[CR] รีวิว: บอสพาชิมร้าน Bolan 100%ไทย?

🌟5️⃣ 🍽 (Bangkok,Thailand 🇹🇭)

Bo & Dylan มีความสงสัยว่าทำไมในประเทศไทยเราถึงหาอาหารไทยดีๆไม่ได้ ทั้งที่มันคืออาหาร”ไทย” เเละนั้นคือจุดเริ่มต้นของ Bo.lan ร้านอาหารไทยไฟน์ไดนนิ่งเเถวหน้าของบ้านเรา

โบหรือคุณดวงพร ได้พบกับคุณ Dylan ที่ครัวของร้าน Nahm ร้านมิชลินหนึ่งดาวที่ลอนดอน ในขณะไปทำงานที่นั้นเพราะในขณะนั้นร้าน Nahmในกรุงลอนดอน นับเป็นร้านไทยเพียงหยิบมือเดียวที่ได้รับมิชลินสตาร์ ทั้งที่อาหารไทยถือเป็นหนึ่งในอาหารที่โด่งดังเเละสามารถหากินได้ทั่วโลก เเต่ร้านอาหารไทยที่เรียกว่าเป็นที่สุดของอาหารกลับมีนิดเดียว จึงทำให้คุณโบต้องการที่จะไปเรียนรู้เพื่อจะทำให้ความฝันของเธอเป็นจริง หากใครสนใจอยากทราบเรื่องราวเพิ่มเติมสามารถหาดูใน Netflix ได้ตามลิงค์นะครับ

(https://www.netflix.com/watch/80216601?trackId=13752289&tctx=0%2C2%2C339c65bb-dd82-437b-9132-b19d34ef85b8-178877567%2C%2C)

ในช่วงเเรกโบลานประสบความยากลำบากในการทำให้ทุกคนยอมรับด้วยปัจจัยต่างๆนานาๆ ทั้งราคาอาหารไทยที่เเพงลิบลิ้วต่างกับอาหารไทยปกติ ทั้งรสชาติที่เเตกต่างจากความคุ้นเคย เเต่เมื่อผ่านไปสักระยะสังคมไทยเริ่มเปิดขึ้น โบลานก็โด่งดังเป็นพลุเเตก จนได้รับรางวัลทั้ง The 50 Asia best restuarant (No.37), Michelin Guide 1ดวง (2018)

ความเจ๋งของโบลานยังไม่ได้หยุดอยู่เเค่นั้น โบเเละดีเเลนตั้งเป้าเเต่ช่วงเปิดร้านว่าBo.lanจะใช้ผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์จากประเทศไทยทั้งหมดในร้านซึ่งทั้งคู่สามารถทำได้เเล้ว เเละในอนาคตทั้งคู่ตั้งเป้าว่า Bo’lanจะเป็นร้าน zero carbon footprint กล่าวคือโบลานพยายามจะไม่ทิ้งของเสียเลยแม้เเต่น้อย ใครสนใจสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ตามนี้ครับ (http://www.bolan.co.th/2014/en/OurStory/ZeroCarbon)

สำหรับเมนูอาหารนั้นโบลานเลือกที่จะเสริฟ์เเต่เซ็ทเมนูเเบบสำรับ โดยมีราคาเริ่มต้นที่1880บาทสำหรับมื้อกลางวันที่น้อยคนทราบว่ามี เเละ2800-3280 บาท สำหรับมื้อกลางคืนซึ่งจะต่างกันที่จานกับข้าวในสำรับกับเซ็ท3280บาทจะมีเพิ่ม amuse bouche มาอีกสามคำครับ

ในมื้ออาหารนี้จะเป็นยังไงบ้างไปชมกันครับ หลังจากดูผมหวังว่าทุกท่านจะได้คำตอบว่าอาหารของโบลานเป็นไทย ๑oo%หรือไม่?

Score:

Service : 9/10
Food: 8.5/10
WOW factor: 7/10
Value for money: 8.5/10

Total: 8.25/10

หากชอบบทความของผมยังไงรบกวนช่วยกดไลค์เพจเพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้เขียนด้วยนะครับ

เเผนที่ : https://goo.gl/maps/fxypfNc1e5x
เวลาเปิดปิด: 11.30-15.00,18.00-23.00
ค่าเสียหาย: ~3000++
เว็บไซต์ร้าน: http://www.bolan.co.th/2014/

ช่องทางติดต่ออื่นๆ
IG: @eatliketheboss (https://goo.gl/DqzWfN )
FB: บอสพาชิม (https://goo.gl/gHPnnG)
ชอบช่วยกดไลค์ ใช่ช่วยกดเเชร์ #บอสพาชิม #eatliketheboss


เมื่อมาถึงที่ร้าน หลังจากการต้อนรับจากรีเชฟชั่นผู้มีรอยยิ้มพิมพ์ใจในด้านหน้า ผู้นำพาผมมานั่งเล่นในห้องรับรองด้านใน เพื่อรอผู้ร่วมโต๊ะให้ครบทุกท่าน

ระหว่างนั่งนั้นบริกรจะนำเมนูเครื่องดื่มมาให้เราดูพร้อมทั้งเสริฟ์ขนมทานเล่นเพื่อรองท้องครับโดยขนมนั้นจะมีถั่วต้ม หวานเค็มหรือเเป้งทอดปรุงรส ข้าวเม่า เเละน้ำตะไคร้ใบเตย

ทั้งหมดดูเป็นขนมเรียบง่ายสามัญจนหลายท่านอาจจะคิดว่าธรรมดาจริงๆ เเต่เมื่อลองชิมเราจะพบว่ามันคุณภาพเเละความใส่ใจนั้นมีความเเตกต่างอย่างเเน่นอนครับ แป้งทอดที่สดใหม่ไม่มีกลิ่นน้ำมันหืน ถั่วต้มสดใหม่ร้อนกรุ่น น้ำตะไคร้ใบเตยที่สดชื่นเสริฟ์มาเเบบเย็นเจี๊ยบชวนให้ชื่นใจนั้นสุดยอดจริงๆ


หลังจากนั้นบริกรก็นำเรา เข้าครัวเพื่อไปชิมข้าวพริกเกลือ ที่เลือกข้าวเกษตรอินทรีย์จากยโสธร เสริฟ์กับเกลือ,มะพร้าวคั่ว,น้ำตาลมะพร้าวเเล้ว ที่พ่อครัวเล่าว่าในอดีตหากเราเบื่ออาหาร คนโบราณก็จะให้กินข้าวกับพริกเกลือนั้นเอง

พอมาถึงโต๊ะบริกรก็จะเสริฟ์aperitif “ม้ากระทืบโรง” ซึ่งเป็นจานเเรกในมื้อนี้ครับหากใครไม่รับทานเเอลกอฮอลสามารถเเจ้งกับบริกรได้นะครับ ม้ากระทืบโรงเป็นยาดองที่นอกจากมีสรรพคุณที่ทุกท่านพอคุ้นเคยเเล้วม้ากระทืบโรงยังมีสรรพคุณกระตุ้นน้ำย่อยช่วยความอยากอาหาร โดยเราจะกินกับผลไม้รสเปรี้ยวอย่างลูกหยีเเละมะม่วงพริกเกลือ หลังจากที่ดื่มเหล้ารสร้อนเเรงเผ็ดนิดๆเเล้วเราก็จะกินผลไม้รสเปรี้ยวตาม ก่อบตบท้ายด้วยน้ำสเปรย์ใบเตยที่ช่วยดับร้อนเเละเพิ่มความหวานในลำคอ เป็นจานเริ่มต้นที่น่าสนใจทีเดียวเเละเปรี้ยวปากอยากอาหารอย่างน่าสนใจจริงๆครับ


