วันนี้มาแชร์ประสบการณ์ผื่นคันคนท้องไตรมาส 3 ที่ตอนกลางวันแทบจะแก้ผ้ากันเลยค่ะ ตอนกลางคืนไม่ต้องพูดถึง นุ่งน้อยห่มน้อยมากกก เสื้อกล้ามกับกางเกงชั้นในเดินทั่วบ้าน เพราะอยู่กับสามี 2 คน สงสารสามีมากก คงคิดว่าเปรตเดินดิน 5555
มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ เมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 บางคนก็เริ่มมีผื่นคัน ผดขึ้น คันยุกยิกกันตามระเบียบซึ่งเราเป็นหนึ่งในนั้น สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดผื่นนอกจากเพราะฮอร์โมนคนท้องแล้ว เรายังเป็นภูมิแพ้ที่อาจทำให้เกิดโอกาสคันมากกว่าคนอื่นๆด้วย
และเมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 32 อาการคันก็มาเลยจ้าา ด้วยความที่ท้องใหญ่มากเลยคิดว่าท้องมันก็ขยายตามปกติ ที่ผ่านมาก็ไม่คันเลยก็ยังเลือกทาครีมตามปกติ แต่แล้วอิครีมทาท้องไอนิว ที่ใช้ต่อเนื่องมา 7 หลอด ก็ไม่ช่วยอะไรเพราะทาปุ๊บคันปั๊บ เลยมโนไปว่าสงสัยโบกหนาเกินไปเลยทาน้อยลง แต่ก็ยังคันเหมือนเดิม
(ในภาพตอน 32 สัปดาห์ จะเห็นว่าท้องแอบแดงนิดๆ จริงๆแดงกว่าในภาพ แต่สามีแต่งรูปให้ค่าา กลัวเมียไม่สวย 5555)
เมื่อคันมากๆครีมเอาไม่อยู่ เลยคิดไปเองว่าหรือแพ้ครีม งั้นหยุดทาครีม!! หาอะไรแก้คันมาทาก่อน ก็เลยจบลงที่คารามายเลยจ้าา แต่ทาคารามายก็หายคันแปปเดียว พอมันแห้งก็คันอีกเลย ตอนอยู่บ้านเลยต้องล้างตัวเฉลี่ยทุกชั่วโมง แต่พออยู่ออฟฟิศก็มีผ้าผืนเล็ก ชุบน้ำ แล้วเช็ดตัวในห้องน้ำตามด้วยคารามายเหมือนเดิม

(อุปกรณ์แก้คันในที่ทำงาน)
คันยุกยิกผ่านไปสักอาทิตย์นึง สามีก็วิเคราะห์เอง(ด้วยความมั่ว) ว่าหรือเพราะผิวหนังติดเชื้อเลยคัน งั้นควรใช้แอลกอฮอล์ล้างแผล เช็ดเพื่อฆ่าเชื้อก่อนมั๊ย ด้วยความที่ฉลาดพอกัน 5555 เลยคิดว่าเอ้อ แน่เลย!! จากนั้นซื้อแอลกอฮอล์ขวดใหญ่เลยจ้าา ครั้งแรกที่เช็ดกรี๊ดลั่นบ้านเพราะแสบมากก แต่พอเช็ดเสร็จเอ๊ย หาคันจริงด้วย งั้นเรามาถูกทาง (หรา!!) จากนั้นก็ลงคารามายอีกครั้ง วันสองวันแรก ดีงามไม่คันเลย สงสัยเพราะหลอนในความแสบของแอลกอฮอล์เลยไม่กล้าเกา แต่พอเข้าวันที่ 3 เริ่มคันอีกละ คราวนี้หนักกว่าเดิม ยิ่งใช้หลายวันเข้าทีนี้ไม่ต้องใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ละจ้า ราดมันบนท้องเลยนี่แหละ แต่ก็ยังเฉยมาก หายแสบหรือด้านไปแล้วไม่รู้ แต่สิ่งที่ตามมาหลังแอลกอฮอล์แห้งคือผิวก็แห้งมาก เริ่มขึ้นรอยเหมือนแตกลายงา เกือบจะเป็นขุย ช่วงที่ใช้แอลกอฮอล์กับคารามายต่อเนื่องประมาณ 10 วัน หมดแอลกอฮอล์ไปประมาณขวดครึ่ง!!

