
วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์หลังการใช้ 'น้ำมันมะรุม' ครบ 1 เดือนค่ะ
เพื่อนๆ รู้จัก 'มะรุม' กันไหม? มะรุมเนี่ยมันเป็นไม้ยืนต้นนะคะ ผลของมันหรือที่เรียกว่าฝักมะรุมก็จะมีลักษณะเป็นฝักคล้ายถั่วฝักยาวเนี่ยแหละค่ะ เพียงแต่เปลือกจะแข็งและหนา มีส่วนคอด ส่วนมนเป็นช่วงๆ และมีดมล็ดมะรุมอยู่ภายในฝัก ซึ่งเจ้าเมล็ดนี้แหละที่เค้าเอามาสกัดเป็นน้ำมันมะรุม

สำหรับเรา เจ้าน้ำมันมะรุมที่ว่านี่ก็เป็นเรื่องใหม่อยู่เหมือนกัน เพราะตอนเด็กๆ ถูกผู้ใหญ่บังคับให้กินแกงส้มมะรุมเพราะบอกว่ามีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ไม่เคยรู้เลยว่ามันสามารถสกัดเป็นน้ำมันเพื่อช่วยดูแลผิวได้ด้วย 🙂

ด้วยความที่เราใช้ผลิตภัณฑ์ออแกนิกซะส่วนใหญ่ ‘เนฮา’ เพื่อนสาผู้มีผิวพรรณที่ละเอียด ที่ชอบอะไรคล้ายๆ กัน เธอก็เลยแนะนำให้รู้จักกับน้ำมันมะรุมขวดนี้ ที่เธอใช้เองและให้ผลลัพธ์ที่ดีมากๆ แค่เคลมด้วยคำพูดไม่พอ เนฮายังเปิดรอยแตกที่ท้องหลังคลอดให้ดูด้วยว่า เธอใช้น้ำมันนี้ทารอยแตกหลังคลอดจนรอยจาง ซึ่งหน้าท้องใสมากเว่อ

จริงๆ ไม่ได้เป็นคนเชื่อใครง่ายๆ เท่าไหร่ แต่เป็นคนชอบพิสูจน์ เพราะด้วยความที่กลิ่นมันมะรุ้มมะรุม เราก็เลยเอาไปทดลองใช้บ้าง ซึ่งใช้ทั้งกับผิวหน้าและผิวตัว หลังจากใช้แล้วสองสัปดาห์ก็เลยอยากจะเอามาเล่าให้ฟังต่อค่ะ เผื่อมีใครที่กำลังมองหาตัวเลือกใหม่ๆ ในการดูแลผิวอยู่ค่ะ
เจ้าน้ำมันมะรุม 100% Pure Moringa massage oil ภายใต้ชื่อแบรนด์ WNC ตัวนี้ ผลิตในไทยแต่ส่งขายต่างประเทศและฮ๊อตฮิตติดตลาดชาวออแกนิกมากๆ ที่ผ่านวิธีการสกัดเย็น ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมปรุงแต่งกลิ่นเลย ในน้ำมันมะรุมขวดนี้มีส่วนผสมของ Vitamin A และ Vitamin E ที่ช่วยในเรื่องของการดูแลผิวเพื่อคนที่ผิวแห้งกร้านอย่างเราโดยเฉพาะเลย
ด้วยความที่เราไม่สนใจผลิตภัณฑ์ที่เร่งผิวขาวอยู่แล้ว แต่จะให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวและช่วยเพิ่มการไหลเวียของโลหิตเข้าสู่เซลล์ผิว ที่ว่ามาทั้งหมดนี้มีอยู่ในน้ำมันมะรุมขวดนี้ทั้งหมดเลยค่ะ
สำหรับส่วนผสมวิตามินเอ ก็ช่วยในเรื่องการผลิตคอลลาเจนให้กับผิว เพื่อช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ผิวหนัง รักษาความยืดหยุ่นและช่วยให้ผิวกระชับ ส่วนวิตามันอี ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ปกป้องผิวจากความเสียหายจากการทำร้ายของแสงแดดและมลพิษทางอากาศ ช่วยลดริ้วรอยและคืนความนุ่มนวลของผิว

สามารถใช้น้ำมันมะรุมเพื่อเติมพลังใหักับผิวได้ทั้งตอนเช้าและก่อนนอนเลย เพียงแค่หยุดใส่ปลายนิ้วนิดๆ และนวดให้ทั่วหน้า น้ำมันมะรุมก็จะค่อยๆ ซึมสู่ผิว ช่วยให้ผิวฟู นุ่มและชุ่มชื้นขึ้นตอนตื่นนอนค่ะ

