ความล้มเหลวในทัวร์นาเมนต์สำคัญอย่างชิงแชมป์โลก เป็นเรื่องเศร้าสำหรับวงการกีฬาของบราซิล เป็นปีแรกหลังจากโค้ชโรเบอร์โต้กุมบังเหียนทีมในปี 2003 ที่บราซิลไม่ได้รับเหรียญรางวัลจากแข่งขันใดๆในปี 2018 เลย ตกรอบสองชิงแชมป์โลก ได้ที่ 4 รายการเนชั่นลีค และมองตร๊อกซ์ แน่นอนว่าผลลัพธ์เช่นนี้ ก่อให้เกิดกระแสที่ค่อนข้างดุเดือด ระหว่างแฟนวอลเลย์ และสื่อ ทุกคนทราบว่าบราซิลถึงยุคที่รุ่นเก่าที่มีความสามารถมากต่างพากันตบเท้าเลิกเล่น และแน่นอนว่าทีมชาติเองก็เปิดพร้อมต้อนรับนักกีฬาดาวรุ่งหน้าใหม่ แต่เหตุใด ทั้งแง่ปริมาณและคุณภาพการเล่น บราซิลกลับไม่มีนักกีฬาเพียงพอ?
หันกลับไปมองอีกประเทศอย่าง อิตาลี ภายใต้การนำของสมาคมวอลเลย์บอลอิตาลีเอง สร้างคลับชื่อ Club Italia ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญในผลิตดาวรุ่งหน้าใหม่ โดยผู้เล่นจะมีอายุเฉลี่ยแค่ 18 ปี พร้อมที่จะเรียนรู้ ฝึกฝน และเล่นวอลเลย์ในระดับสูง โดยไม่ผูกมัด เมื่อพวกเธอพร้อม ก็สามารถเซ็นสัญญากับคลับอื่นในฤดูกาลต่อไปได้ คนคุมทีมก็ไม่ใช่ใคร โค้ชทีมชาตินั่นเอง พูดถึงความสำเร็จในการพัฒนานักกีฬา ทีมชาติปัจจุบันอย่าง Chirichella อายุ 24 Danesi อายุ 22 Peitrini อายุ 18 Malinov อายุ 22 รวมไปถึงสุดยอด Egonu อายุ 19 ต่างก็เคยผ่านการฝึกฝนจากทีมนี้ มองย้อนไปปี 2002 Ortolani ที่เป็นตัวสำรอง Egonu ก็เคยอยู่ในทีมนี้มาก่อน เป็นที่คาดการณ์กันว่า อิตาลีจะแข็งแกร่งสุดขีดเมื่อเข้าปีโอลิมปิก 2020
มองกลับมาที่บราซิล ปัญหาเริ่มมาจาก 1. ตำแหน่งสำคัญอย่าง OPP ที่ Tandara ยืนอยู่ไม่มีรุ่นใหม่ทำได้ดีเท่า 2. นักกีฬารุ่นเก่าในทีมอยู่ในช่วงพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ บางคนก็ห่างหายจากการเล่นอาชีพเนื่องจากเหตุผลส่วนตัวเช่น คลอดลูก 3. ไม่มีเสียงเรียกร้องจากแฟนๆเรื่องการไม่ให้โอกาสนักกีฬาคนนี้คนนั้น เลยกลายเป็นความจริงที่ต้องยอมรับว่า ชุดที่ไปแข่งนั้นอาจจะดีสุดเท่าที่มีแล้ว
ย้อนกลับไปปี 1977 ตั้งแต่นั้นบราซิลได้แชมป์ทุกรุ่นชายและหญิงรวมกันกว่า 21 รายการ แต่ถ้านับรุ่นอายุ 23 ทีมชายได้แชมป์ล่าสุดปี 2013 ส่วนทีมหญิงปี 2015 ส่วนรุ่นอายุ 20 หนักกว่าครั้งล่าสุดปี 2007 เลยทีเดียว รุ่นอายุ 18 ได้แชมป์ล่าสุดปี 2009 ถือว่าห่างหายไปเกือบ 10 ปี ปี 2017 ที่ผ่านมา U18 ของบราซิลได้อันดับที่ 10 ส่วน U20 ได้อันดับ 5 ที่น่าเจ็บใจกว่าคือช่วงเดือนกรกฎาคม การแข่งขัน U18 ชิงแชมป์อเมริกาใต้ที่จัดขึ้นที่ โคลอมเบีย ทีมบราซิลแพ้ให้กับเปรูอย่างเละเทะ (9-25,15-25,11-25) เกิดอะไรขึ้นกับวงการวอลเลย์บอลบราซิล ทำไมเราถึงมีผู้เล่นใหม่ๆแจ้งเกิดแทนที่รุ่นพี่ไม่ทัน?
