คือจริงๆแล้วที่บ้านเราปัญหาระแคะระคายมาตั้งแต่เด็กๆแล้วค่ะ พ่อกับแม่ทะเลาะกันบ่อย แต่ก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องมือที่สามหรืออะไรนะคะ แต่คาราคาซังมานานแล้ว และก็ทำให้พ่อเกลียดแม่มากขึ้นๆ ส่วนแม่ก็เก็บตัวไม่พูดกะใครมากขึ้นๆ
ด้วยความที่พ่อเราเป็นคนที่อีโก้จัด มีเหตุผลเป็นของตัวเองและไม่ฟังใคร ส่วนแม่เป็นโรคซึมเศร้าแล้วก็ชอบเอาอารมณ์นำค่ะ
จากการที่ได้คุยกะพ่อแม่มาเรื่อยๆ ถึงทำให้ได้รู้ว่า แม่ยังรักพ่ออยู่ แต่ด้วยความเครียด โดนพ่อด่าบ่อยเลยทำให้ทำหน้าที่ภรรยาได้ไม่ดีมากนัก ไม่ค่อยยิ้ม ไม่ค่อยคุยกับใคร ทำบรรยากาศในบ้านเสียบ่อยๆ ปล่อยตัวให้โทรม แต่ก็ทำงานหัวหมุนทั้งวันนะคะ แต่เพราะเหนื่อยมาก เลยบกพร่องไปบ้าง
ส่วนพ่อไม่ได้รักแม่ตั้งนานแล้วค่ะ คือแสดงออกชัดเจนว่าไม่แคร์แม่ พูดใส่แม่ตลอดว่าพ่อเป็นคนดึงแม่มาจากโคลนตม ให้เงินทุกวันแต่ไม่สำนึกบุญคุณ ใช้งานแม่เหมือคนไใช้ แต่ก็ยังทำหน้าที่สามีและพ่อได้ดีนะคะ ให้ความรักเรากับน้องตลอด เป็นworking man ขยันทำงาน มีเงินให้ใช้ไม่ขาด อยากทำอะไรก็บอก แต่แค่เค้าดูไม่ได้อยากทำไรให้ครอบครัวเหมือนแต่ก่อนอ่ะค่ะ
แต่ช่วงหลังๆมาพ่อมีพฤติกรรมน่าสงสัยมากที่น่าจะโยงไปเรื่องมือที่สาม วันนั้นมีผู้หญิงโทรมาหาพ่อเราพอดี แต่เรารู้สึกว่ามันมีพิรุจอ่ะค่ะ แค่ถามว่าใครหรอ โทรมาทำไมนะ ซึ่งปกติแล้วก็จะพูดแบบชิลๆว่าเออ แคดดี้ไรก็ว่าไป แต่คราวนี้ดันพุดว่า กังวลอะไรหรอ ไม่มีอะไรหรอก แคดดี้น่ะ ก้ได้แต่สังเกตๆ เลยทำให้แม่ทนไม่ไหว สุดท้ายก็เอามาบอกเราค่ะ วันนั้นเราเลือกที่จะเดินไปถามพ่อตรงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่กลายเป็นโดนโมโหว่าทำไมไม่ไว้ใจพ่อ แล้วพ่อก็พูดออกมาเลยว่า ขอแค่พูดมาว่าจะไม่เอาพ่อแล้ว ไม่เชื่อใจพ่อแล้ว พ่อก็จะหย่ากับแม่แล้วไปทันทีค่ะ คือในวันนั้นเราก็ยังใจอ่อนเชื่อพ่อนะคะ แล้วก็ขอโทษที่สงสัยไป พ่อก็บอกว่าจะมาเริ่มกันใหม่ จะไม่ด่าแม่ จะลืมเรื่องวันนี้ไป แล้วเราก็ต้องลืมเรื่องในวันนี้เช่นกัน คือถ้ามองเผินๆแล้วเชื่อใจ มันก็ใช่อ่ะค่ะ แต่พฤติกรรมแปลกมากจริงๆ ปิดโนติไลน์ มีผู้หญิงโทรมาว่าถึงบ้านหรือยัง(เขาบอกว่าเป็นแคดดี้โทรมานัดเวลาตีกอล์ฟ) ใส่รองเท้าแตะไปตรวจคนไข้(ปกติไม่ แต่เขาบอกเค้าใส่มาตั้งนานแล้ว) ไปส่งน้องเราถึงรร7โมงแต่เข้าทำงาน9โมง ปกติถ้างานหนักๆจะกลับบ้านมากินข้าวจนหมดจาน นอนหลับไปเลยเพราะเหนื่อย แล้วเวลากลับบ้านก็จะไม่คงที่ 3-4ทุ่ม แต่เดี๋ยวนี้กลับ6โมงนิดๆทุกวันเหมือนเซ็ตเวลาไว้ กินข้าวก็ไม่หมด กินเหมือนไม่ให้สงสัยว่ากินมาแล้วอ่ะค่ะ แถมสองวันนี้แม่เราไม่เจอรถที่ทำงานเขาด้วยค่ะ แต่เราเฟสไทม์ไปก็เห็นเป็นห้องตรวจปกตินะคะ ก้งงๆเหมือนกัน บิลบัตรเครดิตปกติก้จะวางไว้ที่เค้าเต้อให้แม่เราเก็บ 2เดือนมานี้บิลหายไป แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้เราน่าจะยังถามไม่ได้เร็วๆนี้ค่ะ เพราะคงโดนหาว่าจับผิดแน่ๆ