ส่วนตอนเช้าถ้าใช้ก่อนแต่งหน้าก็จะช่วยให้เครื่องสำอางที่เราทา ติดทนทั้งวันแบบไม่ต้องเติมเลยหละ
.
ใครที่มองหาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าออแกนิก ยี่ห้อ WNC Moringa ที่เราใช้อยู่ก็เป็นตัวเลือกที่ดี
เซิร์สหาจาก facebook page หรือ google ได้เลยค่ะ
[CR] ผลลัพธ์การดูแลผิวจาก ‘มะรุม’ ที่ดีต่อใจจนอยากบอกต่อ : )
วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์หลังการใช้ 'น้ำมันมะรุม' ครบ 1 เดือนค่ะ
เพื่อนๆ รู้จัก 'มะรุม' กันไหม? มะรุมเนี่ยมันเป็นไม้ยืนต้นนะคะ ผลของมันหรือที่เรียกว่าฝักมะรุมก็จะมีลักษณะเป็นฝักคล้ายถั่วฝักยาวเนี่ยแหละค่ะ เพียงแต่เปลือกจะแข็งและหนา มีส่วนคอด ส่วนมนเป็นช่วงๆ และมีดมล็ดมะรุมอยู่ภายในฝัก ซึ่งเจ้าเมล็ดนี้แหละที่เค้าเอามาสกัดเป็นน้ำมันมะรุม
สำหรับเรา เจ้าน้ำมันมะรุมที่ว่านี่ก็เป็นเรื่องใหม่อยู่เหมือนกัน เพราะตอนเด็กๆ ถูกผู้ใหญ่บังคับให้กินแกงส้มมะรุมเพราะบอกว่ามีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ไม่เคยรู้เลยว่ามันสามารถสกัดเป็นน้ำมันเพื่อช่วยดูแลผิวได้ด้วย 🙂
ด้วยความที่เราใช้ผลิตภัณฑ์ออแกนิกซะส่วนใหญ่ ‘เนฮา’ เพื่อนสาผู้มีผิวพรรณที่ละเอียด ที่ชอบอะไรคล้ายๆ กัน เธอก็เลยแนะนำให้รู้จักกับน้ำมันมะรุมขวดนี้ ที่เธอใช้เองและให้ผลลัพธ์ที่ดีมากๆ แค่เคลมด้วยคำพูดไม่พอ เนฮายังเปิดรอยแตกที่ท้องหลังคลอดให้ดูด้วยว่า เธอใช้น้ำมันนี้ทารอยแตกหลังคลอดจนรอยจาง ซึ่งหน้าท้องใสมากเว่อ
จริงๆ ไม่ได้เป็นคนเชื่อใครง่ายๆ เท่าไหร่ แต่เป็นคนชอบพิสูจน์ เพราะด้วยความที่กลิ่นมันมะรุ้มมะรุม เราก็เลยเอาไปทดลองใช้บ้าง ซึ่งใช้ทั้งกับผิวหน้าและผิวตัว หลังจากใช้แล้วสองสัปดาห์ก็เลยอยากจะเอามาเล่าให้ฟังต่อค่ะ เผื่อมีใครที่กำลังมองหาตัวเลือกใหม่ๆ ในการดูแลผิวอยู่ค่ะ
เจ้าน้ำมันมะรุม 100% Pure Moringa massage oil ภายใต้ชื่อแบรนด์ WNC ตัวนี้ ผลิตในไทยแต่ส่งขายต่างประเทศและฮ๊อตฮิตติดตลาดชาวออแกนิกมากๆ ที่ผ่านวิธีการสกัดเย็น ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมปรุงแต่งกลิ่นเลย ในน้ำมันมะรุมขวดนี้มีส่วนผสมของ Vitamin A และ Vitamin E ที่ช่วยในเรื่องของการดูแลผิวเพื่อคนที่ผิวแห้งกร้านอย่างเราโดยเฉพาะเลย
ด้วยความที่เราไม่สนใจผลิตภัณฑ์ที่เร่งผิวขาวอยู่แล้ว แต่จะให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวและช่วยเพิ่มการไหลเวียของโลหิตเข้าสู่เซลล์ผิว ที่ว่ามาทั้งหมดนี้มีอยู่ในน้ำมันมะรุมขวดนี้ทั้งหมดเลยค่ะ
สำหรับส่วนผสมวิตามินเอ ก็ช่วยในเรื่องการผลิตคอลลาเจนให้กับผิว เพื่อช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ผิวหนัง รักษาความยืดหยุ่นและช่วยให้ผิวกระชับ ส่วนวิตามันอี ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ปกป้องผิวจากความเสียหายจากการทำร้ายของแสงแดดและมลพิษทางอากาศ ช่วยลดริ้วรอยและคืนความนุ่มนวลของผิว
สามารถใช้น้ำมันมะรุมเพื่อเติมพลังใหักับผิวได้ทั้งตอนเช้าและก่อนนอนเลย เพียงแค่หยุดใส่ปลายนิ้วนิดๆ และนวดให้ทั่วหน้า น้ำมันมะรุมก็จะค่อยๆ ซึมสู่ผิว ช่วยให้ผิวฟู นุ่มและชุ่มชื้นขึ้นตอนตื่นนอนค่ะ
ส่วนตอนเช้าถ้าใช้ก่อนแต่งหน้าก็จะช่วยให้เครื่องสำอางที่เราทา ติดทนทั้งวันแบบไม่ต้องเติมเลยหละ
.
ใครที่มองหาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าออแกนิก ยี่ห้อ WNC Moringa ที่เราใช้อยู่ก็เป็นตัวเลือกที่ดี
เซิร์สหาจาก facebook page หรือ google ได้เลยค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้