(นำมาจากเพจคุณกวี ขออนุญาตนำมาเผยแพร่เพื่อเป็นแนวคิด วิทยาทาน และประโยชน์แก่นักลงทุนคุณค่าและนักลงทุนทุกคน..)
....
ถามจริง กลัวอะไรกับวิกฤติ หากคุณคือ VI ตัวจริง
บทความฉบับก่อนผมได้ออกมาเตือนเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะข้างหน้า เพราะดอกเบี้ยและเงินเฟ้อโลกที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ขณะที่กระแสเงินโลกกำลังถูกดึงออก ซึ่งอาจนำไปสู่วิกฤติเศรษฐกิจสำหรับประเทศที่ไม่อาจรับมือกับหนี้ในประเทศที่สูงขึ้นได้ (ประเทศไทยอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งนะครับ) อย่างไรก็ตามผมไม่ได้ออกมาเตือนเพื่อให้พวกเรากลัวกัน แต่ที่ออกมาเตือนเพียงให้ระวังเท่านั้น เพราะจากสถิติที่ผ่านมาทุกครั้งที่วิกฤติเศรษฐกิจโลกเกิดขึ้นไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ตลาดหุ้นหรือเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวได้ทุกครั้งแค่ใช้เวลาเท่าไรเท่านั้นเอง วันนี้ผมจึงอยากมาแชร์วิกฤติใหญ่ๆ ที่เคยเกิดขึ้นในโลก และตลาดหุ้นและเศรษฐกิจโลกก็ผ่านไปได้ทุกครั้ง เช่น
1) วิกฤติ Great Depression ปี 1929-1939
2) สงครามโลกครั้งที่ 2 ปี 1939-1945
3) วิกฤติน้ำมัน ปี 1970
4) วิกฤติเศรษฐกิจละตินอเมริกาปี 1980
5) วิกฤติฟองสบู่แตกในญี่ปุ่น ปี 1986
6) วิกฤติ Saving and Loans หรือวิกฤติการเงินในสหรัฐฯ 1986-1995
7) Black Monday ปี 1987
8) สงครามอ่าวเปอร์เซีย ปี 1990-1991
9) วิกฤติต้มยำกุ้ง ปี 1997
10) วิกฤติอาร์เจนติน่า ปี 1999
11) วิกฤติดอทคอม ปี 2000
12) เหตุการณ์ 911 ปี 2001
13) วิกฤติซัมไพรม์ ปี 2008
14) วิกฤติเศรษฐกิจยุโรป ปี 2010-2011
15) วิกฤติเศรษฐกิจรัสเซีย ปี 2014
16) วิกฤติเศรษฐกิจตุรกี ปี 2018
17) ????????????
วิกฤติที่ว่ามาทั้งหมดยังไม่ถึงครี่งของที่เกิดขึ้นในโลกนะครับ นี่ยกมาเฉพาะที่ KFC น่าจะพอรู้จักหรือจำได้ บางท่านอาจจะเคยผ่านมาบางวิกฤติไม่มากก็น้อย (ผมยังจำได้ว่าเคยไปเข้าแถวเติมน้ำมันกับคุณพ่อ สมัยวิกฤติพลังงาน และยังจำได้กับครอบครัวที่กลุ้มใจกับช่วงลดค่าเงินบาท) แต่ทุกครั้งผมก็เห็นตลาดหุ้นและเศรษฐกิจโลกลับมาฟื้นตัวได้ทุกครั้ง ตัวอย่างใกล้ตัวเราตลาดหุ้นไทยอย่างน้อยก็ทำจุดสูงสุดใหม่ปีนี้ หรือไกลตัวหน่อย ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดซื้อขายมาตั้งแต่ปี 1792 และเป็นทางการหน่อยก็ปี 1817 ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยซ้ำ แต่ผมก็เห็นตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขึ้นมาทำจุดสูงสุดใหม่ทุกครั้ง รวมถึงครั้งล่าสุดก็คือปีนี้ ดังนั้นผมอยากให้ทุกท่านมองวิกฤติเป็นโอกาส ไม่ต้องไปกลัว ต่อให้ติดหุ้น ก็ขอให้มั่นใจว่าเราติดหุ้นพื้นฐานดีไว้ก่อน โดยหุ้นพื้นฐานดี ผมมักตั้งคำถามตลอดว่า หากประเทศเกิดวิกฤติแบบต้มยำกุ้งอีกครั้ง บริษัทที่คุณถืออยู่จะผ่านวิกฤติและกลับมาทำกำไรได้เหมือนเดิมอีกครั้งหรือไม่ หากตอบว่าผ่านไม่ได้หรือไม่มั่นใจว่าจะผ่านได้อย่าถืออย่าลงทุน หากตอบว่าผ่านได้แบบมั่นใจเกิน 70-80% ผมว่านักลงทุนแนว VI ก็ไม่ต้องกลัวอะไร (ขอย้ำนะครับว่าแนว VI) วิกฤติเกิดขึ้นครั้งหนึ่งก็แค่ห้างสรรพสินค้าเปิดช่วง Summer Sales ให้เราเท่านั้นเองครับ
ลงทุนอย่างมีความสุขครับ
กวี ชูกิจเกษม
27 พ.ย. 2018
!!..ถามจริง กลัวอะไรกับวิกฤติ หากคุณคือ VI ตัวจริง..!! << บทความจากเซียน VI แนวหน้า>>
....
