จะอยู่อย่างไร ถ้าชีวิตนี้ไม่มีลูก เตือนภัย!!!


จะอยู่อย่างไร...ถ้าชีวิตนี้ไม่มีลูก...

เตือนภัยค่ะ!!!! อ่านให้จบนะคะ

ปกติปุ้ยดูคลิป อ่านข่าว เกี่ยวกับลักขโมยเด็กมาก็เยอะ บางคลิปดูแล้วก็คิดว่า...

- คนอยู่ตั้งเยอะทำไมคนร้ายเอาเด็กไปได้
- อยู่กับแม่แท้ๆ แต่คนร้ายก็ยังสามารถเอาเด็กไปได้
บางทีดูไปสลดไป...

วันนี้รู้สึกโดนกับตัว ลักษณะเหมือนกับที่เคยดูๆ เคยอ่านๆ มาเลย

เหตุเกิดที่ห้างดังกลางใจเมือง ระหว่างรอแฟนไปซ่อมคอมพิวเตอร์ที่ห้าง แถวประตูน้ำ

แม่กับลูกก็หาที่เดินเล่นรอ เลยลงไปดูของที่ชั้น 1 กับลูก

เดินเลือกเสื้อผ้า ดูของไปมานานพอควร ซื้อเสื้อผ้าเสร็จเดินมาดูโซนรองเท้าๆ

ขณะลูกสาวเลือกรองเท้า แบบโน้นแบบนี้ เบอร์โน้นเบอร์นี้

แม่นั่งยองๆ...ลองให้ลูกสาว 6 ขวบ...ขณะลูกสาวก้มดูรองเท้า

มีผู้ชายคนหนึ่ง ตัวใหญ่ สูงประมาณ 170 แต่งตัวดี ใส่ยีนส์ เสื้อแจ๊คเกต ใส่หมวกแก๊ปปีกกว้าง ผิวขาว หน้าเหมือนชาวจีน เดินเข้ามาด้านหลังอย่างเร็ว จับแขนลูกสาวแบบแน่นพร้อมกับพูดว่า...."เอ้า ตอนนี้อยู่ ป. อะไรแล้ว เท้าเล็กมาลองเบอร์ทางนี้" ทำเหมือนว่า ดูทีท่าว่าแม่เผลอรึเปล่า เหมือนน่าจะทำท่าว่าจะพาไปเดินลองรองเท้าอีกจุดหนึ่งซึ่งอยู้ใกล้ๆกัน

ระหว่างที่คนร้ายพูดยังไม่จบ...แม่ลุกตั้งแต่เห็นมาจับแขน ดึงลูกสาวมาหาตัว พูดแทรกกับประโยคที่คนร้ายคนนั้นพูดอยู่...

แม่ก็ตะโกนให้ดังที่สุดประหนึ่งให้คนทั้งห้างได้ยิน "เฮ้ย มีสิทธิ์อะไรมาจับแขนลูกชั้น ไม่รู้จักกัน ไปไกลๆ เลยนะ"

คนขายของแถวนั้นตื่นตัว ผู้ชายขายของข้างๆ ลุกขึ้น

คนร้าย...."หัวเราะเบาๆ" ทำเนียนๆ เดินไปจับรองเท้าคู่นึง

แม่รีบแบบจูงแบบลากอย่างเร็วออกไปยืนกับกลุ่มคนเยอะๆ กำลังจะโทรหาพ่อ....พ่อมาถึงพอดี รีบแจ้ง รปภ. ห้าง....รปภ. วอ.5 ทุกจุด ให้ค้นหาตัวคนร้าย วิ่งวุ่นกันทั้งห้าง แต่คนร้ายมืออาชีพหายไปอย่างรวดเร็วตั้งแต่หลังจากแม่ตะโกน

