ทำไมประเทศเราไม่ทำแบบญี่ปุ่น ให้คลื่น c-band และ 28 Ghz ให้ผู้ประกอบการเดิมทำ 5G ไปเลย เพื่อภาระไม่ตกกับผู้บริโภค

กระทู้คำถาม
อ่านข่าวเหมือนจะมีแนวทางประมูล 700 รวมกันกับ 28 Ghz ซึ่งก็คงต้องไปสู้ราคากัน มีโอกาสที่จะได้คลื่นที่ราคาแพงอยู่ ซึ่งภาระก็ต้องมาตกกับผู้บริโภคด้วย ทำให้อาจใช้ 5G ในคุณภาพที่ต่ำลง หรือไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

ก็น่าจะมอบใบอนุญาตคลื่น 3.5 Ghz,4.5 Ghz และ 28 Ghz ให้ผู้ประกอบการรายเดิมไปเลย จะได้ไม่มีภาระทางการเงินมาก และง่ายต่อการลงทุนโครงข่ายให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุมได้เร็วยิ่งขึ้น เป็นที่ประทับใจของผู้ใช้บริการ

  หากมอบใบอนุญาตคลื่น c-band และคลื่น 28 Ghz ให้ผู้บริการไปเลย ทำให้ผู้ประกอบไม่ต้องแบกรับต้นทุนค่าคลื่นที่กล่าวมา ก็สามารถวางโครงข่ายที่ครอบคลุมและมีคุณภาพได้ง่ายขึ้น ซึ่งก็น่าจะให้กสทช.ออกกฎเรื่องความครอบคลุม ภายในกี่ปีครอบคลุมกี่% ของประชากร และคุณภาพเน็ต 5G ต้องประมาณไหน ถ้าไม่ได้คุณภาพจะมีชดเชยอย่างไรบ้าง เช่น วันนี้ 5G ไม่ได้คุณภาพ พรุ่งนี้มีชดเชยด้วยเน็ตไม่อั้น 6 mbps เล่นได้ทั้งวัน เป็นต้น
  แล้วการประมูลคลื่นก็ประมูลเพียง 700,2600 ก็พอ เพราะ 2 คลื่นนี้มีราคาในตัวมันเอง ได้ระดับหนึ่งอยู่ ซึ่งก็คงมากกว่า 3.5 Ghz และ 28 Ghz

  และถ้าจะขยายโครงข่ายให้เร็ว ก็น่าจะมีบริษัทโทรคมนาคมที่เกิดจากการควบรวมของ cat tot เข้ามาช่วยวางโครงข่ายด้วย เพราะเท่าที่ทราบข้อมูลเดิม เหมือนกับบริษัทพวกนี้ถ้าถึงปี 68 คลื่นหลุดจากมือหมด ก็ไม่มีทรัพย์สินพอให้เลี้ยงตัวนะ เพราะมีแค่เสาเท่านั้น แต่ถ้าเสามีจำนวนมาก และมีผู้ประกอบการร่วมกันเช่าใช้หลายราย ก็น่าจะมีรายได้ มีเงินเลี้ยงตัวพอสมควรนะ
  สมมติว่า มีค่าย 1  ค่าย 2  ค่าย 3 มีเสา 2100 ค่ายละ 30,000 เสาอยู่แล้ว พอประมูล 2600 มา ก็ให้ทุกค่ายเอา 2600 ไปติดตั้งบนเสาเดิมทั้งหมดก็จะได้ 2600 จำนวน 30,000 เสา และหากบริษัทโทรคมนาคมวางเสาให้เช่าอีก 20,000 เสา ก็ให้ทุกค่ายเอา 2600 ไปติดตั้งบนเสาเช่าอีก 20,000 เสา ทีนี้ทุกค่ายก็จะมี 2600 ทั้งหมด 50,000 เสา ก็จะช่วยลดภาระการลงทุนตั้งเสาของผู้ประกอบการรายเดิม และช่วยให้คลื่นความถี่สูงไปครอบคลุมประชากรได้ง่ายขึ้น

  ถ้าให้บริษัทโทรคมนาคมมาทำจริง ก็ให้สร้างเสาเพื่อเอาไว้ให้แต่ละค่ายติดตั้งเฉพาะอุปกรณ์ความถี่สูงๆ เช่น 2600,3500 mhz และ 28 Ghz ทำนองนี้ เพราะทุกค่ายมี 2100 ไม่เกิน 35,000 เสาก็น่าจะเพียงพอแล้ว คงไม่ต้องเอา 2100 ไปติดตั้งบนเสาเช่าเพิ่มอีก และเสาเช่านี้ก็น่าจะมีส่วนสร้างรายได้ผู้สร้างให้เช่า อีกยาวนานหลาย 10 ปี เพราะตั้งแต่ยุค 5G ไปถึงยุค 6G/7G คงใช้ความถี่ระดับ 28 Ghz จนไปถึง terahertz ซึ่งคงต้องใช้เสาจำนวนมากถึงจะความคลุมได้ ดูแล้ว cat กับ tot ที่ควบรวมมา ถ้าวางแผนวางเสาให้เช่าดีๆ คงมีรายได้เลี้ยงตัวเองระยะยาว

  ส่วนคลื่นความถี่ c-band ขึ้นไป น่าจะเป็นสิ่งที่ภาครัฐให้ผู้ประกอบการไปเลย เพื่อวางโครงข่าย 5G ให้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรม แล้วภาครัฐไปหวังผลตอบแทนทางเศรษฐกิจเอา เหมือนกับรถไฟความเร็วสูงที่ค่าตั๋วถูกมาก แบบยอมขาดทุน แต่ภาครัฐก็ยอมทำ เพราะไปเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ด้านอื่นเอา หรือสร้างถนนแบบไม่มีค่าตั๋วชดเชย แต่ภาครัฐก็เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่