(คารามายของพี่ นี่ส่วนหนึ่งเองนะ กับเฉลี่ยเวลาที่คันราว 5 สัปดาห์)
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ย้อนมาคิดแล้วร้ายแรงสุดๆ ไม่ทาครีมเลย เพราะคิดว่าอิครีมทั้งหลายเป็นสาเหตุที่ทำให้คัน แต่พอเห็นผิวที่ขึ้นริ้วรอยเหี่ยวย่นของตัวเองแล้ว เลยตรัสรู้ว่า ที่มันคันไม่หายเพราะมันแห้ง ถึงแห้งมาก อยู่ดีๆ ภาพคนที่เป็นผิวดักแด้ที่เห็นในข่าวก็แวบเข้ามาเลยจ้า ตอนนั้นคิดได้เองว่า ที่เค้าคันเพราะผิวเค้าแห้งมากนี่หว่า เค้าเลยต้องทาอะไรที่มันชุ่มชื้นหน่อย เพื่อไม่ให้คัน
จากนั้นเลยเริ่มกลับมาทาครีมอีกครั้ง แต่ช่วงเข้าใกล้สัปดาห์ที่ 36 นี่แหละ ที่กลับมาใช้ครีมทาท้องแต่ยังคันเหมือนเดิม เลยตัดใจเลือกทาเบบี้ออยอย่างเดียว แม้มันจะทำให้สามีแขยงก็ตาม เนื่องจากตอนท้องอ่อนๆ เราทาครีมกระปุกนีเวียผสมเบบี้ออยแล้วสามีสิวขึ้นเพราะต้องแนบหน้าคุยกับลูก สามีเลยขอให้เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นแทนแม้มันจะแพงกว่าก็ตาม
แต่เมื่อผิวมันแห้งมาก ก็เลยสะบัดบ็อบใส่สามี ตัดสินใจกลับมาทาเบบี้ออยเหมือนเดิม ซึ่งออยก็ให้ความมันอย่างเดียว มันไม่ซึมและพอแห้งก็คันอีก เป้าหมายต่อไป คิดแบบคนฉลาดน้อยอีกว่า หรือเราต้องหาออยที่ให้ความมันกว่านี้ พอดีที่บ้านมีน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นขวดเล็กที่ได้มานานมาก เลยมาลองซะเลย เอ๊ะ!ดีงามม แต่ขวดมันเล็กแปปเดียวหมด ด้วยความขี้เกียจซื้อลองหาในบ้านอีกว่ามีอะไรทาได้มั่ง จบท้ายที่น้ำมันมะพร้าวสำหรับทำกับข้าวมาเลยจ้าา ครั้งแรกที่จะทาสามีบอกว่า บ้าป่าวเนี่ย!!! ไม่โอเค กลิ่นมะพร้าวมาก เหมือนกลิ่นขนมบ้าบิ่นเลย 5555 แต่เราบอกจะลอง!!!! ถ้าไม่ดีขึ้นจะใช้น้ำมันปาล์มแม่ม โมโห!! สำหรับเราน้ำมันมะพร้าวทำกับข้าวก็ดีงามนะ พอเริ่มแห้ง ก็ทาคารามายให้มันเย็นๆหน่อย จบท้ายด้วยแป้งตรางูแบบฉีด บวกกับเปิดแอร์ 22 องศากับพัดลมเบอร์ 3 สรุปฟิน!!! เพราะร่างจะหนาวมากกก จนหลับไปเอง ไม่คันอีก จนกระทั่งตี 1.30 เวลานรก!!! ตื่นเวลานี้ตลอด แล้วก็ต้องเริ่มกระบวนการอาบน้ำใหม่ และตามด้วยสูตรเดิมอีกครั้ง รอบนี้จะตื่นอีกทีตี 5 เลยจ้าา

