สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิปทุกๆท่าน วันนี้มากับสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยมกันบ้าง พรีเมี่ยมทั้งวัสดุและราคาครับ ถ้าสมาชิกบางท่านมาจากกลุ่ม PC / notebook คงจะรู้จัก ROG บ้างแล้ว โดยเฉพาะสายเกมส์มืออาชีพ แต่ชื่อ ROG ชื่อนี้อาจจะดูใหม่ในวงการฝั่งสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะบ้านเรา ก็แหง่หล่ะเขาพึ่งมีรุ่นนี้รุ่นแรกและรุ่นเดียวในเวลานี้ เดี๋ยวเราไปทำความเข้าใจกับแบรนด์ของ ROG กันก่อนจะได้เข้าใจของผลิตภัณฑ์ง่ายขึ้น
ROG คือซัพแบรนด์ของทาง ASUS ครับ เน้นจับกลุ่มเกมส์เมอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงเป็นหลัก ไม่ใช่อัดแค่สเปคของชิปประมวลผลอย่างเดียวมาให้ แต่ ROG ใส่ใจรายละเอียดของฮาร์ดแวย์ทุกๆชิ้นเลยก็ว่าได้ เหตุผลของต้นทุนที่สูงกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป ราคาก็เลยต้องถีบขึ้นครับผม สำหรับการบริการหลังการขายก็เหมือน ASUS ฝั่ง PC ครับ สามารถส่งผ่านหน้าร้านที่ 7-11 ได้เลย
ประสิทธ์ภาพการทำงาน
ROG Phone มาพร้อมกับชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 845 ที่ได้รับการโอเวอร์คล็อกความเร็วขึ้นเป็นพิเศษ ให้ความเร็วสูงสุด 2.96 GHz(จากความเร็วปกติที่ 2.80 GHz) ทำงานร่วมกับ GPU Adreno 630และหน่วยความจำ LPDDR4 ขนาด 8GB และความจุภายในชนิด UFS2.1 จะมีให้เลือกสองขนาดคือ 128 GB และ 512 GB
สำหรับราคา รุ่นความจุ 128 ราคา 29,900 บาท / รุ่นความจุ 512 ราคา 34,900 บาท
คะแนน benchmark
ถ้าใช้งานโหมดปกติความเร็วจะอยู่ที่ 2.80 GHz แต่ถ้าจะเล่นเกมส์หรือใช้งานกราฟฟิกเพียงเข้าไปหน้า X-Mode แล้วเปิดมันขึ้นวะ ความเร็วก็จะไปแตะที่ 2.96 GHz ให้โดยอัตโนมัติ
สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเกมส์มิ่ง คือ การแจ้งเตือน และ ROG Phone ก็มี HW moniter ย่อมๆมาให้ แจ้งเตือนการทำงานของชิปประมวลผล อุณหภูมิขณะใช้งาน และค่า FPS ขณะเล่นเกมส์ สวรรค์ของคนเสพตัวเลขแท้ทรู ไม่ว่าจะเล่นเกมส์อะไรก็สามารถแจ้งได้หมด
การเชื่อมต่อสัญญาณ
ROG Phone รองรับ Dual 4G LTE / Dual VoLTE รองรับช่อง wifi แบบสองเสา ช่วยให้การจับสัญญาณเสถียรยิ่งขึ้น
4×4 MIMO and CA w/4×4 MIMO supported
5CA 4×4 MIMO up to 1.2Gbps supported
ชุดระบายความร้อน
เมื่อเครื่องแรงสิ่งที่ตามมาคือ ความร้อนนั้นเอง แต่ ROG ให้ความสำคัญของระบบระบายความร้อนของตัวเครื่อง ตั้งแต่โน๊ตบุ๊คเกมส์มิ่งที่เน้นบางและเบาแต่ก็ต้องระบายความร้อนได้ดี มาถึงฝั่งสมาร์ทโฟนบ้าง ROG Phone ได้ใช้ไปร์ทองแดงสำหรับระบายความร้อน Game Cool ที่ใช้ 3D vapor-chamber (ช่องระบายความร้อนด้วยไอน้ำ) ผ่านแผ่นสแตนเลสของส่วนหลัง ช่วยให้ถ่ายเทความร้อนได้รวดเร็ว และพิเศษสุดชุดพัดลมความร้อน AeroActive Cooler (ถอดออกได้) ที่สามารถปรับความเร็วของรอบพัดลมได้(ลมจะถูกดูดเข้าหาตัวเครื่องแล้วระบายออกด้านข้างทั้งสองนะครับ) และยังทำหน้าที่เหมือน Dock ขนาดย่อม มีทั้งพอร์ตหูฟังแบบ 3.5 มม และพอร์ต USB C ให้ด้วย
หน้าจอแสดงผล
