JJNY : 4in1 หญิงหน่อยไม่หวั่นคนไหล/โภคินเหน็บคนเขียนยุทธศาสตร์ชาติ/ดัชนีเกษตรต.ค.ลด0.37%/แห่โค่นไม้ยางขาย

กระทู้คำถาม
'หญิงหน่อย' ไม่หวั่นคนไหลออกดึงคะแนนพท.ร่วง
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/819809

“หญิงหน่อย” ไม่หวั่นคนไหลออก ดึงคะแนนพท.ร่วง  เชื่อปชช.เลือกที่พรรค-นโยบาย ชี้ “พานทองแท้” มาช่วยงานไอที

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมรับมือกรณีที่อดีตส.ส.ย้ายออกจากพรรคว่า ไม่มีปัญหาเลย เพราะไม่ใช่ครั้งแรกของประวัติศาสตร์ เพราะตั้งแต่พรรคไทยรักไทยตอนนั้นอดีตส.ส.ออกเยอะมากที่สุด การปฏิวัติเมื่อปี2549 สมาชิกพรรคออกไปกว่าครึ่งพรรค ต้องหาผู้สมัครหน้าใหม่หมดเลย จนโดยคนดูถูกดูแคลนว่าได้แต่พวกนกแลมา เพราะตัวใหญ่ๆออกหมด ปรากฎว่า ผลการเลือกตั้งประชาชนไว้วางใจนกแล คือไว้วางใจพรรคนั่นเอง ทำให้คนที่ถูกสบประมาทว่าเป็นนกแลได้เป็นส.ส.

“ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของเรา เราเจอแบบนี้ทุกครั้ง ครั้งนี้ 28-29 คน ก็ไม่เป็นไร เราก็พร้อมที่จะสร้างคนใหม่ เราคิดว่า การเมืองต่อไปมีความสำคัญ เราตั้งใจที่จะปฏิรูปหลายอย่างในการทำงานของพรรค การที่มีคนออกไปก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้การปฏิรูปหลายส่วนประสบความสำเร็จได้ ดังนั้น ไม่มีปัญหา เรามีคนลงสมัครได้ครบถ้วน อาจจะเป็นคนหน้าใหม่บ้าง ถือว่าเราเป็นโรงเรียนผลิตคนทำงานทางด้านการเมืองไปก็แล้วกัน”

เมื่อถามว่า เชื่อว่าประชาชนจะเลือกที่พรรค ไม่ได้เลือกที่ตัวบุคคล คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า มั่นใจ แต่ไม่ได้มั่นใจจากการคาดเดา แต่มั่นใจจากประสบการณ์การเลือกตั้ง 3-4 ครั้ง ไม่ว่าคนย้ายพรรค ถูกกำลังเงิน กำลังอำนาจบีบไป เจอทุกครั้ง แต่พรรคก็จะได้คนหน้าใหม่เข้ามาเป็นส.ส. จึงมั่นใจว่าประชาชนดูที่นโยบายว่าพรรคไหนทำสำเร็จ นโยบายใดที่จะแก้ไขปัญหาความทุกข์ และแก้ไขปัญหาปากท้องของพวกเขาได้ และพรรคไหนที่สนใจนโยบายจริงจังแบบพรรคเพื่อไทย

“เราคิดว่าตัวเราเอง เราคิดทุกนโยบายที่เชื่อมโยงกับประชาชน โดยประชาชนมีส่วนร่วมคิด และทุกนโยบายสามารถแก้ปัญหาได้ เราผลักดันนโยบายให้เป็นจริง และประสบความสำเร็จ และเราจะทำต่อไป ดังนั้น เรามั่นใจว่าประชาชนจะเลือกที่พรรค แล้วผลักดันให้นโยบายดีๆที่เขาคิดว่าเป็นทางออกจากทุกข์ของประชาชน”

