สวัสดีค่ะ จขกท. มาต่อตอนจบของทู้
"อุทาหรณ์สอนใจ กินเด็กเป็นอมตะจริงหรือ"
จากที่ได้ระบายไปก่อนหน้านี้ว่าใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว แต่ยังออกมาไม่ได้เนื่องจากภาระหนี้สิน
บัดนี้ จขกท. ออกมาได้แล้วค่ะ แต่ไม่ได้เป็นคนออกมานะคะ แฟนเด็กของ จขกท. ออกไปเองจ้าาาา เนื่องด้วยมันมีสาเหตุค่ะ คือหลังจากที่ จขกท. ลงทู้แรกไป หลังจากนั้น วันสองวัน ก็เกิดเหตุการณื เสื้อผ้า มียี่ห้อ ของ จขกท. ที่ตากไว้หน้าห้องหายไปค่ะ เราก็รายงานเค้าไปตามความเป็นจริง แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร กลัวก็แต่ว่า มันจะกลับมางัดห้องเราไหมรอบหน้า ขนาดเสื้อผ้าหน้าห้องมันยังเอา แถมเอาไปแต่งานป้ายทั้งนั้นด้วย
แต่วันนั้นพอเค้ากลับห้องมา สิ่งแรกที่เค้าถามถึงเลยคือ "ตุ้มหูทองของเธอหายหรือเปล่า"
จขกท. งงเลยค่ะ เพราะ จขกท. มีตุ้มหูทอง ที่เหลือข้างเดียวเลยไม่ได้ใส่และเก็บไว้บนหิ้งพระมานานมากๆๆตั้งแต่มาอยู่กับเขาซึ่งมีแต่เราที่รู้ว่ามันอยู่ตรงนั้น
จขกท.เลยถามว่า ทำไมถามหาตุ้มหู?
เค้าก้รีบตอบมาอย่างไวว่า ก็มันเปนของมีค่าไง ไหนมันยังอยู่มั้ย พูดจบเค้าก้เดินเข้ามาที่หิ้งพระ และค้นหาตุ้มหูอย่างบ้าคลั่ง พอหาไม่เจอก็หันมาถาม จขกท. ว่า เธอเอาไปไว้ไหน เธอทำอะไรกับมัน
จขกท. นั่ง งงอยู่แป้ปนึง เลยถามไปว่า เธอรู้ได้ไงว่าเราเก็บมันไว้ตรงนั้น แล้วทำไมมาเค้นเราเหมือนเราเอาไป
เค้าก็ชะงักแล้วตอบมาว่า ก็เธอรู้ว่ามันอยู่ที่นั่น เธอก้ต้องรู้สิ ว่ามันหายไปได้ยังไง สักพัก จขกท. จึงรวบรวมสติ ถามไปว่าก็นั่นนะสิ มันหายไปได้ยังไง แล้วทั้งบ้านมีเราสองคน ซึ่งเรา ไม่มีความจำเป็นต้องเอาไปไหนอยู่แล้ว หรือถ้าเราจะเอาไปไว้ไหนมันก็ไม่ผิดอะไรนะ
เพราะมันเป็นของเรา แต่คนอื่นนี่สิ
พูดจบเค้าก็ตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราดว่า อ๋อ นี่เธอว่าเราขโมยใช่มั้ย เธอแย่มาก เธอมันใจดำ ของหายก็มาโทษเราทุกอย่าง เธอนี่มัน.....จบตรงนี้ เค้าก็เก็บข้าวของใส่กระเป๋า แล้วขับรถ(เรา)ออกไป ซึ่งเราก็ยัง งงๆอยู่ และตั้งแต่คืนนั้นเค้าก้ไม่กลับห้องสองวัน
ในวันที่สอง ที่หายไปเค้าก้ติดต่อกลับมาบอกว่า ขอนอนที่บ้านอีกคืนแม่ให้ช่วยจัดบ้านใหม่ เสร็จแล้วจะกลับมาหา ซึ่งเค้ากลับนะ กลับตี5 และมีกลิ่นเหล้า และมาอ้อน มาขอโทษว่าจะไม่ทำอะไรให้เราไม่พอใจ อีกแล้ว
เราก็รู้ละว่ามัน

แน่ๆ แต่หาหลักฐานไม่ได้จึงไม่พูดอะไร
