice 2018)

เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเล่าต่อครับ...
ชื่อสินค้า:   Big Mountain Music Festival 9
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่