เที่ยวโตเกียว ครั้งแรก คนเดียว ฉบับสาวสายคอส

อมยิ้ม02อมยิ้ม02อมยิ้ม02อมยิ้ม02
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาวพันทิปทุกท่าน
วันนี้เราจะมารีวิวทริปโตเกียว ครั้งแรก คนเดียว ของเราค่ะ
แน่นอนว่าเป้าหมายหลักของเราในครั้งนี้คือ คอสเพลย์ + กิน/เที่ยว + ชอป
แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะอยู่แต่กับคอสเพลย์นะคะ
เราก็จะกินเที่ยวแบบคนทั่วไป และชอปกู้ดส์อะไรบ้างเล็กน้อยนางพญาเม่า

ก่อนเดินทางเราก็มีสมุดไว้จดข้อมูลหลายๆอย่างค่ะ กันลืม
คัดกรองข้อมูลมาจากเว็บบ้าง หนังสือบ้าง พันทิปบ้าง เพื่อนบ้างอมยิ้ม33
จดเฉพาะที่ตัวเองสนใจจะได้หาง่ายๆค่ะ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ข้อมูลโดยรวมสำหรับทริปนี้คืออมยิ้ม31
เวลา - 5 วัน (ถึงญี่ปุ่นวันที่ 11ตอนเช้า-กลับวันที่ 15 ตอนเช้า)
งบ - 50,000 (รวมตั๋วและที่พัก)
ทริปนี้เราไปคนเดียว จึงเลือกนอนเป็นโรงแรมแคปซูลค่ะ ตกคืนหละ 600-700บ./คืน
แล้วเวลาเที่ยวก็น้อยมาก จึงเลือกเป็นที่เดินทางสะดวก และอยู่ในย่าน Akihabara เลย
(เปิดดูไฟล์ทและโรงแรม)
เนื่องจากเวลาที่มีอันน้อยนิด เราจึงมีเป้าหมายแค่ในโตเกียวเท่านั้น
ไม่ไปที่ไกลๆเเบบฟูจิ หรือนอกเมือง  แล้วก็ไม่ไปที่สุดฮิตและใช้เวลาทั้งวันแบบดิสนีย์
แต่เน้นอะไรที่ค่อนข้างเฉพาะสาย ที่แบบที่พาครอบครัวหรือเพื่อนไปอาจจะไม่สนุก
แต่เราก็แอบเจอฟูจิซังตอนก่อนเครื่องลงด้วยนะคะ อมยิ้ม02อมยิ้ม02อมยิ้ม02[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โชคดีจริงๆที่ตื่นค่ะ 55555