ROG Phone มากับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 2160×1080 ให้รีเฟรชเรทสูง 90Hz และการตอบสนองในการแสดงผล (response time) ที่รวดเร็ว 1 ms , อัตราคอนทราสต์ที่ 100,000:1 และการแสดงช่วงสีที่กว้างถึงระดับ 108.6% DCI-P3 การแสดงของสีจะตรงเท่ากับตามองเห็นทั่วไป สีจัดจ้าน สดใสแน่นอน สีดำก็จะดำสนิท และที่ผมชอบสุดคือ เทคโนโลยี HDR visuals ชิปประมวลผลสำหรับการแสดง HDR แยกต่างหาก สามารถแสดงผล HDR ตลอดเวลาแบบ real time ทำให้การแสดงผลหน้าจอยิ่งสวยงามยิ่งขึ้นเก็บรายละเอียดในสภาวะแสงต่างๆได้ ไม่ว่าจะดูรูปภาพ ดูหนัง เล่นเกมส์
กระจกครอบทับเป็น Coring Gorilla Glass 6 ขอบโค้งแบบ 2.5D เป็นรุ่นแรกที่วางขายในบ้านเราที่ใช้ Glass 6
ด้านหลังก็เป็นกระจกผสมผสานกับโลหะ เน้นความโค้งมนหยิบจับง่ายกระชับมือ
ระบบเสียง
ROG Phone มากับลำโพงคู่หน้า Dual front-facing speakers เมื่อใช้งานสำหรับเล่นเกมส์ตำแหน่งลำโพงจะอยู่ด้านหน้า ซ้าย-ขวา ทำให้ทิศทางของเสียงเข้าหาเราโดยตรง มิติเสียงชัดเจนยิ่งขึ้น ลำโพงคู่ยังไม่พอ ยังมีแอมป์คู่ต่างหาก (แอมป์หนึ่งตัวต่อลำโพงหนึ่งข้าง) Dual NXP 9874 smart amplifier ทำงานร่วมกับระบบเสียง DTS:X Ultra 1.0 แบบ 7.1(เมื่อต่อหูฟัง) รองรับ Hi-Res audio 192kHz/24-bit
กล้อง
กล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง F2.0
กล้องหลัง ความละเอียด 12+8 ล้านพิกเซล กล้องหลัก dual pixel ค่ารูรับแสง F1.7 ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX363 / 120° wide-angle camera
โหมดการถ่ายภาพจะมี ดังนี้ Auto (with Night HDR and Portrait) / Beauty / Pro (RAW file support / up to 32 seconds long exposure) / Super Resolution (48MP) / GIF Animation / Panorama / Time Lapse (with power saving mode)
AI Photography เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยในการถ่ายภาพ แบ่งออกเป็น 16 ซีน
food, sky, green field, plant, ocean, sunset, snow, flower, stage, dog, cat, people, text, tripod, QR code, night view
ภาพจากกล้องหลัง
ระบบปฎิบัติการ
ROG Phone มาพร้อมกับ Android™ Oreo 8.1 ครอบทับด้วย ROG Gaming X mode UI หน้าตา UI เน้นความเรียบง่ายออกไปทางสปอร์ตเกมส์ และจะมี Game Genie เป็นคำสั่งการใช้งานของปุ่มพิเศษบนหน้าจอ เช่น การเซ็ทปุ่มมาโคร / ปุ่ม lock mode หรือแม้แต่ปุ่มด้านข้างตัวเครื่อง( AirTriggers )
แบตเตอร์รี่
เมื่อมีเครื่องแรงแล้ว ปัจจัยสำคัญคือต้องมีพลังงานที่เพียงพอ ROG Phone มากับขนาดแบตเตอร์รี่ 4,000 mAh ควบคุมการปล่อยไฟผ่านสมองกลของ AI
ชิป IC Charger ย้ายจากตัวเครื่องไปฝังอยู่ในตัว Adapter แทน ทำให้เวลาชาร์จตัวเครื่องจะได้ไม่ร้อนแม้ขณะใช้งาน เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานขณะชาร์จแบตได้ ทาง ASUS เรียกว่าระบบ HyperCharge รองรับการชาร์จทั้งหมด 3 อย่าง Direct Charger / Quick Charge 4.0 / power delivery 3.0
คุณสมบัติพิเศษ
ระบบสแกนลายนิ้วมือ / ปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า / AI ช่วยประมวลผลในเกือบจะทุกๆด้าน ตั้งแต่เสียงริงโทนรอบข้าง แสงรอบกาย การปล่อยประจุพลังงาน
สรุป
สุดจริง จบจริง กับ ROG Phone มีทุกอย่างที่ต้องการแล้ว