ถามจริง กลัวอะไรกับวิกฤติ หากคุณคือ VI ตัวจริง
บทความฉบับก่อนผมได้ออกมาเตือนเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะข้างหน้า เพราะดอกเบี้ยและเงินเฟ้อโลกที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ขณะที่กระแสเงินโลกกำลังถูกดึงออก ซึ่งอาจนำไปสู่วิกฤติเศรษฐกิจสำหรับประเทศที่ไม่อาจรับมือกับหนี้ในประเทศที่สูงขึ้นได้ (ประเทศไทยอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งนะครับ) อย่างไรก็ตามผมไม่ได้ออกมาเตือนเพื่อให้พวกเรากลัวกัน แต่ที่ออกมาเตือนเพียงให้ระวังเท่านั้น เพราะจากสถิติที่ผ่านมาทุกครั้งที่วิกฤติเศรษฐกิจโลกเกิดขึ้นไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ตลาดหุ้นหรือเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวได้ทุกครั้งแค่ใช้เวลาเท่าไรเท่านั้นเอง วันนี้ผมจึงอยากมาแชร์วิกฤติใหญ่ๆ ที่เคยเกิดขึ้นในโลก และตลาดหุ้นและเศรษฐกิจโลกก็ผ่านไปได้ทุกครั้ง เช่น
1) วิกฤติ Great Depression ปี 1929-1939
2) สงครามโลกครั้งที่ 2 ปี 1939-1945
3) วิกฤติน้ำมัน ปี 1970
4) วิกฤติเศรษฐกิจละตินอเมริกาปี 1980
5) วิกฤติฟองสบู่แตกในญี่ปุ่น ปี 1986
6) วิกฤติ Saving and Loans หรือวิกฤติการเงินในสหรัฐฯ 1986-1995
7) Black Monday ปี 1987
8) สงครามอ่าวเปอร์เซีย ปี 1990-1991
9) วิกฤติต้มยำกุ้ง ปี 1997
10) วิกฤติอาร์เจนติน่า ปี 1999
11) วิกฤติดอทคอม ปี 2000
12) เหตุการณ์ 911 ปี 2001
13) วิกฤติซัมไพรม์ ปี 2008
14) วิกฤติเศรษฐกิจยุโรป ปี 2010-2011
15) วิกฤติเศรษฐกิจรัสเซีย ปี 2014
16) วิกฤติเศรษฐกิจตุรกี ปี 2018
17) ????????????
วิกฤติที่ว่ามาทั้งหมดยังไม่ถึงครี่งของที่เกิดขึ้นในโลกนะครับ นี่ยกมาเฉพาะที่ KFC น่าจะพอรู้จักหรือจำได้ บางท่านอาจจะเคยผ่านมาบางวิกฤติไม่มากก็น้อย (ผมยังจำได้ว่าเคยไปเข้าแถวเติมน้ำมันกับคุณพ่อ สมัยวิกฤติพลังงาน และยังจำได้กับครอบครัวที่กลุ้มใจกับช่วงลดค่าเงินบาท) แต่ทุกครั้งผมก็เห็นตลาดหุ้นและเศรษฐกิจโลกลับมาฟื้นตัวได้ทุกครั้ง ตัวอย่างใกล้ตัวเราตลาดหุ้นไทยอย่างน้อยก็ทำจุดสูงสุดใหม่ปีนี้ หรือไกลตัวหน่อย ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดซื้อขายมาตั้งแต่ปี 1792 และเป็นทางการหน่อยก็ปี 1817 ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยซ้ำ แต่ผมก็เห็นตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขึ้นมาทำจุดสูงสุดใหม่ทุกครั้ง รวมถึงครั้งล่าสุดก็คือปีนี้ ดังนั้นผมอยากให้ทุกท่านมองวิกฤติเป็นโอกาส ไม่ต้องไปกลัว ต่อให้ติดหุ้น ก็ขอให้มั่นใจว่าเราติดหุ้นพื้นฐานดีไว้ก่อน โดยหุ้นพื้นฐานดี ผมมักตั้งคำถามตลอดว่า หากประเทศเกิดวิกฤติแบบต้มยำกุ้งอีกครั้ง บริษัทที่คุณถืออยู่จะผ่านวิกฤติและกลับมาทำกำไรได้เหมือนเดิมอีกครั้งหรือไม่ หากตอบว่าผ่านไม่ได้หรือไม่มั่นใจว่าจะผ่านได้อย่าถืออย่าลงทุน หากตอบว่าผ่านได้แบบมั่นใจเกิน 70-80% ผมว่านักลงทุนแนว VI ก็ไม่ต้องกลัวอะไร (ขอย้ำนะครับว่าแนว VI) วิกฤติเกิดขึ้นครั้งหนึ่งก็แค่ห้างสรรพสินค้าเปิดช่วง Summer Sales ให้เราเท่านั้นเองครับ
ลงทุนอย่างมีความสุขครับ
กวี ชูกิจเกษม
27 พ.ย. 2018