(น้ำมันมะพร้าว ทำกับข้าว ใช้จริง ไม่ใช้แสตนอิน 555)
และด้วยความลำบากลำบนเลยเม้าท์กับเพื่อนสนิทในกลุ่มที่ท้องไล่เลี่ยกันแต่มันคันตั้งแต่แทบจะไตรมาสแรกที่ท้องขยาย เพราะนางตัวเล็กมากก นางแนะนำว่าตอนแรกนางทาออยอย่างเดียว เพราะเคยซื้อครีมทาท้องยี่ห้อนึงมาแล้วไม่ได้ผล ซึ่งมันก็แพงอยู่ เราก็ว่ายี่ห้อนั้นแพง แต่ด้วยความที่นางชอบลองเลยจัดอีกยี่ห้อจ้าา ถ้ามองแค่ราคาแพงกว่าเดิมอีกอีผี แต่นางบอกดีมากก คุ้มค่าคุ้มราคา เลยเอามาให้ลอง สรุปเป็นครีมกระปุกๆ ยี่ห้อ Pregskin ราคาพันกว่าบาท เห็นราคาจะเป็นลมค่ะ!! เพราะตัวเก่าที่ใช้ 300 กว่าบาทเอ๊ง!!

(ครีมทาท้องของคุณแม่เอง ราคาต่างกันราวฟ้ากับเหว)
แต่พอลองทา เออ ซึมเร็วมาก แม้ไม่ทาหลังอาบน้ำก็ยังซึมไว เนื้อครีมแม้ตอนควักออกมา จะดูข้น แต่พอทาจริงเกลี่ยง่ายอารมณ์เหมือนทาเนย ไม่เหมือนครีมไอนิว ที่บีบจากหลอดปุ๊บเกลี่ยยากมาก แต่นั่นแหละสมราคามันละ หลังจากลองทาสองครีมนี้ สิ่งแรกรู้เลยว่า อิครีมที่แพงๆ เนี่ยซึมมาก ดีมาก เกลี่ยง่าย กลิ่นดี โอ๊ยยดีงามทุกอย่าง ติดที่ราคาอย่างเดียว ด้วยความที่อยากได้มาก อ้อนสามีเลยจ้าา ขอซื้อหน่อยยมันดีนะ แม้จะไม่รู้ว่าซื้อที่ไหนก็ตาม 555 อารมณ์แบบขอไปก่อน ค่อยไปหาเอาดาบหน้า สรุปสามีอนุมัติจ้า (โดนหลอกง่ายจัง 555) หน้าที่ต่อไปคือหาซื้อและอ่านรีวิวค่ะ นางเคลมว่า ผ่านการทดสอบจากอเมริกา ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้แม้ผิวบอบบาง เลยคิดเออคงจริงมั๊ง เพราะที่ลองทาของเพื่อนก็ไม่คันยุบยิบเหมือนครีมเดิมที่เราใช้อยู่
พอได้มา เออไม่กล้าใช้จ้าาา กลัวหมด!!! แรกๆใช้น้อยมาก อย่างที่บอกกลัวหมด!!! เพราะราคาค่อนข้างสูงมากก จะเป็นลม เลยยังทาน้ำมันมะพร้าวเหมือนเดิม กับทาครีมนี้ก็เอ๊ยดีงามมม น้ำมันมะพร้าวที่ว่าดีแล้ว เจออิครีม Pregskin เข้าไปดีง๊ามม แบบเสียงสูงเลยจ้า จนล่าสุดน้ำมันมะพร้าวหมด ด้วยความงกขี้เกียจซื้อใหม่ จะหันไปใช้น้ำมันปาล์มแทนก็ใช่เหตุ เลยทา Pregskin อย่างเดียวเลยละกัน ไหนๆก็ซื้อมาละ และคิดเองอีกแล้วว่าใกล้คลอดละ ใกล้หายคันละ หมดไปก็ไม่มีปัญหา เลยจกจากกระปุกมากกว่าเดิมนิดหน่อย แต่เอ๊ะก็ยังดีงามมม เพราะครีมเกลี่ยง่าย เหมือนไม่ต้องโบกเยอะมันก็ซึมแล้ว ยิ่งเทียบกับยี่ห้อเก่านี่ชนะขาด ไม่เสียดายที่ซื้อจริงๆ อันนี้แล้วแต่ความชอบน๊าา ว่าชอบแบบไหนแต่อย่างที่ว่าแหละ ราคาสูงก็ได้คุณภาพดีหน่อย