เรื่องของเรื่องก็คือ เราก็พอรู้สึกได้ค่ะว่ามันมีอะไร แต่คือตอนนี้ เราเป็นคนเดียวที่มีสติที่สุดในบ้านแล้ว แม่เราโทรมาร้องห่มร้องไห้ทุกวัน เราก็ได้แต่ให้สติแม่ให้แม่เลิกคิดวนๆเรื่องพ่ออ่ะค่ะ เพราะแม่เป็นโรคซึมเศร้าอยู่แล้วด้วย บอกว่าถ้าไม่มีเราก็จะฆ่าตัวตายอยู่ตลอด คือใจนึงก็อยากจับโกหกคาหนังคาเขา จะได้ตัดจบให้รู้แล้วรู้รอด แต่อีกใจนึงเค้าก็เป็นพ่อที่ดีมาตลอดอ่ะค่ะ ก็อยากไว้ใจ แถมแม่เราไม่ได้ทำงาน ส่วนเราก็เพิ่งอยู่ปี3 กว่าจะเรียนจบก็อีก3ปี ส่วนน้องเพิ่งอยู่มัธยม การที่ตัดขาดออกจากกันนั่นหมายถึง ไม่รู้เลยค่ะว่าชีวิตจะเอายังไงต่อ แต่มันแปลกเกินกว่าเราจะวางใจได้100%อ่ะค่ะ
เราอยากเลือกซักทางอ่ะค่ะ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงให้ได้ความจริงออกจากปาก และให้เราสบายใจด้วย คือลำพังแค่เราเรียนก็เหนื่อยแล้วอ่ะค่ะ สภาพจิตใจเราที่เห็นภาพความไม่อบอุ่นของครอบครัวตั้งแต่เล็กๆ มันก็ไม่ได้แข้งแรงขนาดนั้นอ่ะค่ะ ต้องมาเป็นที่พึ่งทางใจให้ทั้งแม่ทั้งน้อง คนที่ไม่ไว้ใจก็กลายเป็นพ่อตัวเองอีก ไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ ช่วยแนะนำทีนะคะ
ช่วยด้วยค่ะ ตอนนี้เครียดมากเรื่องปัญหาครอบครัวค่ะ
ด้วยความที่พ่อเราเป็นคนที่อีโก้จัด มีเหตุผลเป็นของตัวเองและไม่ฟังใคร ส่วนแม่เป็นโรคซึมเศร้าแล้วก็ชอบเอาอารมณ์นำค่ะ
จากการที่ได้คุยกะพ่อแม่มาเรื่อยๆ ถึงทำให้ได้รู้ว่า แม่ยังรักพ่ออยู่ แต่ด้วยความเครียด โดนพ่อด่าบ่อยเลยทำให้ทำหน้าที่ภรรยาได้ไม่ดีมากนัก ไม่ค่อยยิ้ม ไม่ค่อยคุยกับใคร ทำบรรยากาศในบ้านเสียบ่อยๆ ปล่อยตัวให้โทรม แต่ก็ทำงานหัวหมุนทั้งวันนะคะ แต่เพราะเหนื่อยมาก เลยบกพร่องไปบ้าง
ส่วนพ่อไม่ได้รักแม่ตั้งนานแล้วค่ะ คือแสดงออกชัดเจนว่าไม่แคร์แม่ พูดใส่แม่ตลอดว่าพ่อเป็นคนดึงแม่มาจากโคลนตม ให้เงินทุกวันแต่ไม่สำนึกบุญคุณ ใช้งานแม่เหมือคนไใช้ แต่ก็ยังทำหน้าที่สามีและพ่อได้ดีนะคะ ให้ความรักเรากับน้องตลอด เป็นworking man ขยันทำงาน มีเงินให้ใช้ไม่ขาด อยากทำอะไรก็บอก แต่แค่เค้าดูไม่ได้อยากทำไรให้ครอบครัวเหมือนแต่ก่อนอ่ะค่ะ
แต่ช่วงหลังๆมาพ่อมีพฤติกรรมน่าสงสัยมากที่น่าจะโยงไปเรื่องมือที่สาม วันนั้นมีผู้หญิงโทรมาหาพ่อเราพอดี แต่เรารู้สึกว่ามันมีพิรุจอ่ะค่ะ แค่ถามว่าใครหรอ โทรมาทำไมนะ ซึ่งปกติแล้วก็จะพูดแบบชิลๆว่าเออ แคดดี้ไรก็ว่าไป แต่คราวนี้ดันพุดว่า กังวลอะไรหรอ ไม่มีอะไรหรอก แคดดี้น่ะ ก้ได้แต่สังเกตๆ เลยทำให้แม่ทนไม่ไหว สุดท้ายก็เอามาบอกเราค่ะ วันนั้นเราเลือกที่จะเดินไปถามพ่อตรงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่กลายเป็นโดนโมโหว่าทำไมไม่ไว้ใจพ่อ แล้วพ่อก็พูดออกมาเลยว่า ขอแค่พูดมาว่าจะไม่เอาพ่อแล้ว ไม่เชื่อใจพ่อแล้ว พ่อก็จะหย่ากับแม่แล้วไปทันทีค่ะ คือในวันนั้นเราก็ยังใจอ่อนเชื่อพ่อนะคะ แล้วก็ขอโทษที่สงสัยไป พ่อก็บอกว่าจะมาเริ่มกันใหม่ จะไม่ด่าแม่ จะลืมเรื่องวันนี้ไป แล้วเราก็ต้องลืมเรื่องในวันนี้เช่นกัน คือถ้ามองเผินๆแล้วเชื่อใจ มันก็ใช่อ่ะค่ะ แต่พฤติกรรมแปลกมากจริงๆ ปิดโนติไลน์ มีผู้หญิงโทรมาว่าถึงบ้านหรือยัง(เขาบอกว่าเป็นแคดดี้โทรมานัดเวลาตีกอล์ฟ) ใส่รองเท้าแตะไปตรวจคนไข้(ปกติไม่ แต่เขาบอกเค้าใส่มาตั้งนานแล้ว) ไปส่งน้องเราถึงรร7โมงแต่เข้าทำงาน9โมง ปกติถ้างานหนักๆจะกลับบ้านมากินข้าวจนหมดจาน นอนหลับไปเลยเพราะเหนื่อย แล้วเวลากลับบ้านก็จะไม่คงที่ 3-4ทุ่ม แต่เดี๋ยวนี้กลับ6โมงนิดๆทุกวันเหมือนเซ็ตเวลาไว้ กินข้าวก็ไม่หมด กินเหมือนไม่ให้สงสัยว่ากินมาแล้วอ่ะค่ะ แถมสองวันนี้แม่เราไม่เจอรถที่ทำงานเขาด้วยค่ะ แต่เราเฟสไทม์ไปก็เห็นเป็นห้องตรวจปกตินะคะ ก้งงๆเหมือนกัน บิลบัตรเครดิตปกติก้จะวางไว้ที่เค้าเต้อให้แม่เราเก็บ 2เดือนมานี้บิลหายไป แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้เราน่าจะยังถามไม่ได้เร็วๆนี้ค่ะ เพราะคงโดนหาว่าจับผิดแน่ๆ
เรื่องของเรื่องก็คือ เราก็พอรู้สึกได้ค่ะว่ามันมีอะไร แต่คือตอนนี้ เราเป็นคนเดียวที่มีสติที่สุดในบ้านแล้ว แม่เราโทรมาร้องห่มร้องไห้ทุกวัน เราก็ได้แต่ให้สติแม่ให้แม่เลิกคิดวนๆเรื่องพ่ออ่ะค่ะ เพราะแม่เป็นโรคซึมเศร้าอยู่แล้วด้วย บอกว่าถ้าไม่มีเราก็จะฆ่าตัวตายอยู่ตลอด คือใจนึงก็อยากจับโกหกคาหนังคาเขา จะได้ตัดจบให้รู้แล้วรู้รอด แต่อีกใจนึงเค้าก็เป็นพ่อที่ดีมาตลอดอ่ะค่ะ ก็อยากไว้ใจ แถมแม่เราไม่ได้ทำงาน ส่วนเราก็เพิ่งอยู่ปี3 กว่าจะเรียนจบก็อีก3ปี ส่วนน้องเพิ่งอยู่มัธยม การที่ตัดขาดออกจากกันนั่นหมายถึง ไม่รู้เลยค่ะว่าชีวิตจะเอายังไงต่อ แต่มันแปลกเกินกว่าเราจะวางใจได้100%อ่ะค่ะ
เราอยากเลือกซักทางอ่ะค่ะ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงให้ได้ความจริงออกจากปาก และให้เราสบายใจด้วย คือลำพังแค่เราเรียนก็เหนื่อยแล้วอ่ะค่ะ สภาพจิตใจเราที่เห็นภาพความไม่อบอุ่นของครอบครัวตั้งแต่เล็กๆ มันก็ไม่ได้แข้งแรงขนาดนั้นอ่ะค่ะ ต้องมาเป็นที่พึ่งทางใจให้ทั้งแม่ทั้งน้อง คนที่ไม่ไว้ใจก็กลายเป็นพ่อตัวเองอีก ไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ ช่วยแนะนำทีนะคะ