จนกระทั่งช่วงสาย คนที่ทำอยู่ สำนักงานเดียวกับเค้าโทรมาถามเราว่า แฟนเราไปออกตลาดหรือไม่ ซึ่งเราก้ตอบว่าไปค่ะ เมิ่อเช้ากลับมาตี5 นึกว่าจะไม่ไหว ปลายสายได้ยินดังนั้นจึงตอบมาเลยว่า ใช่ๆ กินเหล้าอยู่กับพวกพี่คนนั้นคนนี้ ถึงตี4เลย
เราได้ยินดังนั้นจึงฟิวส์ขาดรุนแรงมาก โกหกกันหน้าด้านๆตั้งแต่คบกัน ไม่เคยหยุดหย่อน เราจึงโทรไปหาเค้า และเค้นๆๆๆๆๆและจี้ๆๆๆๆๆๆจนเค้าไม่สามารถ

ต่อไปได้ และตอบกลับมาว่า
"ทุกสิ่งทุกอย่างที่เค้าทำ

ก้เพราะเธอ เธอคนเดียวเธอไม่เคยเข้าใจเรา เราจึงคิดอะไรไม่ออก เราหาทางออกไม่ได้" ....พอมาถึงคำนี้ จขกท ใจสลายอีกรอบ คิดในใจว่า
"เล่นเล่นยามาแน่ๆ" ถึงอยู่ได้ทั้งคืนแล้วมาทำงานได้
พูดจบ จขกท. จึงอาศัยช่วงพัก ขับรถไปหาเค้าโดยไม่ให้รู้ตัวค่ะ พอไปถึงหน่วยออกตลาด จึงเข้าค้นกระเป๋าของเค้า....เจอเลยค่ะ ฟอย กระดาษม้วน เศษขี้เถ้าจากการเผา และ....ยาบ้า ละลายในเครื่องดื่มชูกำลังอีกสามเม็ด
(ที่รู้เพราะเคยเจอเมิ่อต้นปีเค้าเคยทำ)
จขกท. คว้าขวดขึ้นมาดู และหันไปพบว่าเค้ายืนตะลึงมองอยู่ เค้าจึงปรี่เดินเข้ามาอย่างเรว และตะโกนใส่ จขกท. ว่า
"กูเลิกกับแล้ว พอกันที คนอย่างถ้าไม่ทำให้คนอื่นตกต่ำ ชีวิตจะไม่มีความสุขใช่มั้ย นี่มันคนยังไง ออกจากชีวิตกูไป ไปให้พ้น แล้วไปเกบของที่บ้านกูออกไปด้วย ไป๊!!!
ท่ามกลางสายตาเพื่อนของเขา และลูกค้า จขกท. น้ำตาแตกหนักมากแต่ทำเงียบ และเดินออกมาแบบ งงๆ ขึ้นรถกลับห้องเลยค่ะ
ที่ร้องไม่ได้เสียใจที่โดนบอกเลิกนะคะ แต่เค้ายังเปนเหมือนเดิม ทำผิด จับได้ไม่เคยรับ โกหก

และโยนความผิดให้ จขกท. ทั้งหมด เหมือนเคยๆ เหมือนที่ผ่านๆมา ทำแบบนี้มาตลอด ที่เวลาโดนจับได้ว่าเสพยา แต่ทุกครั้งเค้าจะกลัว จขกท. บอกเลิก จึงมาขอคืนดีตลอด แต่ในครั้งนี้ จขกท. สืบรุ้มาว่า เค้าไปตอดเล็กตอดน้อย กระเทยที่อยู่ในกลุ่มพี้ยาของเค้า จนกระเทยติดและเอาเงินให้เค้าใช้ เค้าจึงไม่แคร์ จขกท. อีกต่อไป จึงออกปากไล่เราแบบนี้
ใจนึง จขกท. เสียใจนะคะ ที่ไม่สามารถทำให้คนๆนึงรับรู้ความหวังดีและความพยายามจะสอนในเรื่องที่ถูกต้องได้เลย และเสียใจที่ทิ้งทุกอย่างมาเพื่อเสียทุกอย่างไปแบบนี้ เพราะหนี้รถ หนี้จากบัตร เปนชื่อ จขกท. ทั้งหมด เพราะตัวเค้าเครดิตเสีย จากการที่แม่เอาชื่อเค้าไปทำธุรกรรมต่างๆจนพัง
แต่อีกใจ...ก็คิดว่า ช่างเถอะ เราพยายามที่สุดแล้ว เหนื่อยพอแล้ว ทุกคนรับรู้หมดว่า เรารักเค้าแค่ไหน พยายามทำทุกอย่างเพื่อเค้าและครอบครัวเค้ามามากแค่ไหน มีแต่เค้าคนเดียวที่ยังทำตัวเหมือนว่าตัวเองนั้นยังไม่โต และไม่อยากรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น.......