เราเอาตัวอย่างครีมทาท้องที่ใช้ 2 ยี่ห้อมาให้ดูเมื่อทาในปริมาณเท่ากัน ปรากฎว่า Pregskin ดีงามม cheer up หน่อย แม้จะไม่ได้อะไรเลย แต่ไม่เสียดายเงินที่ซื้อมาแล้วแน่ๆ อวยไว้ก่อนเดี๋ยวสามีด่าว่าไม่คุ้มค่า 5555

(ครีมที่ทาในปริมาณเท่ากัน ด้านซ้าย Pregskin ด้านขวาไอนิว)

(ครีมที่ทาวนไป 10 ครั้ง ซ้ายซึมไว หายเกลี้ยง ขวายิ่งทายิ่งขึ้นขาว ซึมยากหน่อย)
ปล. ตอนนี้เราท้อง 37 วีค 5 วันละ อย่างนึงที่พิสูจน์ได้คือจากทั้งหมดที่เราทำมา ท้องยังไม่แตกจ้าแม้จะคันคะเยอก็ตาม แต่ไม่รู้ว่าอยู่รอดมาได้เพราะสูตรไหนนะ ใครจะลองตามขั้นตอนไหนไม่สงวนลิขสิทธิ์จ้า นี่ยังไม่รวมครีมอาบน้ำที่ใช้เฉพาะช่วงนี้อีกนะที่ละลานตาไปหมด 555555
ขอจบการรีวิวแรก เพียงเท่านี้จ้าา
ติดตามรีวิวต่อไปเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านกันนะคะ (เอิบ!! คนละอารมณ์กันเลยค่ะอีผี) แอบเม้าท์หน่อยว่าตอนนี้ ไฟแนนซ์ผ่านทุกขั้นตอนแล้วใช้เวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ แต่ที่ลุ้นมากกว่า คือ ไม่รู้จะถึงวันนัดหมายไถ่ถอนบ้านหรือจะคลอดลูกก่อนกัน ต้องมาลุ้นกันจ้าาา 55555
[CR] ประสบการณ์คันท้องยุกยิก พร้อมวิธีรับมือของคุณแม่มือใหม่
มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ เมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 บางคนก็เริ่มมีผื่นคัน ผดขึ้น คันยุกยิกกันตามระเบียบซึ่งเราเป็นหนึ่งในนั้น สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดผื่นนอกจากเพราะฮอร์โมนคนท้องแล้ว เรายังเป็นภูมิแพ้ที่อาจทำให้เกิดโอกาสคันมากกว่าคนอื่นๆด้วย
และเมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 32 อาการคันก็มาเลยจ้าา ด้วยความที่ท้องใหญ่มากเลยคิดว่าท้องมันก็ขยายตามปกติ ที่ผ่านมาก็ไม่คันเลยก็ยังเลือกทาครีมตามปกติ แต่แล้วอิครีมทาท้องไอนิว ที่ใช้ต่อเนื่องมา 7 หลอด ก็ไม่ช่วยอะไรเพราะทาปุ๊บคันปั๊บ เลยมโนไปว่าสงสัยโบกหนาเกินไปเลยทาน้อยลง แต่ก็ยังคันเหมือนเดิม
