สวัสดีเพื่อนๆ ที่ได้เห็นโพสต์นี้อยู่ ผมไม่มีวัตถุประสงค์ใดเลย นอกจากการชมภาพยนตร์ แล้วมาแชร์ประสบการณ์ที่ได้จากการชมภาพยนตร์ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่สนใจในการเลือกชมภาพยนตร์
Overlord เล่าถึงเหตุการณ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยที่กองทัพพลร่มของอเมริกา ได้ลงมาที่ฝรั่งเศส ซึ่งถูกนาซีของเยอรมนี เข้ายึดเมือง ซึ่งเหลือรอดได้แค่ไม่กี่คน Boyce (Jovan Adepo) ได้รับคำสั่งจาก Ford (Wyatt Russell) ให้ไปหาหอควบคุมวิทยุ แต่ว่าเขาดันไปเจอแล็บทดลองของเยอรมัน ที่นำศพ มาทำให้มีชีวิต และ มีพละกำลังมหาศาล พวกเขาจึงต้องหยุดยั้งการทดลองครั้งนี้เพื่อไม่ให้เหตุการณ์บานปลาย
อันที่จริงก็ที่จะได้ดชมในวันศุกร์แบบสบายๆ แต่ทว่าสภาพอากาศดันไม่เอื้ออำนวย พายุเข้า ฝนตก น้ำท่วม เลยต้องพอก่อน และค่อยหาเวลาว่างมาชม
เข้าเรื่องเลย ความน่าชม ของหนังเรื่องนี้ ประกอบด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งความลับของ Bad Robot ที่ชอบหลอกซ้ำซ้อนกับเรื่องของหนังแต่ละเรื่องจะเอาเข้าจักรวาล Coverflied หรือไม่ และแนวของหนังที่เอาหนังทหารมาผสมกับหนังซอมบี้ และการที่เป็นเรต R ทำให้มีความน่าสนใจ

สิ่งที่ทำให้ผมชอบใน Overlord เลยคือ ทีมนักแสดงที่สามารถเล่นได้ดี แต่ละคนดูเด่นในบทบาทที่ได้รับ แต่ที่เด่นที่สุดก็คงเป็นตัว Boyce ที่ให้ตัวละคร ที่เป็นลูกกระจ๊อก มีความ loser ออกมาแล้วทำให้เราชอบ และก็ตัวหมู่ Ford อันนี้โคตรจะเท่ ด้านโปรดักชั่น เป็นอีกส่วนที่ชอบ ฉากต่างๆ ทั้งสงคราม หมู่บ้าน แล็บ มันดูมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ด้านบทก็สามารถเฉลี่ยบทให้ตัวละครมีความเด่นเท่า ๆ กัน และที่สำคัญคือ Makeup Effect ของซอมบี้ ก็ดูมีเอกลักษณ์ของมัน

สำหรับส่วนที่ไม่ชอบเลยก็น่าจะเป็นการปูเรื่องที่ออกจะนาน และการเล่าเรื่องช่วงต้น ที่ออกไปทางน่าเบื่อไปเสียนิด แต่ยังดีที่พอเริ่มกลางเรื่องการสตาร์ความมันส์ก็คงที่ และไม่สะดุด และอีกอย่างที่น่าจะพัฒนาได้คือ support ช่วงท้ายหลัง Climax มันมีประเด็นที่น่าสนใจมาก แต่กลับไม่ได้ขยายต่อ

แต่โดยรวมแล้ว Overlord เป็นหนังซอมบี้ที่ผมชอบในระดับ Top 10 ด้านนนักแสดงสามารถทำได้ดี makeup ที่ดูสยอง ความมันส์ในระดับดี แต่มีบางส่วนที่สามารถเล่าต่อได้ สำหรับคะแนนให้ 3 ดาวครึ่ง ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านรีวิวจนจบครับ.

- เสพภาพยนตร์อย่างมีวิจารญาณ -

ขออนุญาตนำภาพจากตัวอย่างภาพยนตร์ Overlord จาก Youtube ช่อง Paramount Pictures มาใช้ในการประกอบรีวิวภาพยนตร์ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้