เมื่อถามว่า พรรคเริ่มวางตัวผู้สมัครเเล้วหรือไม่  คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไม่ค่อยมีปัญหา เพราะส่วนใหญ่เป็นคนเก่า ก็สบายๆ เราใส่ใจเรื่องการแก้ไขปัญหาประชาชน และเมื่อเปิดโอกาสก็จะเอาสิ่งเหล่านี้มาให้ประชาชนได้ถกแถลง เมื่อถามว่า  28 เขตที่อดีตส.ส.ย้ายออกไปก็ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ และคนที่ย้ายออกไปก่อนที่จะหมดเวลาที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งได้เพียงวันเดียวจะเป็นปัญหากับพรรคหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไม่มี เราโชคดีตรงที่ของเรามักจะมีคนมาสมัครล้นอยู่แล้ว เรียกว่าไม่มีปัญหาสักเขต เพราะคนก็รอคิวอยู่แล้ว โดยธรรมเนียมเราให้สิทธิคนเก่า แต่เมื่อคนเก่าไม่อยู่แล้วคนที่รออยู่ก็ต้องได้สิทธิที่จะพิสูจน์ตัวเอง

เมื่อถามว่า ผลโพลของนิด้าโพลเป็นครั้งแรกที่คะแนนของคุณหญิงสุดารัตน์นำพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เห็นโพลแล้วใจชื้นหรือไม่ กล่าวว่า โพลก็จะเป็นประโยชน์ต่อการที่เราจะได้เอาข้อมูล เอาสถิติ และตัวเลขต่างๆมาเป็นไฟส่องทางในการที่จะทำงาน ดังนั้น เราก็น้อมรับฟังทุกโพล และขอบพระคุณผู้ที่ออกความเห็นให้การสนับสนุน  เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าคุณหญิงสุดารัตน์จะลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.เขต คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า  ตอนนี้มีคนแถลงข่าวแทนแบบไม่ปรากฎชื่อมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ฝากถามสื่อเองดีกว่า

เมื่อถามถึงกรณีนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตรจะมาช่วยขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ยังงงกับข่าวเหมือนกัน เรื่องทีมที่จะลงปราศรัยหาเสียงพรรคต้องมีหลายทีมเหมือนกัน ซึ่งความเชี่ยวชาญของนายพานทองแท้คือเรื่องเทคโนโลยี ไอที และการสื่อสารยุคใหม่ เชื่อว่านายพานทองแท้จะได้ใช้ความเชี่ยวชาญตรงนี้มาช่วย ส่วนทีมปราศรัยแต่ละจังหวัดมีเพียบอยู่แล้ว    เมื่อถามว่า นโยบายของพรรคในห้วงเวลาที่เหลืออยู่นี้พร้อมหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า พร้อม ไม่มีปัญหาใดๆ เราเตรียมพร้อมทั้งแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนเรื่องเศรษฐกิจ สิ่งที่เรารับปัญหามามากที่สุดคือกลุ่มเกษตรกร เกี่ยวกับราคาพืชผลเกษตรทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นข้าว ยาง มัน อ้อย ปาล์ม เราเห็นว่ามีความสำคัญ เพราะหากราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำขนาดนี้จะส่งผลให้กำลังซื้อในประเทศหดหายก็จะกระทบต่อร้านค้า ต่อโรงงานผลิตสินค้า เป็นห่วงโซ่ เพราะเป็นวงจร เราสนใจที่จะศึกษา และหาแนวทางออกให้ธุรกิจขนาดที่ใหญ่ไม่มาก ขนาดกลาง และขนาดเล็ก นอกจากนี้ เราสนใจที่จะศึกษาในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาสร้างรายได้ให้กับประชาชน รวมถึงเราสนใจในเรื่องของการท่องเที่ยวที่จะช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศในระยะสั้นได้อย่างรวดเร็ว




"โภคิน"เหน็บคนเขียนยุทธศาสตร์ชาติ ไม่เคยทำเป็นตัวอย่าง ปลุกอย่าให้อำนาจนิยมกัดกิน
https://www.matichon.co.th/politics/news_1248176