สันนิษฐาน(เอง)จากการกระทำ...
1. คนร้ายจะจ้องกระทำกับเด็กที่มากะแม่แค่สองคน
2. คำพูด "อ่าว ตอนนี้อยู่ ป. อะไรแล้ว" เพื่อตีสนิท และเพื่อให้คนที่ได้ยินคิดว่ารู้จักกันแล้วมาเจอกันโดยบังเอิญ และดูทีท่าว่าแม่จะคุยโต้ตอบไหม
3. คนร้ายจับแขน และบอกให้ไปลองรองเท้าอีกเบอร์ เพื่อเขยิบให้เด็กออกห่างแม่ไปเรื่อยๆ
4. ถ้าแม่เผลอ คนร้ายจะได้อุ้มเด็กหรือหลอกล่อไปอย่างง่ายๆ
5. ถ้าเป็นห้าง คนร้ายมักก่อเหตุ ใกล้ประตูทางออก เพื่อง่ายต่อการออกจากที่เกิดเหตุ  
6. แม้ในห้างจะดูว่าปลอดภัย แต่คิดในทางของคนร้ายเขาก็อาจมองว่าเป็นสถานที่ที่พ่อแม่ปล่อยลูก และมีความระวังตัวน้อยกว่าข้างนอก

🔖คำเตือน...
1. คนไม่รู้จักมาจับแขน จับมือลูกเรา ขออุ้ม อย่าคิดว่าเขาเอ็นดู คิดแง่ลบไว้ก่อนได้เลย คนเสียลูกเพราะคิดบวกกับคนร้ายมาเยอะแล้ว เหตุเพราะไม่รู้ว่าเป็นคนร้าย  คนอื่นเจอลูกเราครั้งแรกมีสิทธิ์เอ็นดูแค่พูดชื่นชม แต่ไม่ควรจับเนื้อจับตัวเด็ก ยิ่งเป็นผู้ชายยิ่งไม่ควรกระทำ
........
2. อย่าเล่นโทรศัพท์เด็ดขาดเวลาเดินกับลูก
3. อย่าคิดว่าในที่ที่มีคนเยอะ หรือในห้าง จะปลอดภัย
4. เดินจับมือลูกตลอด ห้ามปล่อยให้เดินตามหลัง
5. สอนลูกให้รู้จักการเอาตัวรอด การสะบัดหนี การวิ่งหนี การใช้เสียงตะโกนในเวลาเกิดเหตุ  เด็กหลายคนจะไม่กล้า ด้วยจิตใต้สำนึกเด็กคือ การเกรงใจผู้ใหญ่ ไม่กล้าสะบัดหนี...และเด็กอาจคิดไม่ทันว่านั่นคือคนร้าย ไม่มีความเกรงใจให้ในหมู่โจรค่ะ

เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดกับคนร้ายใช้เวลาไม่ถึง 30 วินาที ถ้าเศษวินาทีนี้ แม่แพ้ภัยแพ้ทางคนร้าย คงเป็น เศษวินาทีที่จะทำให้เสียใจไปตลอดชีวิต...

ถ้าจับตัวคนร้ายได้ แล้วตำรวจสืบว่าไม่ใช่คนร้ายลักพาตัวเด็ก หรือไม่มีมูลว่ามีประวัติลักพาตัวเด็ก ก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด.......

ถ้ามีคนพูดว่า เว่อร์ไปป่าว คิดมากไปป่าว เค้าอาจจะไม่ใช่คนร้าย ตอบเลยว่า... สัญชาตญาณความเป็นแม่ของเราถือว่าถ้าการกระทำแบบนี้คือคนร้าย

เพราะคนเป็นแม่มีสิทธิปกป้องลูกจากอันตรายก่อนเกิดเหตุ ไม่ใช่รอให้เกิดเหตุแล้วค่อยร้องขอความเป็นธรรม....

#เตือนภัย
#อ่านแล้วถ้ามีประโยชน์แชร์ได้นะคะ

ที่มา Facebook : วีณา จางค์
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่