สวัสดีค่ะเมื่อวานนี้เราได้ดู Bohemian Rhapsody แล้วนะจ้ะ หลังจากอยากดูมา 2 อาทิตย์แล้ว รอบหนังมักจะมีตอนดึก โรงภาพยนตร์ที่ฉายก็น้อย จะดูพารากอนก็เป็นโรงที่ราคาแพงอีก คือไม่ลงตัวสักที เมื่อคืนจึงไปดูรอบ 21.30 น.ที่ MBK มาค่ะ หนังเลิกก็ 00.08 น. แล้ว หากหนังไม่สนุกมีหลับแน่นอน
บ่นมาซะยืดยาว เรามาพูดถึงหนังกันเถอะ Bohemian Rhapsody เล่าถึงวง Queen ที่เริ่มจากเป็นวงเด็กมหาวิทยาลัยเล่นในผับทุกคืนวันเสาร์ จนกลายเป็นวงที่โด่งดังที่สุดอีกวงหนึ่งที่มาจากเกาะอังกฤษ เนื้อเรื่องในหนังจะเห็นได้ว่าเล่าอยู่ 2 เรื่อง คือ ความสัมพันธ์ และการทำเพลง เราจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับประวัติวงหรือเรื่องจริงที่อาจจะไม่เหมือนในหนังนะคะ เพราะเราชอบเพลงเขานะ แต่ไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้ขนาดนั้น หากข้อมูลที่เขียนนี้ผิดพลาดประการใดเราต้องขออภัยมา ณ ที่นี้นะคะ
ความสัมพันธ์ในที่นี้แบ่งย่อยๆ เป็น อีก 3 แบบ คือ ความสัมพันธ์ของเฟรดดี้ เมอคิวรี่ นักร้องนำวงควีนกับแมรี่ ภรรยาที่เขาแต่งเพลง Love of my life ให้ เราว่าเป็นความสัมพันธ์ที่น่าสนใจที่สุดในเรื่องเลยล่ะ ผู้ชายคนหนึ่งแต่งงาน มีภรรยาแล้ว รักภรรยามาก ไปทัวร์คอนเสิร์ตที่อเมริกาก็ยังหยอดตู้โทรศัพท์โทรมาหาภรรยาที่อังกฤษ มันต้องมีความรักอยู่พอสมควร แต่เรื่องมันกลับตาลปัตร เมื่อเฟรดดี้พบว่าเขาเป็น bisexual (รสนิยมทางเพศที่ชื่นชอบทั้ง 2 เพศ) เขาตัดสินใจบอกกับแมรี่ ทั้งคู่เลิกรากัน แต่เฟรดดี้ยังคงรักแมรี่มาก อันนี้เราขอใส่ความเห็นส่วนตัวเขาไปนิดนึงนะคะ เรามองว่ามันคือความรู้สึกผิดที่เจือปนอยู่ในความรัก รู้สึกผิดที่ตนไม่สามารถรักแต่ภรรยาของตนเองได้เท่านั้น และรู้สึกผิดที่ไม่สามารถเป็นสามีที่ดีได้

ในส่วนนี้เราสามารถโยงไปถึงความสัมพันธ์ที่ 2 คือ ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมวง ในขณะที่คนอื่นๆ เริ่มมีครอบครัว มีภรรยา และลูก แต่เฟรดดี้กับต้องอยู่คนเดียวในคฤหาสน์หลังใหญ่กับน้องแมว ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนที่เคยสนิทสนมกันอยู่ในตอนแรกก็เริ่มมีรอยบาดหมางเล็กๆ กัน เพราะนิสัยของเฟรดดี้ที่ชอบมาซ้อมดนตรีสาย เอาความคิดของตนเองเป็นใหญ่ แม้ว่าพวกเขาจะบอกว่าอยู่กันเหมือนคนในครอบครัว แต่ในเรื่องการแต่งเพลงใครแต่งก็ถือเป็นลิขสิทธิ์ของคนนั้น แถมยังมีข้อถกเถียงกันโดยตลอดว่าเพลงของใครจะเป็นเพลงที่ได้โปรโมต มันดูเป็นปัญหาที่ไม่รุนแรง แต่พวกเขาก็ปล่อยให้มันค้างคาจนเกิดเป็นอารมณ์ให้ทะเลาะกันได้บ่อยๆ
ในส่วนความสัมพันธ์แบบที่ 3 คือ หลังจากที่เฟรดดี้รู้สึกว่าตนเองสูญเสียแมรี่ และเพื่อนในวงที่ต่างมีภรรยา เขาจึงสนิทกับพอล ผู้จัดการวงที่เป็นคู่ขา และแผนกจัดหาชายหนุ่มมาให้ เขาชักชวนให้เฟรดดี้ออกไปเป็นศิลปินเดี่ยว โดยได้ค่าเซ็นสัญญา 4 ล้านดอลล่าร์เลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้วงควีนจึงต้องยุบไปก่อน เฟรดดี้ที่ไม่มีแมรี่และเพื่อนๆ พบกับจุดวิกฤตของชีวิตใช้ยาเสพติดและปาร์ตี้ sex โดยที่พอลเป็นคนชักนำ และเป็นเอดส์ในที่สุด
ในส่วนของการทำเพลง เราจะเห็นแรงบันดาลใจในการทำเพลงดังอย่าง Bohemian Rhapsody เพลงที่ยาวถึง 6 นาที และเหตุผลที่เพลง We will rock you จะต้องกระทืบเท้า เราชอบมากเลย ใครดูแล้วก็น่าจะชอบเหตุผลเหมือนกับเรานี่แหละ
หนังทั้งเรื่องมีเพลง Bohemian Rhapsody เป็นจุดพีคถึงเหตุผลความโด่งดังว่าวงควีนกล้าที่จะแตกต่าง ชอบความท้าทาย และมีคอนเสิร์ต Live AID เป็นตัวลงของเรื่อง เพราะมันทำให้เฟรดดี้หลุดออกจากบ่วงขอพอลได้ โดยมีแมรี่และเพื่อนๆ ในวงเป็นผู้ช่วยเหลือ ในที่สุดเฟรดดี้ก็สำนึกได้และกลับมาเป็นนักร้องนำวงควีนอีกครั้ง
เราค่อนข้างจะซาบซึ้งกับความสัมพันธ์ของเพื่อน และคนรักแบบนี้นะคะจึงให้ 8.5/10 แม้ว่าเรื่องราวมันจะมากมาย จนไม่สามารถเพ่งไปที่ประเด็นได้เป็นพิเศษ แต่ก็ถือว่าหนังก็พยายามทำให้เรารู้จักวงควีนได้อย่างเต็มที่ของเวลา 2 ชั่วโมง 13 นาทีแล้วล่ะ
ฝากกดติดตามด้วยนะคะ / แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
Page : จะดูหนังอ่ะ
Twitter : JarDoMovie
Bohemian Rhapsody : ความเปรี้ยวซ่าที่บาดลึกทุกความสัมพันธ์
สวัสดีค่ะเมื่อวานนี้เราได้ดู Bohemian Rhapsody แล้วนะจ้ะ หลังจากอยากดูมา 2 อาทิตย์แล้ว รอบหนังมักจะมีตอนดึก โรงภาพยนตร์ที่ฉายก็น้อย จะดูพารากอนก็เป็นโรงที่ราคาแพงอีก คือไม่ลงตัวสักที เมื่อคืนจึงไปดูรอบ 21.30 น.ที่ MBK มาค่ะ หนังเลิกก็ 00.08 น. แล้ว หากหนังไม่สนุกมีหลับแน่นอน
บ่นมาซะยืดยาว เรามาพูดถึงหนังกันเถอะ Bohemian Rhapsody เล่าถึงวง Queen ที่เริ่มจากเป็นวงเด็กมหาวิทยาลัยเล่นในผับทุกคืนวันเสาร์ จนกลายเป็นวงที่โด่งดังที่สุดอีกวงหนึ่งที่มาจากเกาะอังกฤษ เนื้อเรื่องในหนังจะเห็นได้ว่าเล่าอยู่ 2 เรื่อง คือ ความสัมพันธ์ และการทำเพลง เราจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับประวัติวงหรือเรื่องจริงที่อาจจะไม่เหมือนในหนังนะคะ เพราะเราชอบเพลงเขานะ แต่ไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้ขนาดนั้น หากข้อมูลที่เขียนนี้ผิดพลาดประการใดเราต้องขออภัยมา ณ ที่นี้นะคะ
