เคยคบกับ Abusive Man แล้วไม่ลืมเหตุการณ์เลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นมาเลย ต้องทำอย่างไรดี

ต่อเนื่องมาจากกระทู้  https://pantip.com/topic/38169282

เราสมัครแอคเค้ามาเพื่ออยากระบายสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับการคบ Abusive man ค่ะ ยาวหน่อยนะคะ

ย้อนไปตอนเข้าเรียนปี1 ใหม่ๆ ช่วงนั้นเรายังดูเด็กมาก แต่งหน้าไม่เป็น ดื่มเบียไม่เป็น มึนๆอึนๆ ใสๆ ไม่มั่นใจในตัวเอง หัวอ่อนเชื่อคนง่าย
คนจีบเราค่อนข้างเยอะ แต่เรากลัว เพราะเคยเจอ ผช หน้าตาดีมาจีบ แล้วเราเคยชอบพอ แต่เขาเจ้าชู้ เลยไม่กล้าคุยกับคนที่มาจีบ ที่หน้าตาดี ถึงกลางๆ

จนมาเจอรุ่นพี่คนนึง เรียนคณะเดียวกัน แต่คนละแขนง ชื่อซี หน้าตาธรรมดา ค่อนข้างขี้เหร่ อ้วน เตี้ย ดำ สิวเต็มหน้า มีรังแค คิ้วชนกัน ฟันเหลือง
ตอนแรกๆที่เขาเข้ามาจีบ เราไม่ยุ่งไม่คุยด้วย ทักมา8 โมง เราตอบ4 โมง แต่เพื่อนๆของเขาที่เป็นรุ่นพี่ ที่เราบังเอิญรู้จัก บอกว่าเขาเป็นคนดีมาก สุภาพไม่เคยว่าใคร ใครที่โดนเขาเอาไปว่านี่ต้องนิสัยแย่จริงๆ แถมเรียนดีสุดๆ

หลังจากนั้น พี่ๆเลยช่วยกันชงให้เราลองมาคุยกันดู ให้เขาช่วยสอนการบ้าน
ตอนแรกๆเราก็แหยงๆนะ แต่พอรู้จัก เขาเป็นคนดีมาก สุภาพสุดๆ ใจดี ช่วยเหลือตลอด สุภาพบุรุษมาก ไม่แตะเนื้อต้องตัว ให้เกียรติ ไม่ตื๊อ ไม่ตาม คือเป็นคนที่บุคลิคอ่อนโยนสุดๆ จนทำให้เรารู้สึกว่า ผช แบบนี้ยังมีในสังคมอีกหรอ ทำไมดีได้ขนาดนี้นะ
เราคุยๆกัน แรกๆเราก็มีรู้สึกบ้างว่าเอ้ะยังไงนะ

เช่น เขาเคยเล่าเรื่องได้เสียกับคนเก่าของเขาให้เราฟัง ประมาณว่า เป็นคนเริ่มทำก่อน เขาไม่ได้อยากทำ และ ผญ คนนั้นน่ารักมากบลาๆ
ความจริง เป็นเราในตอนนี้ ถ้าได้ยิน คนที่กำลังคบหาดูใจ พูดเรื่องเสียๆหายๆของบุคคลที่สาม หรือ ถ้ายิ่งเป็นคนที่เขาเคยคบหามาแล้วนั้น เราคงหลีกให้ไกลทันที
แต่ด้วยตอนนั้น เราเด็กมาก และเขาใช้คำพูดที่ไม่ได้ส่อแววเจตนาจะเล่าตรงๆ เลยคิดว่า อาจจะแค่ผิดพลาดบางอย่าง คงไม่ได้ตั้งใจจะเล่า

ตอนคุยกันได้เดือนแรก ยังไม่ครบเดือนเขาเริ่มแสดงท่าทีวางตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของนิดๆ เริ่มกดดันให้เราคบกับเขา เราตอนนั้นก็รู้สึกดีกับเขานะ แต่รู้สึกว่าเร็วไปและยังอยากลองดูให้นานกว่านี้อีกหน่อย เลยบอกว่าขอเวลา เขาก็บอกให้เราฟิคเวลามาอีกว่าต้องนานกี่เดือนถึงจะคบกับเขา
ตอนนั้นเราก็ไม่รู้จะกี่เดือน และเขาพูดทำให้เรารู้สึกผิดที่เราไม่บอกเดือนที่จะคบชัดเจนไป เราเลยบอกไปว่าหลังจากนี้อีก5เดือน