จานต่อมาเป็นสารพัด amuse bouche ที่เสริฟ์มาสองชุด คำเเรกเป็นปลากรอบเเละน้ำพริกตาเเดงกินคู่กับลิ้นจี่ ในคำนี้ผมชอบการจับคู่น้ำพริกตาเเดงเเละลิ้นจี่ลงมากๆครับ เพราะเมื่อเข้าปากเราจะได้รับรสเผ็ดพริกตามด้วยหวานละมุนจากลิ้นจี่ที่ชูให้กลิ่นพริกนั้นเด่นขึ้น ความกรุบกรอบมันเค็มจากปลากรอบเเต่นุ่นนวลหอมหวานจากลิ้นจี่ เป็นคำที่ดูเรียบง่ายเเต่ครบรส สมชื่อ “เเรกเริ่มระเริงรส”จริงๆ


คำนี้เป็นขนมเบื้องหนองคายรับประทานกับซอสพริกเเละหมูกับกุ้ง เเป้งบางกรอบด้านล่างไม่เเข็งจนเคี้ยวลำบากเเม้จะโดนอากาศเเสดงถึงความใส่ใจ รสซอสพริกหวานนิดๆ เข้ากับกุ้งเเละหมูได้ดี การโรยหอมเเดงเเละผักโรย ช่วยเพิ่มความอยากอาหารได้ดีเป็นอีกคำที่ผมชอบมากๆครับ


อันต่อมาเป็นเมนูเครื่องดื่มที่ปกติผมมักจะไม่ค่อยมีลงในรีวิว เเต่ตัวนี้ถือเป็นข้อยกเว้นเพราะผมเห็นว่ามันเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีดียวครับ ตัวนี้คือเทสติ้งเซทของสาโทเเบรนด์ บางมะกอก จากจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งใช้ข้าวชั้นดีเเละผลิตอย่างพิธิพิถัน โดยมีเบลนด์สามเบลนด์ ให้เลือกตามรูป โดยเเต่ละตัวรสชาติเเละกลิ่นจะเเตกต่างกันพอสมควร รสชาติมีความซับซ้อนน่าค้นหา ที่สำคัญคือราคาถ้าเทียบกับร้าน เเละไวน์ ถือเป็นตัวเลือกที่น่าลองทีเดียวครับ (http://www.bangmakok.com/gallery)


มาถึงคำต่อมานั้นเป็นขนมถั่วเเป๊ปกับเเกงไก่ เป็นการจับคู่ที่ถือว่าเเปลกที่เดียวสำหรับผม การเอาถั่วเเป๊ปที่เหนียวหนุบหนับเข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อกับเเกงไก่ที่เผ็ดจางๆ รสของถั่วเเละไก่ถูกขับให้ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยรสของเเป้งถั่วเเป๊ปเเละมะพร้าว


หมี่กรอบซอสมะขามคำนี้เห็นจะเป็นจานที่ผมชื่นชอบน้อยที่สุดในมื้อนี้ ตัวเส้นมีกลิ่นเก่าเเละไม่กรอบเท่าที่ควร ส่วนตัวซอสมะขามรสเปรี้ยวหวานนั้น ผมรู้สึกออกติดหวานไปบ้าง


เนื้อย่างเเจ่วอีสานเป็นคำสุดท้ายที่มาครับ เป็นคำที่ผมรู้สึกว่ามาน้อยไปจริงๆ โดยส่วนตัวผมเป็นคนที่ชอบทานเนื้อย่างจิ้มเเจ่วอยู่เเล้ว สำหรับเนื้อย่างจิ้มเเจ่วของร้านโบลานนั้น ตัวเนื้อสุกกำลังพอดีไม่เหนียว มีความหอมติดปลายจมูกจากผักสมุนไพรที่ใส่ลงไปเเฝงอย่างอ่อนโยน ตัวซอสเเจ่วนั้นทำมาได้รสไม่จัดไปจนกลบกลิ่นเนื้อ ผมชอบมากๆครับ เเต่โดยส่วนตัวคิดว่าซอสรสหวานไปนิดเเต่อย่างไรคำนี้ก็ถือว่าอร่อยมากครับ