โค้ช U20 ตอบคำถามเรื่องนี้ว่า เป็นเรื่องของการลงทุน "ผมคิดว่าเศรษฐกิจหดตัว ทำให้จำนวนคลับน้อยลง คลับลงทุนน้อยลงทำให้ไม่มีผู้เล่นหน้าใหม่เกิดขึ้น" แต่เขาก็คิดว่าสมาคมเองก็มีส่วน "มีนักกีฬาถูกเรียกตัวเข้าฝึกทีมชาติแค่ 20 คน" ประเด็นของเขาคือ ทีมชาติก็เรียกตัวฝึกซ้อมจำนวนน้อย พอจะหันไปพึ่งสโมสร ก็พยายามตัดค่าใช้จ่ายกันอยู่ เลยฝึกกันไม่ต่อเนื่อง เนื่องด้วยปัญหานี้เองทำให้สมาคมริเริ่มการแข่งขันลีค ที่จะมีสโมสรกว่า 25 แห่งเข้าร่วมจาก 10 รัฐรวมไปถึงการแข่งขันย่อยภายในอีกกว่า 7 ถ้วย ทั้งหมดก็เพื่อเน้นให้ผู้เล่นหน้าใหม่มีโอกาสในการเข้าแข่งขันให้มากขึ้น ผู้เล่นในตำนานอย่าง Fafao กล่าวว่า "สมัยนี้ นักกีฬารุ่นใหม่ยังต้องเลือกว่าจะเล่นต่อไหม หรือออกไปทำอาชีพอื่น" แน่นอนว่านักกีฬาก็ยังอยากเล่น แต่การแข่งขันนั้นไม่มีมากนัก
สโมสรเองก็มีข้อจำกัด การรับเด็กหน้าใหม่เข้ามาในทีม ต้องฝึกฝน พัฒนาและมีการให้โอกาสลงไปเป็นตัวจริง "ฉันรู้สึกว่าขั้นตอนนี้เป็นไปอย่างช้า และมีผู้เล่นจำนวนไม่มากที่ผ่านจุดนี้มาได้ การที่จะมีผู้เล่นคนใดคนหนึ่งจาก 12 คนในทีม โดดเด่นขึ้นมา พวกเธอต้องมีเวลาอยู่ในสนามพอสมควร เมื่อพวกเธอพร้อมเล่นชุดใหญ่ พวกเธอจะกลับพบว่า พวกเธอเคยแข่งมาแค่ไม่กี่รายการ และเมื่อเข้ามาอยู่ในทีมสโมสรหรือทีมชาติ ตำแหน่งหลักก็คือไปยืนคอกสำรอง แทบไม่ได้ลงมาเล่นเลย"
โค้ช Mauricio Thomas เองก็มองว่า อุปสรรคของนักกีฬาหน้าใหม่ ส่งผลต่อมาถึงความล้มเหลวของวงการวอลเลย์บอล "บราซิลมีนักกีฬายอดเยี่ยมมากมาย ทั้งส่วนสูง รูปร่าง ความฉลาด แต่ปัญหาคือพวกเธอไม่มีประสบการณ์ในการแข่งขันระดับสูงมาก่อน นักกีฬายุโรปมีรายการแข่งขันที่ดีตลอดปี แต่บราซิลไม่มี ถ้าไม่ได้ติดทีมชาติ รายการที่มีอยู่ ไม่ได้แข่งหลายวัน ไม่ต้องใช้ทักษะและความแม่นยำมากมาย เมื่อก่อนเราจะมีช่วง 3-4 เดือนก่อนแข่งขันรายการใหญ่ พาทีมเก็บตัวและแข่งทั่วยุโรป แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว เนื่องจากไม่มีงบประมาณ มันน่าเศร้า เรามีโค้ชและนักกีฬาพร้อมกว่า แต่เราแพ้ประสบการณ์" ถึงแม้พวกเธอจะสามารถไปแข่งขันในลีคอาชีพยุโรปได้ แต่เธอก็ต้องแสดงฝีมือในลีคประเทศและทีมชาติเสียก่อน "แต่ในระดับลีคและทีมชาติ ก็ไม่มีพื้นที่ให้พวกเธออีก"
ปีก่อน Thomas ได้เป็นผู้ช่วยให้กับโค้ชชั้นนำประจำทีม Vakifbank อย่างกุยเดตติ ทำให้เขาได้มีโอกาสเห็นการทำงานของทีมอื่น "ความสำเร็จของบราซิลส่วนหนึ่งเกิดจากนักกีฬาและสไตล์การเล่นอันเป็นเอกลักษณ์ ผู้เล่นทีมอื่นทำตามไม่ได้ แต่เราก็รู้ว่าอีกไม่นานทีมอื่นจะนำนักกีฬากลุ่มใหม่ กับสไตล์การเล่นแบบเรามาใช้ ด้วยทรัพยากรคนและงบประมาณ เราได้เห็นมันเกิดขึ้นกับอิตาลี และตุรกีแล้ว ส่วนเนเธอร์แลนด์ และสหรัฐก็มีผู้เล่นสไตล์นี้กำเนิดขึ้นมาอีกมากมาย พวกเขาใช้เวลาน้อยลงในการเจียระไนเพชร แถมนักกีฬาที่พวกเขาสร้างขึ้นมาก็มีศักยภาพมากด้วย"
มองดูปัจจุบัน นักกีฬาระดับท็อป กลับมีอายุไม่มาก Zhu Ting ของจีน อายุ 23 Egonu อายุ 19 และ Boskovic อายุ 21 Fafao กล่าวว่าทั้งสามคน มีความเหมือนกัน "พวกเธอเล่นอยู่ในลีคระดับท็อป และเริ่มเล่นตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้พวกเธอเติบโตเกินวัย คุณจะเห็นผลงานได้เลยว่า ปีก่อนนั้นผลงานนักกีฬาคนนี้ยังไม่เข้าตา แต่ปีต่อมา พวกเธอก็เล่นได้อย่างไม่มีที่ติ มันอยู่ที่การแข่งขันจริงๆ" ที่จริงพอลองมองลงไป บราซิลเองก็มีการพัฒนา เขายกตัวอย่างเช่น Natalia ซึ่งเติบโตมากับทีมชาติแต่เด็ก แต่ทีมชาติก็ไม่เคยทำให้เธอเก่งเกินเพื่อนร่วมทีม "บราซิลไม่เคยพึ่งพานักกีฬาคนใดคนหนึ่งเพียงคนเดียว ทีมเวิร์คคือสิ่งที่สำคัญที่สุด"
แฟนๆชาวบราซิลไม่ควรเสียใจ และยึดติดกับประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองไปตลอด มันถึงเวลาแล้วที่บราซิลจะต้องหาหนทางใหม่ของตนเอง อย่างเช่นที่ โค้ช Wagao อธิบายว่า มันต้องใช้ เวลาและความอดทน กว่าเพชรเม็ดใหม่จะถือกำเนิดขึ้น แฟนๆและสื่อเองก็ควรเข้าใจว่า การเจียระไนนี้หมายความว่า ทีมชาติบราซิลอาจจะไม่ได้เหรียญรายการใหญ่ ไปอีก 2-3 ปี แต่ขั้นตอนนี้ก็เคยเกิดขึ้นกับจีน (ช่วงปี 2009 - 2013 ที่ทีมไทยไล่สอยจีนเป็นว่าเล่น) หรือเซอร์เบีย (2012-2015) หรือแม้แต่อิตาลี (2015-2016) ทางเราก็ได้แต่หวังว่าจะเกิดสิ่งที่ดีขึ้นกับวงการวอลเลย์บอลบราซิล
โดยส่วนตัวมองว่า สมาคมวอลเลย์ไทยเอง น่าจะเอาแบบเค้า คือไม่จำกัดผู้เล่นต่างชาติ ดึงมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วสร้างทีมสโมสรเด็กหน้าใหม่ขึ้นมาแข่ง เพื่อเป็นการพัฒนาประสบการณ์ จำได้ว่าเพียวลงยืนตัวจริงปี 2015 แล้วน้องก็เป็นจุดบอดให้เค้าจี้ จนโดนคนเชียร์ไล่ออกจากทีม ปี 2016 ก็เป็นคราวบีมกับบุ๋มบิ๋มโดนบ้าง จนปี 2017 ที่ทั้งสามคนยืนตัวจริงชนะบราซิลได้ เราต้องมีพื้นที่ให้รุ่นใหม่เยอะๆ ใครจะเป็นคนต่อไป เราต้องรอดู
เครดิต
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://saidaderede.blogosfera.uol.com.br/2018/11/14/base-feminina-de-volei-por-que-nao-estao-surgindo-novos-talentos/ 
[แปล] วอลเลย์บอลบราซิล ดาวรุ่งหน้าใหม่ หายไปไหนกันหมด?
หันกลับไปมองอีกประเทศอย่าง อิตาลี ภายใต้การนำของสมาคมวอลเลย์บอลอิตาลีเอง สร้างคลับชื่อ Club Italia ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญในผลิตดาวรุ่งหน้าใหม่ โดยผู้เล่นจะมีอายุเฉลี่ยแค่ 18 ปี พร้อมที่จะเรียนรู้ ฝึกฝน และเล่นวอลเลย์ในระดับสูง โดยไม่ผูกมัด เมื่อพวกเธอพร้อม ก็สามารถเซ็นสัญญากับคลับอื่นในฤดูกาลต่อไปได้ คนคุมทีมก็ไม่ใช่ใคร โค้ชทีมชาตินั่นเอง พูดถึงความสำเร็จในการพัฒนานักกีฬา ทีมชาติปัจจุบันอย่าง Chirichella อายุ 24 Danesi อายุ 22 Peitrini อายุ 18 Malinov อายุ 22 รวมไปถึงสุดยอด Egonu อายุ 19 ต่างก็เคยผ่านการฝึกฝนจากทีมนี้ มองย้อนไปปี 2002 Ortolani ที่เป็นตัวสำรอง Egonu ก็เคยอยู่ในทีมนี้มาก่อน เป็นที่คาดการณ์กันว่า อิตาลีจะแข็งแกร่งสุดขีดเมื่อเข้าปีโอลิมปิก 2020
มองกลับมาที่บราซิล ปัญหาเริ่มมาจาก 1. ตำแหน่งสำคัญอย่าง OPP ที่ Tandara ยืนอยู่ไม่มีรุ่นใหม่ทำได้ดีเท่า 2. นักกีฬารุ่นเก่าในทีมอยู่ในช่วงพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ บางคนก็ห่างหายจากการเล่นอาชีพเนื่องจากเหตุผลส่วนตัวเช่น คลอดลูก 3. ไม่มีเสียงเรียกร้องจากแฟนๆเรื่องการไม่ให้โอกาสนักกีฬาคนนี้คนนั้น เลยกลายเป็นความจริงที่ต้องยอมรับว่า ชุดที่ไปแข่งนั้นอาจจะดีสุดเท่าที่มีแล้ว
ย้อนกลับไปปี 1977 ตั้งแต่นั้นบราซิลได้แชมป์ทุกรุ่นชายและหญิงรวมกันกว่า 21 รายการ แต่ถ้านับรุ่นอายุ 23 ทีมชายได้แชมป์ล่าสุดปี 2013 ส่วนทีมหญิงปี 2015 ส่วนรุ่นอายุ 20 หนักกว่าครั้งล่าสุดปี 2007 เลยทีเดียว รุ่นอายุ 18 ได้แชมป์ล่าสุดปี 2009 ถือว่าห่างหายไปเกือบ 10 ปี ปี 2017 ที่ผ่านมา U18 ของบราซิลได้อันดับที่ 10 ส่วน U20 ได้อันดับ 5 ที่น่าเจ็บใจกว่าคือช่วงเดือนกรกฎาคม การแข่งขัน U18 ชิงแชมป์อเมริกาใต้ที่จัดขึ้นที่ โคลอมเบีย ทีมบราซิลแพ้ให้กับเปรูอย่างเละเทะ (9-25,15-25,11-25) เกิดอะไรขึ้นกับวงการวอลเลย์บอลบราซิล ทำไมเราถึงมีผู้เล่นใหม่ๆแจ้งเกิดแทนที่รุ่นพี่ไม่ทัน?
