สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
ส่วนตัว เราโชคดีที่แม่สามีเคารพการตัดสินใจ
แต่ถึงกระนั้น เราก็เข้าใจ จขกท นะคะ
พาเค้าไปฟังหมอ ลองดู อาจจะได้ผล แต่ ด้วยความมีอีโก้ เราเชื่อว่า ปู่ย่าตายาย ที่พูดว่า สมัยก่อนก็เลี้ยงแบบนี้ ไม่เห็นจะเป็นไร คือคนที่มีอีโก้จัด. ส่วนน้อยที่จะยอมเปลี่ยนความคิด คือนึกออกไหมคะ เค้าอยู่กับความเชื่อแบบนั้นมาทั้งชีวิต มันเปลี่ยนง่ายๆไม่ได้หรอก ใครที่ปู่ย่าตายายยอมเชื่อหมอ เราบอกเลยค่ะ คุณโชคดีมาก
แม่สามีเราก็เป็นหนึ่งในคนที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราโชคดี ที่เค้าเชื่อหมอ เค้ายอมรับการตัดสินใจ ถึงบางอย่างที่เราทำมันไม่ตรงกับที่เค้าเชื่อก็ตาม
ถ้าเค้าไม่ฟังหมออีกจะทำไง?
ป้าๆน้าๆที่บ้านเราค่ะ ตอนเราท้อง ไปหาหมอ เอามาเล่าให้เขาฟัง ว่าหมอพูดงี้ๆ เขาหัวเราะเยาะแล้วบอกว่า อย่าเชื่อหมอมากนัก (อ้าว?!?!)
สิ่งที่ต้องทำคือ คุณต้องเด็ดขาด สามีคุณต้องช่วย และอยู่ข้างคุณ นี่คือลูกคุณ.. ใช่ค่ะที่ว่าลูกคุณคือหลานเค้า แต่นี่คือลูกคุณ ไม่ใช่ลูกเค้า เห็นเค้าป้อนกล้วยลูก บอกเลย ว่าไม่เอา หนูไม่ทำแบบนี้ค่ะแม่
พาไปกวาดยา อุ้มห้ามไว้เลย ว่า ไม่เอาค่ะ ไม่ไป เดี๋ยวยาตีกันกับยาหมอ อะไรก็ว่าไป. ถ้าเค้ามีเหตุผลมาค้าน บอกคำสุดท้ายว่า ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าเป็นอะไรเดี๋ยวหนูพาลูกไปหาหมอเอง
ที่สำคัญสามีคุณต้องช่วยค่ะ ถ้าไม่กล้าขัดแม่ ก็ข่วยอยู่เฉยๆ อย่าเข้ามาบอกว่า ตามใจแม่เถอะ
เพราะไม่งั้น มันจะยากกว่านี้
ปล. คำแนะนำอาจจะเหมาะกับแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน หากคิดว่าคำแนะนำนี้ไม่เหมาะที่จะไปปรับใช้ ก็ผ่านไปนะคะ
แต่ที่แนะนำเพราะเคยหงอกับแม่สามี แล้วเค้าเลยคิดว่าเราทำอะไรไม่เป็น ให้เค้าจัดการ เค้าเลยจะคอนโทรลชีวิตเราและลูกเรายังไงก็ได้ แต่พอเราเด็ดขาด เขาจะรู้สึกว่าเราจัดการได้ นี่ลูกเรา เค้าก็จะเคารพการตัดสินใจไปปริยาย ค่ะ
อย่างเรามา ตปท แรกๆเค้าก็ตกใจ ที่ให้ลูกเราล้างก้นทุกเช้า คือบ้านเค้าไม่ล้างไง ล้างเฉพาะตอนอาบนเำ แล้วอาบกันกี่วันหนอะ คือ ถึงจะอาบน้ำตอนกลางคืน แต่พอตอนเช้า ก้นทุกคนมันจะเหม็นอีกอยู่ดี มันก็ต้องล้างปะ เค้าตกใจ และไม่พอใจมากเพราะเค้าคิดว่าเราเยอะ 5555 แต่เราไม่สนใจ เราบอกไปเลยว่า ลูกหนูต้องล้างก้นทุกเช้า ไม่อาบน้ำไม่เป็นไร แต่ก้นต้องล้าง หลังๆมาเค้าก็เริ่มชินค่ะ แต่ตอนลูกเราไปอยู่บ้านเค้า เค้าก็ให้ล้างบ้างไม่ล้างบ้าง แต่เราก็ปล่อยผ่าน เพราะมันนิดๆหน่อยๆ
แต่เคสของคุณ เรื่องป้อนกล้วย กวาดยาในเด็กเล็กนี่ อันตราย ยอมไม่ได้ค่ะ
การทะเลาะกัน มันเป็นสิ่งที่ควรเลี่ยงใช่ค่ะ แต่ในบางครั้ง ความขัดแย้งมันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีโกรธกันบ้างอะไรบ้าง แต่หลังจากนั้นต้องให้เวลากันและกันในการปรับตัว เรื่องมันจะไม่ใหญ่โตนะคะ
แต่ถึงกระนั้น เราก็เข้าใจ จขกท นะคะ
พาเค้าไปฟังหมอ ลองดู อาจจะได้ผล แต่ ด้วยความมีอีโก้ เราเชื่อว่า ปู่ย่าตายาย ที่พูดว่า สมัยก่อนก็เลี้ยงแบบนี้ ไม่เห็นจะเป็นไร คือคนที่มีอีโก้จัด. ส่วนน้อยที่จะยอมเปลี่ยนความคิด คือนึกออกไหมคะ เค้าอยู่กับความเชื่อแบบนั้นมาทั้งชีวิต มันเปลี่ยนง่ายๆไม่ได้หรอก ใครที่ปู่ย่าตายายยอมเชื่อหมอ เราบอกเลยค่ะ คุณโชคดีมาก
แม่สามีเราก็เป็นหนึ่งในคนที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราโชคดี ที่เค้าเชื่อหมอ เค้ายอมรับการตัดสินใจ ถึงบางอย่างที่เราทำมันไม่ตรงกับที่เค้าเชื่อก็ตาม
ถ้าเค้าไม่ฟังหมออีกจะทำไง?
