▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวต่างประเทศ
ภาพถ่ายทิวทัศน์
บันทึกนักเดินทาง
ภาพถ่าย
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
[CR] China The First Time EP.02| Zhangye-Dunhuang| ตะลุยทางสายไหม
Day 4 On the Silk Road
ต่อจากตอนที่แล้วที่เราได้เที่ยว Zhangye แบบเต็มๆสองวัน ปีนขึ้นลงภูเขาจนขาล้าไปหมด (ถ้าใครยังไม่ได้อ่าน ตามไปอ่านก่อนเลยจ้า>>https://pantip.com/topic/38299226 ) วันนี้ก็ได้เวลา say goodbye เพราะเราจะออกเดินทางต่อบนเส้นทางสายไหม เพื่อไปยัง Dunhuang ดินแดนแห่งทะเลทราย โดยระหว่างทางเราจะแวะเที่ยวที่ JiaYu Guan ด่านสุดท้ายทางด้านตะวันตกของกำแพงเมืองจีน
ระยะทางการเดินทางทั้งหมดวันนี้ก็ไม่ใกล้ไม่ไกล ประมาณ 600 โลเอ๊งงงงงง.... นั่งรถกันไปเพลินๆ เดี๋ยวก็ถึง
JiaYuGuan Fort
JiaYuGuan Fort ถือเป็นกำแพงด่านสำคัญเพราะเวลาใครก็ตามเดินทางมาจาก Silk Road แล้วจะเข้าออกจีน ก็ต้องผ่านด่านนี้ทั้งนั้น ทำให้ในอดีตเมืองนี้กลายไปจุดแวะพักของพ่อค้าแม่ค้าสมัยก่อนไปโดยปริยาย มีความเจริญมาก แต่พอเมื่อเวลาผ่านไป มีเรือ มีเครืองบิน Silk Roadก็ถูกลดความสำคัญลง ทำให้คนค่อยๆหายไปจากเมืองนี้ จนมาถึงยุคอุตสาหะกรรมเฟื่องฟู ก็มีการขุดพบแร่เหล็กที่เมืองนี้จำนวนมาก คนก็เริ่มกลับมา เปลี่ยนเมืองจากที่เคยมีแต่ทะเลทราย กลายเป็นตึกสูงไปหมด และเหล็กที่นี่ยังมีคุณภาพดีมาก การสร้างสนามกีฬาแห่งชาติ (Bird's nest Stadium) ก็ใช้เหล็กกว่า50% จากที่นี่
รถจะจอดได้แค่ด้านหน้า Gate เราจะสามารถเดินเข้าไป หรือถ้าใครขาล้ามากๆ จะขี่รถไฟฟ้าเข้าไปแบบเราก็ได้ จะได้ขี่ผ่านสวนด้วย บรรยากาศดีทีเดียว
พื้นที่ภายในค่อนข้างกว้าง จะแบ่งเป็นส่วนๆ มีเมืองด้านหน้า เมืองด้านใน และจะมี trap city เอาไว้ดักข้าศึกด้วย แดดแรงมาก เตรียมหมวกเตรียมร่มไปให้ดี
Jia แปลว่า Good
Yu แปลว่า Valley
Guan แปลว่า Pass
ดังนัน JiaYuGuan จึงแปลว่า เมืองที่ตั้งอยู่ในหุบเขาที่ดี เพราะเมืองนี้อยู่ระหว่างภูเขาสองลูก ถ้าเรามองจากJiaYuGuan Fort ไปข้างนึงจะเห็นภูเขาดำ (ภูเขาหิน) อีกด้านเป็นภูเขาขาว (มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี) แต่วันที่เราไป ฝุ่นเยอะมากเลยมองไม่เห็นภูเขาขาว ใครไปแล้วเห็นเอามาให้เราดูด้วยนะ
เวลาสร้างกำแพงเมืองจีนผ่านไปในแต่ละพื้นที่ วัสดุที่นำมาใช้ในการสร้างก็จะไม่เหมือนกัน บางเมืองก็เป็นหิน เป็นอิฐ ตามแต่จะหาได้สะดวก
ซึ่งใน JiaYuGuan จะใช้อิฐทรายเป็นหลัก ทำให้มีสีน้ำตาลๆต่างจากกำแพงเมืองจีนที่เราคุ้นเคยกัน นอกจากนี้ยังกลืนกับทะเลทรายช่วยพรางสายตาจากข้าศึกอีก
กำแพงเมืองจีนคือใหญ่โตมาก มีทางลาดสำหรับเอาม้าเอารถขึ้นไปใช้เผื่อเดินทางไปยังด่านอื่นที่ไกลออกไป มีป้อมเป็นจุดพัก เรียกว่าขึ้นแล้วไม่ต้องลงไปไหนเลย
จนในที่สุดนาย Yi KaiZhan ตกลงจะสร้างโดยคำนวนอิฐไว้ 99,999ก้อน ปรากฎว่าสร้างเสร็จมีอิฐเหลือ 1ก้อน ทางการก็เตรียมจะประหารนายช่าง แต่นายช่างคนนี้ได้ให้เหตุผลไว้ว่าอิฐก้อนนี้ต้องเก็บไว้เพื่อทำให้ป้อมstable ถ้ามีคนไปเอาออกหรือขยับแม้แต่นิดเดียว ป้อมจะถล่มทันที ทางการก็ไม่กล้าเสี่ยงเลยต้องปล่อยอิฐไว้ และนายช่าง Yi KaiZhan ก็รอดไป ซึ่งอิฐนี้ก็เก็บไว้แบบนั้นมานานละ แต่จะอยู่ตรงไหนนั้นต้องไปตามหาเอาเอง บอกเลยว่าหากันคอเคล็ดตาแตก ห้าๆ
เสร็จจากอันนี้ถ้าใครมีเวลา สามารถไปเที่ยว Overhang Wall ต่อได้ ซึ่งเป็นส่วนขยายมาจาก Fort เอาไว้ดักดูข้าศึก แต่เราต้องรีบทำเวลาไป Duhuang ทำให้ต้องข้ามไป แอบเสียดายเหมือนกัน
Dunhuang
จาก JiaYuGuan ก็นั่งบนรถยาวๆ หลับแล้วหลับอีก เป็นการนั่งรถที่ทรมานที่สุดของทริป เห็นป้ายบอกทางไป Dunhuang ไม่รู้กี่รอบแต่ก็ไม่ถึงซะที จนในที่สุดผ่านไปสี่ชั่วโมงครึ่งก็ถึงซักที
Dunhuang เป็นเมืองเล็กๆ ขนาดประมาณ 3x4 กิโลเมตรเท่านั้น ตั้งอยู่ในเขตทะเลทรายโกบี (Gobi Desert) ทำให้แห้งแล้งและมีพายุทะเลทรายบ่อยมาก บรรยากาศจะค่อนข้างขมุกขมัว ใครมาก็ต้องวัดดวงกันหน่อยว่าจะโดนพายุทรายมั๊ย
ส่วนวันนี้เราไม่ได้เที่ยวต่อเพราะเหนื่อยละ พักผ่อนแล้วค่อยลุยกันวันพรุ่งนี้ทีเดียว
Day 5 Dunhuang Tour
Mogoa Grottoes
ที่แรกที่เรามาลุยของวันนี้ก็คือ Mogoa Grottoes เป็นสิ่งที่ชาว Dunhuang ภูมิใจมาก เป็นมรดกที่สืบทอดกันมา เป็นวัดเก่าแก่ที่ถูกสร้างฝังตัวเข้าไปในถ้ำ โดยในแต่ละห้องก็จะมีพระพุทธรูปและจิตรกรรมฝาผนังที่มีเรื่องราวต่างกันไป
การจะมาเที่ยวที่นี่ได้จะต้องจองตั๋วล่วงหน้า เพราะมีจำกัดจำนวนคนในการเข้าชม ละตั๋วจะบอกรอบไว้ว่าเราได้รอบกี่โมงๆ มาถึงก็จะมีไกด์ของรอบนั้นคอยพาชมแบ่งกรุ๊ปชาวต่างชาติและชาวจีน ไม่สามารถเดินเที่ยวเองได้ และภายในห้ามถ่ายรูปโดยเด็ดขาด
สำหรับเรา เราว่าเรื่องความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ที่นี่คือดีมาก แต่ด้วยความที่มันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีการจัดการเยอะ ทำให้การบูรณะสถานที่มันมากเกินไป มีการติดประตูหน้าต่างป้องกันแสงโดนรูปปั้นและภาพวาดด้านใน ทำให้ตึกด้านนอกมันดูปลอมไปหมด ถ้าปล่อยให้เป็นเหมือนด้านที่ยังไม่ได้ทำอะไร เราจะอินมากกว่านี้
แต่แกกกกกกก สถานที่นะไม่เท่าไหร่ แต่ที่ประทับใจสุดก็คือออออออ ฝนตกจ้า!!! ดีออก! คือมาทะเลทรายแต่ฝนตก โวยยยยยยยย คือปริมาณน้ำฝนที่นี้มันน้อยมากประมาน 40mm/year ถ้าเทียบที่ไทยที่สิงคโปร์ก็ประมาณ 300mm/year คิดดูน้อยกว่าไม่รู้กี่เท่า แต่พวกเราดันเจอ ห้าๆๆ ดังนั้นถ้าถามเราว่าทะเลทรายเป็นยังไง ก็จะบอกว่า ก็ชุ่มฉ่ำดีนะแก เปียกชื้นไปตามๆกัน
MingSha Shan
และเป็นธรรมดาที่พอฝนหยุดตก คนก็จะแห่กันมา เห็นจุดๆนั้นมั๊ยคือคนนะจ๊ะ โชคดีที่ที่มันกว้างเลยไม่รู้สึกแย่งชิงกันมาก ค่าเข้าเกต 120 CNY ใช้ได้ 3วัน เข้ากี่รอบก็ได้ แต่แหน่ะๆๆๆ อย่าคิดว่าใช้แล้วจะเอาวันที่เหลือไปขายต่อคนอื่นได้นะ เพราะตอนขาออกมีการแสกนนิ้วมือและถ่ายรูปไว้กับตั๋วเรียบร้อยจ้า
กิจกรรมอย่างแรกที่ขาดไม่ได้เมื่อมาที่นี่คือ.... การขี่น้องอูฐ ค่าขี่อยู่ที่ 100 CNY 40นาที เจ้าของอูฐก็จะพาเราขึ้นไปตามเนิน เดินวนไปวนมา อูฐที่นี่เป็นสายพันธุ์เดียวกับที่เราเคยขี่ที่ Leh แต่ว่าช่วงนี้เป็นฤดูตัดขน ก็เลยดูมอมๆแมมๆเลอะๆเทอะๆแบบนี้แหละ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้