[SR] รีวิว ASUS ROG Phone สมาร์ทโฟนของสายเกมส์เมอร์อย่างแท้จริง
สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิปทุกๆท่าน วันนี้มากับสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยมกันบ้าง พรีเมี่ยมทั้งวัสดุและราคาครับ ถ้าสมาชิกบางท่านมาจากกลุ่ม PC / notebook คงจะรู้จัก ROG บ้างแล้ว โดยเฉพาะสายเกมส์มืออาชีพ แต่ชื่อ ROG ชื่อนี้อาจจะดูใหม่ในวงการฝั่งสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะบ้านเรา ก็แหง่หล่ะเขาพึ่งมีรุ่นนี้รุ่นแรกและรุ่นเดียวในเวลานี้ เดี๋ยวเราไปทำความเข้าใจกับแบรนด์ของ ROG กันก่อนจะได้เข้าใจของผลิตภัณฑ์ง่ายขึ้น
ROG คือซัพแบรนด์ของทาง ASUS ครับ เน้นจับกลุ่มเกมส์เมอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงเป็นหลัก ไม่ใช่อัดแค่สเปคของชิปประมวลผลอย่างเดียวมาให้ แต่ ROG ใส่ใจรายละเอียดของฮาร์ดแวย์ทุกๆชิ้นเลยก็ว่าได้ เหตุผลของต้นทุนที่สูงกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป ราคาก็เลยต้องถีบขึ้นครับผม สำหรับการบริการหลังการขายก็เหมือน ASUS ฝั่ง PC ครับ สามารถส่งผ่านหน้าร้านที่ 7-11 ได้เลย
ROG Phone มาพร้อมกับชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 845 ที่ได้รับการโอเวอร์คล็อกความเร็วขึ้นเป็นพิเศษ ให้ความเร็วสูงสุด 2.96 GHz(จากความเร็วปกติที่ 2.80 GHz) ทำงานร่วมกับ GPU Adreno 630และหน่วยความจำ LPDDR4 ขนาด 8GB และความจุภายในชนิด UFS2.1 จะมีให้เลือกสองขนาดคือ 128 GB และ 512 GB
สำหรับราคา รุ่นความจุ 128 ราคา 29,900 บาท / รุ่นความจุ 512 ราคา 34,900 บาท
ถ้าใช้งานโหมดปกติความเร็วจะอยู่ที่ 2.80 GHz แต่ถ้าจะเล่นเกมส์หรือใช้งานกราฟฟิกเพียงเข้าไปหน้า X-Mode แล้วเปิดมันขึ้นวะ ความเร็วก็จะไปแตะที่ 2.96 GHz ให้โดยอัตโนมัติ
สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเกมส์มิ่ง คือ การแจ้งเตือน และ ROG Phone ก็มี HW moniter ย่อมๆมาให้ แจ้งเตือนการทำงานของชิปประมวลผล อุณหภูมิขณะใช้งาน และค่า FPS ขณะเล่นเกมส์ สวรรค์ของคนเสพตัวเลขแท้ทรู ไม่ว่าจะเล่นเกมส์อะไรก็สามารถแจ้งได้หมด
ROG Phone รองรับ Dual 4G LTE / Dual VoLTE รองรับช่อง wifi แบบสองเสา ช่วยให้การจับสัญญาณเสถียรยิ่งขึ้น
4×4 MIMO and CA w/4×4 MIMO supported
5CA 4×4 MIMO up to 1.2Gbps supported
เมื่อเครื่องแรงสิ่งที่ตามมาคือ ความร้อนนั้นเอง แต่ ROG ให้ความสำคัญของระบบระบายความร้อนของตัวเครื่อง ตั้งแต่โน๊ตบุ๊คเกมส์มิ่งที่เน้นบางและเบาแต่ก็ต้องระบายความร้อนได้ดี มาถึงฝั่งสมาร์ทโฟนบ้าง ROG Phone ได้ใช้ไปร์ทองแดงสำหรับระบายความร้อน Game Cool ที่ใช้ 3D vapor-chamber (ช่องระบายความร้อนด้วยไอน้ำ) ผ่านแผ่นสแตนเลสของส่วนหลัง ช่วยให้ถ่ายเทความร้อนได้รวดเร็ว และพิเศษสุดชุดพัดลมความร้อน AeroActive Cooler (ถอดออกได้) ที่สามารถปรับความเร็วของรอบพัดลมได้(ลมจะถูกดูดเข้าหาตัวเครื่องแล้วระบายออกด้านข้างทั้งสองนะครับ) และยังทำหน้าที่เหมือน Dock ขนาดย่อม มีทั้งพอร์ตหูฟังแบบ 3.5 มม และพอร์ต USB C ให้ด้วย