ป้าๆน้าๆที่บ้านเราค่ะ ตอนเราท้อง ไปหาหมอ เอามาเล่าให้เขาฟัง ว่าหมอพูดงี้ๆ เขาหัวเราะเยาะแล้วบอกว่า อย่าเชื่อหมอมากนัก (อ้าว?!?!)
สิ่งที่ต้องทำคือ คุณต้องเด็ดขาด สามีคุณต้องช่วย และอยู่ข้างคุณ นี่คือลูกคุณ.. ใช่ค่ะที่ว่าลูกคุณคือหลานเค้า แต่นี่คือลูกคุณ ไม่ใช่ลูกเค้า เห็นเค้าป้อนกล้วยลูก บอกเลย ว่าไม่เอา หนูไม่ทำแบบนี้ค่ะแม่
พาไปกวาดยา อุ้มห้ามไว้เลย ว่า ไม่เอาค่ะ ไม่ไป เดี๋ยวยาตีกันกับยาหมอ อะไรก็ว่าไป. ถ้าเค้ามีเหตุผลมาค้าน บอกคำสุดท้ายว่า ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าเป็นอะไรเดี๋ยวหนูพาลูกไปหาหมอเอง
ที่สำคัญสามีคุณต้องช่วยค่ะ ถ้าไม่กล้าขัดแม่ ก็ข่วยอยู่เฉยๆ อย่าเข้ามาบอกว่า ตามใจแม่เถอะ
เพราะไม่งั้น มันจะยากกว่านี้
ปล. คำแนะนำอาจจะเหมาะกับแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน หากคิดว่าคำแนะนำนี้ไม่เหมาะที่จะไปปรับใช้ ก็ผ่านไปนะคะ
แต่ที่แนะนำเพราะเคยหงอกับแม่สามี แล้วเค้าเลยคิดว่าเราทำอะไรไม่เป็น ให้เค้าจัดการ เค้าเลยจะคอนโทรลชีวิตเราและลูกเรายังไงก็ได้ แต่พอเราเด็ดขาด เขาจะรู้สึกว่าเราจัดการได้ นี่ลูกเรา เค้าก็จะเคารพการตัดสินใจไปปริยาย ค่ะ
อย่างเรามา ตปท แรกๆเค้าก็ตกใจ ที่ให้ลูกเราล้างก้นทุกเช้า คือบ้านเค้าไม่ล้างไง ล้างเฉพาะตอนอาบนเำ แล้วอาบกันกี่วันหนอะ คือ ถึงจะอาบน้ำตอนกลางคืน แต่พอตอนเช้า ก้นทุกคนมันจะเหม็นอีกอยู่ดี มันก็ต้องล้างปะ เค้าตกใจ และไม่พอใจมากเพราะเค้าคิดว่าเราเยอะ 5555 แต่เราไม่สนใจ เราบอกไปเลยว่า ลูกหนูต้องล้างก้นทุกเช้า ไม่อาบน้ำไม่เป็นไร แต่ก้นต้องล้าง หลังๆมาเค้าก็เริ่มชินค่ะ แต่ตอนลูกเราไปอยู่บ้านเค้า เค้าก็ให้ล้างบ้างไม่ล้างบ้าง แต่เราก็ปล่อยผ่าน เพราะมันนิดๆหน่อยๆ
แต่เคสของคุณ เรื่องป้อนกล้วย กวาดยาในเด็กเล็กนี่ อันตราย ยอมไม่ได้ค่ะ
การทะเลาะกัน มันเป็นสิ่งที่ควรเลี่ยงใช่ค่ะ แต่ในบางครั้ง ความขัดแย้งมันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีโกรธกันบ้างอะไรบ้าง แต่หลังจากนั้นต้องให้เวลากันและกันในการปรับตัว เรื่องมันจะไม่ใหญ่โตนะคะ
แสดงความคิดเห็น
ประโยค...เมื่อก่อนก็เลี้ยงแบบนี้กันทุกคนไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย...ใช้ได้ในยุค 2018หรอ?
เช่น จะป้อนกล้วยน้ำว้า ตอน 3เดือน
จะพาไปกวาดยา อันนี้แม่ยังไม่รู้จักเลย แต่ที่อ่านมาและเพื่อนๆบอก มันสกปรกและอันตราย
เครียดมากค่ะ อยากหอบลูกกลับบ้านวันละร้อยรอบ