(ในภาพตอน 32 สัปดาห์ จะเห็นว่าท้องแอบแดงนิดๆ จริงๆแดงกว่าในภาพ แต่สามีแต่งรูปให้ค่าา กลัวเมียไม่สวย 5555)
เมื่อคันมากๆครีมเอาไม่อยู่ เลยคิดไปเองว่าหรือแพ้ครีม งั้นหยุดทาครีม!! หาอะไรแก้คันมาทาก่อน ก็เลยจบลงที่คารามายเลยจ้าา แต่ทาคารามายก็หายคันแปปเดียว พอมันแห้งก็คันอีกเลย ตอนอยู่บ้านเลยต้องล้างตัวเฉลี่ยทุกชั่วโมง แต่พออยู่ออฟฟิศก็มีผ้าผืนเล็ก ชุบน้ำ แล้วเช็ดตัวในห้องน้ำตามด้วยคารามายเหมือนเดิม
คันยุกยิกผ่านไปสักอาทิตย์นึง สามีก็วิเคราะห์เอง(ด้วยความมั่ว) ว่าหรือเพราะผิวหนังติดเชื้อเลยคัน งั้นควรใช้แอลกอฮอล์ล้างแผล เช็ดเพื่อฆ่าเชื้อก่อนมั๊ย ด้วยความที่ฉลาดพอกัน 5555 เลยคิดว่าเอ้อ แน่เลย!! จากนั้นซื้อแอลกอฮอล์ขวดใหญ่เลยจ้าา ครั้งแรกที่เช็ดกรี๊ดลั่นบ้านเพราะแสบมากก แต่พอเช็ดเสร็จเอ๊ย หาคันจริงด้วย งั้นเรามาถูกทาง (หรา!!) จากนั้นก็ลงคารามายอีกครั้ง วันสองวันแรก ดีงามไม่คันเลย สงสัยเพราะหลอนในความแสบของแอลกอฮอล์เลยไม่กล้าเกา แต่พอเข้าวันที่ 3 เริ่มคันอีกละ คราวนี้หนักกว่าเดิม ยิ่งใช้หลายวันเข้าทีนี้ไม่ต้องใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ละจ้า ราดมันบนท้องเลยนี่แหละ แต่ก็ยังเฉยมาก หายแสบหรือด้านไปแล้วไม่รู้ แต่สิ่งที่ตามมาหลังแอลกอฮอล์แห้งคือผิวก็แห้งมาก เริ่มขึ้นรอยเหมือนแตกลายงา เกือบจะเป็นขุย ช่วงที่ใช้แอลกอฮอล์กับคารามายต่อเนื่องประมาณ 10 วัน หมดแอลกอฮอล์ไปประมาณขวดครึ่ง!!
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ย้อนมาคิดแล้วร้ายแรงสุดๆ ไม่ทาครีมเลย เพราะคิดว่าอิครีมทั้งหลายเป็นสาเหตุที่ทำให้คัน แต่พอเห็นผิวที่ขึ้นริ้วรอยเหี่ยวย่นของตัวเองแล้ว เลยตรัสรู้ว่า ที่มันคันไม่หายเพราะมันแห้ง ถึงแห้งมาก อยู่ดีๆ ภาพคนที่เป็นผิวดักแด้ที่เห็นในข่าวก็แวบเข้ามาเลยจ้า ตอนนั้นคิดได้เองว่า ที่เค้าคันเพราะผิวเค้าแห้งมากนี่หว่า เค้าเลยต้องทาอะไรที่มันชุ่มชื้นหน่อย เพื่อไม่ให้คัน
จากนั้นเลยเริ่มกลับมาทาครีมอีกครั้ง แต่ช่วงเข้าใกล้สัปดาห์ที่ 36 นี่แหละ ที่กลับมาใช้ครีมทาท้องแต่ยังคันเหมือนเดิม เลยตัดใจเลือกทาเบบี้ออยอย่างเดียว แม้มันจะทำให้สามีแขยงก็ตาม เนื่องจากตอนท้องอ่อนๆ เราทาครีมกระปุกนีเวียผสมเบบี้ออยแล้วสามีสิวขึ้นเพราะต้องแนบหน้าคุยกับลูก สามีเลยขอให้เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นแทนแม้มันจะแพงกว่าก็ตาม
แต่เมื่อผิวมันแห้งมาก ก็เลยสะบัดบ็อบใส่สามี ตัดสินใจกลับมาทาเบบี้ออยเหมือนเดิม ซึ่งออยก็ให้ความมันอย่างเดียว มันไม่ซึมและพอแห้งก็คันอีก เป้าหมายต่อไป คิดแบบคนฉลาดน้อยอีกว่า หรือเราต้องหาออยที่ให้ความมันกว่านี้ พอดีที่บ้านมีน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นขวดเล็กที่ได้มานานมาก เลยมาลองซะเลย เอ๊ะ!ดีงามม แต่ขวดมันเล็กแปปเดียวหมด ด้วยความขี้เกียจซื้อลองหาในบ้านอีกว่ามีอะไรทาได้มั่ง จบท้ายที่น้ำมันมะพร้าวสำหรับทำกับข้าวมาเลยจ้าา ครั้งแรกที่จะทาสามีบอกว่า บ้าป่าวเนี่ย!!! ไม่โอเค กลิ่นมะพร้าวมาก เหมือนกลิ่นขนมบ้าบิ่นเลย 5555 แต่เราบอกจะลอง!!!! ถ้าไม่ดีขึ้นจะใช้น้ำมันปาล์มแม่ม โมโห!! สำหรับเราน้ำมันมะพร้าวทำกับข้าวก็ดีงามนะ พอเริ่มแห้ง ก็ทาคารามายให้มันเย็นๆหน่อย จบท้ายด้วยแป้งตรางูแบบฉีด บวกกับเปิดแอร์ 22 องศากับพัดลมเบอร์ 3 สรุปฟิน!!! เพราะร่างจะหนาวมากกก จนหลับไปเอง ไม่คันอีก จนกระทั่งตี 1.30 เวลานรก!!! ตื่นเวลานี้ตลอด แล้วก็ต้องเริ่มกระบวนการอาบน้ำใหม่ และตามด้วยสูตรเดิมอีกครั้ง รอบนี้จะตื่นอีกทีตี 5 เลยจ้าา
และด้วยความลำบากลำบนเลยเม้าท์กับเพื่อนสนิทในกลุ่มที่ท้องไล่เลี่ยกันแต่มันคันตั้งแต่แทบจะไตรมาสแรกที่ท้องขยาย เพราะนางตัวเล็กมากก นางแนะนำว่าตอนแรกนางทาออยอย่างเดียว เพราะเคยซื้อครีมทาท้องยี่ห้อนึงมาแล้วไม่ได้ผล ซึ่งมันก็แพงอยู่ เราก็ว่ายี่ห้อนั้นแพง แต่ด้วยความที่นางชอบลองเลยจัดอีกยี่ห้อจ้าา ถ้ามองแค่ราคาแพงกว่าเดิมอีกอีผี แต่นางบอกดีมากก คุ้มค่าคุ้มราคา เลยเอามาให้ลอง สรุปเป็นครีมกระปุกๆ ยี่ห้อ Pregskin ราคาพันกว่าบาท เห็นราคาจะเป็นลมค่ะ!! เพราะตัวเก่าที่ใช้ 300 กว่าบาทเอ๊ง!!