ROG Phone มากับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 2160×1080 ให้รีเฟรชเรทสูง 90Hz และการตอบสนองในการแสดงผล (response time) ที่รวดเร็ว 1 ms , อัตราคอนทราสต์ที่ 100,000:1 และการแสดงช่วงสีที่กว้างถึงระดับ 108.6% DCI-P3 การแสดงของสีจะตรงเท่ากับตามองเห็นทั่วไป สีจัดจ้าน สดใสแน่นอน สีดำก็จะดำสนิท และที่ผมชอบสุดคือ เทคโนโลยี HDR visuals ชิปประมวลผลสำหรับการแสดง HDR แยกต่างหาก สามารถแสดงผล HDR ตลอดเวลาแบบ real time ทำให้การแสดงผลหน้าจอยิ่งสวยงามยิ่งขึ้นเก็บรายละเอียดในสภาวะแสงต่างๆได้ ไม่ว่าจะดูรูปภาพ ดูหนัง เล่นเกมส์
กระจกครอบทับเป็น Coring Gorilla Glass 6 ขอบโค้งแบบ 2.5D เป็นรุ่นแรกที่วางขายในบ้านเราที่ใช้ Glass 6
ด้านหลังก็เป็นกระจกผสมผสานกับโลหะ เน้นความโค้งมนหยิบจับง่ายกระชับมือ
ROG Phone มากับลำโพงคู่หน้า Dual front-facing speakers เมื่อใช้งานสำหรับเล่นเกมส์ตำแหน่งลำโพงจะอยู่ด้านหน้า ซ้าย-ขวา ทำให้ทิศทางของเสียงเข้าหาเราโดยตรง มิติเสียงชัดเจนยิ่งขึ้น ลำโพงคู่ยังไม่พอ ยังมีแอมป์คู่ต่างหาก (แอมป์หนึ่งตัวต่อลำโพงหนึ่งข้าง) Dual NXP 9874 smart amplifier ทำงานร่วมกับระบบเสียง DTS:X Ultra 1.0 แบบ 7.1(เมื่อต่อหูฟัง) รองรับ Hi-Res audio 192kHz/24-bit
กล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง F2.0
กล้องหลัง ความละเอียด 12+8 ล้านพิกเซล กล้องหลัก dual pixel ค่ารูรับแสง F1.7 ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX363 / 120° wide-angle camera
โหมดการถ่ายภาพจะมี ดังนี้ Auto (with Night HDR and Portrait) / Beauty / Pro (RAW file support / up to 32 seconds long exposure) / Super Resolution (48MP) / GIF Animation / Panorama / Time Lapse (with power saving mode)
AI Photography เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยในการถ่ายภาพ แบ่งออกเป็น 16 ซีน
food, sky, green field, plant, ocean, sunset, snow, flower, stage, dog, cat, people, text, tripod, QR code, night view
ROG Phone มาพร้อมกับ Android™ Oreo 8.1 ครอบทับด้วย ROG Gaming X mode UI หน้าตา UI เน้นความเรียบง่ายออกไปทางสปอร์ตเกมส์ และจะมี Game Genie เป็นคำสั่งการใช้งานของปุ่มพิเศษบนหน้าจอ เช่น การเซ็ทปุ่มมาโคร / ปุ่ม lock mode หรือแม้แต่ปุ่มด้านข้างตัวเครื่อง( AirTriggers )
เมื่อมีเครื่องแรงแล้ว ปัจจัยสำคัญคือต้องมีพลังงานที่เพียงพอ ROG Phone มากับขนาดแบตเตอร์รี่ 4,000 mAh ควบคุมการปล่อยไฟผ่านสมองกลของ AI
ชิป IC Charger ย้ายจากตัวเครื่องไปฝังอยู่ในตัว Adapter แทน ทำให้เวลาชาร์จตัวเครื่องจะได้ไม่ร้อนแม้ขณะใช้งาน เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานขณะชาร์จแบตได้ ทาง ASUS เรียกว่าระบบ HyperCharge รองรับการชาร์จทั้งหมด 3 อย่าง Direct Charger / Quick Charge 4.0 / power delivery 3.0
ระบบสแกนลายนิ้วมือ / ปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า / AI ช่วยประมวลผลในเกือบจะทุกๆด้าน ตั้งแต่เสียงริงโทนรอบข้าง แสงรอบกาย การปล่อยประจุพลังงาน
สุดจริง จบจริง กับ ROG Phone มีทุกอย่างที่ต้องการแล้ว
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้