มาดูสถานที่ Target ที่เราสนใจกันนะคะ เพี้ยนปักหมุด
(ไม่ใช่ว่าจะไปทั้งหมดนะคะ คือที่สำคัญต้องเก็บ แต่อะไรที่เผื่อๆไว้ถ้าไม่ทันค่อยมาตำซ้ำเอาอมยิ้ม17)
1. Onepiece Tower : เป็นที่ที่ต้องไปค่ะ เราอินกับเรื่องนี้มาก ตั้งตารอและศึกษาโปรแกรมอย่างละเอียด 555
2. Tokyo Tower : อยู่ที่เดียวกับวันพีชค่ะ มาแล้วก็ควบไปเลยหละกัน ได้เช็คอินให้ขุ่นแม่ที่บ้านเห็นบ้าง
3. Harajuku  : ที่นี่เป็นที่ในฝันที่อยากไปตั้งแต่เด็กๆ เลยคิดว่าจะไปในวันอาทิตย์ให้ได้เลย อยากไปยืนชื่นชมปลื้มปลิ่มความnew culture ตรงนี้มากๆ
4. Cosplay Studio (มีเยอะกว่านี้)
   - HacoStadium : รอบนี้มาเก็บที่นี่ก่อนค่ะ สตูฯเค้าดีจริงๆค่ะ
   - Booty Studio : รอบหน้าจะไปลองที่นี่ค่ะ
5. Cosplay Shop
   -Ascos, Akihabara : ไปโดนมาแล้วค่ะ
   -Donqijote, Akihabara : ไปโดนมาแล้วค่ะ
   -Cospatio, Akihabara :  ไปมาแต่แบตหมดไม่ได้ถ่ายรูป 555
   -Assit Wig, Akihabara : หาไม่เจอค่ะ แบตหมดจะเสิร์ชก็ไม่ได้ 555 เวลาไม่พอด้วย 5555555555
5. Figure, Nendoroid, Toy oth
   -Akihabara Area : แค่ไปดงที่ใช่ คุณก็ไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้อีกเลยจ้า......
   -Otome Road Area : เงินหมดเลยไม่ไปดีกว่าค่ะ กลัวหนี้บานตระไท
   -Nakano Broadway Area : เหตุผลเดียวกันก็เลยไม่ไปค่ะ 55555
6. Shopping ขนม. คสอ. ยา บลาๆ
   -Akihabara area : แถวนี้ก็ย่านการค้าค่ะเลยคิดว่าหลายๆอย่างซื้อจากที่นี่ก็ได้
   -Ameyoko : แถวนี้ก็ย่านชอป ของถูกก็เยอะ แค่ต้องระวังของปลอม
7. Asakusa


สุดท้ายเราก็ได้แผนคร่าวๆ โดยอ้างอิงจากความเป็นจริง และไม่หลวมเกินไป
ดูยากไปมั้ยคะ 5555
แผนเที่ยวเราค่อนข้างหลวม(ดูเหมือนหลวม แต่จริงๆเราอยากทำไปหมดทุกอย่างเลยค่ะ เหมือนจะไม่พอ)
ตอนเขียนแผนตอนแรกเราปักหมุดเกือบทุกที่เลยค่ะ 55555 พอมาคำนวนเวลาแล้วเศร้าใจ ถอนหมุดกันไม่ทันเลยจ้าเม่าโศก

**ทริปนี้อาจไม่เน้นวิธีการเดินทางมาก ถ้าสถานที่นั้นๆเป็นที่ๆคนนิยมไปและมีรีวิวเยอะนะคะ ทางเราก็ใส่ข้อมูลพอเป็นกระไส อิอิ
***กระทู้นี้ตำหนิติเตียนได้ตามสบาย จะว่าสิ้นเปลืองอะไรยังไงก็ได้ค่ะ เราแค่พร้อมเปย์และอวยเมน
****เรารู้สึกว่าเก็บไม่ครบ แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ เราจะไปซ้ำแน่นอนเพี้ยนลาเวนเดอร์

เรามาเริ่มการเดินทางครั้งนี้กันเลยค่ะ เย่เม่าดี๊ด๊า
เครื่องลงปุ๊บ หลังจากทนฟังเสียงคนข้างๆนอนกรนตลอดทาง (ชีวิตไม่ค่อยดีเลยเน้าะ) เราก็รับประเป๋าและผ่านตม.ภายในเวลาประมาณ 30-40นาที
ตอนผ่านตม.มีจนท.คุณป้าและคุณตาที่พูดไทยได้นิดหน่อยด้วย (กดรีข้าม..)ฟีลทุกอย่างเป็นญี่ปุ่นหมดเลยค่ะ ตั้งแต่เห็นคนขนกระเป๋ายังจนท.สนามบินก็รู้สึกได้เลยว่านี่แหละ  โคตรยุ่น!!!อมยิ้ม02 ไม่รู้คิดไปเองคนเดียวมั้ย 555
หลังจากผ่านตม.มาแบบ ....ไม่ถามอะไรเลย.....แค่พลิกๆพาสปอร์ตแล้วปล่อยเราไป  (คืออยากคุยกับตม.ค่ะ ตม.หล่อมาก หน้าใสกิ๊กอมยิ้ม02)
โอเคค่ะ เค้าปล่อยเรา เราก็ต้องเดินไปตามทางของเรา หาจุดแลกตั๋วรถ Skyliner ซึ่งเราซื้อออนไลน์ไว้ค่ะ เป็น SkylinerOneway+Subway24hr
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ลิงค์ http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/e-ticket/en/ticket/skyliner-subway/index.php
ข้อมูลเพิ่มเติมhttp://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/th/sp/tickets/subway.php
ตามที่บอกว่าเราเที่ยวแค่ในโตเกียว เพราะฉะนั้นเราจะซื้อกันแค่พาสของ Subway & Metro ค่ะ
Day1     Skyliner+24hr Subway
Day2     N/A (วันนี้ใช้แค่ JR เราจะไม่ใช้ Pass กันค่ะ)
Day3-5  72hr Subway
Day5     Skyliner

Day1 ลงเครื่อง > ไปฝากกระเป๋า > ไปเที่ยว
หลังจากเดินเป็นกะเหรี่ยงในสนามบินอยู่นาน เราก็เพิ่งจะรู้ว่าเคาท์เตอร์ Keisei และ Skyliner ทั้งหมดนั้นเป็นที่ขายอย่างเดียว ถ้าจะแลกตั๋วต้องไปที่ Skyliner Informationชั้นล่างจ้า ทุกคนอาจจะรู้แล้ว แต่เราเพิ่งรู้ค่ะ มันต้องเป็นที่มี Information แง...(รู้สึกว่าตัวเองกะเหรี่ยงสุดๆอมยิ้ม20 )
สำหรับคนที่มาแล้วแต่ความรู้ยังไม่แน่น ที่นี่มีหนังสือคู่มือเป็นภาษาไทยทั้งหมด ทั้งแนะนำที่เที่ยว และการใช้ยานโดยสารสาธารณะทุกรูปแบบ เป็นเล่มๆ หยิบกันได้ฟรีๆเลยจ้า

ปลื้มปลิ่มอีกครั้งตอนนั้น Skyliner มีที่ชาร์ตแบตให้ด้วยค่า เสียบแล้วนอนต่อเลยไม่พูดมากค่ะง่วง55555อมยิ้ม12
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราก็แอบต้องระแวงด้วยนะคะ อย่านอนลืม เราลงกันที่สุดสาย Ueno เปลี่ยนรถมาขึ้น Subway (Hibiya Line) H17 ไปที่ H15 - Akihabara
ถ้าสัมภาระเยอะ พยายามมองหาลิฟท์นะคะ มันจะซ่อนอยู่สักมุมนึง 555
พอถึงสถานีอากิฮาบาระ คราวนี้ก็มี2ทางเลือก
   Exit2 ขึ้นบันได อยู่ใกล้โรงแรมสุด,
   Exit3 มีลิฟท์ อยู่ห่างจากทาง2ไม่เกิน50ก้าว
ตอนนั้นอินี่ไม่ต้องเลือกค่ะ ขึ้นลิฟท์แน่นอน กระเป๋าลากเรา2ใบ
เราขึ้นลิฟท์ไปเจอห้าง Yodobashi เลยค่ะ สะดวกแท้ ออกมาจากลิฟท์ก็มองไปทางถนนที่มีทางโทรลเวยนะคะ เลี้ยวซ้ายแล้วเดินขนาบถนนไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตรงไปเจอถนนที่ต้องข้ามครั้งแรกจะเจอตึกนี้ค่ะ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราเดินตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายซอยถัดไป เลี้ยวขวาอีกทีก็เจอโรงแรมเลย (รวมไม่ถึง100ก้าวจากสถานีอมยิ้ม36)
ระหว่างทางคือร้านอาหารหนาแน่นมาก มีเซเว่นด้วย มีร้านนวดด้วย นวดกระปู๋วก็มี เพี้ยนหลงรัก
เพี้ยนลอย
แปะรูปหน้าโรงแรมจากกูเกิ้ลนะก๊ะ โรงแรมเป็นสีชมพูและดูผู้หญิงฝุดๆเพี้ยนแบ๊ว
Akihabara Bay Hotel (Female only) นะจ๊ะ