ความสัมพันธ์ในที่นี้แบ่งย่อยๆ เป็น อีก 3 แบบ คือ ความสัมพันธ์ของเฟรดดี้ เมอคิวรี่ นักร้องนำวงควีนกับแมรี่ ภรรยาที่เขาแต่งเพลง Love of my life ให้ เราว่าเป็นความสัมพันธ์ที่น่าสนใจที่สุดในเรื่องเลยล่ะ ผู้ชายคนหนึ่งแต่งงาน มีภรรยาแล้ว รักภรรยามาก ไปทัวร์คอนเสิร์ตที่อเมริกาก็ยังหยอดตู้โทรศัพท์โทรมาหาภรรยาที่อังกฤษ มันต้องมีความรักอยู่พอสมควร แต่เรื่องมันกลับตาลปัตร เมื่อเฟรดดี้พบว่าเขาเป็น bisexual (รสนิยมทางเพศที่ชื่นชอบทั้ง 2 เพศ) เขาตัดสินใจบอกกับแมรี่ ทั้งคู่เลิกรากัน แต่เฟรดดี้ยังคงรักแมรี่มาก อันนี้เราขอใส่ความเห็นส่วนตัวเขาไปนิดนึงนะคะ เรามองว่ามันคือความรู้สึกผิดที่เจือปนอยู่ในความรัก รู้สึกผิดที่ตนไม่สามารถรักแต่ภรรยาของตนเองได้เท่านั้น และรู้สึกผิดที่ไม่สามารถเป็นสามีที่ดีได้
ในส่วนนี้เราสามารถโยงไปถึงความสัมพันธ์ที่ 2 คือ ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมวง ในขณะที่คนอื่นๆ เริ่มมีครอบครัว มีภรรยา และลูก แต่เฟรดดี้กับต้องอยู่คนเดียวในคฤหาสน์หลังใหญ่กับน้องแมว ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนที่เคยสนิทสนมกันอยู่ในตอนแรกก็เริ่มมีรอยบาดหมางเล็กๆ กัน เพราะนิสัยของเฟรดดี้ที่ชอบมาซ้อมดนตรีสาย เอาความคิดของตนเองเป็นใหญ่ แม้ว่าพวกเขาจะบอกว่าอยู่กันเหมือนคนในครอบครัว แต่ในเรื่องการแต่งเพลงใครแต่งก็ถือเป็นลิขสิทธิ์ของคนนั้น แถมยังมีข้อถกเถียงกันโดยตลอดว่าเพลงของใครจะเป็นเพลงที่ได้โปรโมต มันดูเป็นปัญหาที่ไม่รุนแรง แต่พวกเขาก็ปล่อยให้มันค้างคาจนเกิดเป็นอารมณ์ให้ทะเลาะกันได้บ่อยๆ
ในส่วนความสัมพันธ์แบบที่ 3 คือ หลังจากที่เฟรดดี้รู้สึกว่าตนเองสูญเสียแมรี่ และเพื่อนในวงที่ต่างมีภรรยา เขาจึงสนิทกับพอล ผู้จัดการวงที่เป็นคู่ขา และแผนกจัดหาชายหนุ่มมาให้ เขาชักชวนให้เฟรดดี้ออกไปเป็นศิลปินเดี่ยว โดยได้ค่าเซ็นสัญญา 4 ล้านดอลล่าร์เลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้วงควีนจึงต้องยุบไปก่อน เฟรดดี้ที่ไม่มีแมรี่และเพื่อนๆ พบกับจุดวิกฤตของชีวิตใช้ยาเสพติดและปาร์ตี้ sex โดยที่พอลเป็นคนชักนำ และเป็นเอดส์ในที่สุด
ในส่วนของการทำเพลง เราจะเห็นแรงบันดาลใจในการทำเพลงดังอย่าง Bohemian Rhapsody เพลงที่ยาวถึง 6 นาที และเหตุผลที่เพลง We will rock you จะต้องกระทืบเท้า เราชอบมากเลย ใครดูแล้วก็น่าจะชอบเหตุผลเหมือนกับเรานี่แหละ
หนังทั้งเรื่องมีเพลง Bohemian Rhapsody เป็นจุดพีคถึงเหตุผลความโด่งดังว่าวงควีนกล้าที่จะแตกต่าง ชอบความท้าทาย และมีคอนเสิร์ต Live AID เป็นตัวลงของเรื่อง เพราะมันทำให้เฟรดดี้หลุดออกจากบ่วงขอพอลได้ โดยมีแมรี่และเพื่อนๆ ในวงเป็นผู้ช่วยเหลือ ในที่สุดเฟรดดี้ก็สำนึกได้และกลับมาเป็นนักร้องนำวงควีนอีกครั้ง
เราค่อนข้างจะซาบซึ้งกับความสัมพันธ์ของเพื่อน และคนรักแบบนี้นะคะจึงให้ 8.5/10 แม้ว่าเรื่องราวมันจะมากมาย จนไม่สามารถเพ่งไปที่ประเด็นได้เป็นพิเศษ แต่ก็ถือว่าหนังก็พยายามทำให้เรารู้จักวงควีนได้อย่างเต็มที่ของเวลา 2 ชั่วโมง 13 นาทีแล้วล่ะ
ฝากกดติดตามด้วยนะคะ / แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
Page : จะดูหนังอ่ะ
Twitter : JarDoMovie