เกือบโดนผีปล้ำที่พังงา

ทเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2559ตอนนั้นผมเรียนอยู่ปี4 มหาลัยหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ช่วงปี4 ผมต้องออกฝึกงาน ผมเรียนการท่องเที่ยว ผมกะเพื่อนได้แสวงหาที่ฝึกงาน จนมาได้ที่ฝึกงาน เป็นบริษัททัวร์ดำน้ำที่พังงา เกาะสิมิลัน เมื่อใกล้ถึงเวลาฝึกงานผมกะเพื่อนอีกหนึ่งคนก็ได้เดินทางไปจังหวัดพังงาแต่ต้องลงเครื่องที่ภูเก็ต แล้วเจ้าของบริษัททัวร์ก็มารอรับไปพังงา แล้วก็พาไปส่งที่บ้านพักใกล้บริษัท ทางเจ้าของเช่าไว้ให้ วันรุ่งขึ้นผมกะเพื่อนก็ได้เริ่มฝึกงานโดยทางเจ้าของได้มารับไปที่ฝึกงานปรกติ พร้อมกับเด็กฝึกงานอีก3คนต่างสถาบันเป็นผู้หญิง เย็นวันนั้นทางเจ้าของได้เข้ามาคุยว่าขอให้แลกบ้านกับพวกผู้หญิงเพราะบ้านของพวกผู้หญิงอยู่ไกลและเปี่ยวมาก พวกผมก็โอเคหลังจากจากย้ายเสร็จคืนนั้นก็นอนตามปรกติ สักพักประมาณตี3 ผมก็ได้ยินเสียงคนเดินรอบบ้านเป็นระยะ แต่ก็ไม่คิดอะไรมากคิดว่าเป็นคนเดิน คืนนั้นก็ไม่มีอะไร จนเช้าก็ไปฝึกงานปรกติ เย็นนั้นมีข่าวดีคือต้องย้ายบ้านอีกแล้ว เพราะมีนักศึกษาฝึกงานมาจากต่างสถาบันเพิ่มอีกสองคนเป็นผู้ชาย เจ้าของได้เช่าบ้านหลังใหญ่ให้ ให้อยู่กัน 4คน ผมกะเพื่อนก็ได้ย้ายมาบ้านหลังนี้ ถึงจะเป็นบ้านหลังใหญ่แต่ก็มีแค่1ห้องนอน
ทำให้ผมกะเพื่อนต้องนอนข้างนอกแต่ผมกะเพื่อนก็ไม่ซีเรียสอะไร อยู่บ้านหลังนี้มาประมาน10วัน คืนนั้นหลังจากฝึกงานเสร็จก็กลับมาอาบน้ำนอนตามปรกติ
ในขณะที่กำลังหลับอยู่นั้น ก็เกิดอาการเหมือนฝันเปียก รู้สึกเหมือนโดนเล้าโลมโดยใครบางคนบอกตรงๆตอนนนั้นฟินมาก แล้วผมก็สะดุ้งตื่นแต่สิ่งที่กำลังเล้าโลมผมมันยังคงทำอยู่ ผมตกใจมากตอนนั้นคิดอยู่อย่างเดียวว่เด็กฝึกงานที่มาใหม่ต้องมีใครเป็นเกย์แน่นอน ช่วงนั้นปากของคนที่กำลังเล้าผมเริ่มมาถึงคอยังเล้าไม่หยุด ผมจะหันไปด่าแต่หันไม่ได้ตัวขยับไม่ได้ นาทีนั้นผมรู้แล้วว่าไม่ใช่คน ผมพยายามท่องนะโม ท่องคาถาที่เคยอ่านเจอในหนังสือมนต์พิธี
