"ขอขอบคุณทางร้าน bullethouse เป็นอย่างสูงครับ"
DP12 เป็นลูกซองต่อสู้ที่รวมข้อดีของปืนแฝดกับปืนโยนลำไว้ด้วยกัน ผู้ผลิตคือ Standard Manufacturing Co. ตั้งอยู่ในรัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐอเมริกา
ปืนลูกซอง (shotgun) ปกติจะเป็นปืนยาวสำหรับประทับไหล่ยิง (shoulder gun) มีลักษณะพิเศษคือ ภายในลำกล้องเรียบไม่ทำเกลียว และผนังลำกล้องบาง ออกแบบสำหรับยิงกระสุนลูกปราย (shot) หลายสิบถึงหลายร้อยเม็ดรวมอยู่ในกระสุนนัดเดียว เมื่อยิงพ้นลำกล้องจะกระจายแผ่เป็นม่านกระสุน ในงานล่าสัตว์เหมาะสำหรับสัตว์ปีก หรือสัตว์เล็กที่ไม่อยู่นิ่ง อาศัยม่านกระสุนแผ่กว้างช่วยให้ยิงเป้าเคลื่อนที่ได้ผลดีจากระยะ 30–50 เมตร และถ้าเป็นงานต่อสู้ป้องกันตัว ใช้ลำกล้องสั้นกว่า ม่านกระสุนแผ่กว้างกว่า จะเหมาะกับระยะยิงใกล้ถึงปานกลางในช่วง 10–30 เมตร
ตั้งแต่ยุคบุกเบิกตะวันตกของสหรัฐ ปืนลูกซองแฝดแบบหักลำ ใช้ลำกล้องสั้นไม่เกิน 20-22 นิ้ว เป็นปืนคุ้มครองรถม้า (coach gun) ใช้ได้ผลดีกว่าปืนพก และคล่องตัวกว่าปืนยาวไรเฟิล มาถึงยุคใหม่ ปืนยาวติดรถตำรวจมักเป็น “ลูกซองห้านัด” คือแบบ “โยนลำ” (pump action) รูปแบบมาตรฐานคือ ลำกล้อง 18-20 นิ้ว บรรจุกระสุนในหลอดใต้ลำกล้องได้ห้านัด เรียกอีกชื่อว่า “ปืนปราบจลาจล” (riot gun) แต่นายตำรวจผู้ใหญ่บ้านเราเคยตั้งชื่อให้ใหม่ว่า “ปืนปราบนักเลง”
ปืนนายแบบสัปดาห์นี้ มาในชื่อ DP12 เป็นลูกซองต่อสู้ที่รวมข้อดีของปืนแฝดกับปืนโยนลำไว้ด้วยกัน ผู้ผลิตคือ Standard Manufacturing Co. ตั้งอยู่ในรัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐอเมริกา เป็นปืนที่ออกแบบให้สั้นพิเศษในลักษณะ “บูลพัพ” (bullpup) คือไม่มีไม้พานท้ายต่อจากโครงปืน ประทับยิงโดยใช้โครงปืนยันซอกไหล่ มีแป้นเสริมสปริงเป็นส้นพานท้ายช่วยลดแรงรีคอยล์ โครงปืนเป็นแบบโยนลำสองชุดเชื่อมติดกัน ลำกล้องคู่แบบปืนแฝด ยาว 18.75 นิ้ว พร้อมหลอดแม็กกาซีนสองหลอดคู่รับกัน แต่ละหลอดบรรจุลูกมาตรฐานได้ 7 นัด รวมสองหลอดเป็น 14 กับอีก 2 ในรังเพลิงของแต่ละลำกล้องเป็น 16 นัด ด้านข้างหลอดเจาะช่องให้ตรวจจำนวนกระสุนได้ ตัวปืนยาวตลอดเพียง 29.5 นิ้ว สั้น คล่องตัวดี แต่น้ำหนักตัวปืนค่อนข้างสูง คือ 9.5 ปอนด์ ตั้งแต่ยังไม่บรรจุกระสุน
