มาดู วัดป่าหลวงตาบัว ในปัจจุบัน ในวันที่ไม่มีเสือ ในวันที่เรามาให้สัตว์ดูแทน

วันนี้ขออนุญาตพาไปดู ที่วัดป่าหลวงตาบัว ถ้าผมเรียกชื่อผิดก็ขออภัยนะครับ  โดยส่วนตัวไม่เคยมาที่นี่มาก่อน  ก็ได้แต่ฟังข่าวคราวที่ผ่านมา ด้วยว่าจะจริงจะเท็จ เช่นไร อันนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ไป



วันนี้จังหวะพอดี ขอเข้าไปดู ตอนแรกคิดว่า ยังจะพอมีเสือให้เห็นอยู่บ้าง หรือยังเป็นสถานที่ให้คนเข้าไปเยี่ยมชม เหมือนสมัยก่อนที่คนเยอะแยะ


แต่วันนี้เข้าไปแล้วก็ตกใจเล็กน้อย คือ เป็นเหมือนสถานที่ร้างแห่งนึง ที่ปิดตัวไปแล้ว    แต่มีเจ้าหน้าที่เฝ้าประตูอยู๋คนนึง ก็ถามว่าสามารถเข้าไปได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าเข้าไปได้เลย แต่ไม่มีเสือแล้ว  ก็เลยลองขับรถเข้าไปดูกัน   อันนี้ออกตัวก่อนว่า ส่วนใหญ่จะอยู่บนรถ ไม่กล้าลงไปจริงๆ  เพราะบรรยากาศมันเงียบ และตอนแรกมีรถผมคันเดียว  ขับเข้าไปเจออีกคัน มาดูสิงโต คือมีกันสองคันแค่นี้  กับเจ้าหน้าที่ด้านในอีกคนนึง

มันเหมือนกับว่า เราเอาตัวเรา มาให้สัตว์ดู มากกว่า



ทางเข้าก็จะมีพวกวัว กวาง อยู่ประปรายอยู่ในส่วนแรก ก่อนจะเข้าไปอีกประตูนึง  สัตว์เหล่านี้ปรี่เข้ามาที่รถทันที ด้วยคิดว่าคงจะมีอาหารมาให้หรือเปล่าก็ไม่รู้  บรรยากาศเงียบเหงา วังเวงกันเลยทีเดียว








เข้าประตูส่วนด้านในมาอีกด้านก็จะเจอพวกวัว ม้า กวาง   มีหมูป่าอยู่ฝูงนึง  
















ผ่านเข้ามาอีกประตูนึง ทางอาจจะไม่ค่อยดีนะครับ เป็นหินซะส่วนใหญ่ ผมก็ยังเน้นว่า ที่นี่เงียบเหงา  ไม่มีคน มีแต่สัตว์ ถ้ามาคนเดียว อาจจะกลัวได้ง่ายๆ เลย เข้ามาเจอคนมาอีกคันนึงพอดี มาดูสิงโต ที่เหลืออีก 1 ตัว  กำลังกินขาหมู กินเสร็จก็มาส่งเสียงคำรามให้ดูกัน   บอกตามตรงว่าผมเองไม่เคยเจอสิงโตคำรามห่างจากตัวเรา ไม่ถึง 3  เมตรแบบนี้  ขนลุกเลย พลังเสียง  สมแล้วที่เป็นเจ้าป่า เสียงสะท้านกันเลย












เจ้าหน้าที่พามาให้อาหารกวาง จังหวะนี้ลงจากรถ แต่ก็ต้องระวังนิดหน่อย  ฟิลลิ่ง ต่างกันนะครับ กับเขาเขียว ที่เราไปยืนแล้วมีกวางมา เพราะที่นี่กวางตัวใหญ่มาก เหมือนคุณอยู่ท่ามกลางพวกเค้าส่วนใหญ่  อยู่ในพื้นที่ของเค้า  เด็กๆ อาจจะกลัวได้ ต้องระวังกันนิดนึง





















ขับรถเลยมาอีกนิดหน่อย ก็จะเจอหุบเสือป่า ที่วันนี้เงียบสงัด เจ้าหน้าที่ให้ระวังอย่ายืนตรงขอบเพราะดินจะถล่ม ตกลงไป ผมคิดว่าไม่ปางตายก็น่าจะรอดยาก







สุดท้ายก่อนออกมาก็แวะที่ ผมไม่รู้เรียกว่าอะไร เป็นศาลาน่ะครับ มีหลวงพี่ประจำอยู๋  ด้านบนเห็นเจ้าหน้าที่บอกว่า มีองค์พระน้ำหนักทองคำประมาณ 80 บาท แต่อันนี้ผมไม่แน่ใจในรายละเอียดนะครับ  ขออภัย










ออกมาแล้วก็ลงแรงค่าอาหารให้สัตว์เล็กๆ น้อยๆ   

อันนี้ คห.ส่วนตัว ลำพังผมเองไม่รู้อะไรผิดถูกเช่นไร  แต่สุดท้าย สัตว์ที่อยู๋ ไม่รู้เรื่องราวของมนุษย์ว่าเกิดเรื่องอะไรกันขึ้น  เค้าแค่รู้ว่า เค้าจะต้องมีชีวิตรอด  หาอาหารกินประทังชีวิต  ผมเองถ้ามีโอกาสก็อยากจะกลับมาอีกครั้ง  เพราะสัคว์เค้าไม่ได้ผิดอะไร  วันนี้เจอคนรวมทั้งผมเอง เจ้าหน้าที่ ก็ 10 คน กับพระสงฆ์อีก 1 รูป  เงียบเหงามากๆ  ผมคิดว่า คนที่ชอบถ่ายรูปสัตว์ ที่นี่ก็เหมาะดีนะครับ  ใกล้ชิดแน่นอน ใกล้ยิ่งกว่า สวนสัตว์เสียอีก