จนสุดท้ายก็หลุดมาได้ เช้าวันนั้นผมก็ยังไม่ได้เล่าให้ใครฟัง เรื่องก็ผ่านมาประมาณ 5วัน คืนนั้นมันมาอีกแล้ว แต่คราวนี้มันมาเหยียบขาผมสลับเปลี่ยนมาเหยียบหน้าอก และแขนซ้าย ในขณะที่โดนเหยียบแขนซ้ายอยู่นั้น ผมก็เห็นเป็นขาคนโดยใส่ชุดสีขาว ยาวถึงตาตุ่ม นาทีนั้นผมเจ็บมากเลยนึกท่องคาถาเดิม
ที่เคยท่อง ในขณะกำลังท่องอยู่ ผู้หญิงคนนั้นได้โน้มตัวลงมา ผมยากจนปิดหน้าผม มันมาพูดข้างหูผมว่า คาถานี้กูไม่กลัวหรอก พร้อมหัวเราะเบาๆ
นาทีนั้นความกลัวผมหายไปหมด เหฃือแต่ความโมโห จึงภาวนาว่าขอให้บุญบารมีของแม่ช่วยคุ้มครองผมด้วย สักพักก็หลุดมาได้ ตอนเช้าผมได้บอกและเล่า
เหตุการณ์ทุกอย่างให้เพื่อนฟัง แล้วบอกว่าวันนี้ไปทำงานไม่ไหว หลังจากโทรเล่าให้แม่ฟัง แม่ผมก็บอกจะส่งหลวงปู่ทวดมาไว้ห้อยคอ และให้ผมไปทำบุญที่วัด ในขณะที่ไปทำบุญที่วัด ก็เจอพระรูปหนึ่ง ซึ่งผมยังไม่ได้เล่าอะไรให้พระฟัง ท่านก็พูดขึ้นมาว่า มีเวลามาห่มผ้าขาวแล้วนอนวัดสักคืนไหม ทำผมขนลุกไปหมดทั้งตัว แต่ผมปฏิเสธไป หลังจากนั้น ก็ห้อยพระที่แม่ส่งมาให้ จากนั้นก็ไม่เจออะไรอีก หลังจากนั้นไม่นานรุ่นพี่ที่ฝึกงานคนหนึ่งบ้านอยู่ตรงข้ามกันได้โทรหาผมช่วงประมาณตี2แล้วบอก คืนนี้ขอนอนด้วย พอผมไปเปิดประตุให้ พี่เขาก็ทำหน้าตื่นเต้น ตื่นๆ และเล่าให้ผมฟัฃว่า หลังจากที่เขาไปซื้อของกลับมากำลังเอารถรถจอด พี่เขาเห็นผู้หญิงผมยาวใส่ชุดสีขาวยาวถึงตาตุ่มเดินทะลุเข้าปรตูบ้านเขาไป เลยขอมานอนกะผม หลังจากนั้นผมก้ไม่เจออะไรอีกเลยจนกระทั่ง
ฝึกงานเสร็จก็กลับกาญจนบุรี แต่เด็กต่างสถาบันอีกสองคนยังเหลืออีก10วัน และโทรมาเล่าให้ผมฟังว่าย้ายออกมานอนข้างนอกที่ผมนอน เพราะในห้องมันร้อน นอนๆอยู่ก็มีคนมาเคาะประตูแต่ไม่กล้าเปิดเพราะมันดึกแล้ว แต่เห็นได้จากช่องใต้ประตูว่าเห็นเป็นขาคนนุ่งผ้ายาวถึงตาตุ่มยืนอยู่หน้าประตุ ซึ่งผมคิดว่าหน้าจะเป็นคนเดียวกัน นั่นทำให้ผมสบายใจว่า ผี ไม่ได้ตามผมกลับมาบ้าน ลืมบอดกว่าแปลกมากทุกๆวันที่ผมกลับจากที่ฝึกงานทุกเย็นจะมีเส้นผมของผู้หญิง
กองอยุ่บนที่นอนเต็มไปหมด เป็นยังงี้ทุกวัน และอีกอย่างสถานที่ตรงนั้นก็เป็นที่ๆเคยโดน สึนามิ นี่เป็นเหตุการณ์การเจอผีที่ชัดเจนสำหรับผม ตั้งแต่เคยเจอมา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่