คดีความเรื่องสิทธิ์เลี้ยงดูบุตร

รบกวนสอบถามครับ เรื่องมีอยู่ว่าผมกับ(อดีต)ภรรยาได้หย่ากันเมื่อปี 2555 และได้ตกลงกันในชั้นไกล่เกลี่ยเรื่องการเลี้ยงดูบุตรชาย(ตอนนั้นอายุ 5ขวบ) ว่าจะให้อยู่กับทางอดีตภรรยาจนจบชั้น ป.6 แล้วหลังจากนั้นผมจะดูแลต่อ โดยมีข้อตกลงอีกด้วยว่าห้ามกีดกันการไปมาหาสู่กับบุตร ซึ่งหลังจากแยกย้ายได้ประมาณ 1 ปีผมจะไปหาบุตรทุกเดือน (บุตรอยู่กับภรรยาที่ขอนแก่นผมอยู่ที่กาญจนบุรี) ตอนแรกๆ ก็ใจดีให้ผมนอนหน้าบ้านได้เพราะผมไม่มีที่พัก หลังๆก็ไม่ให้นอนเพราะกลัวคนเข้าใจผิดคิดว่าคืนดีกัน (อันนี้ผมเข้าใจ) ผมจึงไม่ได้ไปนอนที่บ้านเขาอีก แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่ให้ลูกชายออกมาค้างด้วย ในเวลาต่อมาก็บล็อคเบอร์โทรฯ ไม่ให้ผมโทรเข้าไปคุยกับบุตร โดยอ้างว่าผมไม่ยอมให้ค่าเลี้ยงดูบุตร ซึ่งผมเคยถามทางฝั่งทนายตอนไกล่เกลี่ยส่าค่าเลี้ยงดูต้องจ่ายมั้ย ทางทนายบอกว่าถ้าบุตรอยู่กับใครคนนั้นก็ต้องดูแลถ้าในเวลาบุตรมาอยู่กับเราเราก็ต้องจ่ายทั้งหมด ถ้าจะให้ก็ถือว่าเป็นน้ำใจ ผมจึงได้บอกไปว่าค่าเรียนพิเศษที่เรียนอยู่ผมจะจ่ายให้แต่ถ้าผมมารับบุตรไปนอนด้วยในวันหยุดต้องให้มา ผมจ่ายได้ประมาณ 6 เดือนจ่ายช้าบ้างเร็วบ้างเพราะกำลังเปลี่ยนงานใหม่ เขาไม่ให้บุตรมาค้างกับผมเลย ทั้งที่บอกล่วงหน้าก็แล้ว(ใช้เบอร์สาธารณะหรือยืมคนอื่นโทรฯ) ผมเลยซื้อนาฬิกาโทรศัพท์ให้บุตร(ซื้อในราคาประมาณ 3,000 บาทแบบกันน้ำได้) ซึ่งก็ใส่ได้ประมาณ 2 วัน แล้วก็ยึดไม่ให้บุตรใช้ด้วยเหตุผลที่ว่ามีแต่เบอร์ผมกับญาติฝั่งผม ไม่มีเบอร์เขา ทำให้ผมติดต่อบุตรไม่ได้อีก มีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อปลายปี 2556 ช่วงวันหยุดยาวผมไปรอเขาที่บ้าน3 วันเพื่อเจอบุตรแต่เขาพาบุตรหนีไปที่อื่น ขนาดวันเปิดทำงานวันแรกยังไม่ยอมเข้าบ้านเพื่อไม่ให้เจอผม โดยมีเพื่อนข้างบ้านคอยรายงานว่าผมมานั่งรออยู่หน้าบ้าน ผมรอจนถึงประมาณทุ่มครึ่งเขาจึงพาบุตรเข้าบ้าน ผมกับเขาจึงมีปากเสียงกัน และผมก็โดนผลักไม่ให้เข้าบ้านและเอาไม้กวาดตี (อันนี้ผมลงบันทึกประจำวันไว้ด้วย ผมก็มีความผิดเรื่องยามวิกาล แต่ผมก็นั่งรอตั้งแต่บ่ายจนมืด) ผมจึงเลิกจ่ายค่าเรียนพิเศษ เขาก็เอาผมไปพูดกับเพื่อนๆเขาว่าผมไม่จ่สยอะไรให้สักอย่าง (เพื่อนผมมาถามผมว่าไม่ให้เงินอดีตภรรยาใช้เหรอ ผมถึงรู้) ผมจึงตัดปัญหาไปเจอบุตรที่โรงเรียน ก่อนเข้าเรียนตอนเช้า ตอนพักเที่ยง และตอนเย็นก่อนบุตรกลับบ้าน รวมเวลาทั้งวันได้เจอบุตรไม่ถึงชั่วโมง ทุกเดือน ผมนั่งรถจากกาญจน์ 8 ชั่วโมง เจอหน้าได้คุยกับบุตร 15 นาทีก่อนเข้าเรียน รออีก 4 ชั่วโมงได้เจอตอนพักเที่ยงเพื่อเจออีก 20 นาที และนั่งรออีก 4.30 ชั่วโมงเพื่อเจอหน้าอีก 15 นาที แล้วผมต้องนั่งรอรถถึงสี่ทุ่มเพื่อที่จะนั่งรถกลับกาญจน์อีก 8 ชั่วโมง จนมาถึงปีนี้ช่วงปิดเทอมใหญ่เดือนเมษายนพี่สาวผมโทรไปถามอดีตภรรยาว่าจะให้หลานมาบ้านปู่-ย่าวันไหน เขาบอกว่าดูก่อนว่ามีวันไหนว่างบ้างต้อง(ความจริงคือจะไม่ให้มา) ผมตัดสินใจไปแจ้งต่อศาลฯ เจ้าหน้าที่ที่ศาลฯ จึงโทรไกล่เกลี่ยให้อีกรอบ สรุปคือเขาจะให้บุตรมาบ้านปู่-ย่าแค่ 7 วันเท่านั้นทั้งที่หยุด 2 เดือน และห้ามบล็อคเบอร์โทรด้วย แต่เขาก็ทำตามได้ไม่นาน บล็อคเบอร์ผมอีกแล้ว วันที่ 5 วันพ่อวันหยุดผมคิดว่าจะพาบุตรไปค้างเย็นวันที่ 4 และวันที่ 5 จะไปส่ง พอเ็นวันที่ 4 ผมรับบุตรจากโรงเรียนไปส่งบ้านอดีตภรรยาเพื่อที่จะบอกว่าจะพาบุตรไปค้าง แต่ไม่เจอ(เขาออกไปรับบุตรทั้งๆที่รู้ว่าผมมาแล้วจะพาบุตรมาส่งที่บ้าน) เขาโวยวายว่าทำไมไม่บอก เขาเป็นห่วงบุตร และพาลไม่ให้บุตรมาค้างกับผม ผมตอบไปว่าจะบอกได้ไงก็โดนบล็อคเบอร์ แถวนี้จะให้ยืมโทรศัพท์ใครโทร ตู้สาธารณะเข้าก็เลิกใช้หมดแล้ว สุดท้ายก็ไม่ให้บุตรมาค้างด้วยในวันพ่อ (ขนาดวันแม่หยุด 3 วันติดอดีตภรรยายังอ้างว่ามีประชุมที่กรุงเทพ แล้วเอาบุตรไปนอนกับข้างบ้าน 1 คืนก่อนที่ยายจะมารับไปบ้านยายในวันต่อมา ผมก็พึ่งทราบว่าลูกจ้างหน่วยงานราชการเขาประชุมช่วงวันหยุดยาวด้วย ไปตั้งแต่วันพุธกลับวันอังคาร) และเหตุที่เขาบอกกับบุตรว่าวันพ่อไม่ให้มาค้างเนื่องจากไม่แจ้งเขาล่วงหน้าก่อนถ้าจะบอกเขาจริงๆให้ไลน์ไปบอกครูประจำชั้นแล้วให้ครูไลน์บอกเขาก็ได้ (ถามว่าเรื่องครอบครัวแบบนี้ต้องเดือดร้อนรบกวนถึงครูเลยเหรอ)
ที่เล่ามาทั้งหมดผมมีทางแก้ไขยังไงได้บ้างครับ ถ้าร้องถึงศาลฯ อีกครั้งผลจะออกมาในลักษณะไหนได้บ้างครับ มีให้คำแนะนำบ้างหรือป่าวครับ และผมกลัวว่าหลังจากบุตรจบ ป.6 แล้วทางอดีตภรรยาจะไม่ยอมให้บุตรมาด้วย ผมควรทำยังไงดีครีบ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่