เมื่อเป็นปืนแบบบูลพัพ ด้ามจับและชุดลั่นไกจึงย้ายไปอยู่ด้านหน้าช่องคัดปลอก ซึ่งการทำงานของ DP12 เหมือนปืนโยนลำแบบที่คัดปลอกและบรรจุกระสุนด้านล่าง ไกปืนมีไกเดียว เหนี่ยวครั้งแรกยิงลำกล้องขวา ครั้งที่สองยิงลำกล้องซ้าย ถ้าขึ้นลำแล้วยังไม่ยิง หรือยิงเพียงหนึ่งนัด กระโจมจะล็อก ต้องดึงตัวปลดที่หน้าโกร่งไกลงจึงจะบริหารกระโจมเพื่อปลดกระสุนได้ ห้ามไกมีให้ทั้งซ้ายขวา ห่วงรับสายสะพายด้านหน้ามีทั้งสองข้าง ด้านหลังเป็นแกนเจาะรูกลับซ้ายขวาได้ตามต้องการ ศูนย์เล็งเลือกได้ โดยติดตั้งบนรางพิคิทินนีมาตรฐาน เช่นเดียวกับด้ามจับกระโจมที่ติดตั้งบนรางด้านล่าง
โดยรวม DP12 เป็นปืนที่รวมข้อดีของลูกซองแฝด คือยิงซ้ำสองนัดได้รวดเร็ว กับปืนโยนลำ คือยิงพลางบรรจุกระสุนเพิ่มไปพลางได้ จำนวนกระสุน 14+2 มากกว่าคู่แข่งที่ใช้หลอดแม็กกาซีนคู่แต่มีเพียงลำกล้องเดียว ตัวปืนค่อนข้างหนัก แนะนำให้ใช้สายสะพายช่วย โดยน้ำหนักตัวปืนมีข้อดีคือ รีคอยล์ต่ำกว่าปืนตัวเบา ลำกล้องทำเกลียวในสำหรับโช้คมาตรฐาน Tru-Choke เปลี่ยนเลือกระดับการบีบม่านกระสุนได้ การออกแบบจัดว่าดี ฝีมือผลิตและวัสดุได้มาตรฐาน มีข้อสังเกตว่า ผู้ที่ฝึกใช้งานปืนโยนลำจนชำนาญจะกระชากกระโจมหลังเหนี่ยวไกทุกครั้ง อาจต้องฝึกใหม่ให้คุ้นกับการเหนี่ยวสองครั้งกระชากกระโจมหนึ่งครั้ง จึงจะใช้งานได้คล่องตัวเต็มที่
ขอบคุณความรู้ดีๆ จาก:...
นสพ.เดลินิวส์ ออนไลน์
คอลัมน์ รู้ลองเลือกปืน
โดย ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 234 แฝดโยนลำ DP12 ดับเบิลปั๊ม 16 นัด
DP12 เป็นลูกซองต่อสู้ที่รวมข้อดีของปืนแฝดกับปืนโยนลำไว้ด้วยกัน ผู้ผลิตคือ Standard Manufacturing Co. ตั้งอยู่ในรัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐอเมริกา
ปืนลูกซอง (shotgun) ปกติจะเป็นปืนยาวสำหรับประทับไหล่ยิง (shoulder gun) มีลักษณะพิเศษคือ ภายในลำกล้องเรียบไม่ทำเกลียว และผนังลำกล้องบาง ออกแบบสำหรับยิงกระสุนลูกปราย (shot) หลายสิบถึงหลายร้อยเม็ดรวมอยู่ในกระสุนนัดเดียว เมื่อยิงพ้นลำกล้องจะกระจายแผ่เป็นม่านกระสุน ในงานล่าสัตว์เหมาะสำหรับสัตว์ปีก หรือสัตว์เล็กที่ไม่อยู่นิ่ง อาศัยม่านกระสุนแผ่กว้างช่วยให้ยิงเป้าเคลื่อนที่ได้ผลดีจากระยะ 30–50 เมตร และถ้าเป็นงานต่อสู้ป้องกันตัว ใช้ลำกล้องสั้นกว่า ม่านกระสุนแผ่กว้างกว่า จะเหมาะกับระยะยิงใกล้ถึงปานกลางในช่วง 10–30 เมตร
ตั้งแต่ยุคบุกเบิกตะวันตกของสหรัฐ ปืนลูกซองแฝดแบบหักลำ ใช้ลำกล้องสั้นไม่เกิน 20-22 นิ้ว เป็นปืนคุ้มครองรถม้า (coach gun) ใช้ได้ผลดีกว่าปืนพก และคล่องตัวกว่าปืนยาวไรเฟิล มาถึงยุคใหม่ ปืนยาวติดรถตำรวจมักเป็น “ลูกซองห้านัด” คือแบบ “โยนลำ” (pump action) รูปแบบมาตรฐานคือ ลำกล้อง 18-20 นิ้ว บรรจุกระสุนในหลอดใต้ลำกล้องได้ห้านัด เรียกอีกชื่อว่า “ปืนปราบจลาจล” (riot gun) แต่นายตำรวจผู้ใหญ่บ้านเราเคยตั้งชื่อให้ใหม่ว่า “ปืนปราบนักเลง”