“โภคิน” เหน็บคนเขียนยุทธศาสตร์ชาติ แต่ไม่เคยทำเป็นตัวอย่าง ขอทุกคนร่วมกำหนดปท.อย่าปล่อยให้อำนาจนิยมกัดกิน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน ที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส นายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวในเวที “การเมืองไทยกับการสร้างคนไทยศตวรรษที่21” ตอนหนึ่งว่า คนเราจะต้องไม่มีอคติหรือเชื่ออะไรง่าย ๆ หรือคิดแต่จะไปหลอกคนอื่น ซึ่งหลายคนแสดงความคิดเห็นและวิธีแก้ไขว่าอยากเห็นสังคมเป็นอย่างไร แต่เราต้องมองโลกไปทางไหน ซึ่งในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ได้วิเคราะห์ภาพเมืองไทยแบบที่พอรับได้ แต่ปัญหาคือคนที่ทำให้มีแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ไม่เคยปฏิบัติ ซึ่งคนที่ออกควรเป็นตัวอย่างไม่ใช่ทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม นี่เป็นเรื่องใหญ่ซึ่งในพรรคเพื่อไทยก็มีการพูดถึงแต่ไม่ใช่การโจมตี

“หลายครั้งที่ผมไปบรรยายมีการถามตนว่า ประเทศไทยใครเป็นเจ้าของ ซึ่งผมตอบไปว่า เป็นเรื่องที่ไม่น่าถาม เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่า ประชาชนเป็นเจ้าของประเทศตั้งแต่ 2475 ที่สำคัญทุกครั้งที่มีการยึดอำนาจไม่เคยมีผู้ใช้อำนาจคนไหนไม่เขียนในรัฐธรรมนูญชั่วคราว ว่า อำนาจไม่เป็นของประชาชน แต่เป็นของข้าพเจ้า ซึ่งทุกฉบับเขียนว่าอำนาจเป็นของประชาชนทั้งสิ้น แต่ข้าพเจ้าเป็นคนใช้ 10 ปีที่ผ่านมาคนไทยสับสนกับนโยบายประชานิยม พรรคเพื่อไทยในอดีตตั้งแต่พรรคไทยรักไทย ได้เสนอนโยบายลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส เพราะมองปัญหาเศรษฐกิจต้องขับเคลื่อนที่ฐานราก ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่รัฐบาลนี้เอามาใส่ทุกอย่าง ซึ่งอยู่มาจะ 5 ปีคนข้างล่างไม่มีอำนาจซื้อ เราจะมองข้ามสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร ในเมื่อบอกว่าจีดีพีโตขึ้น แต่สัดส่วนรายได้อยู่ที่คนจำนวนน้อยนิดที่เหมือนกับทั่วโลก ชาวบ้านจึงรู้สึกไม่เสมอภาค เราก็ปล่อยให้สิ่งเหล่านี้กัดกินประเทศ นี่คือเรื่องสำคัญ ดังนั้นเพื่อให้เป็นตามอุดมการณ์ที่อยากเห็นไทยสมาร์ทภายใต้โลกยุคใหม่ การเมืองต้องเป็นประชาธิปไตย ประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงและกำหนดประเทศไม่ใช่มีส่วนร่วมแค่วันเลือกตั้งแต่ต้องมีตลอดเวลา ดังนั้นเราต้องตอบคำถามตัวเองว่า เราอยากเป็นนายของประเทศ หรือให้คนอื่นมาเป็นนายแล้วเรารับใช้ ถ้าตอบคำถามเหล่านี้ไม่ได้ ประเทศก็จะก้าวพ้นสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ และถ้าเลือกนักการเมืองไม่ดี มาบริหารประเทศแล้วจะทำอย่างไร เรามีทางเลือก 2 ทางคือ ต้องเปลี่ยนเขา หรือจะให้ทหารมาเปลี่ยน ถ้าคุณเลือกทหารมาเปลี่ยนวงจรนี้จะไม่จบสิ้น จะออกจากวงจรนี้ไม่ได้ เราจึงต้องกล้าพอที่จะพูด ถ้าไม่กล้าที่จะพูด สังคมไทยที่อยู่กับประชานิยมมา 80 ปี แต่เงียบกับอำนาจนิยม ยอมรับอำนาจนิยมที่รุนแรง อย่างในอดีตหากมีการยึดอำนาจ ก็จะออกกฎหมายนิรโทษกรรมคนยึดอำนาจมันไม่ถูก เพราะต้องนิรโทษกรรมให้กับคนที่ถูกกระทำ ไม่ใช่คนที่ทำผิดเองแล้วยกโทษให้ตัวเอง” นายโภคิน กล่าว