ซึ่งพอหลังจากนี้5 เดือนเป้ะเขาขอคำตอบเราทันที

ซึ่งพอเราคบเขาปุ้บ ทุกอย่างเปลี่ยนไป เรียกได้ว่าแทบจะทันที
จากที่ไปไหนมาไหน เขาจะหยิบน้ำ หยิบนู่นนี่ให้ ตอนเราไปเที่ยวหาที่บ้าน เขาเริ่มไล่ให้เราไปเอาเอง พอเราถามก็บอกว่าตอนนั้นเราเหมือนแขกเลยเอาให้แต่ตอนนี้เราคบกับเขาแล้วเหมือนคนกันเอง ก็คิดว่าเอาเองน่าจะดีกว่า

ช่วงคุยๆกัน ทุกวันเขาจะซื้อขนมมาให้เราตลอด ข้าวเอย ขนมเอย พอคบกันเขาถามว่าทำไมเราไม่ทำให้เขาบ้าง เราเอาแต่ได้ เราเลยบอกว่าเราไม่ได้ขอให้ทำนี่นา... เขาก็โมโหใหญ่โต

เขาเริ่มขี้หึงไร้สาระ เช่นเรานั่งข้างเพื่อน ผช ด่าเราว่าเราให้ท่า ผช คือด่าจนเรารู้สึกว่า ทำไมต้องขนาดนี้ นี่เพื่อนกลุ่มเดียวกัน ไม่ได้นั่งกันสองต่อสอง นั่งกันในโต้ะกินข้าวเป็นกลุ่มสิบคน แต่เราแค่นั่งข้างคนนี้เท่านั้น

เราชอบไปร้านกาแฟ เขาไม่กินกาแฟดังนั้นเราห้ามไป เราอยากไปคาเฟ่น่ารักๆ เขาไม่อยากไปกลัวเสียเงิน เราห้ามไป เราเลยบอกงั้นไปด้วยกันแล้วก็ไม่ต้องสั่งอะไรกินสิ เราจะสั่งเอง ก็โกรธใหญ่ เราไปคนเดียวก็หาว่าเราไปให้ท่า ผช ร้านกาแฟ คาเฟ่ ร้านอาหาร

ตอนนั้น เขาไม่มีรถขับ เลยขอรถเราเอาไปไว้ที่บ้านเขา บอกว่าให้เรามารับมาส่งมันดูแปลกๆ เขาเป็น ผช ให้เขาขับเองดีกว่า แล้วเดี๋ยวเขามารับเอง ให้เอารถเราให้เขาไว้

เรามีรุ่นพี่ในคณะมาชอบ แล้วหลายๆคน ไม่เชื่อว่าเราไปคบกับเขา คิดว่าเราแค่สนิดกัน บางครั้งเลยจะมีคนฝากขนมมาให้บ้าง จนมีครั้งนึงเพื่อนเราเอาขนมมาให้เราต่อหน้าเขา แล้วบอกว่ามีรุ่นพี่ชอบ ให้ฝากเอามาให้ เพื่อนเราคนนั้นไม่ได้สนิดอะไรมากเลยไม่รู้ว่าเราคบกับเขาอยู่ และคงไม่คิดว่าเราคบกันด้วย เขาเลือดขึ้นหน้าเรียกเราไปด่า ว่าให้ท่า ไปหว่านเสน่ห์ ผช ล่ะสิเลยได้อะไรแบบนี้มา ว่าเราเป็น ผู้หญิงง่ายบลาๆ ทั้งๆที่เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเอาขนมมาให้เรา


เขาบังคับให้เราลงรูปคู่กับเขา แต่พ่อแม่เราขอไว้ว่าถ้าจะคบใครพ่อแม่ไม่ว่า แต่พ่อแม่ไม่อยากให้เราลงรูปคู่กับแฟน เพราะมันดูไม่งาม และเรายังเด็กในสายตาพ่อแม่เราตอนนั้นด้วย แต่เราโดนทั้งบังคับ กดดัน ทำให้รู้สึกผิดจนต้องลงให้เขา