โค้ช U20 ตอบคำถามเรื่องนี้ว่า เป็นเรื่องของการลงทุน "ผมคิดว่าเศรษฐกิจหดตัว ทำให้จำนวนคลับน้อยลง คลับลงทุนน้อยลงทำให้ไม่มีผู้เล่นหน้าใหม่เกิดขึ้น" แต่เขาก็คิดว่าสมาคมเองก็มีส่วน "มีนักกีฬาถูกเรียกตัวเข้าฝึกทีมชาติแค่ 20 คน" ประเด็นของเขาคือ ทีมชาติก็เรียกตัวฝึกซ้อมจำนวนน้อย พอจะหันไปพึ่งสโมสร ก็พยายามตัดค่าใช้จ่ายกันอยู่ เลยฝึกกันไม่ต่อเนื่อง เนื่องด้วยปัญหานี้เองทำให้สมาคมริเริ่มการแข่งขันลีค ที่จะมีสโมสรกว่า 25 แห่งเข้าร่วมจาก 10 รัฐรวมไปถึงการแข่งขันย่อยภายในอีกกว่า 7 ถ้วย ทั้งหมดก็เพื่อเน้นให้ผู้เล่นหน้าใหม่มีโอกาสในการเข้าแข่งขันให้มากขึ้น ผู้เล่นในตำนานอย่าง Fafao กล่าวว่า "สมัยนี้ นักกีฬารุ่นใหม่ยังต้องเลือกว่าจะเล่นต่อไหม หรือออกไปทำอาชีพอื่น" แน่นอนว่านักกีฬาก็ยังอยากเล่น แต่การแข่งขันนั้นไม่มีมากนัก
สโมสรเองก็มีข้อจำกัด การรับเด็กหน้าใหม่เข้ามาในทีม ต้องฝึกฝน พัฒนาและมีการให้โอกาสลงไปเป็นตัวจริง "ฉันรู้สึกว่าขั้นตอนนี้เป็นไปอย่างช้า และมีผู้เล่นจำนวนไม่มากที่ผ่านจุดนี้มาได้ การที่จะมีผู้เล่นคนใดคนหนึ่งจาก 12 คนในทีม โดดเด่นขึ้นมา พวกเธอต้องมีเวลาอยู่ในสนามพอสมควร เมื่อพวกเธอพร้อมเล่นชุดใหญ่ พวกเธอจะกลับพบว่า พวกเธอเคยแข่งมาแค่ไม่กี่รายการ และเมื่อเข้ามาอยู่ในทีมสโมสรหรือทีมชาติ ตำแหน่งหลักก็คือไปยืนคอกสำรอง แทบไม่ได้ลงมาเล่นเลย"
โค้ช Mauricio Thomas เองก็มองว่า อุปสรรคของนักกีฬาหน้าใหม่ ส่งผลต่อมาถึงความล้มเหลวของวงการวอลเลย์บอล "บราซิลมีนักกีฬายอดเยี่ยมมากมาย ทั้งส่วนสูง รูปร่าง ความฉลาด แต่ปัญหาคือพวกเธอไม่มีประสบการณ์ในการแข่งขันระดับสูงมาก่อน นักกีฬายุโรปมีรายการแข่งขันที่ดีตลอดปี แต่บราซิลไม่มี ถ้าไม่ได้ติดทีมชาติ รายการที่มีอยู่ ไม่ได้แข่งหลายวัน ไม่ต้องใช้ทักษะและความแม่นยำมากมาย เมื่อก่อนเราจะมีช่วง 3-4 เดือนก่อนแข่งขันรายการใหญ่ พาทีมเก็บตัวและแข่งทั่วยุโรป แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว เนื่องจากไม่มีงบประมาณ มันน่าเศร้า เรามีโค้ชและนักกีฬาพร้อมกว่า แต่เราแพ้ประสบการณ์" ถึงแม้พวกเธอจะสามารถไปแข่งขันในลีคอาชีพยุโรปได้ แต่เธอก็ต้องแสดงฝีมือในลีคประเทศและทีมชาติเสียก่อน "แต่ในระดับลีคและทีมชาติ ก็ไม่มีพื้นที่ให้พวกเธออีก"