นายโภคิน กล่าวว่า วันนี้มาถึงคำที่ว่า ถ้าข้าพเจ้าใช้อำนาจเบ็ดสร็จในทางไหนก็ได้ เขียนรัฐธรรมนูญ นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการก็ได้ ให้ถือว่าชอบด้วยกฎหมาย บทบัญญัติที่เขียนมาให้เสรีภาพมากมายกว่า 200 มาตรา ไม่มีความหมาย แพ้มาตรา 279 มาตราเดียว ทำไมต้องออกมาตรา 44 ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งไม่มีความจำเป็น ก็เพราะว่าถ้าคุณทำอะไรผิด แม้จะผิดก็ถือว่าถูก เพราะมาตรานี้ แต่พวกเราพูดถึงเรื่องนี้น้อยมากทั้งที่เป็นอุปสรรคใหญ่ แล้วจะให้คนมีคุณธรรม มีจริยธรรม มีความสุจริตได้อย่างไร ในเมื่อเริ่มต้นก็กุมอำนาจประชาชนไปแล้ว เราต้องเอาอำนาจของประชาชนกลับคืนมา เราต้องเข้มแข็งในส่วนนี้ อย่าให้ใครมาโกงอำนาจอธิปไตยอีก ดังนั้นอำนาจนิยมวันนี้ไม่พอ เพราะไม่สร้างโอกาสหรือลดรายจ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าชาวบ้านถูกหล่อหลอมคงไปไม่ได้ ถึงแม้เราจะรู้ว่าประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจ แต่จะให้ประชาชนลุกขึ้นมาบอกว่า ฉันเป็นเจ้าของอำนาจได้อย่างไร เราจึงต้องก้าวพ้นการเมืองแบบเดิม แต่คนที่ไม่ได้มาจากประชาธิปไตย ไม่ได้มาจากประชาชน กลับมาบอกว่าคนที่มาจากประชาชนต้องทำอย่างไรบ้าง เช่นคนเป็นรัฐบาลต้องทำอย่างไร ซึ่งถูกกำหนดด้วยแนวนโยบายแห่งรัฐ แผนการปฏิรูป ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งเรื่องเหล่านี้ตนสงสัยว่านักการเมืองจะแหวกไปในทางไหนบ้าง และอยากให้คิดต่อไปว่า สิ่งใดที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้งบประมาณ ลดรายจ่ายของภาครัฐนำไปสู่ประชาชน

อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจฐานรากต้องสำคัญ ไม่อย่างนั้นอย่างอื่นจะไปไม่ได้ ส่วนระบบราชการถ้ายังเป็นระบบจากบนลงล่างอยู่อย่างนี้จะนำไปสู่ 4.0 ไม่ได้ ระบบราชการจึงต้องเล็กและมีประสิทธิภาพ รวมถึงลดขั้นตอนการขอใบอนุญาต ซึ่งเป็นบ่อเกิดของการคอร์รัปชั่น และเรื่องสุดท้ายคือการศึกษาที่เราจะต้องทำให้คนเข้าใจโลกเข้าใจประเทศ เราหมดเวลากับการศึกษาทฤษฎีในห้องเรียนไปมาก เราต้องทำให้คนทุกรุ่นเป็นราษฎรของโลก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่