ผมอยากถามประสบการณ์มนุษย์เงินเดือนว่าจะสำเร็จได้จริงๆหรือมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้จริงๆหรอครับ ไม่ใช่รวมเงินได้ก้อนนึงแล้วออกจากงานมาทำอย่างอื่น
ผมเคยทำธุรกิจส่วนตัวมาหลายอย่าง แต่ล้มเพราะเศรษฐกิจ ล้มเพราะช่องโหว่กฏหมายย้อนมาเล่นงานบ้าง เคยรุ่งเรืองอยู่3ปี เติบโต แล้ววันนี้ก็ต้องมานั่งทำงานเงินเดือน ผมไม่เคยทนทำที่ไหนได้เกินเดือนเลยคือผมรู้สึกแย่มากๆเวลานั่งนับวันเวลาผ่านไปเวลาเดินช้ามากแล้วมาหักลบค่าใช้จ่ายว่ามันไม่คุ้มกันเลย แต่ก่อนไม่กี่นาทีไม่ต้องลำบากมากมายได้มากกว่านายจ้างในตอนนั้นอีกแต่มาโดนกดขี่ บางทีก็ออกเพราะไม่ชอบสังคมพนักงานด้วยกัน ผมไม่ได้รู้สึกภาคภูมิหรือตื่นเต้นอะไรที่จะต้องไปแก่งแย่งเงินแค่นั้นกับคนพวกนี้เลย ยกตัวอย่างตอนเป็นเด็กเสริ์ฟที่โรงเบียร์จะมีพวกsuper visorหัวหน้างานในกลุ่มแต่ละกลุ่มซึ่งคิดว่าตัวเองใหญ่ มีอำนาจประมาณนั้น สายนิดนั่นนิดนี่หน่อยก็โดนปรับค่าแรง โดนทำงานฟรี1วันบ้างไรงี้ ซึ่งชีวิตผมอยู่สังคมดีๆกว่านั้นได้อีกเยอะผมแค่อยากจะหารายรับมาสู้รายจ่าย แล้วนายจ้างกับเพื่อนพนักงานอัธยาศัยดีต่อกันแชร์ประสบการณ์กัน จะได้อยู่กันนานๆ ไม่ใช่ปากกัดตีนถีบเงินไม่กี่บาท ทุกๆที่ที่เคยทำ แรกๆดีไปหมดงานสบายง่าย พอเริ่มนานขึ้นไป เขาคาดหวังผลงานคาดหวังว่าเราต้องทำได้มากกว่านี้ในทุกๆวัน ผมว่ามันต้องมีจุดพักหย่อนบ้าง ไม่ใช่ต้องบ้าเลือดให้ได้มากขึ้นทุกวัน เงินเท่าเดิม แต่ใช้มากขึ้นทุกวัน ไม่ใช่แรงงานพม่าไง
งานที่ผมเคยผ่านๆมาที่จำได้มีตามนี้
-santafe
-โรงเบียร์
-ผู้ช่วยสัตว์แพทย์
-lotus express
-ขายของตลาดนัด
งานอิสระที่เคยรับเป็นจ็อบ
-pretty boy ตามเทศกาล
-ถ่ายแบบ
-ถ่ายละครเป็นตัวประกอบ
-ถ่ายซีรี่เรื่องนึงแต่ไม่จบ
วุฒิ ป.ตรี ผ่าน ทหารแล้ว ประวัติดี เป็นเดือนสมัยเรียนมหาลัยสมัยนั้นมีแต่คนรู้จักคนเลี้ยงคนอุปถัมสบายถือว่าดังเลยล่ะ แต่ผ่านช่วงวัยรุ่นแสงสีมาแล้วมีภาระมากมายอยากมั่นคงดูแลทุกชีวิตในมือเราได้ เลยหางานมาเรื่อย แต่ก็เจออย่างที่เล่าอะครับ เลยอยากมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับคนที่ผ่านเรื่องพวกนี้มาแล้วทนได้นานๆจนสำเร็จนั่นนี่มีไหม แล้วคุ้มไหมกับค่าแรงหักค่ากินเดินทางอะไรในแต่ละวัน ผมมีภาระเยอะมาก แม่ป่วย ไม่ทำอะไรเลยต้องดูแลใกล้ชิด รถ4คัน ภาษี พรบ. หมา3ตัว กระต่าย1 ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำมัน นั่นนี่เสียค่าบำรุงรักษา ค่าสมาชิกต่างๆ หนักผมหมดเลยมันหนักมาก เพราะสมัยผมรุ่งๆผมก็ซื้อกล้องซื้อรถซื้อหมามาเลี้ยงไม่ได้คิดว่าจะล้มคิดว่ารับไหวในตอนนั้น แต่พอถึงวันที่ตก ก็เริ่มแบกรับไม่ไหว แต่ผมยังยื้ออยู่ แฟนผมวุฒิไม่เท่าผม ไม่มีความสามารถอะไรมาก ออกจะเลือกงานเดินทางอะไรก็ต้องพึ่งผมเท่านั้น ข้อจำกัดเรื่องเวลาสถานที่ทำงานผมก็เยอะอีก รายจ่ายผมจ่าย100%เต็มปากท้องทุกๆวัน ผมเลยรู้สึกหนักเกินไป ในตอนนี้ แต่ก่อนพอไหว ไหนจะเรื่องหมาป่วยแฟนป่วย เรื่องผิวเรื่องแผลเรื่องฟันจิปาถะผมก็อยากให้เขาทำ ผมไม่รู้จะยื้อทุกๆวันยังไงไหวเลย จุดประสงค์งานก่อนสมัครเดี๋ยวนี้ก็หลอกลวงเยอะ คุยกันอย่างพอไปทำเป็นอีกอย่างข้อแม้เยอะ ชอบมีช่องโหว่หลอกเรา
ถามถึงคนทำงานเป็นลูกจ้างประจำ มนุษย์เงินเดือน กับ แชร์ประสบการณ์ชีวิตวัยรุ่นรุ่งจนร่วงแก้ไขยังไงดี
ผมเคยทำธุรกิจส่วนตัวมาหลายอย่าง แต่ล้มเพราะเศรษฐกิจ ล้มเพราะช่องโหว่กฏหมายย้อนมาเล่นงานบ้าง เคยรุ่งเรืองอยู่3ปี เติบโต แล้ววันนี้ก็ต้องมานั่งทำงานเงินเดือน ผมไม่เคยทนทำที่ไหนได้เกินเดือนเลยคือผมรู้สึกแย่มากๆเวลานั่งนับวันเวลาผ่านไปเวลาเดินช้ามากแล้วมาหักลบค่าใช้จ่ายว่ามันไม่คุ้มกันเลย แต่ก่อนไม่กี่นาทีไม่ต้องลำบากมากมายได้มากกว่านายจ้างในตอนนั้นอีกแต่มาโดนกดขี่ บางทีก็ออกเพราะไม่ชอบสังคมพนักงานด้วยกัน ผมไม่ได้รู้สึกภาคภูมิหรือตื่นเต้นอะไรที่จะต้องไปแก่งแย่งเงินแค่นั้นกับคนพวกนี้เลย ยกตัวอย่างตอนเป็นเด็กเสริ์ฟที่โรงเบียร์จะมีพวกsuper visorหัวหน้างานในกลุ่มแต่ละกลุ่มซึ่งคิดว่าตัวเองใหญ่ มีอำนาจประมาณนั้น สายนิดนั่นนิดนี่หน่อยก็โดนปรับค่าแรง โดนทำงานฟรี1วันบ้างไรงี้ ซึ่งชีวิตผมอยู่สังคมดีๆกว่านั้นได้อีกเยอะผมแค่อยากจะหารายรับมาสู้รายจ่าย