เขาเริ่มใช้คำหยาบและเริ่มด่าทอรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เริ่มเสียงดัง ปาข้าวของ ทุกครั้งที่ทะเลาะจะบอกเลิกเราทุกครั้ง ไล่ให้เราไปหา ผช ที่ไหนก็ไป บางครั้งที่เราคิดว่าเราไม่ได้ทำผิดอะไรเลย แต่เขาทำพลาดเอง เขากลับโทษเราดื้อๆ
เช่น
เขาไม่มีรถขับ เอารถเราไปใช้ ตอนนั้น ทะเลาะกันนิดหน่อยเรื่องร้านอาหาร เขาขับรถเราเร็วมากๆ จนไปชนกับรถคันด้านหน้า ไฟหน้ารถเราแตก เขาเลยบอกเรา เราเลยให้เขาติดต่อประกันจัดการเอง พอเขาจัดการเสร็จ เขามาว่าเราเห็นแก่ตัว เพราะไม่เรียกประกันรถเอง รถก็รถเรา ทำไมไม่เรียกเอง มาให้เขาเรียกทำไม... แล้วที่เขาเอารถไปชน เพราะเราทำเขาหงุดหงิดเลยขับรถเร็ว ความผิดเรานั่นแหละ
เถียงกันคอเป็นเอ็นจนเราเหนื่อย ขก ทะเลาะแล้ว เลยบอกผ่านๆว่า เออๆ เราผิดเอง เขายังบอกใส่เราว่า รู้ตัวก็ดี....

เขาเอาไปพูดกับคนอื่นหน้าด้านๆว่าเราเป็นคนเข้าหาเขาเอง เราไปตามหาไลน์เขาแล้วแอดมาคุยก่อน ..เอิ่ม..


ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน เขาไม่เคยผิด ต่อให้หลักฐานมันจะทนโท่ว่าเขาแหละผิดเต็มๆ เขาจะบอกว่าเพราะเรานั่นแหละ เขาเลยทำพลาด
ทุกครั้งที่เขาขึ้นเสียงด่าคำหยาบ ตะคอกโวยวายใส่ เขาจะบอกว่าเพราะเราทำให้เขาเป็นแบบนี้ ปกติเขาไม่ใช่คนแบบนี้

เหมือนทุกอย่าง ไม่ว่าเขาจะทำพลาด หรือทำตัวน่ารังเกียจแค่ไหน เขาจะหาเหตุผลร้อยแปดแบบหน้าด้านๆให้ตัวเองถูกให้ได้ ไม่ว่าเหตุผลนั้นที่ยกมามันไม่ใช่เหตุผลด้วยซ้ำ

เคยหลอกเราว่าเพื่อนๆเขาทั้งหญิงและชายชวนไปทะเล ฝากมาชวนเราไปด้วย พอเรากำลังไปรับเขา เราถามว่าทำไมไปกันแค่สองคน ซีเขาบอกว่า คนอื่นไปก่อนกันหมดแล้วเพราะเราตื่นสาย และพอไปถึง คือไม่มีใครมากับเราเลยค่ะ มากันแค่สองคน และเขาจองห้องไว้แล้วเรียบร้อย และด้วยความที่ไม่เคยจองตั๋วเดินเรือข้ามฟากเองเลย ทางบ้านจองให้ตลอด เลยไม่รู้ว่ามันไม่มีรอบแล้ว ด้วยตอนนั้นแค่อายุ18-19 เราถึงกับควักเงินตัวเองมาจ่ายค่าห้องใหม่เอง4000 และไม่ออกจากห้องอีกเลยจนถึงอีกวันนึง ยอมรับว่าตอนนั้นกลัวมาก แต่ก็ยังอยู่กับเขา

แต่ตอนที่เขาดีกับเรา เขาดีใจหายจริงๆ ดีจนรู้สึกว่า อืมเราก็อยู่กับเขาได้นะ อะไรแบบนี้

จนที่เริ่มทนไม่ไหวคือ เขาถามเงินเดือนบ้านเรา เพราะเขาเห็นเราใช้เงินเยอะ เราบอกไป และพ่อแม่เราเป็นราชการ แต่พ่อเราเป็นผู้บริหารอาวุโสสูงสุดแล้ว พ่อและแม่เราซื้อขายที่ดินไปด้วย ไม่ใช่ว่าจะจนอะไร แต่เหมือนเขามองว่า ราชการคือคนจน ไม่มีทางที่จะมีเงินเยอะขนาดนี้หรอก
เขาบอกว่า ที่บ้านเรามีเงินได้ขนาดนี้ เพราะ
"พ่อเราใช้อำนาจมืด โกงคนอื่นแน่นอน"

เราบอกว่าพ่อแม่เราเงินเดือนแค่ของราชการ รวมกันได้แสนกว่าๆ ไม่รวมเรื่องที่ดิน
เขาก็บอกว่า "เงินเดือนแม่เขาเดือนละสองแสน"

ปล. แม่เขาเป็นพยาบาลค่ะ..พ่อเสียแล้ว..

แต่ทั้งๆที่ดูถูกบ้านเราขนาดนี้ พอรู้ว่า เราเรียนจบมา ทางบ้านจะเปิดกิจการให้ เขาบอกเขาจะมาบริหารกิจการด้วย จะมาอยู่บ้านเราด้วย(เคยเห็นบ้านเราแล้วค่ะ) อยากแต่งงานกับเราทันทีที่เรียนจบ โดยใช้เงินแม่ตัวเองและพ่อแม่เราค่ะ
พอเราบอกว่า พ่อแม่ไม่อยากให้รีบแต่งงาน

เขาบอก "งั้นทำให้ท้องเลยดีมั้ย?"

...เรายังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กันนะคะ...

เขาบอก ถ้าแต่งละจะมาอยู่บ้านเขาหรือไง บ้านแคบๆแบบนั้น ไปอยู่บ้านเราดีกว่า คือบ้านเขาเป็นชั้นเดียว น่าจะซักครึ่งงานได้ อยู่กัน 4 คน พี่น้องเขารวมเขาสามคนและแม่อีก1 คน

ทั้งๆที่เขาดูถูกบ้านเราสารพัด แต่อยากอยู่บ้านเรา..

ช่วงเวลาที่คบกับเขา เรารูสึกตัวเองด้อยค่ามาก แทบไม่ดูแลตัวเอง ปล่อยตัวโทรม เพราะเขาห้าม บอกไม่ชอบ และพร่ำพูดเรื่องที่เราด้อยกว่าเขาตลอดเวลาเช่น เรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องที่บ้านเราที่ทำด้านมืด แล้วเริ่มพาลว่าเรานิสัยแย่ เราเลว พาลไปเรื่อยๆว่าเราด้อยกว่าทุกๆคนที่เรารู้จักในชีวิต ตอนนั้นเหมือนถูกสะกดจิตว่าเป็นแบบนั้นจริง รู้สึกคลื่นไส้ตลอดเวลา ไม่มีความมั่นใจเลยแม้แต่นิดเดียว จากที่ไม่ค่อยมีอยู่แล้ว รู้สึกตัวเองไม่มีค่าเลย ไม่มีอะไรดีซักอย่าง

ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน เขาจะบอกเลิกตลอด แต่พอเขาหายโกรธก็จะกลับมาง้อตลอด
โดยให้เหตุผลว่า ถ้าเราเลิกกับเขาแล้วมีคนรู้ว่าเราเป็นแบบนี้ ไม่มีใครคบเราหรอก มีแต่เขาที่คบเพราะเขารักเรามาก
ตอนนั้นรู้สึกอยากหนีไปให้ไกลจริงๆ แต่หนีไปไหนไม่ได้ เพราะเชื่อจริงๆ ว่าไม่มีอะไรดี มีแต่คนรังเกียจคนแบบเรา

เรารู้สึกว่าควรเลิกตั้งแต่สองสามเดือนแรกๆแล้ว แต่เราไปไหนไม่ได้ เพราะใจอ่อน คิดว่าเขาจะปรับตัวได้ ไม่ทำให้เราเจ็บช้ำน้ำใจอีก และเพราะเรายังมองด้านดีๆที่เขาเคยมีอยู่ในช่วงคุยกันแรกๆ เหมือนแรกๆที่เราคุยกับเขา ด้านดีๆของเขามันดูสว่างมากๆ จนกลบข้อด้อย ข้อบกพร่องในตัวเขาไปจนหมด แต่พออยู่ไปเรื่อยๆ ไอ่ข้อดีที่เราเคยเห็นมันสว่างมากๆ มันค่อยๆหายไปจนหมด จนเราเห็นแค่ตัวเขาจริงๆ ตอนนั้นเราเลยคิดว่าต้องเลิกให้ได้

แต่ติดที่ว่าเราต้องเลิกยังไงก็ได้ให้เขาไม่แค้นเราเป็นอันขาด เพราะเราคิดว่าเขาต้องทำลายเราแน่ๆ
เราเลยรอตอนเขาไป ตปท สองเดือน ก่อนหน้าเขาไป ตปท เราทะเลาะกันตามปกติ(?) และเขาก็บอกเลิกเราตามปกติ เราเลยบอกไปว่า งั้นตั้งแต่ตอนนี้ไป เราเลิกกันนะ เขาร้อนใจสุดๆ แต่ตามตื๊อขอคืนดีเราไม่ได้แล้วเพราะอยู่สนามบิน ทำทุกทางจนเรายอมให้โอกาสอีก ซึ่งเป็นอะไรที่พลาดมาก เราบอกไปว่าถ้าเขากลับมา แล้วดีขึ้น เราค่อยมาคบกัน

พอเขาไป ตปท ก็ร้อนใจต้องการให้เรากลับไปคบกับเขาเดียวนี้เวลานี้ให้ได้ พอกลับมาจาก ตปท เขานัดเจอเราทันที มีของฝากมาให้ ทั้งๆที่ปกติไม่เคยให้อะไรเราเลย พอนัดเจอกัน เขาพยายมจัดจานให้นั่นนี่ ทุกอย่างเกือบจะดี แต่พอเราวานขอฝากหยิบแก้วน้ำที่วางข้างๆเขาให้หน่อย
เขาก็ตะคอกใส่เรา ว่าเอาเองไม่เป็นรึไง ตอนนั้นเราไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ได้แต่มองนิ่งๆ และคิดในใจว่า เราคงเปลี่ยนอะไรเขาไม่ได้จริงๆ วันนั้นเราเลยขอเลิกแบบเป็นทางการทันที เขาไม่ยอม และยังคิดเองว่า เราคงแค่เลิกกับเขาแบบปกติ แบบที่เขาชอบบอกเลิกเราบ่อยๆ เลยยังคิดไปเองว่าเรายังคบกับเขาอยู่

จนผ่านมาเกือบ5 เดือน เราคุยกับคนใหม่ ที่เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันกับเขา เขาโกรธมาก หาว่าเรานอกใจเขา เอาไปพูดกับทุกคนว่าเรานอกใจเขา แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ออกจะสมเพศด้วยซ้ำ

แต่พอผ่านไปได้เกือบ4 ปี เราลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเคยมีเขาในชีวิต เพื่อนเราหลุดออกมา ว่า ซี เนี่ย เอาเราไปพูดซะยับเยิน ว่าได้กับเราท่าสุนัขบนโซฟาบ้านเขา และเราเป็นคนขอร้องให้เขาทำกับเราเอง...

เราตอนนั้นคบกับแฟนอยู่ เราเล่าให้แฟนเราฟัง แฟนเราเลยให้ไปคุยกับมัน
เราโทรคุยพร้อมมีแฟนเราอยู่ฟังด้วย เราจำคำพูดนั้นได้ทุกคำ

"เออ เอาไปพูดแล้วจะทำไม?"

"จะได้ หรือไม่ได้กันจริงๆ แล้วมันยังไง ก็จะพูดอ่ะ(แล้วก็ขำไปด้วย)"

"ก็ไม่ได้คิดว่าทำอะไรผิดนะ ก็จะเอาไปพูดกับเพื่อนแค่นั้น คิดไรมาก"

"จะให้พูดด้วยมั้ย ว่าเคยได้กันที่ไหน โซฟา ห้องเรา ห้องพี่ หรือทะเลดี?"
ตอนนั้นมันทำให้รู้เลยว่า ตอนเขาพูดคงรู้ว่าแฟนเราฟังด้วย และต้องการให้เราแตกกัน และที่ทำให้เรารู้อีกอย่างนึงคือ

....ตลอดเวลาที่คบกับเขา สถานที่ที่เราเคยอยู่กับเขา เขาเอาเราไปจินตนาการแบบไหน....

เราเลยบอกจะแจ้งความ ได้คำตอบปนหัวเราะแบบสนุกสนานมาว่า

"เชิญเลยคร้าบบบบบบบบบบบบบ"

หลังจากวางสายเรานั่งร้องไห้ไป ขยะแขยงไป เราคิดภาพตามสถานที่ต่างๆที่เราเคยอยู่กับเขา แล้วคิดอีกว่า เขาเอาไปจินตนาการว่ายังไงบ้าง เราถึงกับอ้วกออกมาด้วยความขยะแขยง

หลังจากนั้นเราแจ้งความ ฟ้องศาล และมีหลักฐานการตรวจภายในว่ายังไม่เคยผ่านการร่วมเพศมากก่อน และหลักฐานเอกสาร พยานทุกคนที่รู้เห็นทั้งหมดมาขึ้นศาล

ในตอนขึ้นศาล เราบอกได้เลยเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายมาก
เราได้เห็น ธาตุแท้และนิสัยของเพื่อนแต่ละคนชัดเจนมากก็ ณ เวลานั้นแหละค่ะ

มีต่อนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่