จขกท. ยังมีความรู้สึกดีๆนะคะ แต่หมดใจแล้วที่จะให้อภัย หรือเอาตัวเองไปให้เค้าทำร้ายอีก
2 ปีที่จขกท. ไม่ได้ไปไหนที่อยากไป เพราะเค้าอยากหลับในวันหยุด
ไม่กินอะไรที่อยากกิน เพราะเค้าไม่ชอบสิ่งที่จขกท.ชอบกิน
ไม่ได้ซื้อของที่อยากได้ เพราะเค้าคิดว่าทำไมเราจึงเห็นแก่ตัว ซื้อให้แต่ตัวเราเอง แต่ถ้าเค้าอยากได้อะไร จขกท. ต้องซื้อให้เสมอ
ตอนนี้ทุกอย่างจบแล้ว
ความสุขและความเป็นตัวเองที่หายไป จขกท. สัญญาว่าจะรีบ รีบูทตัวเอง และเอากลับมาให้ได้ค่ะ
****เพิ่มเติมนะคะ ในตอนนี้เค้าก็ประกาศตัวว่าโสด โดนทำร้าย เสียใจ และชีวิตพัง ลงเฟสบุ้คทุกวันเช้าเยน
แต่เพื่อนๆเค้าบางส่วนที่รู้ความจริงพากันไปแหกหน้าเค้ามาค่ะ (พี่ๆมาเล่าให้ฟัง) ว่าความจริงอะไรเปนอะไร ทำให้เค้าไม่สามารถเข้าหน้าใครติดเลยในตอนนี้ ถึงขั้นจะลาออก ซึ่งไม่มีใครท้วงหรือถามไถ่เลย ทำให้เค้าเสียเซล์ฟพอสมควร
***ตอน จขกท เก็บของๆเค้าออกใส่ถุงดำเพื่อให้เค้าเอากลับไป จขกท. เจอ ยาบ้า ยัดอยู่ตามซอกชั้นวาง เยอะไปหมด คงเกบจนลืม ละลายติดเต็มชั้นวางเลยค่ะ สยองมาก
ตอนที่คบกันแรกๆ จขกท. เคยคุยประเด็นนี้ว่า ทำไม เค้าจึงไม่ให้ จขกท. ไปเช่าหอตรงนั้น ตรงนี้ เค้าตอบมาว่า มันมีบ้านที่เป็นแหล่งผลิต และค้ารายใหญ่ มันอันตรายเรื่องโดนข่มขืน ที่มันเยอะ เพราะที่นี่เค้ามองเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา อยากมีเงิน อยากรวยก้ต้องขายแบบนี้แหละ ง่ายดี
(ซึ่ง จขกท. คิดว่าจริงค่ะ เพราะเด็กๆแถวนี้หัวโปก ไม่เรียน ไม่ทำงาน เอาแต่เที่ยวเล่น กินเหล้าเข้าผับ แถมมีทองใส่เส้นเบ่อเร่อ มีรถแง๊นๆ หลายคันต่อคน และจากการคุยกับน้องๆใน บ. ที่รุ่นๆ 19-26 พบว่า ทุกคนผ่านการเสพ และค้ามากันเกือบ 99% และทุกคน รู้สึกธรรมดา ที่มีคนใกล้ตัวเกี่ยวข้องกับยาเสพติด)
ซึ่งเรื่องแบบนี้ จขกท. ไม่สามารถยอมรับให้เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตได้จริงๆค่ะ มันเลยอาจจะเป็นจุดที่ทำให้ จขกท. กดดันเค้าจนเค้ากลายเป็นแบบนี้ก้เป็นได้
เห้อ....แก่ก้แก่ เหนื่อยก้เหนื่อย จะเอาแรงที่ไหนไปหาแฟนได้อีก พอแล้วววว เข็ดจ้าาาา55555
ขอบคุณนะคะที่ทนอ่านมา จขกท. ขอระบายเท่านี้แหละงับบบบ 😘😘
ตอนจบของวัวสาวแก่ชอบกินหญ้าอ่อน
"อุทาหรณ์สอนใจ กินเด็กเป็นอมตะจริงหรือ"
จากที่ได้ระบายไปก่อนหน้านี้ว่าใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว แต่ยังออกมาไม่ได้เนื่องจากภาระหนี้สิน
บัดนี้ จขกท. ออกมาได้แล้วค่ะ แต่ไม่ได้เป็นคนออกมานะคะ แฟนเด็กของ จขกท. ออกไปเองจ้าาาา เนื่องด้วยมันมีสาเหตุค่ะ คือหลังจากที่ จขกท. ลงทู้แรกไป หลังจากนั้น วันสองวัน ก็เกิดเหตุการณื เสื้อผ้า มียี่ห้อ ของ จขกท. ที่ตากไว้หน้าห้องหายไปค่ะ เราก็รายงานเค้าไปตามความเป็นจริง แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร กลัวก็แต่ว่า มันจะกลับมางัดห้องเราไหมรอบหน้า ขนาดเสื้อผ้าหน้าห้องมันยังเอา แถมเอาไปแต่งานป้ายทั้งนั้นด้วย
แต่วันนั้นพอเค้ากลับห้องมา สิ่งแรกที่เค้าถามถึงเลยคือ "ตุ้มหูทองของเธอหายหรือเปล่า"
จขกท. งงเลยค่ะ เพราะ จขกท. มีตุ้มหูทอง ที่เหลือข้างเดียวเลยไม่ได้ใส่และเก็บไว้บนหิ้งพระมานานมากๆๆตั้งแต่มาอยู่กับเขาซึ่งมีแต่เราที่รู้ว่ามันอยู่ตรงนั้น
จขกท.เลยถามว่า ทำไมถามหาตุ้มหู?
เค้าก้รีบตอบมาอย่างไวว่า ก็มันเปนของมีค่าไง ไหนมันยังอยู่มั้ย พูดจบเค้าก้เดินเข้ามาที่หิ้งพระ และค้นหาตุ้มหูอย่างบ้าคลั่ง พอหาไม่เจอก็หันมาถาม จขกท. ว่า เธอเอาไปไว้ไหน เธอทำอะไรกับมัน
จขกท. นั่ง งงอยู่แป้ปนึง เลยถามไปว่า เธอรู้ได้ไงว่าเราเก็บมันไว้ตรงนั้น แล้วทำไมมาเค้นเราเหมือนเราเอาไป
เค้าก็ชะงักแล้วตอบมาว่า ก็เธอรู้ว่ามันอยู่ที่นั่น เธอก้ต้องรู้สิ ว่ามันหายไปได้ยังไง สักพัก จขกท. จึงรวบรวมสติ ถามไปว่าก็นั่นนะสิ มันหายไปได้ยังไง แล้วทั้งบ้านมีเราสองคน ซึ่งเรา ไม่มีความจำเป็นต้องเอาไปไหนอยู่แล้ว หรือถ้าเราจะเอาไปไว้ไหนมันก็ไม่ผิดอะไรนะ
เพราะมันเป็นของเรา แต่คนอื่นนี่สิ
พูดจบเค้าก็ตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราดว่า อ๋อ นี่เธอว่าเราขโมยใช่มั้ย เธอแย่มาก เธอมันใจดำ ของหายก็มาโทษเราทุกอย่าง เธอนี่มัน.....จบตรงนี้ เค้าก็เก็บข้าวของใส่กระเป๋า แล้วขับรถ(เรา)ออกไป ซึ่งเราก็ยัง งงๆอยู่ และตั้งแต่คืนนั้นเค้าก้ไม่กลับห้องสองวัน
ในวันที่สอง ที่หายไปเค้าก้ติดต่อกลับมาบอกว่า ขอนอนที่บ้านอีกคืนแม่ให้ช่วยจัดบ้านใหม่ เสร็จแล้วจะกลับมาหา ซึ่งเค้ากลับนะ กลับตี5 และมีกลิ่นเหล้า และมาอ้อน มาขอโทษว่าจะไม่ทำอะไรให้เราไม่พอใจ อีกแล้ว
เราก็รู้ละว่ามัน
จนกระทั่งช่วงสาย คนที่ทำอยู่ สำนักงานเดียวกับเค้าโทรมาถามเราว่า แฟนเราไปออกตลาดหรือไม่ ซึ่งเราก้ตอบว่าไปค่ะ เมิ่อเช้ากลับมาตี5 นึกว่าจะไม่ไหว ปลายสายได้ยินดังนั้นจึงตอบมาเลยว่า ใช่ๆ กินเหล้าอยู่กับพวกพี่คนนั้นคนนี้ ถึงตี4เลย
เราได้ยินดังนั้นจึงฟิวส์ขาดรุนแรงมาก โกหกกันหน้าด้านๆตั้งแต่คบกัน ไม่เคยหยุดหย่อน เราจึงโทรไปหาเค้า และเค้นๆๆๆๆๆและจี้ๆๆๆๆๆๆจนเค้าไม่สามารถ
"ทุกสิ่งทุกอย่างที่เค้าทำ
"เล่นเล่นยามาแน่ๆ" ถึงอยู่ได้ทั้งคืนแล้วมาทำงานได้
พูดจบ จขกท. จึงอาศัยช่วงพัก ขับรถไปหาเค้าโดยไม่ให้รู้ตัวค่ะ พอไปถึงหน่วยออกตลาด จึงเข้าค้นกระเป๋าของเค้า....เจอเลยค่ะ ฟอย กระดาษม้วน เศษขี้เถ้าจากการเผา และ....ยาบ้า ละลายในเครื่องดื่มชูกำลังอีกสามเม็ด
(ที่รู้เพราะเคยเจอเมิ่อต้นปีเค้าเคยทำ)
จขกท. คว้าขวดขึ้นมาดู และหันไปพบว่าเค้ายืนตะลึงมองอยู่ เค้าจึงปรี่เดินเข้ามาอย่างเรว และตะโกนใส่ จขกท. ว่า
"กูเลิกกับแล้ว พอกันที คนอย่างถ้าไม่ทำให้คนอื่นตกต่ำ ชีวิตจะไม่มีความสุขใช่มั้ย นี่มันคนยังไง ออกจากชีวิตกูไป ไปให้พ้น แล้วไปเกบของที่บ้านกูออกไปด้วย ไป๊!!!
ท่ามกลางสายตาเพื่อนของเขา และลูกค้า จขกท. น้ำตาแตกหนักมากแต่ทำเงียบ และเดินออกมาแบบ งงๆ ขึ้นรถกลับห้องเลยค่ะ
ที่ร้องไม่ได้เสียใจที่โดนบอกเลิกนะคะ แต่เค้ายังเปนเหมือนเดิม ทำผิด จับได้ไม่เคยรับ โกหก
ใจนึง จขกท. เสียใจนะคะ ที่ไม่สามารถทำให้คนๆนึงรับรู้ความหวังดีและความพยายามจะสอนในเรื่องที่ถูกต้องได้เลย และเสียใจที่ทิ้งทุกอย่างมาเพื่อเสียทุกอย่างไปแบบนี้ เพราะหนี้รถ หนี้จากบัตร เปนชื่อ จขกท. ทั้งหมด เพราะตัวเค้าเครดิตเสีย จากการที่แม่เอาชื่อเค้าไปทำธุรกรรมต่างๆจนพัง
แต่อีกใจ...ก็คิดว่า ช่างเถอะ เราพยายามที่สุดแล้ว เหนื่อยพอแล้ว ทุกคนรับรู้หมดว่า เรารักเค้าแค่ไหน พยายามทำทุกอย่างเพื่อเค้าและครอบครัวเค้ามามากแค่ไหน มีแต่เค้าคนเดียวที่ยังทำตัวเหมือนว่าตัวเองนั้นยังไม่โต และไม่อยากรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น.......
จขกท. ยังมีความรู้สึกดีๆนะคะ แต่หมดใจแล้วที่จะให้อภัย หรือเอาตัวเองไปให้เค้าทำร้ายอีก
2 ปีที่จขกท. ไม่ได้ไปไหนที่อยากไป เพราะเค้าอยากหลับในวันหยุด
ไม่กินอะไรที่อยากกิน เพราะเค้าไม่ชอบสิ่งที่จขกท.ชอบกิน
ไม่ได้ซื้อของที่อยากได้ เพราะเค้าคิดว่าทำไมเราจึงเห็นแก่ตัว ซื้อให้แต่ตัวเราเอง แต่ถ้าเค้าอยากได้อะไร จขกท. ต้องซื้อให้เสมอ
ตอนนี้ทุกอย่างจบแล้ว
ความสุขและความเป็นตัวเองที่หายไป จขกท. สัญญาว่าจะรีบ รีบูทตัวเอง และเอากลับมาให้ได้ค่ะ
****เพิ่มเติมนะคะ ในตอนนี้เค้าก็ประกาศตัวว่าโสด โดนทำร้าย เสียใจ และชีวิตพัง ลงเฟสบุ้คทุกวันเช้าเยน
แต่เพื่อนๆเค้าบางส่วนที่รู้ความจริงพากันไปแหกหน้าเค้ามาค่ะ (พี่ๆมาเล่าให้ฟัง) ว่าความจริงอะไรเปนอะไร ทำให้เค้าไม่สามารถเข้าหน้าใครติดเลยในตอนนี้ ถึงขั้นจะลาออก ซึ่งไม่มีใครท้วงหรือถามไถ่เลย ทำให้เค้าเสียเซล์ฟพอสมควร
***ตอน จขกท เก็บของๆเค้าออกใส่ถุงดำเพื่อให้เค้าเอากลับไป จขกท. เจอ ยาบ้า ยัดอยู่ตามซอกชั้นวาง เยอะไปหมด คงเกบจนลืม ละลายติดเต็มชั้นวางเลยค่ะ สยองมาก
ตอนที่คบกันแรกๆ จขกท. เคยคุยประเด็นนี้ว่า ทำไม เค้าจึงไม่ให้ จขกท. ไปเช่าหอตรงนั้น ตรงนี้ เค้าตอบมาว่า มันมีบ้านที่เป็นแหล่งผลิต และค้ารายใหญ่ มันอันตรายเรื่องโดนข่มขืน ที่มันเยอะ เพราะที่นี่เค้ามองเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา อยากมีเงิน อยากรวยก้ต้องขายแบบนี้แหละ ง่ายดี
(ซึ่ง จขกท. คิดว่าจริงค่ะ เพราะเด็กๆแถวนี้หัวโปก ไม่เรียน ไม่ทำงาน เอาแต่เที่ยวเล่น กินเหล้าเข้าผับ แถมมีทองใส่เส้นเบ่อเร่อ มีรถแง๊นๆ หลายคันต่อคน และจากการคุยกับน้องๆใน บ. ที่รุ่นๆ 19-26 พบว่า ทุกคนผ่านการเสพ และค้ามากันเกือบ 99% และทุกคน รู้สึกธรรมดา ที่มีคนใกล้ตัวเกี่ยวข้องกับยาเสพติด)
ซึ่งเรื่องแบบนี้ จขกท. ไม่สามารถยอมรับให้เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตได้จริงๆค่ะ มันเลยอาจจะเป็นจุดที่ทำให้ จขกท. กดดันเค้าจนเค้ากลายเป็นแบบนี้ก้เป็นได้
เห้อ....แก่ก้แก่ เหนื่อยก้เหนื่อย จะเอาแรงที่ไหนไปหาแฟนได้อีก พอแล้วววว เข็ดจ้าาาา55555
ขอบคุณนะคะที่ทนอ่านมา จขกท. ขอระบายเท่านี้แหละงับบบบ 😘😘