แล้วนายจ้างกับเพื่อนพนักงานอัธยาศัยดีต่อกันแชร์ประสบการณ์กัน จะได้อยู่กันนานๆ ไม่ใช่ปากกัดตีนถีบเงินไม่กี่บาท ทุกๆที่ที่เคยทำ แรกๆดีไปหมดงานสบายง่าย พอเริ่มนานขึ้นไป เขาคาดหวังผลงานคาดหวังว่าเราต้องทำได้มากกว่านี้ในทุกๆวัน ผมว่ามันต้องมีจุดพักหย่อนบ้าง ไม่ใช่ต้องบ้าเลือดให้ได้มากขึ้นทุกวัน เงินเท่าเดิม แต่ใช้มากขึ้นทุกวัน ไม่ใช่แรงงานพม่าไง
งานที่ผมเคยผ่านๆมาที่จำได้มีตามนี้
-santafe
-โรงเบียร์
-ผู้ช่วยสัตว์แพทย์
-lotus express
-ขายของตลาดนัด
งานอิสระที่เคยรับเป็นจ็อบ
-pretty boy ตามเทศกาล
-ถ่ายแบบ
-ถ่ายละครเป็นตัวประกอบ
-ถ่ายซีรี่เรื่องนึงแต่ไม่จบ
วุฒิ ป.ตรี ผ่าน ทหารแล้ว ประวัติดี เป็นเดือนสมัยเรียนมหาลัยสมัยนั้นมีแต่คนรู้จักคนเลี้ยงคนอุปถัมสบายถือว่าดังเลยล่ะ แต่ผ่านช่วงวัยรุ่นแสงสีมาแล้วมีภาระมากมายอยากมั่นคงดูแลทุกชีวิตในมือเราได้ เลยหางานมาเรื่อย แต่ก็เจออย่างที่เล่าอะครับ เลยอยากมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับคนที่ผ่านเรื่องพวกนี้มาแล้วทนได้นานๆจนสำเร็จนั่นนี่มีไหม แล้วคุ้มไหมกับค่าแรงหักค่ากินเดินทางอะไรในแต่ละวัน ผมมีภาระเยอะมาก แม่ป่วย ไม่ทำอะไรเลยต้องดูแลใกล้ชิด รถ4คัน ภาษี พรบ. หมา3ตัว กระต่าย1 ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำมัน นั่นนี่เสียค่าบำรุงรักษา ค่าสมาชิกต่างๆ หนักผมหมดเลยมันหนักมาก เพราะสมัยผมรุ่งๆผมก็ซื้อกล้องซื้อรถซื้อหมามาเลี้ยงไม่ได้คิดว่าจะล้มคิดว่ารับไหวในตอนนั้น แต่พอถึงวันที่ตก ก็เริ่มแบกรับไม่ไหว แต่ผมยังยื้ออยู่ แฟนผมวุฒิไม่เท่าผม ไม่มีความสามารถอะไรมาก ออกจะเลือกงานเดินทางอะไรก็ต้องพึ่งผมเท่านั้น ข้อจำกัดเรื่องเวลาสถานที่ทำงานผมก็เยอะอีก รายจ่ายผมจ่าย100%เต็มปากท้องทุกๆวัน ผมเลยรู้สึกหนักเกินไป ในตอนนี้ แต่ก่อนพอไหว ไหนจะเรื่องหมาป่วยแฟนป่วย เรื่องผิวเรื่องแผลเรื่องฟันจิปาถะผมก็อยากให้เขาทำ ผมไม่รู้จะยื้อทุกๆวันยังไงไหวเลย จุดประสงค์งานก่อนสมัครเดี๋ยวนี้ก็หลอกลวงเยอะ คุยกันอย่างพอไปทำเป็นอีกอย่างข้อแม้เยอะ ชอบมีช่องโหว่หลอกเรา