22/11/2561 อัพเดต
เราจะโปรโมทโรงแรมกันให้สุด แล้วค่อยไปต่อเรื่องเที่ยวแต่ละวันนะคะ เพราะเรารู้สึกว่าโรงแรมนี้โอเคจริงๆ ควรค่าเเก่การแนะนำ

ก่อนอื่นก็จัดข้อมูลโรงแรมก่อนค่ะ
เวลาเช็คอิน 16.00
เวลาเช็คเอาท์ 10.00
เครื่องใช้ส่วนตัว/1วัน - ผ้าขนหนู2ผืน ชุดนอน หวี แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ที่อุดหู
อื่นๆ - เมคอัพคลีนซิ่ง โฟมล้างหน้า โทนเนอร์ โลชั่น เอสเซ้นผม แชมพู ครีมนวด สบู่เหลว
สิ่งอำนวยความสะดวก -ลอคเกอร์ ไดร์เป่าผม เครื่องดัดลอนไฟฟ้า เครื่องซักอบแห้ง เตารีด ล็อกเกอร์ ไมโครเวฟ เครื่องทำน้ำร้อน ตู้กดน้ำ

ตอนเช็คอิน สามารถใช้เเค่พาสปอร์ตนะคะ แต่เพื่อความรวดเร็วถ้ามีใบยืนยันการจองก็จะเร็วกว่า
เช็คอินเสร็จเราต้องเอารองเท้าไปใส่ตู้รองเท้า ให้หยิบสลิปเปอร์ในตู้มาใส่แทน แล้วนำกุญแจไปให้พนง. พนักงานจะเก็บกุญแจตู้รองเท้าไปและเอาริสแบรนด์ให้เราค่ะ ริสแบนมีไว้เปิดประตูในชั้นที่เราอยู่เท่านั้น และมีกุญแจที่สามารถเปิดลอคเกอร์ของเราได้ค่ะ
นอกจากนั้นเราจะได้เอกสารประกอบ เพื่อทำความเข้าใจ

เราได้ห้องชั้นบนสุด นั้นก็คือ ชั้น 5
ชั้นทื่เราอยู่จะต่างจากทุกชั้นนั่นก็คือ เปิดประตูลิฟท์ออกมาแล้วจะมีโซฟาและที่กว้างๆค่ะ แล้วถึงจะเป็นโซนที่พัก
ชั้นอื่นที่เราแอบเปิดดูทุกชั้น(ซนค่ะ555อมยิ้ม16) ต้องใช้ริสแบนไปแสกนก่อนถึงจะเข้าได้ ไม่มีโซฟา ไม่มีพื้นที่กว้างๆ ลองดูตามรูปนะคะ

กลับไปที่โซนที่พักชั้น5 เราแสกนริสแบนเข้าไปก็เจอห้องลอคเกอร์เก็บสัมภาระค่ะ ห้องสะอาดมาก มีกระจกบานใหญ่ มีรูปผู้ในท่านอนแปะอยู่ตามกำแพง สำหรับเซอร์วิสสาวๆ อมยิ้ม22ลอกเกอร์เป็นทรงยาว เลขตู้ลอกเกอร์ กับเลขห้องแคปซูลเราจะเป็นเลขเดียวกัน ดูบนริสแบนได้เลยค่ะ  ถ้าหากเลี้ยวซ้ายเป็นโซนห้องแคปซูล เลี้ยวขวาเป็นห้องน้ำ(สุขา3 อ่างล้างหน้า1)
รูปลอคเกอร์ ยืมของโรงแรมมาเลย>>[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่