แต่พอลองทา เออ ซึมเร็วมาก แม้ไม่ทาหลังอาบน้ำก็ยังซึมไว เนื้อครีมแม้ตอนควักออกมา จะดูข้น แต่พอทาจริงเกลี่ยง่ายอารมณ์เหมือนทาเนย ไม่เหมือนครีมไอนิว ที่บีบจากหลอดปุ๊บเกลี่ยยากมาก แต่นั่นแหละสมราคามันละ หลังจากลองทาสองครีมนี้ สิ่งแรกรู้เลยว่า อิครีมที่แพงๆ เนี่ยซึมมาก ดีมาก เกลี่ยง่าย กลิ่นดี โอ๊ยยดีงามทุกอย่าง ติดที่ราคาอย่างเดียว ด้วยความที่อยากได้มาก อ้อนสามีเลยจ้าา ขอซื้อหน่อยยมันดีนะ แม้จะไม่รู้ว่าซื้อที่ไหนก็ตาม 555 อารมณ์แบบขอไปก่อน ค่อยไปหาเอาดาบหน้า สรุปสามีอนุมัติจ้า (โดนหลอกง่ายจัง 555) หน้าที่ต่อไปคือหาซื้อและอ่านรีวิวค่ะ นางเคลมว่า ผ่านการทดสอบจากอเมริกา ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้แม้ผิวบอบบาง เลยคิดเออคงจริงมั๊ง เพราะที่ลองทาของเพื่อนก็ไม่คันยุบยิบเหมือนครีมเดิมที่เราใช้อยู่
พอได้มา เออไม่กล้าใช้จ้าาา กลัวหมด!!! แรกๆใช้น้อยมาก อย่างที่บอกกลัวหมด!!! เพราะราคาค่อนข้างสูงมากก จะเป็นลม เลยยังทาน้ำมันมะพร้าวเหมือนเดิม กับทาครีมนี้ก็เอ๊ยดีงามมม น้ำมันมะพร้าวที่ว่าดีแล้ว เจออิครีม Pregskin เข้าไปดีง๊ามม แบบเสียงสูงเลยจ้า จนล่าสุดน้ำมันมะพร้าวหมด ด้วยความงกขี้เกียจซื้อใหม่ จะหันไปใช้น้ำมันปาล์มแทนก็ใช่เหตุ เลยทา Pregskin อย่างเดียวเลยละกัน ไหนๆก็ซื้อมาละ และคิดเองอีกแล้วว่าใกล้คลอดละ ใกล้หายคันละ หมดไปก็ไม่มีปัญหา เลยจกจากกระปุกมากกว่าเดิมนิดหน่อย แต่เอ๊ะก็ยังดีงามมม เพราะครีมเกลี่ยง่าย เหมือนไม่ต้องโบกเยอะมันก็ซึมแล้ว ยิ่งเทียบกับยี่ห้อเก่านี่ชนะขาด ไม่เสียดายที่ซื้อจริงๆ อันนี้แล้วแต่ความชอบน๊าา ว่าชอบแบบไหนแต่อย่างที่ว่าแหละ ราคาสูงก็ได้คุณภาพดีหน่อย
เราเอาตัวอย่างครีมทาท้องที่ใช้ 2 ยี่ห้อมาให้ดูเมื่อทาในปริมาณเท่ากัน ปรากฎว่า Pregskin ดีงามม cheer up หน่อย แม้จะไม่ได้อะไรเลย แต่ไม่เสียดายเงินที่ซื้อมาแล้วแน่ๆ อวยไว้ก่อนเดี๋ยวสามีด่าว่าไม่คุ้มค่า 5555
ปล. ตอนนี้เราท้อง 37 วีค 5 วันละ อย่างนึงที่พิสูจน์ได้คือจากทั้งหมดที่เราทำมา ท้องยังไม่แตกจ้าแม้จะคันคะเยอก็ตาม แต่ไม่รู้ว่าอยู่รอดมาได้เพราะสูตรไหนนะ ใครจะลองตามขั้นตอนไหนไม่สงวนลิขสิทธิ์จ้า นี่ยังไม่รวมครีมอาบน้ำที่ใช้เฉพาะช่วงนี้อีกนะที่ละลานตาไปหมด 555555
ขอจบการรีวิวแรก เพียงเท่านี้จ้าา
ติดตามรีวิวต่อไปเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านกันนะคะ (เอิบ!! คนละอารมณ์กันเลยค่ะอีผี) แอบเม้าท์หน่อยว่าตอนนี้ ไฟแนนซ์ผ่านทุกขั้นตอนแล้วใช้เวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ แต่ที่ลุ้นมากกว่า คือ ไม่รู้จะถึงวันนัดหมายไถ่ถอนบ้านหรือจะคลอดลูกก่อนกัน ต้องมาลุ้นกันจ้าาา 55555
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้