ปีก่อน Thomas ได้เป็นผู้ช่วยให้กับโค้ชชั้นนำประจำทีม Vakifbank อย่างกุยเดตติ ทำให้เขาได้มีโอกาสเห็นการทำงานของทีมอื่น "ความสำเร็จของบราซิลส่วนหนึ่งเกิดจากนักกีฬาและสไตล์การเล่นอันเป็นเอกลักษณ์ ผู้เล่นทีมอื่นทำตามไม่ได้ แต่เราก็รู้ว่าอีกไม่นานทีมอื่นจะนำนักกีฬากลุ่มใหม่ กับสไตล์การเล่นแบบเรามาใช้ ด้วยทรัพยากรคนและงบประมาณ เราได้เห็นมันเกิดขึ้นกับอิตาลี และตุรกีแล้ว ส่วนเนเธอร์แลนด์ และสหรัฐก็มีผู้เล่นสไตล์นี้กำเนิดขึ้นมาอีกมากมาย พวกเขาใช้เวลาน้อยลงในการเจียระไนเพชร แถมนักกีฬาที่พวกเขาสร้างขึ้นมาก็มีศักยภาพมากด้วย"
มองดูปัจจุบัน นักกีฬาระดับท็อป กลับมีอายุไม่มาก Zhu Ting ของจีน อายุ 23 Egonu อายุ 19 และ Boskovic อายุ 21 Fafao กล่าวว่าทั้งสามคน มีความเหมือนกัน "พวกเธอเล่นอยู่ในลีคระดับท็อป และเริ่มเล่นตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้พวกเธอเติบโตเกินวัย คุณจะเห็นผลงานได้เลยว่า ปีก่อนนั้นผลงานนักกีฬาคนนี้ยังไม่เข้าตา แต่ปีต่อมา พวกเธอก็เล่นได้อย่างไม่มีที่ติ มันอยู่ที่การแข่งขันจริงๆ" ที่จริงพอลองมองลงไป บราซิลเองก็มีการพัฒนา เขายกตัวอย่างเช่น Natalia ซึ่งเติบโตมากับทีมชาติแต่เด็ก แต่ทีมชาติก็ไม่เคยทำให้เธอเก่งเกินเพื่อนร่วมทีม "บราซิลไม่เคยพึ่งพานักกีฬาคนใดคนหนึ่งเพียงคนเดียว ทีมเวิร์คคือสิ่งที่สำคัญที่สุด"
แฟนๆชาวบราซิลไม่ควรเสียใจ และยึดติดกับประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองไปตลอด มันถึงเวลาแล้วที่บราซิลจะต้องหาหนทางใหม่ของตนเอง อย่างเช่นที่ โค้ช Wagao อธิบายว่า มันต้องใช้ เวลาและความอดทน กว่าเพชรเม็ดใหม่จะถือกำเนิดขึ้น แฟนๆและสื่อเองก็ควรเข้าใจว่า การเจียระไนนี้หมายความว่า ทีมชาติบราซิลอาจจะไม่ได้เหรียญรายการใหญ่ ไปอีก 2-3 ปี แต่ขั้นตอนนี้ก็เคยเกิดขึ้นกับจีน (ช่วงปี 2009 - 2013 ที่ทีมไทยไล่สอยจีนเป็นว่าเล่น) หรือเซอร์เบีย (2012-2015) หรือแม้แต่อิตาลี (2015-2016) ทางเราก็ได้แต่หวังว่าจะเกิดสิ่งที่ดีขึ้นกับวงการวอลเลย์บอลบราซิล
โดยส่วนตัวมองว่า สมาคมวอลเลย์ไทยเอง น่าจะเอาแบบเค้า คือไม่จำกัดผู้เล่นต่างชาติ ดึงมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วสร้างทีมสโมสรเด็กหน้าใหม่ขึ้นมาแข่ง เพื่อเป็นการพัฒนาประสบการณ์ จำได้ว่าเพียวลงยืนตัวจริงปี 2015 แล้วน้องก็เป็นจุดบอดให้เค้าจี้ จนโดนคนเชียร์ไล่ออกจากทีม ปี 2016 ก็เป็นคราวบีมกับบุ๋มบิ๋มโดนบ้าง จนปี 2017 ที่ทั้งสามคนยืนตัวจริงชนะบราซิลได้ เราต้องมีพื้นที่ให้รุ่นใหม่เยอะๆ ใครจะเป็นคนต่อไป เราต้องรอดู
เครดิต
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้