ชีวิตคู่ที่ต้องทนเพื่อลูก ปรับมุมมองอย่างไรให้คิดบวกได้ทุกวัน

ต้องใช้ชีวิตอย่างไรให้คิดบวกในทุกวัน ผ่านไปได้อย่างมีสติ เมื่อต้องอยู่กับสามี ที่จะเรียกว่า เลิกกันแล้วก็ได้ เพราะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวมีอะไรกันมากกว่า 3 ปีแล้ว แต่ยังอยู่บ้านเดียวกัน โดยที่เขาไม่ช่วยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอะไรเลย หรือ ช่วยก็เพียงแค่ได้ชื่อว่าช่วย. เช่น ค่าไฟฟ้าตลอดที่อยู่ด้วยกันมา 20 ปี เราจ่ายเองตลอด หรือบางเดือนเรียกได้ว่านานๆที ขอหรือทะเลาะให้เขาช่วย ก็จะได้มาบ้าง 300 หรือ 500 บาทจากยอดที่ต้องจ่ายค่าไฟต่อเดือน 5,000 บาท  ค่าอาหาร ค่ากินค่าอยู่ เราออกเองตลอด บางทีนึกอยากจะไม่ซื้อไม่ทำ แต่ลูกต้องกิน ก็เลยต้องซื้อมา หลายครั้งทำงานเหนื่อยๆมา ก็ อยากโมโหมาก อยากทะเลาะ เพราะเขาไม่ยอมทำอะไรเลย เงินค่ากับข้าวเราก็จ่าย ไปตลาดเอง กลับมาก็ต้องมาทำกลับข้าวเอง ทำเสร็จเขาก็เดินมากิน  กินเสร็จบ่นว่าครัวรกบ้านรก
ค่าผ่อนบ้าน ดาวน์บ้าน เราออกเอง เราจ่ายเองตลอด อยากให้เขาออกไปจากบ้านนะ แต่เคย เหย็บๆ ถามลูกแล้ว ลูกเขาสงสารพ่อและอยากให้พ่ออยู่ด้วยเป็นครอบครัว เรียกได้ว่าเรา ทนเพื่อลูกของจริงเลยแหละ
อยากฝากเป็นประสบการณ์ชีวิต สำหรับใคร ที่กำลังมีชีวิตคู่นะคะ. การคุยกัน การสอบถามเรื่อง การเงิน การวางแผนเงิน ก่อนการร่วมชีวิตคู่สำคัญมากนะคะ และการที่เราเห็นว่าผู้ชายรักครอบครัวเขา บางทีอีกมุมมันอาจไม่ดีสำหรับชีวิตคู่ก็ได้ค่ะ เช่นที่เราเจอ สามีรักครอบครัวเขามากกกกก เขาสร้างบ้านให้ครอบครัวเขา จ่ายค่าผ่อนบ้านให้ครอบครัวเขา แต่อยู่บ้านเราที่เราดาาวน์เราผ่อน พ่อ แม่ พี่ น้อง เขา มาอยู่มาเที่ยวบ้านเราบ่อยมากกกกก มาทีนานๆๆ มานอนกิน นอนเล่นบ้านเรา เราก็ต้องเลี้ยงข้าว ดูแล เพราะลูกเขาไม่มีเงิน
แยะเรื่องมากค่ะ ขอเป็นกำลังให้กับใครที่กำลังเผชิญเหมือนกับเรานะคะ เป็นกระทู้แรกที่ตั้ง ผิดพลาด อย่างไรขออภัยนะคะ