ปืนนายแบบสัปดาห์นี้ มาในชื่อ DP12 เป็นลูกซองต่อสู้ที่รวมข้อดีของปืนแฝดกับปืนโยนลำไว้ด้วยกัน ผู้ผลิตคือ Standard Manufacturing Co. ตั้งอยู่ในรัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐอเมริกา เป็นปืนที่ออกแบบให้สั้นพิเศษในลักษณะ “บูลพัพ” (bullpup) คือไม่มีไม้พานท้ายต่อจากโครงปืน ประทับยิงโดยใช้โครงปืนยันซอกไหล่ มีแป้นเสริมสปริงเป็นส้นพานท้ายช่วยลดแรงรีคอยล์ โครงปืนเป็นแบบโยนลำสองชุดเชื่อมติดกัน ลำกล้องคู่แบบปืนแฝด ยาว 18.75 นิ้ว พร้อมหลอดแม็กกาซีนสองหลอดคู่รับกัน แต่ละหลอดบรรจุลูกมาตรฐานได้ 7 นัด รวมสองหลอดเป็น 14 กับอีก 2 ในรังเพลิงของแต่ละลำกล้องเป็น 16 นัด ด้านข้างหลอดเจาะช่องให้ตรวจจำนวนกระสุนได้ ตัวปืนยาวตลอดเพียง 29.5 นิ้ว สั้น คล่องตัวดี แต่น้ำหนักตัวปืนค่อนข้างสูง คือ 9.5 ปอนด์ ตั้งแต่ยังไม่บรรจุกระสุน
เมื่อเป็นปืนแบบบูลพัพ ด้ามจับและชุดลั่นไกจึงย้ายไปอยู่ด้านหน้าช่องคัดปลอก ซึ่งการทำงานของ DP12 เหมือนปืนโยนลำแบบที่คัดปลอกและบรรจุกระสุนด้านล่าง ไกปืนมีไกเดียว เหนี่ยวครั้งแรกยิงลำกล้องขวา ครั้งที่สองยิงลำกล้องซ้าย ถ้าขึ้นลำแล้วยังไม่ยิง หรือยิงเพียงหนึ่งนัด กระโจมจะล็อก ต้องดึงตัวปลดที่หน้าโกร่งไกลงจึงจะบริหารกระโจมเพื่อปลดกระสุนได้ ห้ามไกมีให้ทั้งซ้ายขวา ห่วงรับสายสะพายด้านหน้ามีทั้งสองข้าง ด้านหลังเป็นแกนเจาะรูกลับซ้ายขวาได้ตามต้องการ ศูนย์เล็งเลือกได้ โดยติดตั้งบนรางพิคิทินนีมาตรฐาน เช่นเดียวกับด้ามจับกระโจมที่ติดตั้งบนรางด้านล่าง
โดยรวม DP12 เป็นปืนที่รวมข้อดีของลูกซองแฝด คือยิงซ้ำสองนัดได้รวดเร็ว กับปืนโยนลำ คือยิงพลางบรรจุกระสุนเพิ่มไปพลางได้ จำนวนกระสุน 14+2 มากกว่าคู่แข่งที่ใช้หลอดแม็กกาซีนคู่แต่มีเพียงลำกล้องเดียว ตัวปืนค่อนข้างหนัก แนะนำให้ใช้สายสะพายช่วย โดยน้ำหนักตัวปืนมีข้อดีคือ รีคอยล์ต่ำกว่าปืนตัวเบา ลำกล้องทำเกลียวในสำหรับโช้คมาตรฐาน Tru-Choke เปลี่ยนเลือกระดับการบีบม่านกระสุนได้ การออกแบบจัดว่าดี ฝีมือผลิตและวัสดุได้มาตรฐาน มีข้อสังเกตว่า ผู้ที่ฝึกใช้งานปืนโยนลำจนชำนาญจะกระชากกระโจมหลังเหนี่ยวไกทุกครั้ง อาจต้องฝึกใหม่ให้คุ้นกับการเหนี่ยวสองครั้งกระชากกระโจมหนึ่งครั้ง จึงจะใช้งานได้คล่องตัวเต็มที่
ขอบคุณความรู้ดีๆ จาก:...
นสพ.เดลินิวส์ ออนไลน์
คอลัมน์ รู้ลองเลือกปืน
โดย ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช